ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 70.3

ตอนที่ 70.3

ตอนที่ 70-3 รวมหัว

เมื่อเห็นทัวเป่าเจนเดินมุ่งหน้ามาทางนี้ รอยยิ้มแห่งความสุขก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเกาหมินทันที

นางตระหนักดีว่าเพราะสถานะของตนเองนั้นต้อยต่ำ ดังนั้นนางมิควรแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าจากนั้นจึงเดินเข้าไปแสดงความเคารพอย่างอ่อนน้อม

แต่เมื่อนางหันไปและเห็นเกาจินยังคงโยกตัวอยู่บนเก้าอี้ของเขา นางจึงเตือนเขาอย่างรวดเร็วว่า

“เอ่อ!”

เกาจินจ้องมองและเห็นว่าองค์ชายทั้งสองมาแล้ว แต่เขามิได้มีความเกรงกลัวอันใดเลย

เขายืนขึ้นอย่างใจเย็นและเข้าไปแสดงความเคารพต่อหน้าองค์ชายทั้งสองอย่างมีความสุข ขณะที่มือของเขายังคงถือลูกท้อที่ตนเองยังกินมิหมด

แม้ว่าองค์ชายห้าจะพยักหน้าตอบรับการแสดงความเคารพของพวกเขา แต่สายตาคู่นั้นกลับพุ่งตรงไปยังหญิงสาวอีกผู้หนึ่งที่กําลังนั่งอยู่ในศาลาขณะนี้

หลี่จางเล่อสวมชุดสีขาวสะอาดตา และคิ้วหนาที่ยาวได้รูปของนางดูคล้ายกับการบรรจบกันของภูเขาสองลูก

ดวงตาที่อ่อนโยนคู่นั้นเหมือนสายน้ำที่มองแล้วทําให้เกิดความสบายใจ นางมีริมฝีปากที่เหมือนกับกลีบดอกไม้ที่อ่อนโยนและนุ่มนวล

ทั้งหมดปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาขององค์ชายผู้นี้ ทําให้พระองค์ถึงกับรู้สึกราวกับว่าตนเองกําลังตกอยู่ในภวังค์

เขาขาดสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะและรู้เพียงว่าเสน่ห์ของนางนั้นตราตรึงอยู่ในส่วนลึกภายในหัวใจของเขา

ขณะที่เขากําลังหลงใหลอยู่ในความงดงามของหญิงสาวผู้นี้ เขาได้หลุดปากกล่าวออกไปว่า

“มิได้พบเจอกันมานานแล้ว คุณหนูใหญ่ค่อนข้างผ่ายผอมลงไปมาก”

หลี่จางเล่อส่ายหัวอย่างแผ่วเบาขณะที่ขนตาของนางเปียกโชกไปด้วยน้ำตา

ใบหน้าที่ไร้คํากล่าวของนางทําให้ดูเหมือนว่า นางต้องทนทุกข์ทรมานมิรู้จบ

หลังจากที่หลี่หมินเฟิงจัดที่นั่งให้ทุกคนในศาลาแล้ว เขาจึงถอนหายใจและกล่าวว่า:

“มีปีศาจปรากฏในครอบครัวของเรา ทําให้น้องสาวของข้าถูกปฏิบัติอย่าง

อยุติธรรม

เป็นเรื่องยากสําหรับเราที่จะสามารถทําใจได้ มันน่าหดหู่มาก”

องค์ชายห้า ทัวเป่าลุ่ยขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวว่า

” ปีศาจที่เจ้ากําลังกล่าวถึง…”

ทัวเป่าเจิ้นมองลงไปที่พื้น และจิบชาราวกับว่าเขามิได้ยินอันใดเลย

ขณะนี้เกาหมินกล่าวอย่างเย็นชาว่า:

“มันจะมากไปแล้ว”

โดยมิทันที่จะกล่าวจบ นางก็ได้รู้ตัวทันทีว่า น้ำเสียงของตนเองนั้นหยาบคายเกินไป จึงไอเบา ๆ และกล่าวว่า

“เป็นหลี่เว่ยหยาง”

ทัวเป่าลุ่ยขมวดคิ้ว

“เจ้ากําลังหมายถึงเซียนจูแห่งอันผิงหรือ?”

เกาจินที่กําลังกินลูกท้ออยู่ด้านข้างหัวเราะก่อนที่จะกล่าวว่า

“เซียนจูแห่งอันผิงเป็นเพียงหญิงสาวที่มิมีตําแหน่งทางราชการ แต่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของทางราชสํานักโดยอาศัยคํากล่าวเพียงมีกี่คําเท่านั้น”

หลังจากพ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว เขาต้องใช้เวลารักษาตัวถึงสองเดือนเต็ม จึงรู้สึกโกรธแค้นและขุ่นเคืองหลี่เว่ยหยางในใจ

เมื่อได้ยินว่าพวกเขากําลังสนทนาเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผ่านมา ทัวเป่าเจิ้นจึงจ้องมองไปยังหลี่จางเล่อพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย

นางมีความงดงาม แต่นางยังขาดความเฉลียวฉลาดและไหวพริบ ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้เวลามากขึ้นในการพิจารณาเรื่องการขอนางแต่งงาน

หลี่หมินเฟิงถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวว่า:

“เราประสบชะตากรรมเช่นนี้ แต่ท่านย่ามิได้ใส่ใจพวกเราเลย มิหนําซ้ำตอนนี้ท่านพ่อก็ยังมิได้หายโกรธเคือง

ท่านพ่อมิต้องการเห็นหน้าของจางเล่อด้วยซ้ำ แล้วจะมิให้นางเสียใจจนร่างกายซูบผอมได้อย่างไร?”

เมื่อเห็นผู้ที่มีความงดงามเกิดปัญหา องค์ชายห้าจึงกล่าวว่า

“สําหรับเรื่องนี้เราจะโทษว่าเป็นความผิดของคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่า เป็นความผิดของผู้ที่วางแผนชั่วร้ายนั้น พวกเขาจงใจทําลายนางด้วยแผนการนี้”

หลี่จางเล่อใช้ผ้าเช็ดหน้าซ่อนหางตาตนเองขณะที่กระซิบว่า

“พี่ชายใหญ่มิจําเป็นต้องเปิดเผยเรื่องเลวร้ายภายในครอบครัวของเราต่อหน้าองค์ชายทั้งสอง

มิว่าน้องสามจะทําเรื่องไร้สาระเพียงใด เราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน นางยังเด็กจึงยังมิเข้าใจ……….”

องค์ชายห้าถอนหายใจและกล่าวว่า

“ในที่สุดเป็นเพราะเซียนจูแห่งอันผิงที่เติบโตจากชนบท ดังนั้นนางจึงมเข้าใจในเรื่องของความสัมพันธ์และมารยาท จึงทําให้คุณหนูใหญ่ถูกปฏิบัติอย่างมิเป็นธรรม

มิต้องกังวลใจ ข้าจะให้ท่านแม่กล่าวบางอย่างต่อหน้าจักรพรรดินีและจักรพรรดิ อย่าได้รู้สึกเศร้าเสียใจเพราะเหตุนี้เลย”

ดวงตาที่งดงามของหลี่จางเล่อจ้องมองไปยังองค์ชายห้า จากนั้นจึงลดตาลง ขณะที่กล่าวว่า

“ขอบคุณองค์ชายห้า”

ในขณะนี้เกาจินที่กําลังจดจ่ออยู่กับการกินลูกท้อของเขาได้ไอ ก่อนที่จะกล่าวว่า:

“ดูสิ! นั่นผู้ใด!”

ทุกคนจ้องมองออกไปยังทะเลสาบซึ่งอยู่ห่างไกลนั้นผ่านไอหมอกที่เย็นฉ่ำ และเห็นดอกบ๊วยสีแดงเบ่งบานที่ฝั่งตรงข้าม

เมื่อพวกเขาพบกับพื้นที่ที่เย็นจัดทําให้พวกเขาดวงตาเหม่อลอย

“เหตุใดเด็กน้อยผู้นี้ยังคงอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่?”

เกาจินเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“ฮ่ม.เด็กหนุ่มผู้นั้นเขาเริ่มทําตัวแปลกประหลาด…”

หลี่หมินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า

“หลังจากฮูหยินสามเสียชีวิตลง เขาจึงอยู่ในความรับผิดชอบของน้องสาว และทุกที่ที่นางไป เขาจะอยู่ที่นั้นเสมอ

ข้าจะให้ท่านพ่อไล่เขาออกจากบ้านตระกูลหลีไป เพราะเขาไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่ของเราแล้ว!”

“พี่ชายใหญ่, น้องชายสามถูกเพิ่มเข้ามาอยู่ในรายชื่อของสมาชิกตระกูลหลี่แล้ว”

หลี่จางเล่อเตือนเขาอย่างใจเย็น

หลี่หมินเฟิงมิค่อยชอบเด็กน้อยผู้นี้ตั้งนานแล้ว เขายิ้มอย่างเย็นชา

“แม้ว่าเขาจะถูกเพิ่มเข้ามาในบัญชีของตระกูลเราแล้ว แต่เราก็ยังสามารถลบรายชื่อของเขาออกได้

ครอบครัวของเรามิสามารถยอมรับผู้ซึ่งมีภูมิหลังที่มปรากฏหลักฐานได้ เพราะมันอาจจะทําลายสายเลือดของเราได้”

ทัวเป่าเจิ้นยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

“ภายใต้การคุ้มครองของเซียนจูแห่งอันผิง เกรงว่าเจ้าจะมิสามารถทําเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย”

เกาจินหัวเราะเยาะ:

“วางแผนให้เขาก่อปัญหาขึ้น มันจะมิง่ายกว่าหรือ?”

หลี่จางเล่อยิ้มอย่างใจเย็นและกล่าวว่า

“ ข้ามเข้าใจว่า ท่านพี่หมายถึงสิ่งใดกัน?”

รอยยิ้มของเกาจินมีร่องรอยของความชั่วร้ายขณะที่กล่าวว่า

“เจ้าจะเข้าใจในมิช้า”

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท