ตอนที่ 41 ไม่กล้าจะก้าวเข้าไปอีกก้าว
มู่น่อนน่อนฟื้นคืนสติได้ไม่กี่นาที เธอก็รู้สึกว่ามีผู้ชายสองคนเข้ามาประคองตนเอาไว้
แรงของพวกเขามากเกินกว่าที่เธอจะดิ้นรน ถึงดิ้นรนไปก็ราวกับมดที่พยายามจะเขย่าต้นไม้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่สามารถดิ้นหลุดจากพวกเขาได้
“พวกคุณ……จะพาฉันไปไหน……” เธออยากจะร้องขอความช่วยเหลือดังๆ แต่เสียงที่ออกมานั้นกลับเบาบางเหลือเกิน
มู่น่อนน่อนรู้สึกรางๆว่าตนถูกพาเข้ามาในห้อง แล้วก็โดนทิ้งลงบนเตียง
เธองอแขน ใช้ข้อศอกยันเตียงอยากจะลุกขึ้นมา แต่กลับไม่มีแรงดันตนเองขึ้นสักนิด
ทันใดนั้นก็ตามมาด้วยเสียงบทสนทนา
“ผู้หญิงขี้เหร่อย่างนี้ก็ยังจะส่งมาอีกหรือ?”
“หน้าตาแย่นิดหน่อย แต่หุ่นดีนะ……” เป็นเสียงพูดของผู้หญิง เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมา: “พวกคุณจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แค่อย่าทำให้เธอตายก็พอแล้ว”
มู่น่อนน่อนจับมือทั้งสองแน่นๆ ใช้แรงหยิกเข้าไปที่ฝ่ามือของตน อยากจะทำให้ตนเองรู้สึกตัวขึ้นอีกสักหน่อย
ความเจ็บปวดแผ่ออกมา สายตาของเธอชัดขึ้นนิดหน่อย จนพอจะมองเห็นผู้ชายผู้หญิงที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเตียง
พวกเขาคุยอะไรกัน เธอฟังได้ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้เธอขยับตัวจะลงจากเตียง แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในขณะนั้นเธอจะตกลงมาจากเตียงเสียแล้ว
ปัง !
เสียงที่เธอตกลงมาดึงดูดความสนใจของชายหญิงคู่นั้น ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาทันทียกเธอขึ้นบนเตียง น้ำเสียงประหลาดใจนิดหน่อย: “ผู้หญิงคนนี้เก่งจริงๆ โดนวางยาอย่างเต็มที่ขนาดนั้น นึกไม่ถึงว่าเธอจะยังขยับตัวได้อีก”
“ให้อีกนิดหนึ่ง”
“รอสักพักแล้วค่อยปลุกให้ตื่น……”
มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่คาง ของเหลวเย็นๆเข้าปากแล้วไหลลงไปในคอ เพียงครู่เดียว ในที่สุดเธอก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ได้สติ
……
เฉินถิงเซียวอยู่ในห้องหนังสือกำลังจัดการเอกสารไม่กี่อย่าง เตรียมจะลงไปเทน้ำข้างล่าง
ห้องของมู่น่อนน่อนห่างจากห้องหนังสือของเฉินถิงเซียวไม่ไกล
เพียงเขาออกมา ด้วยจิตใต้สำนึกก็หันไปมองที่ห้องของมู่น่อนน่อน พบว่าประตูห้องของมู่น่อนน่อนเปิดออกอยู่ครึ่งหนึ่ง
โดยปกติแล้ววิถีการทำงานและการพักผ่อนของผู้หญิงขี้เหร่คนนั้นก็เหมือนกับคุณนายแก่ๆคนหนึ่ง ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าจะยังเปิดประตูอยู่อีกยังไม่นอนหรือ?
เฉินถิงเซียวก้าวยาวๆไปทางห้องนอนของเธอ ผลักประตูเข้าไปดู พบว่าในห้องเปิดไฟไว้ แต่บนเตียงไม่มีคน
เขาขมวดคิ้ว ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา เกือบจะห้าทุ่มแล้ว
กวาดสายตาอย่างไม่ใส่ใจ ก็เห็นว่าคอมพิวเตอร์ของเธอที่อยู่บนโซฟายังเปิดเอาไว้
คอมพิวเตอร์ต้องใส่รหัสก่อนจึงจะเปิดได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องยากของเฉินถิงเซียว
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอได้อย่างง่ายดาย บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏข้อความในWeiboที่เธอดูก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
เปิดดูวิดีโอนั้นแค่สองวินาที เขาก็ปิดลงแล้ว พวกลูกหลานคนรวย มักจะรวมตัวเล่นเกมที่สเกลใหญ่ แล้วถือโอกาสหาดาราหน้าใหม่มาเล่นด้วยกัน นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ถือว่าแปลกใหม่อะไร
เพียงแต่ ในเวลานี้ที่มู่น่อนน่อนยังไม่กลับมาถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ
ผ้าปูที่นอนก็ปูไว้เรียบร้อยแล้ว ชุดนอนก็วางไว้ข้างๆโซฟา เห็นได้ชัดว่าแต่เดิมเธอกำลังจะอาบน้ำเข้านอน แล้วก็มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจึงทำให้เธอต้องออกไปในทันที
เฉินถิงเซียวคิดถึงอะไรบางอย่าง ลูกตาดำหดเล็กลง สีหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
เขาเปิดวิดีโอดูอีกครั้ง ดูติดต่อกันถึงสองครั้ง จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหากู้จือหยั่น
ในที่ตรงนั้นของกู้จือหยั่นค่อนข้างอึกทึกครึกโครม: “โทรมาหาฉันเวลานี้ ในที่สุดนายก็มีจิตสำนึกที่จะช่วยฉันดื่มเหล้าแล้วใช่ไหม?”
แม้ว่าบริษัทเสิ้งติ่งจะเป็นบริษัทใหญ่ ไม่จำเป็นต้องอาศัยงานเลี้ยงเพื่อความสำเร็จ แต่บางทีก็ควรไว้หน้าอีกฝ่ายที่ร่วมงานกัน จึงต้องออกมากินข้าวด้วยกันบ้าง
เรื่องอย่างนี้ ก็เป็นหน้าที่ของกู้จือหยั่นตามปกติอยู่แล้ว
เฉินถิงเซียวไม่คิดจะสนใจเขา ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “ดาราที่ไม่ค่อยดังของนาย ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
เขาจำได้แค่ว่าดาราที่ไม่ค่อยดังคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของมู่น่อนน่อน สำหรับชื่อของเธอ เขาจำไม่ได้แล้ว
“อะไรคือการเรียกว่าดาราที่ไม่ค่อยดัง?” กู้จือหยั่นพูดอย่างไม่พอใจ: “เสิ่นเสี่ยวเหลียงของฉัน จะกลายเป็นดาราดังที่เป็นนักแสดงภาพยนตร์หญิงยอดนิยมอย่างแน่นอน!”
เฉินถิงเซียวหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา: “เงื่อนไขแรกที่จะกลายเป็นนักแสดงภาพยนตร์ยอดนิยม เธอต้องสามารถอยู่ในวงการบันเทิงนี้ไปนานๆเสียก่อน”
กู้จือหยั่นรู้สึกแน่นๆในใจ: “นายหมายความว่าอย่างไร? มีเรื่องอะไรนายก็มาหาเรื่องฉันสิ รังแกผู้หญิงถือเป็นความสามารถอะไรของนาย!”
เฉินถิงเซียวรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยากจะเอากู้จือหยั่นไปทิ้งไว้ที่แอฟริกา เขาไม่อยากได้หุ้นส่วนที่โง่ขนาดนี้
“เจอกันที่คลับจี่อจีน”
เฉินถิงเซียวทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคนี้ ก็วางโทรศัพท์แล้วขับรถออกไป
คลับจี่อจีนอยู่ที่เมืองหู้หยางเป็นที่รู้จักมากมาย แต่ชื่อเสียงแย่มาก เพราะคลับนี้สร้างโดยกลุ่มของลูกคนรวยที่รู้จักเพียงแค่กินดื่มเล่นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวคาวๆแพร่ออกมาหลายต่อหลายครั้ง
แต่เป็นเพราะลูกหลานของครอบครัวคนรวยที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา ผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังที่มากฝีมือ ก็ทำให้ไม่โดนกำจัดออกไป และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับในวงการสังคมระดับสูงอีกด้วย
กู้จือหยั่นก็รู้จักคลับจี่อจีน เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมแล้วก็เดินออกไป เดินไปแล้วก็โทรหาเสิ่นเหลียง ไปด้วย และมือของเขากำลังสั่น
……
สถานที่ของงานเลี้ยงที่กู้จือหยั่นไปเข้าร่วมอยู่ไม่ไกลจากคลับจี่อจีน ดังนั้นตอนที่เฉินถิงเซียวถึง เขาก็ถึงเรียบร้อยแล้ว
แค่กู้จือหยั่นได้พบเขา ก็รีบมุ่งเข้าไปหา: “นี่เกิดอะไรขึ้น?”
เฉินถิงเซียวใบหน้าเคร่งขรึม สายตาที่เยือกเย็น: “มู่น่อนน่อนกับดาราที่ไม่ค่อยดังของนายอยู่ข้างใน”
กู้จือหยั่นแค่ได้ฟัง ก็หมุนตัววิ่งเข้าไปข้างใน
แค่เขาเข้าไปก็โดนคนจำได้แล้ว
“ประธานกู้ก็มาร่วมเล่นด้วยหรือครับ?”
กู้จือหยั่นดึงคอเสื้อของเขา: “ห้องงานเลี้ยงอยู่ที่ไหน?”
ภายใต้การดูแลของเฉินถิงเซียวก็มีคลับ แต่คุณภาพชั้นสูงกว่าคลับจี่อจีนอยู่มาก เขาก็เลยไม่เคยมาที่นี่ จึงไม่รู้ว่าห้องงานเลี้ยงอยู่ที่ไหน
ชายคนนั้นที่ได้พบกู้จือหยั่น แต่เดิมก็คิดว่าจะทักทายประจบเสียหน่อย แต่เห็นท่าทางของกู้จือหยั่นที่เหมือนจะไปหาศัตรูที่ฆ่าพ่อของตน จึงชี้ไปที่ตั้งของห้องงานเลี้ยงอย่างว่าง่าย ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมาอีกครั้ง
กู้จือหยั่นปล่อยชายคนนั้น ตอนที่จะหันไปพูดกับเฉินถิงเซียว ก็พบว่าข้างหลังของตนนั้นไม่มีร่างของเฉินถิงเซียวตั้งนานแล้ว
เฉินถิงเซียวไปที่ห้องงานเลี้ยงแล้ว
สถานการณ์ภายในวุ่นวายไปหมด เห็นแล้วขัดตามาก
รูปร่างหน้าตาของเฉินถิงเซียวโดดเด่น เพียงแค่เข้าไปในห้องงานเลี้ยง สายตาของผู้หญิงเหล่านั้นก็ติดอยู่ที่ร่างของเขาอย่างพร้อมใจกัน ราวกับแมวที่เจอหนู อยากจะกระโจนเข้าไปจริงๆ
มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาตีสนิท เอามือไปวางไว้ที่ไหล่ของเขา: “สุดหล่อ มาคนเดียวหรือคะ?”
แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ทันได้เข้ามาแนบชิด ก็โดนเฉินถิงเซียวบิดข้อมือของเธอจนล้มออกไปไกลๆ : “ไปให้พ้น!”
“อา——”ผู้หญิงคนนั้นร้องออกมาอย่างน่าเวทนา แล้วสลบไป
การกระทำของเขา ทำให้ผู้หญิงคนอื่นๆที่อยากจะลองดูต่างก็ไม่กล้าเข้ามา
ทันใดนั้น เขาก็มองไปที่มุมห้อง เห็นร่างของผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่ด้วยกัน
ด้านหลังของผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าเขา เสื้อผ้าของเธอถอดออกไปแล้วครึ่งหนึ่ง นั่งอยู่บนร่างของผู้ชาย
ร่างที่คุ้นเคยนี้ ทำให้เฉินถิงเซียวหยุดฝีเท้าลงอย่างแข็งทื่อ ฝีเท้าที่หยั่งรากลึกราวกับไม่กล้าที่จะก้าวออกไปอีกก้าว