ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่217 ยังอยู่ไหม?

บทที่217 ยังอยู่ไหม?

บทที่217 ยังอยู่ไหม?

จนถึงตอนที่มู่น่อนน่อนวางสายไป เฉินถิงเซียวถึงได้เอ่ยปากถามเธอ “ยังจะไปโรงแรมจีนติ่งไหม”

ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉย ไม่ได้ดูสุขหรือทุกข์ เหมือนกับว่าไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

ตอนนี้เธอท้องมันก็ตรงกับความต้องการของเขาไม่ใช่เหรอ? แล้วตอนนี้ทำสีหน้าแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?

“ไปสิ” มู่น่อนน่อนเอียงศีรษะพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าดูขี้เกียจ

เธอบอกเสิ่นเหลียงตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไปเจอกันที่โรงแรมจีนติ่ง ออกก็ออกมาแล้ว ก็ต้องไปเจอกันหน่อยสิ

……

หน้าประตูโรงแรมจีนติ่ง

มู่น่อนน่อนลงจากรถ ก็เห็นรถของเสิ่นเหลียง

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสิ่นเหลียง “ลงจากรถแล้วเข้าไปข้างในเถอะ ฉันเห็นเธอแล้ว”

ต่อมา เสิ่นเหลียงก็เปิดประตูแล้วลงมาจากรถ สวมใส่แว่นกันแดดและหน้ากากอนามัย ท่าทางอุปกรณ์แน่นหนามาก

มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวก็ตามเข้าไปที่โรงแรมจีนติ่ง

พอเสิ่นเหลียงเข้าไปที่โรงแรมจีนติ่ง ถอดหน้ากากและแว่นกันแดดออก ตอนที่หันกลับไปมองมู่น่อนน่อนนั้น ดวงตาก็เป็นประกาย แล้วก็วิ่งเข้ามาหาเธอ

“น่อนน่อน เธอ……”พูดมาได้ครึ่งหนึ่ง เธอถึงได้สังเกตเห็นว่าด้านหลังของมู่น่อนน่อนมีเฉินถิงเซียวอยู่ด้วย

เธอหยุดพูด แล้วก็เรียกอย่างโกรธเคือง “หัวหน้าใหญ่”

“อืม” เฉินถิงเซียวตอบรับนิ่งๆ สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่นัก

เขาหันกลับไปมองมู่น่อนน่อน “พวกเธอเข้าไปในห้องวีไอพีก่อนเถอะ”

และก็ไม่รอให้มู่น่อนน่อนตอบ เขาก็หันหลังเดินออกไป

พอเขาไปแล้ว เสิ่นเหลียงถึงได้รู้สึกโล่งอก แล้วก็เอ่ยปากถามมู่น่อนน่อน “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ก่อนหน้านี้หัวหน้าใหญ่อยากจะให้เธอท้องให้ได้ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอท้องแล้ว ทำไมเขาดูไม่มีความสุขล่ะ? ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้เดาใจยากกว่าผู้หญิงอีก” มู่น่อนน่อนโบกมือ “ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเขาคิดอะไร”

เสิ่นเหลียงได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป เธอหันมาสังเกตสีหน้าของมู่น่อนน่อนดีๆ พอเห็นท่าทางที่ไม่แคร์ของเธอแล้ว ก็ลองเอ่ยปากถามว่า “เธอกับหัวหน้าใหญ่ยังไม่ได้ดีกันอีกเหรอ? ”

มู่น่อนน่อนถามเธอกลับ “พวกเรามีปัญหาอะไรกันเหรอ? ”

ระหว่างเธอกับเฉินถิงเซียวนั้นมีปัญหากันจริงๆ เดิมทีมันเป็นแค่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซือเฉิงหยู้เท่านั้น แล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนกับว่ามันจะซับซ้อนขึ้นมากกว่าเดิม

เสิ่นเหลียงส่ายหน้า “บอกไม่ถูก รู้สึกได้ว่าพวกเธอแปลกๆ ”

มู่น่อนน่อนยกมุมปาก หลุบตาลงเพื่อปิดบังความรู้สึกในดวงตา

……

หลังจากที่เฉินถิงเซียวแยกกับมู่น่อนน่อนแล้ว ก็เดินไปยังห้องของเขาที่โรงแรมจีนติ่ง

หน้าประตูห้องนั้นมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ สือเย่เป็นคนพามา

พอบอดี้การ์ดเห็นเฉินถิงเซียว ก็ก้มหัวทักทายพร้อมกันด้วยความเคารพ “คุณผู้ชาย”

และบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างประตูก็เปิดประตูให้เขา

เฉินถิงเซียวเดินเข้าไป

สือเย่เห็นเฉินถิงเซียวเข้ามา ก็รีบก้มหัวทำความเคารพทันที

“ไหน? ” เฉินถิงเซียวมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ที่นี่

สือเย่เดินสองก้าวไปยังมุมห้อง แล้วก็ดึงผู้หญิงที่หดตัวอยู่ใต้โต๊ะออกมาพร้อมกับโยนเธอไปตรงหน้าของเฉินถิงเซียว

ก่อนหน้านี้เขาออกคำสั่ง ให้พวกเขานำตัวผู้กระทำผิดมา แล้วรอให้เขามาจัดการ

รถคนนั้นไม่ได้ชนมู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียว สุดท้ายก็ชนเข้ากับรั้วกั้นที่ลานจอดรถ ช่วงหน้าของรถผิดรูป แน่นอนว่าคนบนรถก็ได้รับบาดเจ็บ

ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยเลือด ผมก็เปื้อนเลือดมากมาย ในเวลานี้มันแห้งและแข็งตัวอยู่บนเส้นผมของเธอหมดแล้ว ผมพันกันเหมือนเชือกป่าน

ต่อให้เป็นแบบนี้ เฉินถิงเซียวก็ยังจำผู้หญิงตรงหน้าได้ในพริบตาเดียว

เฉินถิงเซียวก้าวขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว มองไปที่เธอด้วยสายตาที่มืดมน เสียงน่ากลัวมากเหมือนกับยมราชที่ออกมาจากนรก “มู่หวั่นขี ไม่เจอกันนานเลยนะ”

มู่หวั่นขีตัวสั่น พูดไม่ปะติดปะต่อกัน “ขอ……ขอโทษ……ขอ ฉัน……คุณ……มู่……”

เธอพูดไปด้วย พร้อมกับตัวสั่นแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียว แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พยายามร้องขอความเมตตา แต่ว่าเพราะว่ากลัวมากเกินไป แม้แต่ประโยคเดียวเธอก็พูดไม่ชัดเจน

ความอดทนของเฉินถิงเซียวที่หาได้ยากกับคนที่ไม่ใช่มู่น่อนน่อน เขาไม่พูดอะไร มองดูมู่หวั่นขีตัวสั่นพูดจาไม่ต่อเนื่อง

สีหน้าดูเย็นชาและไม่แยแส

หลังจากผ่านไปสองนาที เฉินถิงเซียวก็รู้สึกว่าน่าเบื่อแล้ว โบกมือเรียกบอดี้การ์ด “เอามีดมา”

พอมู่หวั่นขีได้ยินคำพูดของเขานั้น ก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง แต่ว่าก้สามารถพูดได้ชัดเจนอย่างน่ามหัศจรรย์

“ฉันขอโทษ……มันจะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว……ฉันจะไม่ต่อต้านมู่น่อนน่อนอีกแล้ว……คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ……ฉันขอร้องปล่อยฉันไปเถอะ……”

มู่หวั่นขีเสียเลือดไปมาก เมื่อกี้รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้เธอมีสติเต็มที่แล้ว

“ไม่ต้องกลัวขนาดนี้หรอก” เฉินถิงเซียวก้มตัวลง ดวงตาของเขามืดมน เสียงต่ำลงเล็กน้อย “เธออยากจะชนมู่น่อนน่อนให้ตาย แต่ว่าฉันไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก”

“ไม่!! ”มู่หวั่นขีกลัวจนร้องออกมา

เฉินถิงเซียวไม่ฆ่าเธอก็จริง แต่ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ทำให้เธอทรมานมากกว่าการที่ฆ่าเธอซะอีก

“มันไม่ใช่ครั้งแรก เธอต้องชินได้แล้ว” เฉินถิงเซียวค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างสบายๆ แล้วก็มีบอดี้การ์ดถือเก้าอี้มาไว้ด้านหลังของเขา

เฉินถิงเซียวนั่งลงไป

มู่หวั่นขีสวมใส่ถุงน่องและกระโปรง บอดี้การ์ดถือมีดมา แล้วก็ตัดถุงน่องของเธอเบาๆ

มู่หวั่นขีดวงตาเบิกโพลง ร่างกายก็ชักขึ้นมาทันที “ไม่เอา! อย่าทำแบบนี้กับฉัน!! อ้าย!!! ”

บอดี้การ์ดถือมีด แล้วก็ค่อยๆ กรีดเข้าไปที่น่องของมู่หวั่นขี กรีดเข้าไปทีละชั้นๆ

มู่หวั่นขีนั้นเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการมาตั้งแต่เด็ก ได้รับความรักและทะนุถนอมจากตระกูลมู่ ทนความลำบากไม่ได้แม้แต่นิดเดียว แล้วจะมาทนต่อการโดนทรมานแบบนี้ได้ยังไงกัน

ครั้งก่อนที่เธอโกหกสื่อเพื่อชี้แจงเรื่องทะเบียนสมรสนั้น เฉินถิงเซียวก็ใช้วิธีนี้เพื่อเป็นการบังคับ

ผู้หญิงไม่มีสมองอย่างมู่หวั่นขีนี้ จัดการง่ายเกินไปแล้ว

มู่หวั่นขีเอาแต่กรีดร้อง เฉินถิงเซียวพูดเรียบๆ ว่า “เสียงดังจัง”

หลังจากนั้น ปากของมู่หวั่นขีก็ถูกปิด ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงครวญครางอย่างไม่ชัดเจนเท่านั้น

สือเย่ยืนอยู่ด้านข้าง กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็กระตุก สุดท้ายเขาก็เม้มปากแล้วก็มองไปทางอื่น

ตอนที่มู่หวั่นขีเจ็บปวดมากจนกำลังจะหมดสติไปนั้น จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

สือเย่ใจเต้น ใครช่างกล้าไม่ดูสถานการณ์ ผลักประตูเข้ามาตอนนี้?

“เฉินถิงเซียว!”

พอสือเย่ได้ยินเสียงนั้น ก็แอบร้องซวยอยู่ในใจ

นอกจากมู่น่อนน่อนยังจะมีใครกล้าเรียกชื่อของเฉินถิงเซียวอีก

มู่น่อนน่อนพุ่งเข้ามา แล้วก็วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวอยู่ต่อหน้ามู่หวั่นขีที่กำลังจะเป็นลม แน่นอนว่ามู่น่อนน่อนต้องเห็นสภาพของมู่หวั่นขีในตอนนี้

มู่หวั่นขีพึ่งจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เล็กๆ มา หลังจากนั้นก็ถูกเฉินถิงเซียวทำให้กลัวจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง ตอนนี้เธอโดนทรมานจนดูไม่เหมือนคนแล้ว

มู่น่อนน่อนเองก็ตกใจกับสภาพของมู่หวั่นขีในตอนนี้ หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเธอถึงตั้งสติได้ เอ่ยปากถามบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้าง “เธอ……ยังอยู่ไหม? ”

บอดี้การ์ดพยักหน้า “ยังอยู่ครับ”

หลังจากบอดี้การ์ดพูดจบ ก็เงยหน้าไปมองเฉินถิงเซียวอย่างระมัดระวัง

หลังจากที่มู่น่อนน่อนเข้ามานั้น เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน