จางมู่ยืนอยู่ด้านนอกประตูของฐานการอยู่รอดในเมืองเหนือเพียงลำพัง.สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ.
พื้นที่ถูกทิ้งร้าง แต่จางมู่รู้ว่านี่เป็นฐานการอยู่รอดของชายวัยกลางคนคนนั้น.ครั้งที่แล้ว,เขาถูกหยุดไม่ให้เข้าไปในอาคารที่ยังไม่เสร็จ.เขาคิดว่ามันเป็นเพราะผู้นำรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมนั้นแย่เกินกว่าที่จะชวนจางมู่เข้ามาด้านใน.
อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่านั้น.อาคารทรุดโทรมให้ความรู้สึกที่น่าขนลุก.ตามที่คาดหวังจากสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของชายผู้ใช้เด็กเป็นเหยื่อล่อ.สำหรับคนร้าย,นี่คือสวรรค์.แต่สำหรับมนุษย์ธรรมดา,นี่คือนรก.
แน่นอน,สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการคาดเดาของจางมู่.เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย.แต่ในไม่ช้า,เขาจะเปิดเผยความจริง.
ขณะที่จางมู่ก้าวไปข้างหน้า,หอกยาวแทงทะลุพื้นตรงหน้าเขา.ทั้งๆที่เป็นแบบนี้,จางมู่ก็ไม่มีความตั้งใจที่จะมองไปคนที่โจมตีเขา.
เขาดึงหมวกของเขาลงและก้าวข้ามหอกไป.ขณะที่เขาต้องการก้าวไปอีกขั้น,เสียงเย็น ๆ ดังขึ้นข้างเขา “ชายหนุ่ม,ข้าไม่รู้ว่าเจ้าโง่หรือตั้งใจทำจริงๆ, แต่เจ้าจะไม่โชคดีในครั้งต่อไป.หากเจ้าเดินหน้าต่อไปสิ่งต่อไปที่หอกจะเจาะก็คือเจ้า.ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่เพื่อหาที่หลบภัยหรือไม่,ฐานของเราไม่ต้อนรับเจ้า.เราไม่ต้องการคนนอก,เจ้าเข้าใจข้าไหม?”
หลังจากนั้น,เสียงก็หยุดลงอย่างสมบูรณ์.ชายคนนั้นเห็นจางมู่เดินไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำเตือน.หรือมากกว่านั้น จางมู่ก็ไม่ได้สนใจคำเตือน.
“ ชายหนุ่ม,เจ้ากำลังติดพันความตายของตัวเอง อย่าโทษข้าเลย”
หอกอันหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาที่หัวของจางมู่,เข้ามาเร็วขึ้นและทรงพลังกว่าอันก่อน.จางมู่เอียงไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อหลบหอก,ไม่ได้หลบศีรษะแต่อย่างใด. เขาไม่ได้พยายามทำตัวลึกลับหรืออะไร.เป็นเพียงเพราะเขาเคยเห็นการ์ดคนนี้มาก่อนและครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกัน,เขาได้ทำให้สงบลงก่อนที่การ์ดจะสามารถกระทำได้.
ท้ายที่สุด,การ์ดก็อยู่ไกลเกินไป.หากเขาเตือนผู้คนในฐาน,จางมู่จะต้องลำบากในการแทรกซึม.จางมู่ไม่รู้สึกว่ามีนักวิวัฒนาการอื่นใดนอกเหนือไปจากหอกของการ์ด.ดูเหมือนว่าผู้นำจะมีความมั่นใจในความสามารถของนักวิวัฒนาการ.แม้ว่าความสามารถของจางมู่จะไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น,แต่เขาก็ดื่มยาจำนวนมากและมีการเชื่อมโยงทางเลือดกับดอกบัวเลือดปีศาจและด้วงออบซิเดี้ยน.สิ่งนี้ทำให้เขามีพลังยิ่งกว่าผู้วิวัฒนาการที่เพิ่งตื่นขึ้น.
อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขา มีสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ.การเป็นการ์ดนั้นทำให้เขาขาดความสามารถพิเศษของเขา.
จางมู่ยังคงเดินหน้าต่อไป ในขณะที่การ์ดยังคงพุ่งหอกใส่เขา.ในตอนแรก,จางมู่สามารถหลบมันได้ แต่เมื่อเขาเข้าใกล้หอกยิ่งเริ่มโจมตีเขามากขึ้นและยากที่จะหลีกเลี่ยงพวกเขา โดยไม่แสดงพลังที่แท้จริงของเขา.ดังนั้น,เขาสามารถใช้กรงเล็บของด้วงออบซิเดี้ยนของเขาและทำลายเส้นทางของหอกบางอัน,เพื่อเปิดทางให้เขา.
ด้วยเหตุนี้,จางมู่จึงรู้สึกว่านักวิวัฒนาการตื่นตระหนกและตกตะลึงด้วยพลังเต็มที่,ไม่หยุดยั้งอำนาจของเขาอีกต่อไป.อย่างไรก็ตาม,แม้ว่าพลังของการโจมตีแต่ละครั้งจะเพิ่มขึ้น, มันก็ง่ายกว่าที่จะคาดการณ์ทิศทางการขว้างของเขา.แต่,มันก็ยังอันตรายเกินไป.จางมู่ได้เข้าใกล้อาคารแห่งหนึ่งแล้ว.เขาเย้ยหยันและตรวจสอบจุดอ่อนของการ์ดโดยจงใจ.เขาทำตัวราวกับว่าเขากำลังจะโดนหอกอันหนึ่ง.
จางมู่อยู่ห่างจากนักวิวัฒนาการเพียงประมาณ 10 เมตร.เมื่อนักวิวัฒนาการเห็นฉากนี้,เขายิ้มทันทีและสาปแช่ง“ ในที่สุดข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้,เจ้าเด็กน้อย”
.จนถึงตอนนี้,เขายังคงคิดว่าจางมู่เป็นเพียงนักวิวัฒนาการที่มีความคล่องแคล่วสูง,มนุษย์ธรรมดาที่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีขึ้นและไม่มีพลังพิเศษ.หอกของเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนักสำหรับคนที่ไม่ได้ทำร้ายเขา.เขารู้สึกว่าจางมู่เป็นเพียงโชคดีในแง่นี้.
นอกจากนี้,เขายังมั่นใจในความสามารถพิเศษของเขา ซึ่งก็คือการปรับปรุงความแม่นยำของอาวุธขว้างปาและพลังในการเจาะ.นี่คือเหตุผลที่ผู้นำให้หน้าที่ปกป้องประตู.
ในทางกลับกัน,จางมู่กำลังไตร่ตรองถึงการกระทำของการ์ด.ทำไมเขาถึงโจมตีโดยไม่ถามชื่อของเขาด้วยซ้ำ? ถ้าเขาพยายามหาที่หลบภัยในฐานความอยู่รอดของพวกเขาล่ะ? นักวิวัฒนาการพร้อมจะต่อต้านคนภายนอกหรือ? ใช่,มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น.อาจเป็นเพราะผู้นำของพวกเขา.
อย่างไรก็ตาม,เขาจะไม่ขอคำตอบจากนักวิวัฒนาการ.ความสามารถนี้อาจดูทรงพลังมากในตอนนี้, แต่ในอนาคต,มันจะสามารถแจกจ่ายได้.ในอนาคต,นักวิวัฒนาการที่ไม่ทรงพลังจะไม่สามารถถืออาวุธทรงพลังได้และความสามารถของเขาก็ไม่ได้มีส่วนช่วยนักวิวัฒนาการที่แข็งแกร่ง.
ในขณะนั้น,การ์ดเห็นจางมู่เงยหัวของเขา.ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร. โดยสัญชาตญาณ,เขาต้องการกดสัญญาณเตือน แต่มีบางอย่างล้อมรอบคอของเขาและเขาสูญเสียการควบคุมร่างกายของเขาทั้งหมด.
นี่คืออะไร?
ก่อนที่เขาจะหมดสติ,นักวิวัฒนาการเห็นจางมู่ก็เพิ่มความเร็วของเขาและในไม่ช้า,เขาก็ปรากฏตัวต่อหน้านักวิวัฒนาการ.แม้ว่าจางมู่จะปกปิดตัวเองชั้นของเสื้อผ้า,แต่นักวิวัฒนาการก็ยังจำเขาได้.เขาทิ้งความประทับใจอย่างมากไว้กับนักวิวัฒนาการ.เขาจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่จางมู่บุกทะลวงด่านและปรากฏตัวต่อหน้าเขา.โชคดี,ที่เขาสามารถกดสัญญาณเตือนภัยได้.
ครั้งนี้เขาไม่มีโอกาส.
เถาวัลย์ได้แทงทะลุร่างของเขาแล้วในวินาทีก่อนที่เขาจะตาย,นักวิวัฒนาการรู้สึกว่าเถาวัลย์เยาะเย้ยเขา,เหมือนกับจางมู่.
