ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่184 ยอมผิดใจกับคนเลวดีกว่า อย่าไปผิดใจกับเฉินถิงเซียวเลย

บทที่184 ยอมผิดใจกับคนเลวดีกว่า อย่าไปผิดใจกับเฉินถิงเซียวเลย

บทที่184 ยอมผิดใจกับคนเลวดีกว่า อย่าไปผิดใจกับเฉินถิงเซียวเลย

คำพูดที่เหมือนจะแสดงความจริงใจของมู่เจิ้งซิว กลับไม่ได้ทำให้สีหน้าของเฉินถิงเซียวดีขึ้นมาเลย แต่กลับเปลี่ยนมาดูแย่ลงกว่าเดิม

เฉินถิงเซียวลุกขึ้นยืน น้ำเสียงและสีหน้าของเขาก็เยือกเย็นออกมาเหมือนกัน “พรุ่งนี้มู่น่อนน่อนจะไม่มาทำงานที่บริษัทมู่ซื่อแล้ว”

ไม่ได้มีน้ำเสียงประนีประนอมเลยแม้แต่น้อย หยาบคายเสียจนเหมือนกับว่ากำลังแจ้งให้ตนทราบเพียงเท่านั้น

มู่เจิ้งซิวไม่ได้พูดอะไรออกไป

เขาจะยังพูดอะไรได้อีก?

เฉินถิงเซียวไม่ใช่คนที่เขาจะสู้ได้ แต่ก่อนเขาคิดว่าหลังจากที่ตนกลับประเทศมาแล้ว คนที่รับมือได้ยากที่สุดคงจะเป็นเฉินชิงเฟิง แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินถิงเซียวไปเสียได้

เฉินถิงเซียวเปิดประตูออกไป ก็เห็นเข้ากับมู่น่อนน่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู

มู่น่อนน่อนฟังอยู่ตรงหน้าประตูอยู่สักพักนึง แต่ก็ได้ยินไม่ชัดว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่

“ฉัน…” เธออยากจะอธิบายออกไปว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่คำพูดเพิ่งจะปริปากเตรียมจะพูดออกไป จู่ๆเฉินถิงเซียวก็โน้มตัวลงมากอดเธอเอาไว้

แรงของเขาที่กดลงมาค่อนข้างแรง แขนรัดเข้ามาจนเอวเธอเจ็บขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังพอทนได้อยู่

มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจเข้า รู้สึกว่าความรู้สึกจากร่างของเฉินถิงเซียวนั้นมันผิดแปลกไป จึงเอ่ยถามเขาออกไปเบาๆ “คุณเป็นอะไรไป?”

เฉินถิงเซียวกอดเธออยู่หลายวิ ก็ได้คลายอ้อมกอดออกไปแล้วจูงมือเธอเดินไปทางข้างหน้า “ไปเก็บข้าวของของคุณ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว”

ในใจของมู่น่อนน่อนเกิดความอยากรู้ขึ้นมาว่าเฉินถิงเซียวกับมู่เจิ้งซิวคุยอะไรกัน แต่สีหน้าของเฉินถิงเซียวกับแรงกดดันจากร่างของเขานั้นก็ได้บ่งบอกออกมาชัดเจนแล้วว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามมากมาย

มู่น่อนน่อนรีบเก็บข้าวของไปอย่างรวดเร็ว ถือกล่องกระดาษแล้วหันไปพูดกับเฉินถิงเซียว “เสร็จแล้ว”

เฉินถิงเซียวหลุบตาลง มือข้างหนึ่งรับกล่องจากมือเธอไปถือโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว มือที่ว่างอยู่อีกข้างก็เข้าไปจับมู่น่อนน่อนเอาไว้

ภายในใจของมู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามันดูหวานมาก ถึงแม้ว่าอารมณ์จะไม่ดี แต่เขาก็ยังใส่ใจคิดจะช่วยเธอถือกล่องอีก

ดีที่ตอนนี้ในบริษัทไม่ได้มีใครอยู่แล้ว คนที่ยังทำโอทีกันอยู่นั้นก็เป็นคนที่อยู่ตำแหน่งสูงๆกันทั้งนั้น เป็นคนที่มีห้องทำงานเป็นของตัวเองกัน

แต่บนโลกนี้มันก็มีคำที่เรียกว่า: โลกกลม

ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าประตูลิฟต์ กำลังรอลิฟต์กันอยู่

มู่น่อนน่อนนึกถึงบริษัทเสิ้งติ่งที่นั่นขึ้นมา มันมีลิฟต์ส่วนตัวของเฉินถิงเซียวโดยเฉพาะ จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปถามเขาด้วยความอยากรู้ออกไป “คุณเคยรอลิฟต์หรือเปล่า?”

เฉินถิงเซียวเพียงแค่เหลือบมองเธอเล็กน้อย ส่งสายตาที่บอกเธอว่า “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ”มาให้เธอ

เธอคิดว่า…

เธอคิดว่าเฉินถิงเซียวจะต้องเป็นคนที่แม้แต่ลิฟต์ก็ไม่เคยรอมาก่อนแน่ๆ

ในที่สุดลิฟต์ก็มาสักที

ติ๊ง——

ประตูลิฟต์เปิดออก มู่น่อนน่อนเตรียมที่จะเดินเข้าไปด้านใน เงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าคนที่เดินออกมาจากลิฟต์ไม่ใช่คนอื่นเลย แต่เป็นมู่หวั่นขีนั่นเอง

ที่เธอกลับมาที่บริษัทมู่ซื่อนั้น ก็เป็นเพราะว่ากังวลว่ามู่หวั่นขีกับเฉินถิงเซียวจะมาเจอกัน

แต่ผลสุดท้ายก็ได้ให้มู่หวั่นขีเจอกับเฉินถิงเซียวจริงๆเสียแล้ว!

มู่น่อนน่อนเข้ามาขวางหน้าเฉินถิงเซียวทันที แล้วยังเบียดไปทางข้างหลังเล็กน้อย

เฉินถิงเซียวทำได้เพียงถอยหลังออกไปสองก้าว เอ่ยออกมาอย่างเฉื่อยชา “อะไร?”

ตอนที่มู่หวั่นขีเห็นมู่น่อนน่อนนั้น ในดวงตาก็ได้เต็มไปด้วยไฟโทสะไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่เธอเห็นเฉินถิงเซียวที่อยู่ด้านหลังร่างของมู่น่อนน่อน ความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากร่างก็ได้เปลี่ยนไปทันที

เสียงที่พูด ก็ดัดออกมาเสียจนทำให้รู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง

“คุณชายเฉิน พวกเราเจอกันอีกแล้วนะคะ” มู่หวั่นขีพูดไปพลาง พลางทำเป็นดึงเสื้อคลุมของตัวเองเล็กน้อย

เธอชอบสวมชุดเดรสที่เว้าตรงหน้าอกอยู่ด้านในของเสื้อคลุม พอเสื้อคลุมเปิดออก ก็เผยให้เห็นร่องอกที่ขาวเนียนที่โผล่ออกมาจากด้านในคอเสื้อทรง“V”ที่อยู่ด้านใน ค่อนข้างจะดูเย้ายวนเลยทีเดียว

ในตอนนั้นเอง ลิฟต์อีกด้านนึงก็มาพอดี

แต่เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้มองมู่หวั่นขีเลยแม้แต่น้อย ดึงมู่น่อนน่อนเข้าในลิฟต์อีกตัวทันที

มู่หวั่นขีมีสีหน้าแข็งค้างออกมา ไม่พอใจแต่ก็ได้เดินตามเข้าไปยังลิฟต์อีกตัวเช่นเดียวกัน

เธอจงใจเสียดสีไปยังข้างๆลำตัวของเฉินถิงเซียว ดัดเสียงพูดออกไป “คุณชายเฉิน ฉันค่อนข้างจะกลัวที่แคบอยู่นิดหน่อย คุณช่วย…ประคองฉันหน่อยได้หรือเปล่า…”

ตรงคำว่า “ประคองฉันหน่อย” ท่อนนั้นพูดออกมาอย่างช้าๆ เนิบนาบเสียอย่างกับว่าใกล้จะขาดใจตายอยู่รอมร่อไม่มีผิด

“ฉันประคองเธอเอง” มู่น่อนน่อนเดินเข้ามาเบียดมู่หวั่นขีออกไป มือที่ประคองมู่หวั่นขีลงแรงหนักลงไป “เมื่อก่อนไม่รู้เลยนะว่าเธอจะกลัวที่แคบด้วยน่ะ!”

มู่หวั่นขีโกรธหน้าแทบจะผิดไปจากเดิม ใช้เสียงที่มีเพียงพวกเธอสองคนเท่านั้นที่จะได้ยินพูดออกไปด้วยอาการ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “แกหลบไป!”

“เธอมาอ่อยผู้ชายของฉัน ฉันยังต้องหลบให้อีกหรอ เธอเห็นฉันโง่หรือไง?” มู่น่อนน่อนจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมเป็นต่อให้

“ของแก?” มู่หวั่นขียิ้มเย็นออกมา “อย่าลืมสิว่าคนที่หมั้นกับเฉินถิงเซียวก็คือฉัน!”

“แต่ภรรยาของเขาคือฉัน!” มู่น่อนน่อนคิดว่ามู่หวั่นขีสมองมีปัญหาไปแล้วแน่ๆ

ตอนนี้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเฉินถิงเซียว และตอนที่เฉินถิงเซียวยังเป็น “เฉินเจียฉิน” อยู่นั้น ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ได้มีความสนใจในตัวของมู่หวั่นขีเลยสักนิด แต่มู่หวั่นขีกลับเหมือนกับว่าจะปิดกั้นข้อมูลพวกนั้นไปโดยอัตโนมัติ ยังคงไม่ยอมแพ้สักที!

มู่หวั่นขีมีสีหน้าพอใจออกมา “งั้นหรอ? ทะเบียนสมรสล่ะ? เอามาให้ดูหน่อยสิ?”

ตอนนี้ในที่แห่งนี้ มู่น่อนน่อนจะไปเอาทะเบียนสมรสมาให้มู่หวั่นขีดูจากที่ไหนกัน

พูดไปแล้ว เธอเหมือนจะไม่เคยเห็นทะเบียนสมรสของเธอกับเฉินถิงเซียวมาก่อนเลย

“เอาออกมาไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ!” มู่หวั่นขีพูดจบ ก็ฉวยโอกาสตอนที่มู่น่อนน่อนไม่ระวัง เหยียบลงไปบนเท้าของมู่น่อนน่อนอย่างแรง

มู่น่อนน่อนละสายตาไปชั่วขณะหนึ่ง จึงถูกรองเท้าส้นสูงของมู่หวั่นขีเหยียบลงมาเต็มแรงอย่างนี้

รองเท้าส้นสูงของมู่หวั่นขีนั้นแหลมมาก พื้นที่รับแรงน้อย ยิ่งลงแรงไปอย่างนี้แล้ว ถึงแม้ว่ามู่น่อนน่อนจะสวมรองเท้าลุยหิมะมา แต่ก็ยังเจ็บจนมีอาการกลัวออกมา

เฉินถิงเซียวถึงแม้ว่าจะไม่ส่งเสียงพูดอะไรมาโดยตลอด แต่ก็คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของทางมู่น่อนน่อนอยู่ตลอด

อันที่จริงตอนที่มู่หวั่นขีชิดเข้ามา เขาจะผลักออกไปตรงๆเลยก็ได้

แต่เห็นท่าทางที่มู่น่อนน่อนคอยกันให้เขาแล้ว อารมณ์ของเขาก็ได้เปลี่ยนมาดีขึ้นมาเป็นพิเศษ จึงปล่อยเธอไป

ตอนนี้มู่หวั่นขีใช้วิธีสกปรก สีหน้าของเขาก็เยือกเย็นออกมา

มู่น่อนน่อนเจ็บเท้า แต่ก็ไม่ได้หลีกทางออกไป ยกเท้าขึ้นมาคิดอยากจะถีบมู่หวั่นขีเพื่อแก้แค้น แต่จู่ๆกลับถูกเฉินถิงเซียวยัดกล่องเข้ามาในอ้อมแขน

เธอหันมองเฉินถิงเซียวไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการงงงวย

นิ้วเรียวยาวของเฉินถิงเซียวขยับ กดลงไปตรงปุ่มกดบนลิฟต์อยู่หลายที ดึงมู่น่อนน่อนเดินออกไป

ประตูลิฟต์ปิดลงด้านหลังพวกเขา

มู่น่อนน่อนยังไม่ได้สติกลับมาว่าตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หันกลับไปมองประตูลิฟต์ไปด้วยใบหน้างงงวย

ต่อมา ด้านในก็มีเสียงกรีดร้องของมู่หวั่นขีดังออกมา “อ๊ะ——“

จากนั้นเสียง “โครม” ดังขึ้นมาอยู่หลายครั้ง

“ลิฟต์…ตกลงไป?” มู่น่อนน่อนหันไปถามเฉินถิงเซียวอย่างไม่แน่ใจนัก

บริษัทมู่ซื่อมีลานจอดรถชั้นใต้ดิน ลงไปยังมีชั้นใต้ดินชั้นหนึ่งและชั้นใต้ดินชั้นสองอยู่

เฉินถิงเซียวตอบนิ่งๆออกมาคำนึงว่า “อืม”

ตอนที่มู่น่อนน่อนอยากจะออกมา เฉินถิงเซียวก็ได้กดลงไปตรงปุ่มลิฟต์พวกนั้นอยู่หลายที…

ของพวกนั้นคงไม่ทำให้ลิฟต์ตกลงไปหรอกมั้ง?

มีแบบนี้ด้วย???

ชั่วแวบนึงมู่น่อนน่อนก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

ยอมไปผิดใจกับคนเลวเสียดีกว่า อย่าไปผิดใจกับเฉินถิงเซียวเลย

ทั้งสองคนกลับมาถึงรถ เฉินถิงเซียวก็พูดกับมู่น่อนน่อนออกไปว่า “ถอดรองเท้า”

มู่น่อนน่อนนิ่งค้างไปแป๊บนึง จากนั้นก็รู้ตัวขึ้นมาว่าเฉินถิงเซียวคงจะเห็นว่ามู่หวั่นขีเหยียบเธอ

“ฉันไม่เป็นไร”

เฉินถิงเซียวไม่สนใจคำพูดของเธอ แขนข้างนึงยื่นเข้ามาจับข้อเท้าของเธอเอาไว้ เอาเท้าเธอมาวางบนเก้าอี้ ลงมือเข้าไปช่วยเธอถอดรองเท้าด้วยตัวเอง.

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน