ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 324 นี่คุณกำลังสงสัยผมอยู่ใช่ไหม?”

บทที่ 324 นี่คุณกำลังสงสัยผมอยู่ใช่ไหม?”

มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไปผลักหน้าอกกำยำของเฉินถิงเซียวอย่างไม่พอใจ “ใครให้คุณแต่งตัวแบบนี้ … จนฉันเกือบจะจำคุณไม่ได้อยู่แล้วเชียว …ฮ่า ๆ …”

เมื่อพูดมาถึงท่อนท้ายประโยค มู่น่อนน่อนก็ถึงกลับอดกลั้นอาการหัวเราะออกมาไม่ไหว

เพราะว่าเธอไม่เคยเห็นเฉินถิงเซียวแต่งตัวแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

เฉินถิงเซียวนิสัยเย็นชา ปกติแล้วลักษณะท่าทางก็ไม่ให้ใครเข้ามาถึงตัวได้ นอกจากมู่น่อนน่อนจะเห็นเขาแต่งชุดนอนกับชุดลำลองที่ใส่อยู่บ้านแล้ว เวลาที่เหลือก็คือใส่สูทตลอดทั้งนั้น

เสื้อสูท เสื้อเชิ้ต เนคไท ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของเฉินถิงเซียวไปแล้ว

เฉินถิงเซียวในหัวสมองของเธอ ต่างเป็นการแต่งตัวที่เรียบร้อยทั้งตัว ลักษณะท่าทางเย็นชาเคร่งขรึม

พอมาเห็นเฉินถิงเซียวแต่งกายชุดลำลองแบบนี้แล้วในเวลาฉุกละหุก แถมยังเป็นสีที่สะดุดตาแบบนี้ด้วย เธอถึงกลับตั้งตัวไม่ทันจริงๆ เลย

มู่น่อนน่อนเก็บอาการอย่างเต็มพิกัดแล้ว ทว่าเมื่อเธอชำเลืองมองเฉินถิงเซียว ก็อดหัวเราะเอาไว้ไม่ได้

จนกระทั่งทั้งสองคนมาถึงลานจอดรถและขึ้นรถแล้ว มู่น่อนน่อนก็ยังหัวเราะไม่หยุด

เฉินถิงเซียวตีหน้าเย็นชาใส่อยู่ตลอด จนมู่น่อนน่อนขึ้นรถแล้ว วินาทีที่ปิดประตูรถนั้น เขาก็ยื่นมือยาวออกไป พลางเหนี่ยวตัวของมู่น่อนน่อนเข้าหา จากนั้นก็จูบเธออย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน

เขาจับท้ายทอยของเธอเอาไว้และบรรจงจูบอยู่สักพัก ถึงได้ยอมปล่อยเธอออก แถมยังใช้น้ำเสียงเหมือนคุณครูที่กำลังถามหาเหตุผลของคนทำผิด “พอผมลงจากเครื่องก็มุ่งหน้ามาหาคุณทันที พอเจอหน้ากันแล้วคุณก็มาเยาะเย้ยใส่ผมเหรอ? หือ?”

ในจินตนาการของเขานั้น น่าจะเป็นฉากที่โผเข้าอ้อมกอดถึงจะถูก แต่ผู้หญิงคนนี้ ผลตอบแทนคือการมาหัวเราะเยาะเขาเสียนี่

ทางด้านสตูดิโอ ซิตี้มีดารามากมาย และก็มีนักท่องเที่ยวกับพวกสื่อมวลชนที่มาตามติดข่าวอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเขาไม่กังวลว่าจะถูกถ่ายรูปเข้า ถึงได้จอดซื้อเสื้อผ้าและเปลี่ยนยกเซทตรงกลางทางหรอก

สิ่งที่เขาต้องการก็คือเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนเดิม สือเย่ก็เลือกชุดนี้ให้กับเขาทันที….

เขาย่อมรู้ดีว่า นอกจากเรื่องการทำงานที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจสือเย่ได้แล้ว เรื่องอื่นไม่สามารถพึ่งพาได้เลย

มู่น่อนน่อนกลั้นเสียงหัวเราะจนศีรษะโยกไปมา “ไม่นะ…”

เฉินถิงเซียวก้มหน้าลง พลางขบเม้มบนริมฝีปากของเธอราวกับเป็นการความโกรธออกมา

เขาไม่สามารถควบคุมพละกำลังได้มากนัก จนมู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเจ็บขึ้นมาเล็กน้อยจนต้องสะบัดออก เฉินถิงเซียวราวกับไม่คิดจะยอมปล่อยออก แถมยังรัดเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม และจูบอย่างลึกล้ำอย่างแข็งข้อขึ้นเรื่อย ๆ

ความรู้สึกของมู่น่อนน่อนรู้สึกไม่ดีเลย เธอรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวจูบราวกับขโมยจูบ มันทั้งเร่งร้อนและโหดร้าย

ตอนที่เขายอมปล่อยตัวนั้น ริมฝีปากของเธอทั้งบวมแดงแจ๋

มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไปดึงปีกหมวกแก๊ปของเขาลงเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ เพื่อเป็นการปกปิดใบหน้าของเขาทั้งหมด “หึ!”

เธอถลึงตาใส่เขา จากนั้นก็กลับมานั่งลงตรงตำแหน่งคนขับรถ และก็มุ่งหน้าขับออกไป

พอมู่น่อนน่อนเริ่มขับรถ เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้ทำตัวรุ่มร่ามอีกเลย

……

มู่น่อนน่อนขับรถกลับมายังที่พักอาศัยของเธอทันที

เธอให้เฉินถิงเซียวเข้าบ้านไปก่อน จากนั้นก็หยิบรองเท้าแตะคู่หนึ่งที่อยู่ในตู้รองเท้าให้กับเขา “เปลี่ยนเองนะ”

จากนั้นเธอก็หันตัวกลับไปเพื่อต้องการปิดประตู เวลานั้นเองบริเวณก็ถูกรัดไว้แน่น และรู้สึกถึงแผ่นอกกำยำของชายหนุ่มที่แนบชิดเข้าหา อิงแอบแนบติดกับแผ่นหลังของเธอ

ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเข้าประตูมายังไม่ทันได้เปิดแอร์เลย ในห้องก็ร้อนอยู่แล้ว พอมาเจอเฉินถิงเซียวมากอดแบบนี้เข้า มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าร่างกายทั้งตัวมันร้อนดั่งไฟเผา

มู่น่อนน่อนพยายามแกะมือของเฉินถิงเซียวที่บริเวณเอวของเธอออก แต่มันก็ไม่สำเร็จ ทำได้แค่พูดไปอย่างเบื่อหน่าย “เฉินถิงเซียว คุณปล่อยฉันก่อน ฉันจะไปเปิดแอร์”

เฉินถิงเซียวได้ยินแต่ก็ยอมปล่อยเธอออก แต่พอเธอพลิกตัวหันกลับมา ก็ถูกเฉินถิงเซียวกดตราตรึงกับบานประตูแทน

เขาก้มศีรษะลง จากนั้นก็จูบเธออีกครั้ง

แต่รู้สึกว่าความสูงของทั้งสองจะมีปัญหามากพอตัว พอก้มตัวลงมันเลยไม่ค่อยสบายตัว เขาเลยอุ้มมู่น่อนน่อนขึ้นมา เพื่อให้ระดับความสูงของทั้งสองคนเสมอภาคกัน

“คุณปล่อยฉันนะ! ร้อนจะตาย!” จะมีใครจะเหมือนกับเขาในลักษณะนี้

เฉินถิงเซียวขบริมฝีปากของเธอเอาไว้ พร้อมทั้งพูดด้วยเสียงแปร่งพร่า “ยังร้อนไม่พอ”

มู่น่อนน่อนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินถิงเซียวอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เวลาที่เฉินถิงเซียวดื้อรั้นหัวแข็งอยากจะทำอะไรขึ้นมา เธอก็แค่ทำตามน้ำไปเท่านั้นเอง

เฉินถิงเซียวอุ้มเธอเข้าห้องนอนทันที

มู่น่อนน่อนทำเสียงอ่อนเสียงหวาน “คุณนั่งเครื่องบินมาตั้งสิบกว่าชั่วโมงแล้วไม่เหนื่อยบ้างเลยเหรอ? คุณพักผ่อนสักหน่อยไหม ฉันจะไปซื้อกับข้าวแล้วเดี๋ยวกลับมาทำอาหารเย็นให้นะ”

“ผมไม่เหนื่อย” เฉินถิงเซียวพูดจบ จากนั้นจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อน ด้วยแววตาอันตราย “นี่คุณกำลังสงสัยในพละกำลังของผมอยู่ใช่ไหม?”

“เปล่าค่ะ”

“ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู”

“ฉันไม่อยากดู”

“ไม่อยากดูเหรอ? งั้นคุณหันหลังให้ผมก็แล้วกัน”

“……”

ข้อเท็จจริงสามารถพิสูจน์ได้ว่า มู่น่อนน่อนยังคิดอย่างคนไร้เดียงสาจริงๆ

หลังจากที่เฉินถิงเซียวอุ้มเธอเข้าห้องนอนไปแล้ว

เฉินถิงเซียวปล่อยตัวเธอลง จากนั้นก็เปิดฝักบัวให้ “อาบน้ำก่อน”

เขานั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง แถมยังเหม็นกลิ่นเหงื่อไปทั้งตัว

มู่น่อนน่อนพยายามบ่ายเบี่ยง “ฉันไม่อยากอาบน้ำ”

“คุณช่วยอาบน้ำให้ผมก็ได้นะ” เฉินถิงเซียวเริ่มถอดเสื้อผ้าออก

สุดท้าย ตอนจบของมู่น่อนน่อนไม่มีกระจิตกระใจอยู่กับเนื้อกับตัวเลย…..

เฉินถิงเซียวปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ และเริ่มโอบกอดเธอเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง พลางบรรจงจุมพิตลงหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา “เหนื่อยก็นอนพักสักหน่อยนะ”

อาจจะเป็นเพราะว่าน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวอ่อนโยนเหลือเกิน จนทำให้มู่น่อนน่อนหลับตาลงและผล็อยหลับไปจริงๆ

จนรู้สึกว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดนั้น หายใจสม่ำเสมอแล้ว เฉินถิงเซียวค่อยๆ เอนตัวผุดนั่งและเหลือบมองเธอ จนเห็นว่ามู่น่อนน่อนหลับสนิทไปแล้ว

เขายื่นมือออกมาเพื่อลูบเส้นผมให้มู่น่อนน่อน จากนั้นก็ดึงแขนออก และลุกออกจากเตียงเดินไปยังห้องรับแขกทันที

ซึ่งมันไม่เหมือนคอนโดของเขาที่เย็นชืดเวิ้งว้าง อพาร์ทเม้นท์ของมู่น่อนน่อนอบอุ่นจนเห็นได้อย่างชัดเจน ในห้องรับแขกก็จัดสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างน่ารัก เมื่อมองดูแล้วเหมือนกับเอาไว้ให้เด็กเล็กเล่น

เฉินถิงเซียวเดินออกไป และยื่นมือออกไปหยิบหนึ่งในเจ้าหมีตัวน้อย พลางหลุบตาต่ำจ้องมองอยู่หลายวินาที และวางกลับไป จากนั้นก็ใส่หมวกและหยิบกระเป๋าสตางค์ออกจากบ้านไป และซื้อบุหรี่ในร้านขายของชำที่อยู่ด้านหน้าประตูของหมู่บ้านจัดสรร

จากนั้นก็ยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านใต้ตึกข้างถังขยะและสูบติดต่อกันอยู่หลายมวน ตอนที่จะกลับไปยังห้องพักของมู่น่อนน่อนนั้น กำลังจะก้าวเท้าออก เหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ และหันกลับไปร้านขายของชำเพื่อซื้อหมากฝรั่งมาทันที

มู่น่อนน่อนยังคงหลับอยู่ เฉินถิงเซียวไปล้างมือในห้องน้ำ

เฉินชิงเฟิงต้องการจะควบคุมเขาให้อยู่มือ เฉินมู่ก็อยู่ในอุ้งมือของเขา ถ้าเขาเจรจากับเฉินชิงเฟิง เพื่อให้เฉินชิงเฟิงส่งตัวเฉินมู่กลับคืนมา เฉินชิงเฟิงต้องได้คืบจะเอาศอกอย่างแน่นอน

รอจนวันที่เขาถูกเฉินชิงเฟิงควบคุมไว้ได้ทั้งหมดแล้ว เรื่องลักพาตัวที่เขาอยากจะตรวจสอบในปีนั้น มันก็ช่างยากเกินไป

เขาตรวจสอบมาตั้งหลายปีขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลยที่รู้สึกว่าตนเองใกล้ความจริงเข้าไปเรื่อย ๆแล้ว และจะปล่อยแบบนี้ไปเหรอ?

ทว่า มู่น่อนน่อนอยากจะเจอกับเฉินมู่มาก เขาย่อมรู้ดีกว่าใคร

เฉินถิงเซียวก้มหน้าลง พลางล้างฟองสบู่ที่อยู่บนมือจนสะอาด จากนั้นก็เดินออกจากห้องน้ำมายังข้างเตียง

เขามองมู่น่อนน่อนอยู่สักพัก จากนั้นก็กลับขึ้นเตียง และดึงเธอมากอดให้อยู่อ้อมอก

……

ตอนที่เฉินถิงเซียวตื่นขึ้นมานั้น ตำแหน่งข้างๆ ก็ว่างเปล่าไปเสียแล้ว

มู่น่อนน่อนไปไหนเนี่ย?

เขารีบพลิกตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วขนาดที่ไม่ใส่รองเท้าด้วยซ้ำ และเปิดประตูห้องนอนออกมาทันที

อพาร์ทเม้นท์ของมู่น่อนน่อนเล็กน้อย หนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก ห้องครัวกับห้องรับแขกมันเป็นห้องเดียวกัน

พฤติกรรมของเฉินถิงเซียวช่างรุนแรงไปนิด จนมู่น่อนน่อนที่อยู่ในห้องครัวก็ยังได้ยินเลย

เธอหันตัวกลับไปมองทางเฉินถิงเซียว และยิ้มให้พร้อมทั้งพูดว่า “ตื่นแล้วเหรอ? อีกเดี๋ยวก็จะกินข้าวได้แล้วนะ”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท