บทที่ 142 เตรียมของขวัญ
เมื่อเฉินตงเดินเข้ามาในห้องโถง
ก็เห็นกู้ชิงหยิ่งและคนอื่นๆยืนรออยู่กลางห้องโถง
กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างอ่อนหวาน เดินเข้าไป คล้องแขนของเฉินตงเอาไว้ “เจ้าทึ่ม มาช้าจัง พวกคุณพ่อรอคุณอยู่นะ”
ดูเหมือนกำลังต่อว่า เธอนั้นเข้าใจดี ไท่ติ่งเพิ่งจะผ่านวิกฤต เป็นช่วงเวลาที่งานของเฉินตงกำลังหนัก
ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อหาทางลงให้กับเฉินตง
เฉินตงยิ้มอย่างขอโทษให้กับกู้โก๋อั้วและคนอื่นๆ “ขอโทษด้วยครับคุณอา คุณลุงเมิ่ง คุณอาเจิ้ง บริษัทมีเรื่องงานให้จัดการเยอะมาก ก็เลยทำให้มาช้าไปหน่อย”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คนมาครบแล้ว ทุกคนนั่งลงกันเถอะ”
กู้โก๋ฮั้วยิ้มอย่างเบิกบานใจ มองท่านเมิ่งอย่างสงสัยแวบหนึ่ง
ท่านเมิ่งก็รีบเร่งฝีเท้าเดินไปต้อนรับที่กลางห้องโถง จึงทำให้พวกเขาเดินตามกันออกมา
กล่าวทักทายกัน
ท่านเมิ่งเห็นกู้โก๋ฮั้วที่บอกให้ทุกนั่ง เขาจึงได้เดินเข้าไปยิ้มทักทาย ยื่นมือขาวออกไป “เฉินตง เจอกันอีกแล้ว”
“คุณลุงเมิ่ง”
เฉินตงยิ้มแล้วยื่นมือออกไปจับมือกับท่านเมิ่ง
เพียงแค่การทักทาย กลับทำให้กู้โก๋ฮั้ว หลี่หวั่นชิงกับเจิ้งโก๋โส่วอึ้งกันไปเลย
การทักทายของท่านเมิ่ง ดูเหมือนสุภาพ
แต่คนที่สนิทกับเขาต่างก็รู้ คนที่สามารถทำให้ท่านเมิ่งไปทักทายได้ นั้นเห็นได้น้อยมาก
โดยเฉพาะเจิ้งโก๋โส่ว สายตาที่มองเฉินตงนั้นยิ่งสับสนมากกว่าเดิม
เฉินตงกลับพูดขึ้น “คุณอาทั้งสอง ครั้งที่แล้วมาอย่างรีบร้อน เตรียมตัวไม่พร้อม วันนี้จึงได้เตรียมของขวัญมาเล็กน้อย เพื่อเป็นการขอโทษคุณอาทั้งสอง”
ทุกคนได้หยุดฝีเท้าลง
หลี่หวั่นชิงยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ครั้งที่แล้วก็ได้บอกนายแล้ว คนมาก็พอแล้ว ทำไมยังสิ้นเปลืองไปซื้อของขวัญอีกล่ะ?”
เฉินตงยิ้มอย่างอบอุ่น “ต้องครับ พวกท่านเป็นพ่อแม่ของเสี่ยวหยิ่ง ต้องมีพิธีรีตองกันหน่อย”
กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงนั้นมองสบตากัน ก็ไม่ได้พูดต่ออีก
เฉินตงมีน้ำใจต่อพวกเขา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะมองข้าม
พรึบๆ…..
เฉินตงปรบมือ
พริบตาเดียว ลานด้านนอกห้องโถง ก็ดังขึ้นด้วยเสียงฝีเท้า
ผู้คนจำนวนมากเดินเข้ามาก พลังนั้นดูยิ่งใหญ่อลังการ
และด้านหลังของผู้คน ท่านหลงกับคุนหลุนก็เดินขึ้นมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ท่านหลงที่ถือรายการของขวัญ แล้วอ่านอย่างเสียงดัง
“โสมพันปีหนึ่งคู่!”
“ปะการังเลือดพันปีหนึ่งคู่!”
“หินนำโชคธิเบต18ตาหนึ่งอัน!”
……
ในลาน ดังด้วยเสียงอ่านรายการของท่านหลง
จากนั้นก็ได้เปิดกล่องของขวัญที่ยกเข้ามา ของขวัญมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจได้โดนตาของทุกคนในทันที
โครม!
แม้แต่กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นๆที่เคยเห็นโลกกว้างมาแล้ว ยังเหมือนถูกฟ้าผ่า อึ้งกันเป็นแถว
นี่…….คือของขวัญเล็กน้อยเหรอ?
ของขวัญในรายการ มีชิ้นไหนที่ราคาไม่สูงลิบลิ่ว?
หากนี่เป็นของขวัญเล็กน้อย งั้นภาพวาด《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ครั้งที่แล้วคืออะไร?
เสียงอ่านรายการของขวัญ ดังอย่างต่อเนื่อง
อีกอย่าง ยิ่งท้ายๆ ของขวัญยิ่งมีราคา
“ยันต์แท้ของเทพอักษรหวางซีจือ《ผิงอันเถี่ย》หนึ่งแผ่น!”
โครม!
เมื่อท่านหลงอ่านรายการของขวัญชิ้นสุดท้ายนั้น
เสียงเหมือนท้องฟ้าคำราม ดังสนั่นหวั่นไหว
ในห้องโถง ครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งกับท่านเมิ่งอึ้งกันไปหมดทุกคน
ช่วงเวลาที่เจิ้งโก๋โส่วได้ยินคำว่า《ผิงอันเถี่ย》นั้น ใบหน้าก็แดงมากขึ้น ร่างกายสั่นเทา
“《ผิงอันเถี่ย》ของแท้? ตอนนั้น มันถูกประมูลออกไปในราคาสามร้อยล้านนะ!”
เสียงอุทานอย่างเบาๆ แต่ทุกคนที่อยู่ในนี้กลับได้ยินอย่างชัดเจน
ยันต์แผ่นเดียว สามร้อยล้าน?
นี่มันของขวัญเล็กน้อยตรงไหน?
“จบรายการของขวัญ!”
น้ำเสียงของท่านหลงดังสะท้อน เก็บใบรายการของขวัญ หันกายเดินจากไป
คนกลุ่มนี้ก็ได้เดินออกไปจานลานป่าไผ่ เหลือเพียงกล่องขนาดใหญ่ที่มีของกำนัลมากมาย
ระยะเวลาในการอ่านรายการของขวัญ จะว่ายาวก็ไม่ยาว จะว่าสั้นก็ไม่สั้น
แม้ว่าท่านหลงและคนอื่นๆเดินจากไปแล้ว คนที่อยู่ในห้องโถงสติยังไม่กลับคืนมา
ครู่ใหญ่
เจิ้งโก๋โส่วที่ตัวสั่นได้พุ่งตัวเข้าไปด้านหน้ากล่องของขวัญ หยิบกล่องใบเล็กที่อยู่บนสุด
ด้านในนั้นก็คือ《ผิงอันเถี่ย》
มองดูอย่างละเอียด ร่างกายที่สั่นของเจิ้งโก่โส่วกลับสั่นเพิ่มความรุนแรงขึ้น หายใจหอบ “เป็น…เป็นผิงอันเถี่ยที่ราคาสามร้อยล้านจริงๆ”
คำอุทานเพียงคำเดียว ก็ทำให้กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นๆได้สติในที่สุด
กู้ชิงหยิ่งใช้มือกุมปากเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยากับท่านเมิ่ง ต่างมองเฉินตงด้วยความตกตะลึง
“ลูกเอ๊ย…….นี่ ของขวัญเหล่านี้มันเท่าไหร่แล้ว? นี่ยังว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยอีกเหรอ?”
น้ำเสียงของกู้โก๋ฮั้วสั่นเล็กน้อย แผ่นอักษรแผ่นเดียวก็สามร้อยล้าน บวกกับของขวัญอื่นๆ มูลค่าล้นฟ้าแล้ว!
ด้วยฐานะของเขา หลักร้อยล้านนั้นเป็นเพียงเป้าหมายเล็กๆของเขา แต่ให้ของขวัญกับคนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องมอบเป้าหมายเล็กๆออกไปมั้ง
สี่ร้อยแปดสิบล้าน!
ในใจเฉินตงนั้นมีตัวเลข เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลย และพอใจกับของขวัญที่ท่านหลงเตรียมให้
เขาไม่ขาดแคลนเงินทอง ตระกูลเฉินยิ่งไม่ขาดแคลนเงินทอง!
เพียงแค่สี่ร้อยแปดสิบล้าน กับพ่อที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็จะมอบบ่อน้ำมันให้คนอื่นเทียบกันแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลย
กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงนั้นเป็นพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่ง อยู่ในใจเขา แค่เงินสี่ร้อยแปดสิบล้านไม่มีค่าให้เอ่ยถึงเลย
ของขวัญนั้นมีมูลค่า แต่น้ำใจนั้นประเมินค่าไม่ได้!
เฉินตงยิ้มๆ กล่าวอย่างใจเย็น “ คุณอา ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อย”
หางตาของกู้โก๋ฮั้วกระตุกอย่างแรง สายตาที่มองเฉินตงก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว
หลี่หวั่นชิงถึงกลับรีบพูด “เฉินตง น้ำใจของนายพวกเราซาบซึ้งแล้ว แต่ว่าของขวัญพวกนี้มันแพงเกินไป ตอนนี้ธุรกิจของนายเพิ่งจะเริ่มต้น ไม่ควรที่จะมือเติบแบบนี้”
เงินหลักร้อยล้านสำหรับตระกูลกู้แล้ว ก็ไม่เท่าไหร่
แต่ในความคิดของหลี่หวั่นชิง เงินก้อนนี้เมื่ออยู่ในมือของเฉินตงต้องถือเป็นเงินก้อนใหญ่
เมื่อเทียบกับการมอบให้พวกเขา เห็นได้ชัดว่าเอาไปลงทุนทางธุรกิจ นั้นจะดีกว่า!
“น้ำใจที่คุณอาทั้งสองมีต่อผม มันคือบุญคุณที่ช่วยชีวิต แค่ของขวัญเล็กน้อย เฉินตงยังรู้สึกน้อยเลย ไม่มากหรอกครับ” เฉินตงส่ายหัว
บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยไท่ติ่งของเขา
มูลค่าของขวัญที่เขามอบให้นั้น เมื่อเทียบกับความเสียสละของบริษัทชิงหยิ่น มันเทียบกันไม่ได้เลย
“คุณมันโง่จริงๆเลย!” หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งได้สติ สายตาที่มองเฉินตงก็เปลี่ยนไปเลย
“เสี่ยวหยิ่ง อย่าพูดไปเรื่อย!” หลี่หวั่นชิงจ้องมองด้วยดวงตาที่สวยงาม ทำให้กู้ชิงหยิ่งตกใจจนอ้ำๆอึ้งๆ
เห็นกู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงยังจะโต้แย้งอีก ท่านเมิ่งจึงได้กล่าวขึ้น “ไอ้กู้ เฉินตงเขามีใจอยากจะตอบแทนนาย พวกนายรับไว้ก็พอแล้ว”
“แต่……….” กู้โก๋ฮั้วขยับริมฝีปากไปมา
ท่าทีที่จริงจังของท่าเมิ่ง “นายเสียเงินไปหลายร้อยล้าน ถือว่าเอาคืนจากเฉินตง ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
ได้ยินเช่นนี้ เฉินตงกับกู้โก๋ฮั้วก็หัวเราะพร้อมกัน
กู้โก๋ฮั้วยกมือ ก็เท่ากับว่าได้รับของขวัญไว้แล้ว แต่สายตาที่มองเฉินตงนั้น เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ของขวัญที่มีราคาแพงขนาดนี้ คืนนี้เจ้าหนุ่มคนนี้ต้องมีเรื่องอื่นอย่างแน่นอน!
เพียงแต่ สายตาที่ล้ำลึกของกู้โก๋ฮั้วมองไปด้านนอกห้องโถง ก็ขมวดคิ้วแน่น
เมื่อกี้เสียงที่อ่านรายการของขวัญ ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยมาก
แต่เพราะระยะห่างและสาเหตุของแสงไฟ สุดท้ายเขาก็เห็นไม่ชัด
“พ่อคะ อึ้งอยู่ทำไม กลับไปนั่งพร้อมกันเถอะ” เสียงแรกของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้สติของกู้โก๋ฮั้วกลับมา
“ตกลงเคยเจอกันที่ไหนนะ?” กู้โก๋ฮั้วหัวเราะอย่างเจื่อนๆ หันกายเดินเข้าไปในห้องอาหาร
และเจิ้งโก๋โส่ว ในเวลานี้พลางเดิน พลางถือกล่อง《ผิงอันเถี่ย》ไว้ในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง
เวลานี้ เขาถึงขั้นมีความรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาด้านนอก
เมื่อเขาเดินไปถึงยังห้องอาหาร ก็เงยหน้ามองเฉินตงอย่างจริงจัง พร้อมสายตาที่แน่วแน่!