ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่194 เฉินถิงเซียวกำลังโกหก

บทที่194 เฉินถิงเซียวกำลังโกหก

บทที่194 เฉินถิงเซียวกำลังโกหก

มู่น่อนน่อนฟังเฉินถิงเซียวพูดแบบนั้นก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ

ในวงธุรกิจบริษัทเสิ้งติ่งมีชื่อเสียงด้านความร่ำรวย

แต่ตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าเงินเดือนของตัวเองคือเท่าไหร่

เธอถามเฉินถิงเซียวอย่างสงสัย “งั้นเงินเดือนฝึกงานของฉันได้เท่าไหร่?”

เฉินได้ยินดังนั้น ทันใดนั้นก็หรี่ตาเข้ามาใกล้เธอ ถามอย่างมีนัย “บอสของบริษัทบริการเธอด้วยตัวเองทุกวันแล้วยังไม่พอ ยังต้องการเงินเดือนอีกเหรอ?”

ผู้ชายคนนี้นี่จริง ๆ เลย ไม่ยอมปล่อยโอกาสจะได้ลวนลามเธอเลยสักครั้ง

มู่น่อนน่อนกำลังจะพูด กู้จือหยั่นก็เดินเข้ามาพร้อมกับอาหารห่อใหญ่สองสามห่อ

“กินข้าวกัน!” กู้จือหยั่นมองพวกเขาเล็กน้อยก็ละสายตากลับมา

เฮ้อ อวดแฟนกันทั้งวัน เราคงไปไม่รอดแล้วล่ะ

มู่น่อนน่อนช่วยกันหยิบอาหารออกมา กู้จือหยั่นบ่นอย่างทนไม่ได้ “ยังดีที่อีกไม่กี่วันถิงเซียวต้องกลับไปบริษัทเฉินซื่อ ไม่อย่างนั้นนะ ได้ละวันคงไม่ต้องกินข้าวแล้ว นั่งกินอาหารหมาดูคนอวดแฟนให้ตายไปข้าง!”

มู่น่อนน่อนผงะเล็กน้อย สายตามองไปยังเฉินถิงเซียว “นายจะกลับบริษัทเฉินซื่อเมื่อไหร่?”

“อีกสองวันน่ะ” เฉินถิงเซียวลดสายตาลง เสียงเบาลงเล็กน้อย ไม่มีอารมณ์ใด ๆ

มู่น่อนน่อนเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

เฉินถิงเซียวเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะกลับไปที่บริษัทเฉินซื่อ เมื่อเขาจัดการเรื่องที่บริษัทได้พอสมควรแล้ว หลังจากส่งทั้งหมดให้กู้จือหยั่นแล้วก็น่าจะกลับไปที่บริษัทเฉินซื่อ

……

วันต่อมาตอนที่ไปทำงานที่บริษัท มู่น่อนน่อนนั่งรถไฟใต้ดิน

สุดท้ายเมื่อเธอออกมาจากประตูสถานีรถไฟใต้ดิน ก็เห็นรถของเฉินถิงเซียว

วันที่สามมู่น่อนน่อนเรียกรถไปที่บริษัทเสิ้งติ่งโดยตรง ตอนที่แท็กซี่ไปถึงตึกบริษัท รถของเฉินถิงเซียวก็เพิ่งไปถึงตึกบริษัทพอดีเช่นกัน

ในที่สุด เมื่อถึงวันที่สี่ เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้ตามเธอแล้ว

เพราะเขาต้องไปรายงานที่บริษัทเฉินซื่อ

มู่น่อนน่อนตื่นมาตอนเช้า ก็ไม่เห็นเงาของเฉินถิงเซียวแล้ว

เมื่อลงมาที่โถงด้านล่าง อาหูเห็นเธอก็พูดขึ้น “คุณชายไปก่อนแล้วค่ะ”

มู่น่อนน่อนพยักหน้า ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเหรอ เฉินถิงเซียวถึงไปก่อนโดยไม่สนใจเธอ?

แต่ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉินถิงเซียว

“ฉันถึงบริษัทเฉินซื่อแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าฉันจะตามเธอตอนไปทำงานทุกวันแล้วนะ ดีใจมั้ย?” เฉินถิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง ฟังไม่ออกว่ารู้สึกอะไร

มู่น่อนน่อนจะไปกล้าบอกว่าดีใจได้ยังไง พูดอย่างหม่นหมองเต็มที่ “จากนี้นายจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทเสิ้งติ่งแล้วเหรอ? น่าเสียดายจริง…..”

หลายวันมานี้ เพราะเรื่องที่ว่าจะไปทำงานยังไง ทั้งสองก็เอาแต่แข่งกันอย่างลับ ๆ ในใจของเฉินถิงเซียวเองก็ย่อมไม่ได้ยินดีนัก เพียงแต่ไม่ได้เอ่ยออกมาเท่านั้น

เฉินถิงเซียวคล้ายจะหัวเราะเบา ๆ “ฉันไปส่งเธอที่บริษัททุกวัน แล้วค่อยไปบริษัทเฉินซื่อก็ได้นะ”

มู่น่อนน่อน “……ไม่เป็นไรหรอก นายอย่าทำให้งานล่าช้าเลย….”

เฉินถิงเซียวไม่กลั้นหัวเราะอีกต่อไป เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง

เขาปฏิเสธบริษัทเฉินซื่อ แต่ก็ต้องกลับมาที่บริษัทเฉินซื่ออีกครั้ง ได้โทรศัพท์ไปแกล้งมู่น่อนน่อนแล้วอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมาก

หลังจากหัวเราะเสร็จ เฉินถิงเซียวก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “วันปกติก็แล้วแต่เธอ แต่วันฝนตกต้องให้คนขับรถไปส่ง ไม่อย่างนั้นฉันจะไปรับเธอ”

“ได้ได้ได้….” มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าช่วงนี้เฉินถิงเซียวจู้จี้ขึ้นมาก

วางสาวแล้ว มู่น่อนน่อนก็ไปบริษัท

ป้ายรถเมล์ที่เธอลงอยู่ห่างจากบริษัทเสิ้งติ่งเพียงห้านาที

เธอเพิ่งลงจากรถ ตอนที่กำลังจะเดินไปที่ประตูของบริษัทเสิ้งติ่งก็ได้ยินเสียงแตรจากด้านหลัง

มู่น่อนน่อนก้าวขยับไปด้านข้างเล็กน้อย แต่รถด้านหลังก็ยังคงบีบแตรอยู่

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วหันกลับไป ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยยื่นออกมาจากหน้าต่างของรถสีดำด้านหลังคันหนึ่ง

ซือเฉิงหยู้เรียกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “น่อนน่อน”

หลังจากมู่น่อนน่อนเห็นแล้วว่าเขาคือซือเฉิงหยู้ ก็เรียกด้วยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่?”

ช่วงนี้เกิดเรื่องค่อนข้างมาก ไม่มีใครติดต่อซือเฉิงหยู้ได้เลย

ซือเฉิงหยู้ขับรถไปด้านข้างของมู่น่อนน่อน เพื่อจะได้คุยกับเธอได้สะดวก

เขาถามเธอ “มาหาถิงเซียวเหรอ?”

“เปล่าค่ะ” มู่น่อนน่อนยกบัตรพนักงานในมือ “ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานของบริษัทเสิ้งติ่งแล้วค่ะ”

“งั้นจากนี้ทุกคนก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วน่ะสิ?” แววตาของซือเฉิงหยู้มีเหลือเชื่อ แต่กลับไม่ได้แสดงความประหลาดใจออกมามาก

นี่เป็นเวลาทำงาน ผู้คนสัญจรไม่น้อย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่จะมาพูดคุยกัน

มู่น่อนน่อนมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง “เทียบกับพี่ไม่ได้หรอกค่ะ”

ซือเฉิงหยู้เป็นคนสุขุมรอบคอบ สังเกตพฤติกรรมอันละเอียดอ่อนของมู่น่อนน่อน เขายิ้มแล้วพูด “งั้นไว้ไปกินข้าวด้วยกันนะ ฉันไปก่อนนะ”

พูดจบ เขาก็ขับรถไปยังลานจอดรถ

มู่น่อนน่อนเองก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเขา ครั้งก่อนเธอแค่นั่งรถของซือเฉิงหยู้ที่สนามกลับบ้านเท่านั้นเอง ก็ดึงดูดเรื่องวุ่นวายขนาดนั้น กลายเป็น “แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงหยู้”

ถ้าถูกสื่อถ่ายภาพตอนที่กินข้าวด้วยกันกับซือเฉิงหยู้อีก ไม่รู้ว่าจะโดนสื่อพวกนั้นเขียนเป็น “ซือเฉิงหยู้แต่งงานมาแล้วหลายปี….” อะไรนั่นขึ้นมา

ตอนนี้เพื่อให้ได้รับความสนใจจากผู้คน สื่อจะเขียนอะไรออกไปก็ได้ทั้งนั้น

มาถึงบริษัท ก็เป็นวันยุ่ง ๆ อีกวัน

บริษัทเสิ้งติ่งมีโรงอาหารของบริษัท ตอนเที่ยง มู่น่อนน่อนวางแผนว่าจะไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารกับเพื่อนร่วมงาน

เพิ่งจะเดินไปถึงโรงอาหาร เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากซือเฉิงหยู้

“บอกจะไปกินข้าวด้วยกันแล้ว แล้วเธอไปไหนซะล่ะ?” แม้ว่าในคำพูดซือเฉิงหยู้จะมีแววตำหนิ แต่น้ำเสียงของเขากลับเหมือนกับกำลังล้อเล่นมากกว่า

มู่น่อนน่อนปฏิเสธเขาไปตามตรง “ฉันมากินที่โรงอาหารกับเพื่อนร่วมงานค่ะ คราวหลังรอเฉินถิงเซียวมีเวลาแล้วค่อยไปกินด้วยกันนะคะ”

ซือเฉิงหยู้ชะงัก “ก็ได้”

ไม่รู้ว่ามู่น่อนน่อนเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า เธอถึงเอาแต่รู้สึกว่าน้ำเสียงของซือเฉิงหยู้ฟังดูแปลก ๆ

เธอเองก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ

เพียงแต่ อยู่ ๆ สมองของเธอก็นึกท่าทางที่ประตูร้านชาของซือเฉิงหยู้ครั้งก่อนขึ้นมา

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?

“แฟนสาวลึกลับ” ของซือเฉิงหยู้สร้างความวุ่นวายมาก ในที่สุดก็เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์weiboของเฉินถิงเซียวที่ทำให้สงบลงได้ แต่ตัวการของเรื่องนี้ เหมือนกับจะยังหาตัวออกมาไม่ได้….

มู่น่อนน่อนคิดถึงตรงนี้ ก็ส่งวีแชทไปถามเรื่องนี้กับเฉินถิงเซียว

ทางด้านของเฉินถิงเซียวก็คงจะกำลังยุ่ง จนเมื่อมู่น่อนน่อนกินข้าวเสร็จ เฉินถิงเซียวถึงเพิ่งจะส่งข้อความกลับมาให้เธอ เป็นแค่ไม่กี่คำง่าย ๆ “ยังหาไม่เจอ”

มู่น่อนน่อนอ่านประโยคนั้นหลายครั้ง ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าเฉินถิงเซียวกำลังโกหกอยู่เลย

คนที่อยู่เบื้องหลังการยั่วยุแบบนี้เพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กร ไม่มีทางไม่ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้หรอก ได้ตราบใดที่ตั้งใจตรวจสอบจะต้องหาเจอแน่นอน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวความคิดอ่านละเอียดรอบคอบทั้งลึกซึ้ง เรื่องนี้ผ่านไปนานขนาดนี้ เขาไม่มีทางตรวจสอบไม่เจอหรอก

ถ้าอย่างนั้น ก็มีอีกความเป็นไปได้คือเขาเจอแล้ว แต่ไม่อยากบอก

จะกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาเจอตัวการของเรื่องนี้แล้ว แต่กลับไม่เชื่อว่าคนคนนั้นจะทำเรื่องแบบนี้ ถึงได้บอกว่าหาไม่เจอ!

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท