ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 204.1

ตอนที่ 204.1

บทที่ 204 มหาสมุทรคือ… 4 (1)

การรักษาคําพูดถือเป็นหนึ่งในคติประจําใจของคาร์ล

บั้งงงงงงง

พายุทอร์นาโดพุ่งสูงขึ้นก่อนจะชนเข้ากับเรือ เสากระโดงเรือเริ่มสั่นสะเทือนและเอนไปทางด้านข้างหลังจากนั้น

“อ๊ากกกกกกกก!!!”

เรือก็เริ่มลุ่มทันที

พันธมิตรไร้พ่ายถูกโจมตีทั้งสองทางทั้งทางอากาศและในมหาสมุทรอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถมองเห็นศัตรูที่กําลังโจมตีพวกเขาได้ มีเพียงแค่นักล่ามังกรเท่านั้นที่ศัตรูปรากฏโฉมให้ได้เห็นนักล่ามังกรหรืออัศวินหมวกเหล็กถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อกวาดสายตาไปมองรอบๆมหาสมุทร ทั้งเสียงข้าวของแตกกระจัดกระจาย เสียงระเบิดเสียงเรือล่มและเสียงกรีดร้องของมนุษย์ดัง ระงมไปทั่วบริเวณ

มีคนใช้พลังเวทย์เพื่อสร้างหมอกสีแดงและพายุทอร์นาโดขึ้นมาแม้ว่าร่างของศัตรูจะไม่ได้ปรากฏออกมาให้เห็นก็ตาม นอกจากนี้ยังมีอัศวินใช้ดาบล่องหนโจมตีทางอากาศอีกด้วย

“เลี้ยวเรือหลบเดี๋ยวนี้เราต้องหนีออกจากหมอกและพายุทอร์นาโดโดยด่วน!”

เสียงของคนผู้หนึ่งกําลังสั่งการให้บังคับเรือออกจากหมอกและพายุทอร์นาโด เสีย งตะโกนนั้นลอดออกมาจากโล่ป้องกันที่เห็นอยู่ไกลๆนักล่ามังกรเริ่มคิดบางอย่างเมื่อมองเห็นสิ่งนี้

“ทําไมตาเฒ่านักเวทย์ถึงไม่ทําอะไรสักอย่าง..ทําไมเขาถึงไม่มาช่วยข้าสักที!?”

เขาไม่ชอบขี้หน้าตาเฒ่านี้สักเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้เก่งในเรื่องการประเมินสถานการณ์และเลือกใช้คนได้เหมาะสมกับงานที่ได้รับผิดชอบ มันแปลกที่คนแบบนี้ยังคงเงียบเฉยทั้งๆที่เขาสมควรลงมือทําอะไรบางอย่างแล้ว

หรือว่า?”

นักล่ามังกรได้ยินเสีย

“ดูเหมือนเจ้าจะมีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็กําลังตกที่นั่งลําบากอยู่”

มันเป็นเสียงของคาร์ล

แน่นอนว่าคาร์ลจงใจเปิดโอกาสให้นักล่ามังกรมีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นเพราะหมอนี้จะได้ เข้าใจในสถานการณ์ของตนสักที

พวกเขากําลังอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ สําหรับคาร์ลแล้วมหาสมุทรก็เปรียบเหมือนที่แจ้งซึ่งสามารถซุ่มโจมตีโดยที่ศัตรูไม่รู้ตัวและศัตรูก็ไม่สามารถหลบหนีไปที่อื่นได้ แม้ว่ารอยยิ้มที่คาร์ลส่งให้นักล่ามังกรจะดูเป็นมิตรแต่ประโยคที่เขาเอ่ยขึ้นกลับทําให้นักล่ามังกรสะท้านไปทั่วร่าง

“เจ้าคิดอะไรอยู่? กําลังแปลกใจที่นักเวทย์ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอย่างนั้นรึ?”

“เจ้า..เจ้ารู้เรื่องนักเวทย์ได้อย่าง”

ไม่ทันที่นักล่ามังกรจะได้พูดจบประโยค

ปั้มมมมมมมมมม!!

มีเสียงระเบิดดังขึ้นและครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ นักล่ามังกรค่อยๆหันศีรษะไปยังทิศ ที่เกิดแรงระเบิดเขาเห็นสายน้ําที่รวมตัวกันเป็นน้ําพุขนาดใหญ่รวมเข้ากับเปลวเพลิงปะทะเข้ากับด้านหน้าเรือ

ไม่ใช่ว่าตาเฒ่านักเวทย์ไม่คิดจะทําอะไรแต่เขาไม่สามารถทําอะไรได้ต่างหาก

เขากําลังถูกโจมตีจนแทบเอาตัวเองไม่รอด

คาร์ลกระซิบบางอย่างให้นักล่ามังกรได้ยินอีกครั้ง

“เจ้ารู้ว่าข้ามีมังกร”

เสียงของคาร์ลดูมีความสุขในขณะที่นักล่ามังกรรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง ดวงตาของเขาพุ่งมาที่คาร์ลอย่างรวดเร็ว

“ใครจะไปคิดว่าคนผู้นี้คือวีรบุรุษ?..แล้วคนที่ดูปวกเปียกเช่นนี้จะสามารถมีพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่แตกต่างกันถึงสามอย่างได้อย่างไร?

ฐานรองรับของขุนนางผู้นี้ดูแย่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา มันอาจมีขนาดพอๆกับ ฐานรองรับของแมลงวันเสียด้วยซ้ํา เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? แม้ว่าเขาจะมีพลังในการฟื้นฟูพลังไม้และพลังลมอยู่ในตัวแต่ในอีกไม่กี่ปีพลังทั้งสามจะเข้าปะทะกันจนเกิดความปั่นป่วนในร่างกาย เขาจะมีอาการเจ็บปวดและเสียชีวิตลงในที่สุด

*..หรือว่ามันจะเป็นกรณีพิเศษ?”

ความคิดที่น่าเหลือเชื่อผุดขึ้นในหัวของนักล่ามังกร ทันใดนั้นความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มโจมตีภายในตัวเขา

บูม! บุ้ม!

พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณในตัวของเขากําลังทําปฏิกิริยากับบางอย่าง ดาบแห่งหายนะกําลังส่งสัญญาณเตือนให้กับเขา

“ อะ..อะไรกัน!

นักล่ามังกรกําลังนั่งคุกเข่าโดยมีคนของคาร์ลล็อกคออยู่ด้านหลัง ส่วนคาร์ลนั้นกําลังนั่งส่งยิ้มเย็นให้กับเขาอยู่ตรงหน้า เขากวาดสายตามองคาร์ลอีกครั้งโดยเฉพาะมือคู่นั้น! บนฝ่ามือของคาร์ลมีสายฟ้าสีแดงเล็กๆปะทุอยู่

มันเป็นไฟที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดในดาบแห่งหายนะของเขาเสียอีกพลังดังกล่าวสามารถสัมผัสได้จากสายฟ้าสีแดงเล็กๆนี้ พลังทําลายล้างอันแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งใดก็สามารถบอกผ่านได้จากสิ่งนี้เช่นกัน ไฟลาวาและสายฟ้า! สิ่งเหล่านี้ถือเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งสามารถปะทุขึ้นได้จากพื้นดินและฟาดผ่านลงมาจากท้องฟ้า ทั้งสองอย่างผสมผสานกันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับไฟ

ปากของนักล่ามังกรเริ่มสั่นระริก

มันคือกรณีพิเศษ

สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้กลายเป็นเรื่องจริง!

ไม่…ไม่มีทาง”

“เขาสามารถรวบรวมพลังได้ทั้งห้าธาตุงั้นรึ?”

ด้วยเหตุผลนี้ร่างกายของชายตรงหน้าถึงไม่ระเบิด พลังแห่งการฟื้นฟูและความสมดุลขององค์ประกอบทั้งห้าธาตุทําให้ฐานรองรับที่อ่อนแอเช่นนี้มีความเสถียรมากขึ้นใช่หรือไม่?

เขาเห็นว่าคาร์ลกําลังมองดูตนอยู่จึงเอ่ยถามออกไป

“เจ้าสามารถรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณจํานวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร?”

“เพราะข้าแตกต่างจากเจ้า”

เสียงเรียบเย็นของคาร์ลตอบกลับทันที

“เจ้าคงไม่ใช่นักล่ามังกรแบบเต็มตัวสินะ…ข้าพูดถูกหรือไม่?”

ดวงตาของนักล่ามังกรเริ่มสั่นคลอน

คาร์ลยังคงมีท่าทางปกติเมื่อเริ่มนึกถึงสิ่งที่โคลเปย์บอกเอาไว้

“แค่กกก!เขายังไม่ใช่นักล่ามังกรแบบเต็มตัว อีกกก!! ส่วนสมาชิกระดับสูงของอาร์มที่เดินทางมาพร้อมพันธมิตรไร้พ่ายในครั้งนี้คือนักเวทย์อาวุโสและหมอผู้รักษา

“เท่าที่ข้ารู้ นักล่ามังกรผู้นี้แข็งแกร่งขึ้นหลังจากกินมังกรวัยชราตัวล่าสุดที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสองร้อยปีก่อน

มีคนบอกไว้ว่าการได้กินมังกรวัยชราจะดีกว่าการกินมังกรวัยผู้ใหญ่ ศพของมังกรเปรียบเป็นยาขนานพิเศษสําหรับอัศวินที่ครอบครองดาบแห่งหายนะ อย่างไรก็ตามนักล่ามังกรตัวปลอมผู้ นี้ต้องการทั้งดาบแห่งหายนะและของอย่างอื่นเพื่อที่ตัวเองจะได้กลายเป็นนักล่ามังกรอย่างสมบูรณ์

เขาต้องการของที่ตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน

นักล่ามังกรต้องการมงกุฏที่มีคุณสมบัติในการดื่มเลือดมังกรมาไว้ในครอบครองเพื่อที่ร่างกายของเขาจะมีคุณสมบัติคล้ายกับมังกรได้มากที่สุด

คาร์ลยังจําได้ดีว่าโคลเปย์เอ่ยออกมาด้วยความโกรธเคืองเพียงใด

“แต่มีพวกบ้าแค่กกกก!!.มาขโมยมงกุฎนั่นไปเสียก่อน..อีกกก!!”

คาร์ลกลิ้นเสียงหัวเราะของตัวเองเอาไว้

บูมมมมม!!

บูมมมมม!!

มีบางอย่างกําลังวิ่งพล่านในร่างกายของเขา นักบวชจอมตะกละเริ่มเอ่ยบางอย่างให้คาร์ลได้ยิน

-ข้าควรกินสิ่งนี้ดีหรือไม่?

พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ถูกใช้งานในขณะนี้คือเสียงเรียกของวายุและโลนิรันดร์กาลกําลังแสดงตัวออกมาเพื่อเรียกร้องให้ได้กลืนกินพลังแห่งลม

มันแสดงความโลภและความตะกละของตัวเองให้คาร์ลฟังอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดายที่คาร์ลต้องส่ายหัวปฏิเสธให้กับสิ่งที่โล่นิรันดร์กาลตั้งใจเอาไว้ ทําไมนะหรือ?

“ความโลภของฉันก็ไม่น้อยหน้าใครเช่นกัน”

พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่พิเศษหรืออุปกรณ์บางอย่างเมื่อเจ้า ของพลังนั้นๆเสียชีวิตลง

โลนิรันดร์กาลเคลื่อนย้ายไปยังต้นไม้

พละกําลังแห่งดวงใจเคลื่อนย้ายไปยังหอคอยศิลา

อัคนีทําลายล้างเคลื่อนย้ายไปยังกระปุกออมสินรูปหมูทองคํา

เสียงเรียกของวายุเคลื่อนย้ายไปยังลูกข่างวายุ

พลังเหล่านี้ต่างรอคอยเงียบๆเพื่อรอให้เจ้าของคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมา

แม้ว่าเราจะลงมือฆ่าเจ้าของคนปัจจุบันในตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพลังนั้นจะเคลื่อนย้ายมาที่เราโดยทันที ถ้ามันสามารถทําเช่นนั้นได้จริงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณก็คงไม่หายสาบสูญเป็นเวลานานเช่นนี้

นักบวชจอมตะกละเริ่มพูดอีกครั้ง

-ข้ากันไม่ได้จริงๆหรือ?

ทั้งเสียงเรียกของวายุและพลังอื่นๆที่เหลือ

ความโลภที่โล่นิรันดร์กาลมีต่อพลังอื่นๆในตัวเขาไม่มีที่สิ้นสุด แน่นอนว่าภายในใจขอ งคาร์ลกําลังปฏิเสธอย่างหนักหน่วง

“ไม่! ยังไม่ใช่วันนี้! ฐานรองรับของฉันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น..ฉันไม่สามารถรับอะไรได้อีกต่อไปแล้ว

สิ่งที่เขาคิดในตอนนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้มอบบางอย่างให้กับโล่นิรันดร์กาลแต่เขามีสิ่งที่ จะมอบให้กับตัวเขาเองหากพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณไม่ได้รับการถ่ายโอนและเคลื่อนย้ายไปยังสถาน ที่พิเศษหรืออุปกรณ์บางอย่างมันก็มีวิธีที่สามารถทําได้ง่ายเช่นกัน

สิ่งที่ฉันต้องทําก็แค่หยิบมันขึ้นมาเท่านั้น”

แล้วมันก็จะกลายเป็นของเขาโดยทันที

ดวงตาของคาร์ลจ้องเขม็งไปที่นักล่ามังกร มันเป็นสายตาของนักล่าที่พบเข้ากับเหยื่อของตนเขาคิดแผนที่จะทํากับหมอนี้ไว้แล้ว

ต้องกระทึบหมอนี้ให้ตาย”

น่าเสียดายที่คาร์ลไม่ได้มีแรงถึงขนาดจะทําเช่นนั้นได้ ร่างกายนี้ทั้งอ่อนแอและกล้ามก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ทําให้เขานึกถึงกล้ามเป็นมัดๆเมื่อครั้งที่เขาเป็นคิมร็อกโซแต่การที่เขาเลือกมองหาพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณมาไว้ในครอบครองก็เพื่อหลีกเลี่ยง การฝึกศิลปะป้องกันตัวและการออกกําลังกายให้ตัวเองลําบากนี่นา การได้นั่งๆนอนๆและกินถือเป็นสิ่งสําคัญที่สุดมากกว่ากล้ามเป็นมัดๆพวกนั้นเสียอีก

คาร์ลชี้ไปที่ร่างของนักล่ามังกรซึ่งการกระทําดังกล่าวทําให้นักล่ามังกรถึงกับสะดุ้งโหยง

คาร์ลออกคําสั่งเสียงเหี้ยม

“โยนเจ้านี้ทิ้งซะ”

“อะไรนะ?”

นักล่ามังกรรู้สึกว่าร่างของตนถูกยกสูงก่อนจะทันได้ประมวลผลว่ามันกําลังจะเกิดอะไรขึ้น

“ขอรับนายน้อย”

นักล่ามังกรถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนอากาศพร้อมๆกับคําตอบของนักฆ่าที่อยู่ทางด้านหลัง ดวงตาของเขาเริ่มเบิกกว้าง

“ไม่ ไม่นะ!”

เปรี้ยะ!

มีบางอย่างอยู่เหนือหมอกสีแดง นักล่ามังกรได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วบริเวณ ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างอย่างต่อเนื่อง

เปรี้ยงงงงงง

มันเป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่เขาคิดว่าท้องฟ้ายามค่ําคืนส่องแสงเป็นสีเลือด

เปรี้ยงงงงงง!!

“อ้ากกกกกก!!”

เขาไม่สามารถขยับตัวหนีได้ทันจึงต้องยอมให้สายฟ้าสีแดงฟาดผ่านร่างกายของเขา เขาพยายามเปิดใช้งานดาบแห่งหายนะที่มีคุณสมบัติเป็นภูเขาไฟระเบิดแต่มันก็ไร้ประโยชน์

พลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากําลังกลืนกินร่างกายของเขา

“เจ้าบ้านี้มีพลังแบบนี้ได้อย่างไร..!”

ร่างของเขาเริ่มไหม้เกรียม กลิ่นไหม้คละคลุ้งจนจมูกเขาแทบพัง สายฟ้าโจมตีมาที่ร่างของเขาได้อย่างแม่นยํา

ตุ๊บบบบบ!

ร่างของเขากระแทกไปที่พื้นเรืออีกครั้ง

“อีกกกกก…!!”

ร่างของนักล่ามังกรเริ่มกระตุก สภาพของเขาดูไม่ต่างจากไส้เดือนที่กําลังดิ้นทุรนทุรายเพราะโดนฤทธิ์ของขี้เถ้า

ซู่!!

สายฟ้าสีแดงยังไม่ได้เลือนหายไปไหนเพราะมันกําลังเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องขณะที่ร่างของเขากระตุกอยู่บนพื้นด้วยความทรมาน สายฟ้าก็เริ่มโอบรัดร่างกายของเขาราวกับงูเลื้อย

อย่างไรก็ตามนักล่ามังกรที่ครั้งหนึ่งได้กินมังกรวัยชราเข้าไปร่างกายของเขาย่อมแข็งแรงกว่าคนทั่วไปมากนัก ปราสาทสัมผัสของเขายังคงทํางานได้ตามปกติ เขายังคงมองเห็นได้กลิ่นได้ยินและยังพูดได้

ตึก! ตึก!

หางตาของนักล่ามังกรมองเห็นรองเท้าคู่หนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้า ร่างที่กําลังกระตุกอยู่ถึงกับหยุดชะงักทันที

แน่นอนว่าเจ้าของรองเท้าคู่นี้คือคาร์ล

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท