ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 411 เหตุผลเธอเข้าใจมันทั้งหมด

บทที่ 411 เหตุผลเธอเข้าใจมันทั้งหมด

มู่น่อนน่อนเดินไปยังด้านหลังของโซฟา เข้าไปจูบลงบนใบหน้าของเฉินมู่ไปทีนึง

“คุณแม่” เฉินมู่หันหน้าไปมองเธอเล็กน้อย ส่งเสียงเรียกเธอไปอย่างขอไปที แล้วก็ได้หันหน้ามองไปทางทีวีอีกครั้ง

การ์ตูนมันช่างมีพลังวิเศษดึงดูดใจมากจริงๆ

มู่น่อนน่อนเดินไปนั่งลงข้างๆเฉินมู่ และก็ได้ดูไปด้วยกันกับเธอ

เธอดูอยู่สักพักนึง ก็ได้พบว่าการ์ตูนของเด็กๆในตอนนี้สนุกมากเลยทีเดียว

เฉินถิงเซียวรู้นิสัยของเฉินมู่ พอเธอดูการ์ตูนแล้วก็ติดเอามากๆเลย แล้วก็ไม่ได้สนใจเธอ

จนกระทั่งตอนที่เขากลับห้องไปอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เห็นมู่น่อนน่อนที่นั่งดูการ์ตูนอยู่ข้างๆเฉินมู่ด้วยใบหน้าที่ตั้งอกตั้งใจ สีหน้าที่แสดงออกมาบนใบหน้าของเขาก็ได้นิ่งค้างไปเล็กน้อยโดยที่หาได้ยากเลยทีเดียว

เฉินถิงเซียวมองดูเวลาเล็กน้อย สาวเท้าก้าวใหญ่ๆเดินเข้าไปตรงหน้าของสองแม่ลูกคู่นั้น ยื่นมือออกไปหยิบรีโมตขึ้นมาปิดทีวี

ในทันใดนั้น เขาได้เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเย็นชา “ไปอาบน้ำนอน”

เฉินมู่เบ้ปากออกมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจ แต่เพราะว่าคนที่ปิดทีวีของเธอไปเป็นเฉินถิงเซียว เธอโกรธอยู่ในใจแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา ส่งเสียง “อ้อ” ไปคำนึง แล้วไถลตัวลงจากบนโซฟาไป

แต่ว่ามู่น่อนน่อนนั้นต่างกันออกไป

เธอลุกยืนขึ้นมา แล้วเอ่ยออกไปอย่างมีไฟโกรธขึ้นมาแล้วบ้าง “ทำไมจู่ๆคุณก็ปิดทีวีไป!”

เมื่อกี้เธอเห็นจุดที่น่าดูเข้าพอดี แต่จู่ๆคนคนนี้ก็เดินเข้ามาปิดทีวีไป!

เหมือนกับว่าจู่ๆก็เข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยที่ถูกผู้ใหญ่เข้ามาปิดทีวีกะทันหันพวกนั้นขึ้นมาแล้วบ้าง

เมื่อเทียบกับอารมณ์ที่เปิดเผยออกมาสู่ภายนอกของมู่น่อนน่อนแล้ว เฉินถิงเซียวนั้นเงียบสงบกว่าเยอะเลย

เขาถามมู่น่อนน่อนออกไป “กี่โมงแล้ว?”

มู่น่อนน่อนมองดูเวลาไปเล็กน้อย “เก้าโมงครึ่ง”

เฉินถิงเซียวได้ผันร่างขึ้นตึกไปทันที

มู่น่อนน่อนเข้าใจความหมายของในคำพูดของเขา

ความหมายของเขาคือเก้าโมงครึ่งไปแล้ว ควรจะขึ้นไปอาบน้ำนอนได้แล้ว

เหตุผลเธอเข้าใจดี เพียงแต่ว่าเขาช่วยเปลี่ยนวิธีที่ดีกว่านี้สักหน่อยได้หรือเปล่า หรือไม่ก็บอกให้ชัดเจนกว่านี้สักหน่อย

เขาปฏิบัติต่อเฉินมู่ก็ดีอยู่หรอก เพียงแต่ว่าบางครั้งวิธีการจัดการเรื่องบางเรื่องมันก็หยาบกระด้างเกินไป

รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังดึงชายเสื้อของตัวเองอยู่ มู่น่อนน่อนเบือนหน้าไปก็เห็นเฉินมู่ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าประจบประแจง “คุณแม่ หนูยังอยากดูการ์ตูนอยู่”

“…” ควรจะบอกเฉินมู่ยังไงดี อันที่จริงเธอก็ยังอยากดูการ์ตูนอยู่อีกสักพักนึงเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้มันก็ได้เวลาที่ควรจะนอนแล้วจริงๆ

มู่น่อนน่อนคิดๆไปแล้วก็ย่อตัวนั่งลงไปพูดคุยกับเธอด้วยน้ำเสียงปรึกษาหารือ “พรุ่งนี้พวกเราค่อยดูกันใหม่โอเคมั้ย วันนี้ดึกมากแล้ว แม่ง่วงมากแล้ว คืนนี้หนูนอนเป็นเพื่อนแม่ก่อน พรุ่งนี้แม่ค่อยดูการ์ตูนเป็นเพื่อนหนูอีกที ดีมั้ย?”

เฉินมู่พยักหน้าออกมาอย่างเหมือนกับเข้าใจแต่ก็ไม่ได้เข้าใจออกมา “ก็ได้ค่ะ”

“ลูกน้อยบ้านฉันเก่งที่สุดเลย!”

ถึงแม้ว่าจะได้อยู่ร่วมกับเฉินมู่ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นมาหลายวันแล้ว แต่ระดับการเกลี้ยกล่อมได้ง่ายของเฉินมู่นั้นยังเหนือความคาดหมายของเธออยู่บ้าง

……

มู่น่อนน่อนพาเฉินมู่ขึ้นบ้านไป อาบน้ำด้วยกันกับเธอ เฉินมู่ตรงเข้าไปนอนที่ในห้องของเธอไม่ไปไหน

มู่น่อนน่อนแน่นอนว่าจะต้องใจอ่อนอยู่แล้ว จึงได้ให้เฉินมู่นอนด้วยกันกับเธอ

เฉินมู่ขึ้นไปบนที่นอนได้ไม่นาน ก็ได้นอนหลับไป

มู่น่อนน่อนจึงได้ลุกขึ้น เตรียมที่จะลงไปรินน้ำมาสักหน่อย

ตอนที่เดินผ่านห้องทำงานของเฉินถิงเซียว ก็ได้ค้นพบว่าในช่องระหว่างประตูด้านในได้มีแสงไฟสว่างออกมา

เฉินถิงเซียวยังทำงานอยู่?

มู่น่อนน่อนเพียงแค่หยุดเดินไปสักพักนึง แล้วตัดสินใจที่จะก้าวเท้าเดินออกไป

ในตอนนี้จู่ๆประตูห้องทำงานก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านใน

เงาร่างสูงชะลูดของเฉินถิงเซียวก็ได้ปรากฏอยู่ที่ประตูทางเข้า

เขามองมู่น่อนน่อนไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “คุณมาอยู่ตรงนี้ทำไมกัน?”

บนร่างของเขาได้อยู่ในชุดอยู่บ้าน สีหน้ามองไปแล้วดูซีดเซียวไม่แข็งแรงอยู่บ้าง

นี่ได้ทำให้มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อวันนั้นขึ้นมา สภาพที่ดูเจ็บปวดนั้นของเฉินถิงเซียวที่ในห้องทำงาน

“ฉัน…ลงไปเอาน้ำ” มู่น่อนน่อนลังเลไปแป๊บนึง คำว่า “คุณยังโอเคอยู่หรือเปล่า” คำนั้นมาถึงที่ปากแล้วก็ได้กลืนกลับลงคอไป เพียงแค่พูดออกไปประโยคนึงว่า “คุณต้องการดื่มหรือเปล่า?”

เดิมทีเพียงแค่ถามออกไปตามมารยาทเท่านั้น แต่เฉินถิงเซียวเองก็ไม่เกรงใจเลย “ผมเอากาแฟ”

มู่น่อนน่อนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย แล้วลงไปช่วยรินน้ำให้ตัวเองแก้วนึง แล้วถือโอกาสไปชงกาแฟให้เฉินถิงเซียวด้วยแก้วนึง

ตอนที่เธอยกกาแฟขึ้นมา จึงได้พบว่าประตูห้องทำงานกำลังเปิดเอาไว้ครึ่งนึง

คงจะเป็นเฉินถิงเซียวที่ตั้งใจเปิดประตูรอเอาไว้ให้เธอ

เธอยกถาดรองเดินเข้ามา ก็เห็นเฉินถิงเซียวนั่งอยู่ที่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือ เปิดเอกสารที่อยู่ในมือไปด้วยใบหน้าจดจ่อพลางย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป วางกาแฟลงไปที่ข้างๆตัวเขา สังเกตเห็นถึงสีหน้าของเขายังคงแย่มากอยู่เหมือนเดิม จึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปคำนึงว่า “คุณก็รีบๆพักผ่อนเร็วๆหน่อยด้วยหมือนกัน”

เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมองเธอ สีหน้าของเขาสงบนิ่งอย่างมาก

ท่ามกลางการจับตามองของเขา มู่น่อนน่อนก็เกิดความรู้สึกที่ว่าตัวเองยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปอย่างหนึ่งขึ้นมา

เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้พูดคำพูดจำพวกนี้ออกไปง่ายๆ ฟังไปแล้วก็ดูเหมือนกับว่าเธอจะเป็นห่วงเป็นใยเขามากเป็นพิเศษก็ไม่ปาน

มู่น่อนน่อนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่บ้างเล็กน้อย “ฉันขอตัวออกไปก่อนนะ”

เธอผันร่างเตรียมจะเดินออกไป แต่กลับถูกเฉินถิงเซียวดึงข้อมือเอาไว้

ก้นบึ้งภายในใจของมู่น่อนน่อนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย ในน้ำเสียงอาบย้อมไปด้วยความโกรธไปด้วย

“เฉิน…อุ๊บ…”

เธอยังไม่ทันได้พูดชื่อของเฉินถิงเซียวออกมา ก็ได้ถูกปิดริมฝีปากเอาไว้เสียก่อน

ริมฝีปากของเฉินถิงเซียวอบอุ่นกว่าของเธอ ความรู้สึกเห็นได้ชัดว่าได้ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวขึ้นมา

ทั้งสองคนต่างก็ลืมตาออกมา รักษาท่าทางของการสัมผัสกันของริมฝีปากทั้งสอง คุณมองฉันฉันมองคุณ

มู่น่อนน่อนนิ่งแข็งไปหลายวิ แล้วก็ได้ผลักเฉินถิงเซียวออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่มือของเธอเพิ่งจะแตะไปที่เขา ก็รู้สึกได้ว่าเอวของตัวเองถูกแขนข้างหนึ่งโอบรัดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

แขนของชายหนุ่มมีกำลังที่หนักแน่นมั่นคงโอบรัดเอวของเธอเอาไว้แน่น ใช้แรงรัดเธอเข้าสู่ในอ้อมแขนของเขา มืออีกข้างหนึ่งได้กุมข้อมืออีกข้างนึงของเธอแน่น

ร่างของทั้งสองคนได้แนบเข้าด้วยกันแน่น แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน การหายใจของทั้งสองคนต่างก็เร็วขึ้น

ท่ามกลางเสียงการหายใจที่ชัดเจนออกมา สีหน้าของมู่น่อนน่อนได้แดงออกมาทันที เอี้ยวหน้าออกไปหลบเลี่ยงริมฝีปากของเฉินถิงเซียว พลางเอ่ยอย่างเขินอายจนพาลโกรธออกมา “คุณปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะถือเสียว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

เสียงเธอสั่นออกมาเล็กน้อย ใบหน้าได้แดงออกมา ชวนให้ดูน่าสงสารออกมาเล็กน้อย

เฉินถิงเซียวไม่เพียงแต่จะไม่ยอมปล่อยเธอไป แต่กลับก้มหน้าจงใจจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอไปเล็กน้อย “แต่ถ้าผมอยากให้มันเกิดอะไรขึ้นมาล่ะ?”

น้ำเสียงของเขาได้กำเริบเสิบสานออกมา และก็ได้มีความสงบนิ่งแน่วแน่อยู่หลายส่วนเผยออกมา

มู่น่อนน่อนขยับไปไหนไม่ได้เลย ร่างกายแข็งค้างเสียเหมือนกับก้อนหิน “เฉินถิงเซียว รังแกผู้หญิงคนนึงคุณมีความรู้สึกภาคภูมิใจมากเลย?”

“ผู้หญิงคนอื่นผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นคุณแล้ว ผมไม่เพียงจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ยัง…” เขาจงใจหยุดไปแป๊บนึง แล้วมองความโกรธที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของมู่น่อนน่อนไปด้วยความพึงพอใจ แล้วพูดเสริมสองคำข้างหลังไปให้สมบูรณ์ “ตื่นเต้นมากด้วย”

มู่น่อนน่อนไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “ตื่นเต้นมาก” ขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก

จนกระทั่งเธอได้รู้สึกว่า…

มู่น่อนน่อนตื่นตกใจขึ้นมา เธอแม้แต่การหายใจก็ได้เปลี่ยนเป็นระมัดระวังเป็นอย่างมากขึ้นมา

เฉินถิงเซียวคนคนนี้นิสัยใจคอแปลกประหลาด มักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำ ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน มู่น่อนน่อนคาดเดาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

เธอกลืนน้ำลาย เอ่ยออกไปประหนึ่งยอมรับชะตากรรมก็ไม่ปาน “คุณคิดจะเอายังไงกันแน่?”

ในน้ำเสียงมีความหมายว่าต้องการจะยอมแพ้ออกมาเล็กน้อย

แรงที่เฉินถิงเซียวรัดกุมเธออยู่นั้นได้คลายลงไปเล็กน้อย พลางเอ่ยออกมาว่า “เพียงแค่อยากจะคุยกับคุณเรื่องหนึ่ง ก่อนที่ผมจะฟื้นความทรงจำกลับมา คุณห้ามออกไปคบหาคนโน้นคนนี้ไปทั่วเด็ดขาด”

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วออกมา “หมายความว่าอะไร?”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท