คำพูดล้อเล่นที่ดังออกมาอย่างกะทันหัน
ทำให้พวกของเฉินตงทั้งสามคนอึ้งไปพร้อมกัน
เฉินตงยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน : “เขามีงานอดิเรกแบบนี้ด้วยหรือ ?”
“ความรักที่โหยหาระหว่างชายหญิง ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์” ท่านหลงยิ้มแบบเก้อเขิน
ก๊อกก๊อกก๊อก !
เฉินตงเคาะประตูอีกครั้ง
มีเสียงของความโมโหดังออกมาจากภายในห้อง
“นี่พวกคุณบังคับผมเองนะ พวกคุณบังคับผมเองนะ วันนี้ผมจะขอสู้ตายกับพวกคุณ !”
แอ๊ด !
ประตูเปิดออก
เป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แต่ใบหน้ากลับดูซีดเซียวเล็กน้อย อีกทั้งยังมีรอยคล้ำรอบดวงตา เดินออกมาจากห้องด้วยความโกรธ
เมื่อฉินเย่มองเห็นพวกของเฉิน ก็ผงะไป
ความโกรธที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าจางหายไปทันที แต่กลับมีท่าทีของความเฉื่อยชาและอ่อนแรงปรากฏขึ้นมาแทน
“พวกคุณคือใคร ?”
“สวัสดีฉินเย่ ฉันชื่อเฉินตง……”
เฉินตงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวแนะนำตัว
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ
ปัง !
ฉินเย่ปิดประตูห้องอย่างหยาบคายและรุนแรง พร้อมกับตะโกนว่า : “ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง ก็ไสหัวไปให้พ้น !”
ตรงไปตรงมาขนาดนี้เลยหรือ ?
เฉินตงทำสีหน้าจนใจ
นี่จะเรียกว่าเชิญยากได้อย่างไร แม้กระทั่งโอกาสที่จะเชิญก็ยังไม่มีเลย
คุนหลุนแสดงท่าทีของความโกรธออกมา เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้า กำลังยกเท้าขึ้นเพื่อที่จะถีบประตู แต่กลับถูกเฉินตงห้ามเอาไว้
ท่านหลงเคาะประตูใหม่อีกครั้ง เขายิ้มพลางพูดว่า : “ฉินเย่ ฉันคือท่านหลง เป็นคนของตระกูลเฉินคนนั้น”
แอ๊ด !
ประตูเปิดออกอีกครั้ง
ฉินเย่แววตาเป็นประกาย เขาจ้องมองไปที่ท่านหลง : “อ้าว ผู้เฒ่าหลง เมื่อครู่ผมเวียนหัวจึงไม่อาจจำคุณได้ในตอนแรก คุณมาที่ซีสู่เพื่อตั้งใจจะชวนผมออกไปเที่ยวโดยเฉพาะใช่ไหม ?”
เพียงประโยคเดียวทำให้ใบหน้าของท่านหลงแดงก่ำ และไอออกมาอย่างรุนแรง
เฉินตงและคุนหลุนหันมองท่านหลงด้วยแววตาแปลกๆ พร้อมกัน
คุนหลุนพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า : “ท่านหลง ปกติแล้วคุณก็มีงานอดิเรกเช่นนี้เหมือนกันหรือ ?”
เฉินตงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แต่กลับหันไปยกนิ้วหัวแม่มือให้กับท่านหลง
คนที่มีความทะเยอะทะยานต่อให้แก่แล้วก็ยังคงทะเยอทะยานอยู่ !
ความทะเยอทะยานของวีรบุรุษนั้น ไม่มีวันสูญสิ้นไปตามกาลเวลา !
“แหม ผู้เฒ่าหลง คุณพูดอะไรหน่อยสิ คุณนี่จริงๆ เลย ยังไม่ทันได้พูดได้จาก็มาเสียแล้ว ทำให้ผมไม่ทันได้เตรียมตัว แล้วแบบนี้จะแลกเปลี่ยนทักษะกับคุณได้อย่างไร ?”
เมื่อฉินเย่เห็นท่านหลงก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขายิ้มพลางโอบไหล่ของท่านหลงแล้วเดินเข้าไปในห้อง
เฉินตงและคุนหลุนเดินตามไปทางด้านหลัง ต่างก็หันมองหน้ากัน
เด็กหนุ่มคนหนึ่ง อยากจะแลกเปลี่ยนทักษะกับท่านหลง ?
ท่านหลงปิดบังไว้ได้แนบเนียนจริงๆ
“ฉินเย่ ที่ผมมาหาคุณในครั้งนี้ เพราะมีธุระสำคัญ”
ท่านหลงไม่อาจปั้นหน้าได้อีกต่อไป เขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วชี้ไปที่เฉินตง จากนั้นจึงกล่าวแนะนำว่า : “นี่คือคุณชายของตระกูลผม”
“คุณชายตระกูลเฉิน ?”
ฉินเย่เลิกคิ้ว เขาหันไปมองเฉินตงแล้วยิ้ม จากนั้นจึงยื่นมือขวาออกไป : “สวัสดีครับ ผมชื่อฉินเย่ ถ้ามีเวลาว่างก็มาแลกเปลี่ยนทักษะกันได้นะ ?”
เฉินตง : “……”
เขาไม่สนใจงานอดิเรกด้านนี้จริงๆ
เขาค่อนข้างจงรักภักดีกับชีวิตแต่งงาน
แต่โดยมารยาทแล้ว เฉินตงก็ยังคงยอมจับมือกับฉินเย่เพื่อแสดงการทักทาย
จากนั้นฉินเย่ก็หันไปมองคุนหลุนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด : “โอ้โห ดูจากร่างกายของพี่ชายคนนี้แล้ว ถ้าหากแลกเปลี่ยนทักษะกันคงจะต้องเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน !”
ต่อให้เป็นคุนหลุนก็รู้สึกหน้าแดงเพราะคำพูดประโยคนี้ได้
ท่านหลงไปอาจปั้นสีหน้าต่อไปได้อีก จึงรีบพูดออกไปตามตรง : “ฉินเย่ ที่ผมกับคุณชายมาที่นี่ ก็เพื่อต้องการที่จะเชิญคุณไปร่วมกับเปิดบริษัททางการเงิน !”
หลังจากได้ยินดังนั้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินเย่ก็จางหายไปทันที
เขาเหล่มองท่านหลงด้วยใบหน้าที่เย็นชา จากนั้นจึงหันกลับไปนั่งที่ริมหน้าต่าง แล้วจุดบุหรี่หนึ่งมวน
“ผู้เฒ่าหลง คุณก็รู้ดีนี่ มิตรภาพของเราถูกจำกัดอยู่แค่เรื่องของการแลกเปลี่ยนทักษะเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ผมไม่สนใจ”
ท่านหลงยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก : “ฉินเย่ ผมมาที่นี่ด้วยความจริงใจ คุณชายของผมเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ต่อไปก็จะขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ถ้าหากได้ความร่วมมือจากคุณแล้วล่ะก็ คุณชายของผมจะต้องยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน”
เฉินตงนั่งนิ่งไปพูดอะไร
เขาคิดไม่ถึงว่าท่านหลงและฉินเย่จะมีความสัมพันธ์กันในลักษณะนี้ด้วย
ดังนั้นการเชื้อเชิญในครั้งนี้ จึงควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านหลง
ด้วยบุคลิกที่แปลกประหลาดของฉินเย่ หากเขาเอ่ยปากคงไม่มีพื้นที่สำหรับให้เขาได้เจรจา
“ผู้สืบทอดมรดกตระกูลเฉิน ? เฉินตง ?”
ฉินเย่พ่นควันบุหรี่ออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความบูดบึ้งและดูถูกเยาะเย้ย : “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉินมีคนที่ชื่อว่าเฉินตงด้วย คงไม่ใช่ลิงป่าที่กระโดดออกมาจากก้อนหินนั่นหรอกใช่ไหม ?”
เสียงหัวเราะทำให้เฉินตงนั่งตัวแข็งทื่อในทันที
ส่วนท่านหลงเองก็หน้าถอดสี เขารีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว : “ฉินเย่ นิสัยปากเสียของเธอยังคงแก้ไม่หายจริงๆ !”
ฉินเย่ยักไหล่ : “ช่างเถอะผู้เฒ่าหลง ถ้าคุณอยากจะแลกเปลี่ยนทักษะจริงๆ ผมจะยอมอยู่เป็นเพื่อนคุณสามวันสามคืนเลย แต่ถ้าหากคุณมาเพื่อจะเชิญผม พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก ตระกูลเฉินกับตระกูลฉินไม่ยุ่งเกี่ยวกัน คุณต้องแน่แค่ไหน ที่กล้ามาเชิญคนตระกูลฉินอย่างผมไปช่วยคนตระกูลเฉินของพวกคุณ ?”
บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดในทันที
คำพูดเพียงประโยคเดียว กลับทำให้ท่านหลงไม่อาจหาเหตุผลมาหักล้างได้
ทันได้นั้น ก็มีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น
“คุณ ยังถือเป็นคนตระกูลฉินอีกหรือ ?”
เฉินตงยิ้มแล้วหันมองฉินเย่ด้วยสายตาที่เฉียบคม
ตุ๊บ !
ฉินเย่โยนบุหรี่ลงบนพื้นทันที จากนั้นจึงลุกขึ้นมาด้วยความโมโห : “คุณหมายความว่าอย่างไร ?”
บรรยากาศของความโกรธเกรี้ยวปะทุขึ้น
คุนหลุนก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องเฉินตง
ท่านหลงเองก็รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อขวางฉินเย่เอาไว้ด้วยเช่นกัน : “พ่อหนุ่ม ใจเย็นหน่อยได้ไหม ?”
ฉินเย่กลับตะคอกกลับมาด้วยความโมโห : “ผมคิดที่จะฆ่าเขาเสียด้วยซ้ำ คุณยังจะเตือนให้ผมใจเย็นอีกหรือ ?”
ท่านหลงรู้สึกตกใจมาก
ฉินเย่เคยฆ่าพ่อของตัวเอง
ถึงจะมีความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ แต่เรื่องที่ฆ่าคนนั้นก็ยังคงเป็นความจริงที่เกิดขึ้น
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดสงสัยว่าสิ่งที่ฉินเย่พูดออกมานั้นจริงจังหรือไม่ !
หลังจากนั้น
เฉินตงกลับยิ้มแล้วพูดว่า
“คนที่ฆ่าพ่อของตัวเอง จนต้องใช้เงินหลายหมื่นล้านเพื่อซื้อชีวิตเอาไว้ แล้วนายยังจะมาบอกกับฉันว่านายเป็นคนของตระกูลฉินอีก ? เรื่องตลกนี้ช่างน่าขำสิ้นดี !”
เฉินตงเดินก้าวเข้าไปข้างหน้า จนไปยืนอยู่ด้านหน้าของคุนหลุน
แววตาเฉียบคมของเขาจ้องเขม็งไปที่ฉินเย่ด้วยความโมโห แล้วยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย : “นายก็เหมือนกับฉัน เป็นลิงป่าที่กระโดดออกมาจากหลังก้อนหินเหมือนกัน แล้วจะสนใจเรื่องฐานะไปทำไม ? จะทำตัวเหมือนอนุสรณ์ แสร้งทำเป็นคนดีอย่างนั้นหรือ ?”
คำพูดรุนแรงกับมีดอันแหลมคมที่กรีดลงมา
สีหน้าของท่านหลงและหลุนคุนเปลี่ยนไปอย่างมาก หันมองไปที่เฉินตงอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
นี่……คือคุณชายจริงๆ หรือ ?
ตอนนี้ ทั้งสองรู้สึกเหมือนเฉินตงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“นี่……คือมารยาทที่คุณใช้เชิญผมอย่างนั้นหรือ ?”
ฉินเย่แสยะยิ้ม เขาจ้องมองเฉินตงด้วยแววตาที่ดุดัน ราวกับหมาป่าที่กำลังกระหายเลือด
จากนั้น
ตอนนี้เอง
จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเฉินตงก็ดังขึ้น
ฟ่านลู่เป็นคนโทรเข้ามา
เฉินตงขมวดคิ้ว แล้วกดรับโทรศัพท์
ทันใดนั้น เขาก็มีท่าทีที่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล
ตู๊ด !
เขากดวางสายโทรศัพท์
ฉินตรงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า : “ไม่เชิญแล้ว รีบไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้เลย”
เปรี้ยง !
ท่านหลงและคุนหลุนรู้สึกตกตะลึงพร้อมกัน
ท่านหลงรีบเอ่ยถาม : “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นครับ ?”
เฉินตงกำมือถือเอาไว้แน่น จนได้ยินเสียงกระดูกดังกรอด หางตาของเขามีเส้นเลือดนูนขึ้นมา
“แม่ของฉัน ถูกไอ้บ้านั่นลักพาตัวกลับตระกูลหลี่ไปแล้ว !”
ท่านหลงกับคุนหลุนหน้าถอดสีทันที
จากนั้นก็มีเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งของเฉินตงดังก้องกังวานขึ้นมาในห้อง
“ฉันยอมเขาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เขาก็ยังกล้าแตะต้องแม่ของฉัน ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษถ้าฉันถล่มตระกูลหลี่จนราบเป็นหน้ากลองก็แล้วกัน !”
พูดจบ เฉินตงก็หันหลังเดินจากไป
ท่านหลงและคุนหลุนหันมองหน้ากัน
ท่านหลงพูดว่า : “รีบไปเมืองหลวงก่อน ฉันจะรับติดต่อเจ้าบ้านทันที”
ทั้งสองรู้ดีว่า แม่คือสิ่งล้ำค่าที่สุดของเฉินตง
ใครจะมาแตะต้องไม่ได้ !
ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เฉินตงไม่มีทางยอมนิ่งดูดายแน่นอน
แต่ตระกูลหลี่สำหรับเฉินตงในตอนนี้ ก็ยังคงเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดตัวมหึมา
ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินออกจากห้องไป
จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะของฉินเย่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“เฮ้……ฟังดูแล้วก็น่าสนุกดีนะ ฉันอยู่นี่ก็รู้สึกเบื่อๆ ขอไปกับพวกคุณด้วยก็แล้วกัน ?”