ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 44.2

ตอนที่ 44.2

ตอนที่ 44-2 พลิกผัน

ท่านย่าใหญ่สั่งให้หลี่หมินเฟิงเฝ้าดูเว่ยหยางเอาไว้ เพื่อป้องกันมิให้คนของนางนำหลักฐานไปหลบซ่อน

แต่กลับสั่งแม่นมหลัวพาเหล่าสาวใช้เข้าไปค้นหาหลักฐานที่ตำหนักหยวนซีแทน

หลี่หมินเฟิงยิ้มอย่างเบื่อหน่าย เพราะในตอนนี้เขาทำได้แค่เพียงรอผลเท่านั้น

ขณะนี้บริเวณด้านข้าง หมอหลินเป็นผู้ซึ่งมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก

เขาได้หยิบชิ้นส่วนขึ้นมา จากนั้นจึงดมกลิ่น และลองชิมรสชาติของมัน

จนในที่สุด เขาได้หันหน้ามามอง

หลี่หมินเฟิง

หลี่หมินเฟิงรู้สึกมีความสุขมาก และรีบก้าวกระโดดมาด้านหน้าอย่างร่าเริง:

“เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอหลิน สิ่งนี้คือโสมพิษใช่หรือไม่?”

สีหน้าของความประหลาดใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหมอหลิน:

“โสมพิษ เช่นนั้นรึ?”

หลี่จางเล่อถอนหายใจด้วยความโล่งใจ และกล่าวว่า:

“เว่ยหยางเจ้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

ดูสิ เรื่องนี้กลายเรื่องราวใหญ่โตแล้ว แม้แต่ท่านหมอก็ทราบเรื่องนี้

หากเจ้ายอมรับผิดเสียตั้งแต่ตอนแรก ท่านย่าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า…“

หลี่เว่ยหยางหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า

“พี่ใหญ่ ท่านหมอหลินยังมิได้ให้คำตัดสินขั้นสุดท้าย เหตุใดท่านจึงใจร้อนถึงเพียงนี้?”

หลี่จางเล่อคิ้วขมวด ขณะที่ดวงตาคู่งดงามของนางเต็มไปด้วยน้ำตาและกล่าวด้วยสีหน้าที่ผิดหวังว่า :

“หลักฐานก็เห็นอยู่ตําตา เว่ยหยางเจ้ารู้หรือไม่ว่า ข้าต้องเจ็บปวดมากเพียงใด…ในฐานะพี่สาวของเจ้า…“

หลี่เว่ยหยางอดมิได้ที่จะเปล่งเสียงออกมา:

“พี่ใหญ่ เหตุใดเรามิฟังสิ่งที่ท่านหมอกล่าวก่อน!”

ท่านย่าอ้าปากและกล่าวว่า

“ท่านหมอหลิน สิ่งนี้คือโสมพิษจริงหรือ?”

ท่านหมอหลินยิ้มกว้าง ขณะที่ชี้ไปยังชิ้นส่วนบนฝ่ามือของตนเอง และกล่าวว่า:

“คุณหนูใหญ่ ท่านทราบได้อย่างไรว่าสิ่งนี้คือโสมพิษ”

หลี่จางเล่ออธิบายอย่างคล่องแคล่วว่า:

“ข้าเคยศึกษาบทความของท่านขงจื๊อ และได้อ่านตำรายามากมายดังนั้นข้าจึงจำได้”

ท่านหมอหลินพยักหน้า และเปิดฝ่ามือของตนเอง เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นชิ้นส่วนที่เปื่อยยุ่ยนั้น:

“หนังสือเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนกล่าวถึงโสมแดงที่พบได้ในหุบเขาและดินแดนที่อุดมสมบูรณ์

ดูเหมือนว่า บางส่วนจะมีสีน้ำตาลแดงที่โปร่งใส แต่นาน ๆ ครั้ง จะมีก้อนสีน้ำตาลอมเหลืองที่มิโปร่งใส

ร่องแนวตั้ง รอยแตกและรอยรากที่ละเอียด ส่วนบนมีรูปแบบวงแหวนที่ถูกคั่นเอาไว้ อีกทั้งยังมีรูปทรงที่ชัดเจน…และมีรสขม…”

“และสำหรับโสมพิษนั้น แม้ว่ารูปร่างและลักษณะของมันจะคล้ายกลึงกับโสมแดงมาก

แต่โสมพิษนั้นดูมีความหยาบกว่าและมีความหวานอยู่ในรสชาติ”

ขณะที่เขามองไปยังหลี่จางเล่อ และยิ้มกว้าง:

“คุณหนูใหญ่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว สิ่งนี้คือโสมแดงอย่างแน่นอน มิใช่โสมพิษอย่างที่ท่านเข้าใจ”

คำกล่าวเหล่านั้นทำให้สีหน้าของ

หลี่จางเล่อเปลี่ยนไปอย่างมาก

ในตอนนี้นางแสดงอาการลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านหมอ ท่านเข้าใจผิดหรือไม่?…

พี่ชายใหญ่…”

หลี่เว่ยหยางยิ้มเล็กน้อย ขณะที่สายตาแห่งความสมเพชได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“เหตุใดเมื่อท่านหมอหลินกล่าวว่าสิ่งนี้คือโสมแดง ท่านจึงแสดงท่าทีที่ดูเหมือนว่าผิดหวัง ออกมาเช่นนั้น”

หลี่จางเล่อเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกกับคำกล่าวนั้น นางจึงหันไปมองหลี่หมิน เฟิงด้วยสายตาแห่งความสับสน

สำหรับหลี่หมินเฟิงนั้น เขาเกิดความรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากในขณะนั้น

“ท่านหมอหลิน เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านเข้าใจอันใดผิด”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของท่านหมอหลินจึงหม่นหมองลงในทันที:

“ข้าใช้เวลาฝึกฝนเกี่ยวกับด้านนี้มากกว่าสิบปีแล้ว

แม้ว่าจะมิสามารถกล่าวได้ว่า ทักษะของข้านั้นยอดเยี่ยมที่สุด

แต่หากข้ามิสามารถแยกความแตกต่างของโสมแดงและโสมพิษได้ เช่นนั้นข้าก็มิสมควรเป็นหมออีกต่อไป!

คุณชายหลี่โปรดระวังคำกล่าวของท่านด้วย!”

“จะเป็นไปได้อย่างไร…”

เมื่อหลี่หมินเฟิงได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น เขาจึงหันมาจ้อง มองจื่อหยานราวกับว่า เขากำลังจะกัดกินเนื้อของนาง

เขาสั่งให้นางเปลี่ยนโสมแดงเป็นโสมพิษในชาของท่านย่าในตอนที่เว่ยยางเผลอ

แล้วจะมีโสมแดงในถ้วยชาได้อย่างไร?

เป็นไปได้หรือไม่ว่า สาวใช้ผู้นี้มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา?!

ในตอนนี้จื่อหยานได้เกิดความรู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน

เพราะนางจำได้ว่า ตนเองได้เปลี่ยนมันกับมือ แล้วมันกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?!

หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างเยาะเย้ย

ผู้คนกลุ่มนี้คาดมิถึงว่า นางได้สั่งให้ไป่จื่อจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของ

จื่อหยานตั้งแต่แรก

เมื่อสาวใช้ทำตามแผนของคุณชายใหญ่ พวกนางจึงเปลี่ยนชาทันที!

“พี่ชายใหญ่ ท่านอ้างว่าสิ่งนี้คือโสมพิษ โดยที่ตนเองมิได้มีความรู้ที่แท้จริง

แล้วยังกล่าวหา ว่าข้าเป็นขโมยอีก!”

การแสดงออกของหลี่เว่ยหยางนั้นเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวด ที่เผยออกมาทางดวงตาของนาง

และนางกล่าวเพียงว่า

“เหตุใดท่านจึงต้องทำเช่นนี้?!”

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน