ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 662 ตำรวจปลอม

บทที่ 662 ตำรวจปลอม

เช้าวันรุ่งขึ้น

ประตูห้องของมู่น่อนน่อนได้ดังขึ้น

เธอสามารถรู้สึกได้เลือนรางว่าคนที่มาเคาะประตูเช้าขนาดนี้ ไม่ใช่ฉีเฉิงแน่นอน

เธอมองผ่านตาแมวแวบนึง เป็นตำรวจสองนายที่ใส่ชุดยูนิฟอร์ม

ที่ตำรวจมาหาถึงที่ เพราะเรื่องของเมื่อวานแน่เลย

มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก เมื่อวานถ้าเธอตกอยู่ในมือของเจียงซ่งจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้หรือเปล่า และเจียงซ่งก็ย่อมต้องจัดการเรื่องที่ตามมาทีหลังอยู่แล้ว

แต่เมื่อวาน ไอ้พวกเจียงซ่งไม่ได้บรรลุเป้าหมาย เรื่องที่ตามมาทีหลังก็ย่อมไม่จัดการอยู่แล้ว

เจียงซ่งเป็นคนถ่อยสุดขีด เมื่อวานเขาเสียเปรียบ ย่อมต้องคิดหาวิธีสร้างปัญหาให้มู่น่อนน่อนอยู่แล้ว

จุดนี้ มู่น่อนน่อนก็เตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว

มู่น่อนน่อนจัดระเบียบของเสื้อผ้าไปครู่นึงแล้วเปิดประตู

ตำรวจเอาบัตรชูมาที่ตรงหน้าเธอ น้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่ทราบคุณคือมู่น่อนน่อนหรือเปล่าครับ ”

“ใช่ค่ะ”สายตาของมู่น่อนน่อนได้หยุดอยู่ที่บัตรตำรวจอยู่ครู่นึง ถึงเคลื่อนย้ายสายตาออก

“ไปกับพวกเราเที่ยวนึงครับ เกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นที่ถนนหวนหนานของช่วงบ่ายเมื่อวานครับ ทางเราอยากสอบถามสถานการณ์กับคุณครับ”ตำรวจเก็บบัตรไปด้วยแล้วพูดไปด้วย

“รอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึงได้มั้ยคะ ”มู่น่อนน่อนพูดจบ แล้วปิดประตูกลับมาที่ห้อง

หลังจากปิดประตูแล้ว สีหน้าของมู่น่อนน่อนซีเรียสเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เธอแค่นึกได้ว่าเจียงซ่งจะหาเรื่องเธอจากด้านนี้ แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อนว่าถึงตำรวจจะหามาถึงที่ อย่างน้อยเมื่อวานก็ต้องติดต่อเธอแล้ว

ท่าทางนี้ช้าเกินไปแล้วมั้ง

มู่น่อนน่อนมองไปทางประตูแวบนึง แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา หยิบมือถือออกมาพิมพ์ตัวหนังสือสำคัญเพื่อค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้อง

แต่เธอพบว่าไม่มีอะไรเลย

วงการบันเทิงของเมืองหู้หยางพัฒนาได้ดีมาก เป็นไปได้อย่างไงว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีข่าวเลย

ในใจมู่น่อนน่อนเกิดความสงสัยนิดหน่อย

ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลานี้อีก

“คุณมู่ ผมเองครับ”เป็นเสียงของฉีเฉิง

มู่น่อนน่อนได้ยินแล้ว ลุกไปเปิดประตูให้

พอประตูเปิด เธอก็เห็นฉีเฉิงยืนอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนตำรวจสองนายนั้นยังยืนรอเธออยู่ตรงนั้น

ตำรวจเห็นมู่น่อนน่อนออกมาปุ๊บก็ถามเลยว่า “ไปได้หรือยังครับ ”

“ไปไหนครับ ”ฉีเฉิงกลับเป็นคนส่งเสียงพูดก่อน

มู่น่อนน่อนแบมือ “ยังจะไปไหนได้อีกล่ะ”

ฉีเฉิงหันไปมองตำรวจแวบนึง แล้วพูดกับมู่น่อนน่อนว่า “ผมไปกับคุณ”

“คุณเป็นอะไรกับมู่น่อนน่อนครับ ”ตำรวจฟังแล้ว สมาธิก็ได้หล่นอยู่ที่บนตัวฉีเฉิง

ฉีเฉิงไม่ได้ตอบคำถามของตำรวจ เขาพูดโดยตรงว่า “ไปด้วยกันครับ”

มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นสีหน้าของตำรวจสองนายนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เธอกับฉีเฉิงสบตากันแวบนึง ฉีเฉิงไม่ได้พูดอะไร แค่ส่งสัญญาณให้เธอว่าไปได้แล้ว

มู่น่อนน่อนเดินอยู่ข้างหน้า ฉีเฉิงได้ตามไปโดยตรง

“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามพวกเราเลยครับ ”ตำรวจตามมา สีหน้าไม่สบอารมณ์

“ทำไมผมต้องตอบคำถามพวกคุณด้วย ”ฉีเฉิงยิ้มหยัน “เพราะพวกคุณเป็นตำรวจปลอมใช่มั้ย ”

เพิ่งพูดเสร็จ ฉีเฉิงได้ยื่นมือขวางไว้ที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อน มู่น่อนน่อนได้ถอยหลังอย่างเข้าใจโดยปริยายมาก เขาดึงมือกลับ ยกเท้ากระทืบตำรวจปลอมสองนายล้มลงไปกองกับพื้น

“นี่คุณกำลังทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นะ ”ตำรวจปลอมสองคนล้มลงที่พื้นก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นตำรวจปลอม

“งั้นก็แจ้งความเลยดีกว่า”ฉีเฉิงมองไปที่มู่น่อนน่อนแวบนึง มู่น่อนน่อนเข้าใจและได้หยิบมือถือออกมาจะแจ้งความ

ตำรวจปลอมสองคนเห็นสถานการณ์แล้ว ได้ลุกจากพื้นอย่างพูดไปด่าไป เสร็จแล้วได้วิ่งไปทางหัวบันไดเลย แม้แต่ลิฟต์ก็ขี้เกียจรอ

มู่น่อนน่อนมองทิศทางที่ตำรวจสองคนสูญหายไป แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “เป็นตำรวจปลอมจริงด้วย เมื่อครู่ฉันแค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้น”

ฉีเฉิงไม่ได้พูดกับเธอมากมายในประเด็นนี้

เขาหยิบมือถือออกมา “ทิ้งเบอร์ไว้ให้ผมหน่อย มีเรื่องอะไรคุณสามารถโทรหาผมโดยตรงเลย”

มู่น่อนน่อนแจ้งเบอร์ของตัวเองให้ฉีเฉิง จากนั้นเขาได้โทรเข้ามา แล้วเธอก็ได้เมมเบอร์ของฉีเฉิงไว้

แลกเปลี่บนเบอร์เสร็จ ฉีเฉิงก็จะกลับห้องอีก

มู่น่อนน่อนนึกถึงเมื่อคืนกลางดึก ถ้วยที่ฉีเฉิงเอาโจ๊กมาให้เธอยังอยู่ในห้องของเธออยู่เลย จึงได้เรียกฉีเฉิงไว้

“ฉีเฉิง นายรอก่อน”

ฉีเฉิงหยุดฝีเท้าลง แล้วหันมามองมู่น่อนน่อน

มู่น่อนน่อนกลับไปที่ห้อง แล้วเอาถาดกับถ้วยที่ล้างสะอาดเรียบร้อยออกมา

“ขอบใจนะ สำหรับโจ๊กของนาย”

ฉีเฉิงรับถาดเอาไว้ มู่น่อนน่อนอดถามไม่ได้ “นายทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ ”

“ไม่เป็นครับ ผมจ้างคนทำ”ฉีเฉิงพูดจบก็ไปเลย

เดินไม่ถึงสองก้าว เขาได้หันมาถามเธออีก “คุณคงยังไม่ได้ทานข้าวสินะ”

“ยัง” มู่น่อนน่อนส่ายหัว

ฉีเฉิงไม่ได้พูดอะไร แค่กลับห้องโดยตรง

มู่น่อนน่อนยืนอยู่กับที่ มีอยู่เสี้ยววินาทีที่มึนงง

บอดี้การ์ดของเธอนี่ไม่ขัดสนเรื่องเงินจริงๆ ยังจ้างคนทำกับข้าวเอาไว้โดยเฉพาะด้วย

คนอย่างฉีเฉิงจะทำกับข้าวเป็นได้ยังไง

ต่อไปพอผ่านไปหลายปี มู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าตัวเองด่วนสรุปเกินไป คนอย่างฉีเฉิงทำกับข้าวเป็นก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก

มู่น่อนน่อนกลับห้อง ผ่านไปสักพัก ประตูของห้องได้ดังขึ้นอีก

ไม่ต้องเดาเธอก็รู้ว่าคือฉีเฉิงอีกแล้ว

เธอเปิดประตู ก็เห็นฉีเฉิงที่ยืนอยู่หน้าห้องจริงด้วย

เขายืนอยู่หน้าห้องพร้อมยกอาหารเช้าไว้ชุดนึงด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชา ราวกับถูกใครบังคับให้มาส่งอาหารเช้าให้เธอยังไงอย่างงั้น

“ไม่……ต้องแล้ว ฉันไม่หิว”ดูแล้วไม่สมัครใจเลย มู่น่อนน่อนก็ไม่ค่อยกล้ารับเอาไว้เหมือนกัน

ฉีเฉิงเหมือนได้แสยะยิ้มมุมปากทีนึงแล้วพูดว่า “ทำเยอะไปหน่อยครับ ไหนๆก็กินไม่หมด”

มู่น่อนน่อนได้แต่รับเอาไว้ ตอนนี้เธอไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าตัวเองได้หาบอดี้การ์ดหรือว่าแม่บ้างมากันแน่

มู่น่อนน่อนรับอาหารเช้ามา ฉีเฉิงได้พูดว่า “ตำรวจปลอมสองคนที่โผล่เมื่อครู่นี่มันยังไงกันครับ คุณไปหาเรื่องใครมา ”

“เจียงซ่ง นายรู้จักหรือเปล่า ”มู่น่อนน่อนก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังฉีเฉิง

“อ๋อ”ฉีเฉิงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยคำนึง จากนั้นได้ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณอยากจัดการเขายังไง ศพสมบูรณ์แบบหรือว่าพิการดี ”

มือที่มู่น่อนน่อนยกถาดเอาไว้สั่นทีนึง “ห๊ะ ”

“คุณคิดว่าจะจัดการกับเขายังไงก็บอกผมนะ แต่ถ้าจะเอาชีวิตของเขา จะต้องคุยกันใหม่ ถ้าแค่แขนขาดขาขาด คุณแค่พูดคำเดียวก็พอแล้ว”

“……”มู่น่อนน่อนไม่รู้จะพูดอะไรในชั่วขณะ รู้สึกแค่ว่าอาหารเช้าในมือค่อนข้างหนัก

หลังฉีเฉิงจากไป มู่น่อนน่อนได้ยกอาหารเช้ามาที่ห้อง นั่งอยู่หน้าโต๊ะทานข้าวก็ยังสีหน้ามึนงงอยู่ดี

เมื่อครู่น้ำเสียงของฉีเฉิงผ่อนคลายและเรียบเฉยเกินไป นี่ทำให้มู่น่อนน่อนค่อนข้างเกรงกลัว

คำพูดนี้ถ้าพูดออกมาจากปากของคนอื่น อาจจะยังไม่ทำให้มู่น่อนน่อนมีความรู้สึกแบบนี้ แต่คนที่พูดคำนี้ออกมาคือฉีเฉิง

ฉีเฉิงพูดจริงจัง

มู่น่อนน่อนตระหนักได้อีกครั้งว่าฉีเฉิงเป็นคนที่มือเปื้อนเลือด ไม่ใช่บอดี้การ์ดกระจอกๆ

เธอนึกขึ้นได้ว่าคราวก่อนแกล้งเอ่ยถึงเฉินจิ่งหยุ้นต่อหน้าเขา ถึงแม้ตอนนั้นฉีเฉิงจะโกรธแต่ก็ไม่ได้ลงมือ ตอนนี้พอนึกขึ้นมาได้แล้วเธอรู้สึกช่างโชคดีจังเลย

ไม่กล้าจินตนาการเลย ถ้าตอนนั้นฉีเฉิงควบคุมตัวเองไม่ได้……

มู่น่อนน่อนหนาวสั่นทีนึง จ้องอาหารเช้าตรงหน้าไว้ และกินอย่างระมัดระวัง

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน