The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 16

ตอนที่ 16

บทที่ 16 ข่าวสำคัญ พลิกสถานการณ์ให้กลับมามีชัย

หวางหนันหนันกลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง ทั้งตัวเปียกไปหมด และกระอักกระอ่วนใจมาก

เมื่อเข้าบ้าน พ่อแม่และน้องชายหวางเห้าที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ลุกขึ้นยืน

“ในที่สุดคุณก็ยอมที่จะกลับมาซะมี?”จางซิ่วจือกล่าวอย่างเคร่งขรึม แค่ให้คุณไปนัดบอด คุณยังใส่อารมณ์อีก?”

ร่างกายของหวางหนันหนันสั่น มองไปที่จางซิ่วจือด้วยความประหลาดใจ “แม่ คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

“รู้สิ เสี่ยวเห้ากลับมาก็บอกกับฉันแล้ว”

จางซิ่วจือชี้ไปที่หวางเห้า ประโยคต่อมาทำให้หวางหนันหนันน้ำตาไหลอย่างห้ามไม่ได้ “แค่สัมผัสจะทำไม? ยังไงก็แค่ไปนัดบอด ถ้าคืนนี้คุณไม่กลับมา ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ถือว่านัดบอดสำเร็จ เราจะได้มีเงินค่าสินสอดสำหรับเสี่ยวเห้า ”

“แม่ คุณคิดว่าฉันเป็นสิ่งของเหรอ?” หวางหนันหนันร้องไห้

ใบหน้าของหวางเต๋อจมลง แล้วมองไปที่จางซิ่วจือ ต่อหน้าลูก คุณพูดเช่นนี้ทำไม?”

“ฉันเป็นคนให้กำเนิดเธอเอง ฉันจะพูดไม่ได้หรือไง?” สีหน้าจางซิ่วจือเปลี่ยน แล้วมือเท้าเอวพูด “เธอทำเรื่องนัดบอดเสียหมด แล้วเงินค่าสินสอดของเสี่ยวเห้าล่ะ?แค่ให้เธอช่วยน้องชายแค่นี้ยังทำไม่ได้ ยังจะไม่ให้ฉันพูดอีก?”

คำถามทั้งหมดนั้น ทำให้หวางเต๋อพูดอะไรไม่ออก

แต่หวางหนันหนันฟังออกว่า หวางเห้าต้องไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร หลังจากนั้นเธอวิ่งหนีไปแล้ว หวางเห้าต้องไปฟังคำพูดของหลี่ต้าเป่าที่พยายามหลีกเลี่ยงประเด็นที่สำคัญที่สุด

แอบหงุดหงิดอยู่คนเดียว หวางหนันหนันกำลังจะอธิบาย

“พี่สาว คุณจะช่วยผมไหมนิ?”

จู่ๆหวางเห้าก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมา “ผมเป็นน้องชายของพี่นะ ถ้าพี่ช่วยผมไม่ได้ ผมกับเสว่เอ๋อก็จะแต่งงานกันไม่ได้ แล้วผมยังมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ผมตายไปซะยังดีกว่า!”

“เสี่ยวเห้าตายไป งั้นไอ้แก่อย่างเราทั้งสองมีชีวิตไปก็ไม่มีความหมาย ตายๆไปด้วยกันซะยังจะดีกว่า!”จางซิ่วจือเห็นด้วยและเริ่มร้องไห้

วุ่นวายกันทั้งบ้าน

เมื่อเผชิญกับแม่และน้องชายที่กำลังอยากตาย หวางหนันหนันใจล่มสลาย ก้มศีรษะและนั่งยองๆบนพื้น แล้วร้องไห้เสียงดัง

“หนันหนัน พ่อขอพูดอะไรสักหน่อย ลูกดูสิแม่กับน้องชายทำถึงขนาดนี้แล้ว คนเป็นพี่สาวอย่างลูกก็กล้ำกลืนความลำบากนี้ช่วยน้องชายหน่อยเถอะ?”

หวางเต๋อกล่าวอย่างลึกซึ้งว่า:“ที่จริงลูกก็ไปนัดบอดกับหลี่ต้าเป่าแต่แรกอยู่แล้ว พ่อรู้ว่าลูกปฏิเสธเรื่องแบบนี้ แต่คนเขาอาจจะจับโดนมือโดยบังเอิญ แล้วลูกก็หนีแล้วสิ?”

“พ่อ……”หวางหนันหนันขมขื่นสุดๆ นั่นเป็นเพียงการสัมผัสจริงๆหรือ?

ถึงขนาดทำเหมือนฉันเป็นหญิงขายบริการแล้ว!

เธอก็รู้ดี ว่าเธอจะอธิบายอะไรตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เธอไม่สามารถโต้เสียงได้

ทันใดนั้น เธอนึกถึง วีแชทของเฉินตง และคิดซะว่าลองดูมันอาจจะดีก็ได้ ร้องไห้และพูดว่า” พ่อ เราไปซื้อบ้านให้เสี่ยวเห้าที่ภาคตะวันตกของเมืองดีไหม? บางทีราคาที่บ้านทางตะวันตกของเมืองสูงขึ้น จะได้มีเงินค่าสินสอดของเสี่ยวเห้าด้วย!”

สีหน้าของหวางเต๋อจมลง

จางซิ่วจือด่าทันที “ซื้อบ้านทางทิศตะวันตกของเมือง นี่แกซื่อบื้อหรือไง? ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองที่เก่าๆนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่มีแต่พวกแรงงานที่มาจากเมืองอื่น ราคาบ้านจะสูงขึ้นได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้! มีแต่คนโง่ที่จะซื้อบ้านที่นั่น!”

“พี่สาว พี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า? ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองที่สกปรกยุ่งเหยิงนั่น เสว่เอ๋อจะตกลงให้เราซื้อบ้านที่นั่นได้อย่างไร?” หวางเห้าเห็นด้วยตาม “ผมเป็นน้องชายแท้ๆของพี่นะ พี่ก็เป็นพี่สาวแท้ๆของผม ถ้าไม่อยากช่วยผม ก็อย่าทำร้ายผมสิ?”

ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหวางหนันหนัน ฟันขบริมฝีปากสีแดงของเธอแรงๆ แทบจะมีเลือดออกแล้ว

เธอรู้ดีว่าย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเป็นยังไง และยังสงสัยในความถูกต้องของข้อมูลวีแชทจากเฉินตง

แต่สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาความจำเป็นเร่งด่วน ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองราคาถูก และเงินที่เหลือหลังจากซื้อบ้านสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของเงินสินสอดได้

ไม่อย่างนั้น จะให้เธอทำไงล่ะ?

จะให้ไปขายตัวจริงๆหรือไง?

“พอแล้ว! สองแม่ลูกไม่จบไม่สิ้นแล้วหรือไง บ้านสงบอยู่ดีๆกลับกลายเป็นวุ่นวายทั้งบ้าน!”

หวางเต๋อไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป ตะโกนไปว่า “ไม่ได้จริงๆ เราลองคิดวิธีอื่นก็ได้แล้ว”

“นั้นคุณลองคิดมาวิธีนึงซิ? คุณก็แค่ครูสอนหนังสือ นั้นคุณควักธนบัตรจำนวนมากออกมาสิ ให้เสี่ยวเห้าของเราแต่งงานสิ? ไม่อย่างนั้น คุณจะอยากให้ไม่มีลูกหลานไว้สำหรับสืบตระกูลเลยหรือไง?”

จางซิ่วจือผลักดันหวางเต๋อ ประโยคเดียวทำให้หน้าของหวางเต๋อซีดไปเลย

หวางเต๋อเป็นครูสอนหนังสือ เชื่อในหลักเหตุผลที่ว่าความอกตัญญูมี 3 สิ่ง เรื่องไม่มีลูกหลานเป็นข้อสำคัญที่สุด การไร้สิ้นลูกหลานสำหรับสืบสกุลแบบนี้เป็นอะไรที่อึดอัดยิ่งกว่าฆ่าเขาอีก

หงุดหงิดจนดึงจับผมของเขาแรงๆ หวางเต๋อตบตัวเองแรงๆทีนึง “งั้นผม ก็กัดฟันหน้าด้านไปให้สุด ไปขอยืมกับพวกเพื่อนเก่า ยืมคนละนิดๆหน่อยๆมารวมกันยังจะไม่ครบยอดค่าสินสอดมันหรือไง?

“ยืมแล้วไม่ต้องคืนเหรอ?”จางซิ่วจือตะโกนพูดเสียงดัง

หวางหนันหนันดูซีดเซียว มองแม่ด้วยตาแดง ในขณะนี้จู่ๆเธอก็มึนๆ

ยืมมาต้องคืน?

งั้นก็ให้ลูกสาวตัวเองออกไปขายตัวงั้นเหรอ?

……

วันถัดไป หวางเต๋อออกไปยืมเงินตั้งแต่เช้า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เขาหัวเสียมาก คำพูดของจางซิ่วจือสะทกสะท้านโดดจุดที่เจ็บปวดของเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องหน้าด้านออกไปยืมเงิน

หวางหนันหนันไม่นอนทั้งคืน เพราะตาร้องไห้จนบวม เธอออกจากบ้านด้วยร่างกายที่เหนื่อยจนอ่อนแรง แล้วไปทำงาน

แต่งงานกับเฉินตงเป็นเวลาสามปี เธอไม่ได้กลายเป็นแม่บ้าน แต่ได้หางานแผนกต้อนรับส่วนหน้าของบริษัทเป็นงานที่สบายๆ ทำเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ได้3,000 หยวนต่อเดือน

ยังไงก็มีเฉินตงอยู่ดูแลทางบ้านแล้ว ค่าจ้างที่เธอได้รับล้วนเอามาเป็นค่าขนมสำหรับตนเอง

แต่ หลังจากหย่ากับเฉินตง เงินสามพันหยวนนี้เป็นรายได้ทั้งหมดของเธอแล้ว

หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน หวางหนันหนันที่เดินอยู่บนถนนยังคงใจลอย มองดูผู้คนที่เดินไปมา เธอที่สะอื้นทีนึง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโพสต์ในโซเชียลว่า ท้ายที่สุดก็ต้องเป็นฉันที่เป็นคนแบกรับทุกอย่าง

สักพัก โพสต์นี้ก็มีคนกดถูกใจและคอมเมนต์ มีคำปลอบใจต่างๆ

สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ของหวางหนันหนันสงบลงเล็กน้อย

แต่ในบริษัทไท่ติ่ง

เฉินตงเห็นที่หวางหนันหนันโพสต์ในโซเชียล ทันใดนั้นก็รู้สึกตลกเล็กน้อย

วางโทรศัพท์ลง เขามุ่งเน้นไปที่โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ในคืนนี้ก็จะปล่อยข่าวแล้ว เขาจะไม่ให้มีความผิดพลาดใด ๆ

แค่พริบตา ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว

หลังจากวันที่วุ่นวายทุกคนก็นั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น ดูข่าวท้องถิ่น พร้อมกับเป็นการผ่อนคลายและพักร่างกายที่เหนื่อยมาทั้งวัน

“ข่าวล่าสุดของยี่เคอกรุ๊ป กำลังเตรียมจะเข้ามาตั้งหลักปักฐานที่เมืองนี้ สร้างศูนย์การค้าพลาซ่าขนาดใหญ่ของเมือง การเลือกสถานที่เริ่มต้นที่เขตย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ประเด็นและนี่จะเป็นการส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง แล้วติดตามรอบๆย่านการค้าของเมือง ยี่เคอกรุ๊ปยังมีแผนรายละเอียดเพิ่มเติม อีกมากมาย สถานีนี้จะติดตามรายงานต่อไป”

ข่าวสั้น ๆนี้ กลับเป็นการปล่อยข่าวที่เป็นแก่นสำคัญๆออกมา

เหมือนลูกระเบิดขนาดใหญ่ ที่ทิ้งระเบิดทั้งเมือง

ยี่เคอกรุ๊ปนั้น ขึ้นชื่อว่าได้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ!

การจะเข้ามาตั้งหลักปักฐานของมัน ทุกคนรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง……ราคาจะเพิ่มสูงขึ้น!

ตามข่าวที่ปล่อย ทำให้MG Club นั้นต้องมีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเศร้าแน่

“แม่ง ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นแบบนี้ได้ไง? อ๊า……”

และในตระกูลหวาง

เมื่อหวางหนันหนันลากร่างกายที่อ่อนล้ากลับถึงบ้าน กลับพบว่าทั้งพ่อและแม่และหวางเห้า กำลังนั่งอยู่หน้าทีวี

ทั้งสามคนดูทีวีอย่างตั้งใจ ทั้งครอบครัวเงียบสงบ

“เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”หวางหนันหนันถาม

จู่ๆจางซิ่วจือก็กรีดร้องขึ้นมา “ยี่เคอกรุ๊ปจะมาสร้างพลาซ่าในเมืองของพวกเรา สถานที่รับเลือกแห่งแรกอยู่ที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ที่นั่น……ราคาบ้านที่นั่นต้องเพิ่มสูงขึ้นแน่!”

ยิ่งพูดยิ่งเครียด จางซิ่วจือหน้าเขียวไปหมด

หวางเต๋อถึงกับปิดใบหน้า ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ถ้าพวกเขาฟังคำพูดของหวางหนันหนันเมื่อคืน เช้าวันนี้เขาคงไม่ต้องไปหายืมเงินหรอก คงไปหาซื้อบ้านที่ภาคตะวันตกของเมืองแล้ว

งั้นตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาเห็นข่าวนี้แล้ว ก็จะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นอีกแบบนึงไปเลย

บูม!

ทันใดนั้นในสมองของหวางหนันหนันเกือบระเบิด สีหน้าเปลี่ยนไปมาก ยกมือปิดปากแทบกรี๊ดออกมา

เธอตื่นเต้นและรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดดูข้อความวีแชทของเฉินตง ทุกอักษรบนวีแชทล้วนเหมือนค้นที่ตอกลูกตาเธออย่างรุนแรง

จริงด้วย เป็นอย่างที่เขาพูดจริงด้วย? !

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท