จากนั้นเฉินตงก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
คุนหลุนและกูหลังที่กำลังอยู่ในระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้สึกโกรธแค้นจนถึงขีดสุด
“คุณชาย !”
กริชที่เดิมทีควรจะแทงเข้าไปที่หลังของฉู่เจียนเจีย แต่ในช่วงเวลาสำคัญ ด้วยการพลิกตัวกลับอย่างฉับพลันของเฉินตง ทำให้กริชแทงเข้าไปที่หลังของเฉินตงอย่างแม่นยำในทันที
ขณะที่เลือดสีแดงสดกำลังพุ่งทะลักออกมา เฉินตงพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะอุ้มฉู่เจียนเจียหลบออกไป
แต่ทันใดนั้นก็ถือมือขนาดใหญ่บีบเข้าที่คออย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกัน เฉินตงก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า กริชที่ปังอยู่ด้านหลังเล่มนั้นกำลังขยับอย่างรุนแรง
“ไปสิ !”
จู่ๆ ฉู่เจียนเจียซึ่งมีท่าทีเย็นชาก็ตะโกนออกมา
ผู้หญิงที่ดูบอบบางอย่างเธอ จู่ๆกลับกำหมัดแล้วต่อยเข้าไปที่หน้าของนักฆ่าอย่างแรง
นักฆ่าร้องครวญครางออกมา แล้วเดินโซเซถอยหลังไป
ตอนนี้เอง คุนหลุนและกูหลังก็วิ่งตามมาสมทบในที่สุด
“กูหลัง คุ้มกันคุณชายออกไป !”
คุนหลุนวิ่งตรงเข้าไปอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้าย แล้วกอดเอวของนักฆ่าจากนั้นจึงยกเขาจนตัวลอย
เขาจับนักฆ่าคนนั้นหมุน แล้วโยนไปที่กลุ่มนักฆ่าราวกับท่อนไม้
ตุ้บๆๆ…..
มีเสียงดังต่อเนื่องกันเกิดขึ้น
นักฆ่าสิบกว่าคนต่างตกตะลึงกับการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งของคุนหลุน จนกระทั่งค่อยๆ ถอนร่นออกไป
อาศัยช่วงจังหวะนี้
กูหลังรีบแบกเฉินตงขึ้นไปบนหลัง และพาฉู่เจียนเจียวิ่งออกไปจากเทียนเก๋อ
“คุณหนูฉู่ พาคุณชายของผมไปที ผมจะคอยระวังหลังให้ !”
หลังจากวางเฉินตงลง กูหลังก็วิ่งกลับเข้าไปในเทียนเก๋อโดยไม่หันหลังกลับมามองอีก
“กูหลัง……”
เฉินตงใบหน้าซีดเผือด เขากระซิบออกมาเบาๆ อย่างอ่อนแรง
“ไป !”
ฉู่เจียนเจียกลับพูดออกมาอย่างเย็นชาเพียงแค่หนึ่งคำ พร้อมทั้งกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอ
ร่างกายที่บอบบางของเธอ ค่อยๆ แบกเฉินตงขึ้นไปไว้บนหลังอย่างยากลำบาก จากนั้นจึงรีบวิ่งออกจากหมู่ตึกยู่ ฉวนในทันที
ตอนนี้เอง
จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเองก็รีบวิ่งออกมาจากเทียนเก๋ออย่างปลอดภัย
เมื่อเห็นศพมากมายที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นด้านนอกเทียนเก๋อ สองปู่หลานก็รู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาพร้อมกัน
พวกเขาหันกลับไปมองการต่อสู้อย่างดุเดือดที่กำลังเกิดขึ้นในเทียนเก๋อ
“หยู่หลัน เอาชีวิตรอดสำคัญที่สุด !”
คุณท่านใหญ่ตระกูลจางลากจางหยู่หลันวิ่งออกไปด้านนอกโดยไม่หันกลับมามองอีก
ภานในเทียนเก๋อ
คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ทั้งเสียงโห่ร้องและเสียงครวญครางดังต่อเนื่องไม่หยุด
ตอนที่โจวเย่นชิวนำกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่ตึกยู่ฉวนมาถึงเทียนเก๋อ
บนพื้นก็มีศพนอนจมกองเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้โจวเย่นชิวรู้สึกขนลุกและตัวสั่นไปทั้งตัว
อีกทั้งตอนนี้ เหตุการณ์ในเทียนเก๋อดูเหมือนจะสงบลงจนเป็นปกติแล้ว
กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งเตะจมูกจนทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียน
โจวเย่นชิวยืนนิ่ง มองเข้าไปในเทียนเก๋อด้วยความตกตะลึง ภายใต้แสงสว่างของโคมไฟ ทำให้เขาสามารถเห็นรอยเลือดที่สาดกระเซ็นอยู่เต็มไปหมด พร้อมทั้งศพที่นอนเรียงรายอยู่จำนวนมาก
เขาตัวสั่นและรู้สึกอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว
ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าถล่มลงมา
โจวเย่นชิวกับฟันและกำหมัดแน่น เขาค่อยๆ เดินนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปในเทียนเก๋อ
ในตาของเขามองเห็นสภาพที่น่าเวทนา
ศพจำนวนสิบกว่าศพนอนจมกองเลือดอยู่
เลือดถึงขั้นไหลออกมาเป็นกอง จนมาติดอยู่ที่เท้า
“มา ช้าขนาดนี้เลยหรือ ?”
จู่ๆ น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชาก็ดังขึ้น
ทำให้โจวเย่นชิวและบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกใจจนตัวสั่นพร้อมกัน
เมื่อหันไปมอง
มีคนสองคนกำลังนั่งพิงเสาอยู่บนพื้นดินท่ามกลางกองเลือด
ซึ่งก็คือคุนหลุนและกูหลัง
ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองได้รับบาดเจ็บและฟกช้ำ คุนหลุนมีเลือดอาบอยู่ทั่วตัว เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ขาดรุ่งริ่ง
ส่วนกูหลังมีบาดแผลอยู่ที่หน้าอกซึ่งยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สีหน้าซีดเผือด แต่แววตากลับฉาบประด้วยประกายของความกระหายเลือด
ทั้งสองจ้องมองไปที่โจวเย่นชิวพร้อมกัน
แววตากระหายเลือด ทำให้โจวเย่นชิวรู้สึกหนาวจนขนลุก ราวกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
“คุณ คุณเฉินล่ะ ?”
คุนหลุนและกูหลังหันมองหน้ากันแล้วไม่พูดอะไร
โจวเย่นชิวรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที เขากระทืบเท้าอย่างแรง : “ไม่ ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ! ฉันจะจัดฉากลอบฆ่าคุณเฉินแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร !”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น โจวเย่นชิวก็รู้สึกวิตกกังวลจนน้ำเสียงของเขาสั่นเครือ
เรื่องเกิดขึ้นในหมู่ตึกยู่ฉวน นี่เป็นอาณาเขตของเขา
ถ้าไม่สามารถคลายข้อสงสัยได้ในทันที
เรื่องในคืนนี้ คงพอที่จะทำให้เขาต้องจบชีวิตลงอย่างแน่นอน !
คุนหลุนและกูหลังแสยะยิ้มออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไร
โจวเย่นชิวคงไม่มีความกล้ามากขนาดนี้
แต่ตอนนี้ทั้งสองใช้พละกำลังที่มีไปจนหมดสิ้นแล้ว เฉินตงเองก็ถูกฉู่เจียนเจียพาตัวไปแล้ว พวกเขาจึงไม่อาจรับประกันได้ว่า หากพูดมากเกินไป จะทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกหรือไม่
โจวเย่นชิวเกาหัวด้วยความวิตกกังวล
“ไปหา ไปหาให้เจอเดี๋ยวนี้ ! ต่อให้พวกแกต้องตาย ก็ต้องพาคุณเฉินกลับมาให้ฉันให้ได้ !”
โจวเย่นชิวหันไปมองคุนหลุนและกูหลังด้วยความโมโห : “รีบส่งพวกเขาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ปิดข่าวทุกอย่างให้เงียบ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ รีบสืบสวนให้ฉันทันที !”
เหตุการณ์เกิดขึ้นในสถานที่ของเขา เขาไม่เพียงแต่จะต้องรีบคลายข้อสงสัยในตัวเขาให้หมดไปในทันทีเท่านั้น แต่เขายังต้องสืบหาความจริงให้กระจ่างเพื่อรายงานต่อเฉินตงและตระกูลเฉินอีกด้วย
โจวเย่นชิวร้อนใจจนตาแดงก่ำ เขาโกรธจนแทบอยากเอาหัวชนฝา
เพิ่งจะมอบ Tears of the Blue Sea ให้แก่เฉินตงไปหนึ่งเม็ดแท้ๆ เพียงชั่วพริบตา กลับเกิดเรื่องแย่ๆ เช่นนี้ขึ้นอีก ?
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
หมู่ตึกยู่ฉวนเต็มไปด้วยเหตุการณ์สยองขวัญ
ราวกับความเงียบสงบที่เกิดขึ้นก่อนที่พายุใหญ่กำลังจะมา เป็นสภาพที่กดดันจนทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก
ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงัด ระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดภายในหมู่ตึกยู่ฉวนทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้คำสั่งของโจวเย่นชิว
……
บนทางหลวงในเขตชานเมือง
รถพอเชอร์911สีแดง มุ่งหน้าเข้าไปในเมืองด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ภายในรถมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มไปหมด
เฉินตงนั่งพิงเบาะอย่างอ่อนแรง เขาเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด ในทางกลับกัน ใบหน้าของเขากลับแดงขึ้นอย่างผิดปกติ
ดวงตาของเขาเหลือบมองฉู่เจียนเจียที่กำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับรถ
เบาะรถเปียกชุ่มไปด้วยเลือด แต่เฉินตงในตอนนี้ กลับดูเหมือนไม่รู้สึกตัวอย่างน่าประหลาด
ฉู่เจียนเจียที่สัมผัสได้ถึงแววตาที่ผิดปกติของเฉินตงที่มองมา ทำให้ท่าทีที่เย็นชาของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน
เธอเอ่ยปากพูดออกมา : “อดทนอีกนิดนะ อดทนอีกนิดเดียวก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว”
ต่อให้เป็นคนที่ดูเย็นชาเช่นเธอ น้ำเสียงที่พูดในตอนนี้ก็ยังเกิดความสั่นเครือขึ้นเล็กน้อย
แต่เฉินตงกลับไม่ตอบอะไรกลับมา
ฉู่เจียนเจียจึงเหลือบไปดูกระจกมองหลังด้วยความกังวลใจ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมา ก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ
ใบหน้าอันงดงามของเธอ ปรากฏความกลัวขึ้นเล็กน้อย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ช่างอันตรายเกินไปจริงๆ
ถึงขั้นอาจต้องตายอย่างอนาถในที่เกิดเหตุได้
ที่เธอยังคงประคองสติอารมณ์ให้สงบนิ่งอยู่ได้ เป็นเพราะบุคลิกส่วนตัวตั้งแต่เล็กจนโตของเธอ ประกอบกับการปลูกฝังเลี้ยงดูของครอบครัว
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่กลัว
“ทำ ทำไม ถึงช่วยผม ?”
จู่ๆ เฉินตงก็พูดออกมาเบาๆ
ร่างกายของฉู่เจียนเจียสั่นเทา แววตาของเธอสั่นไหว เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า : “ไม่รู้เหมือนกัน แต่สภาพของคุณในตอนนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ฉันจึงเอาตัวเองเข้าไปขวางมีดเพื่อช่วยคุณตามสัญชาตญาณ”
“ผม ถูกวางยาแล้ว”
เฉินตงไม่ใช่คนโง่ ต่อให้เป็นเหล้าที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่านี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาตกอยู่ในสภาพอย่างเช่นนี้เป็นอยู่ตอนนี้ได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยดื่มจนเมา ความรู้สึกของการเมาเหล้า ต่อให้เมาจนขาดสติเขาก็รู้ดี
อาการวิงเวียนศีรษะ ขาดสติสัมปชัญญะ แขนขาอ่อนแรง
ถึงขั้นในท้องของเขาจะรู้สึกร้อนผ่าว ราวกับมีไฟลุกโชนอยู่ภายในร่างกาย จนลามขึ้นไปถึงใบหน้า
ถ้าไม่ใช่ถูกวางยาหรือถูกพิษ จะเป็นอะไรไปได้ ?
“วางยา ?”
ฉู่เจียนเจียพูดออกมาด้วยความตกตะลึง
หมับ !
ทันใดนั้น มือใหญ่ของเฉินตงก็วางลงไปบนต้นขาของฉู่เจียนเจีย
ฉู่เจียนเจียสวมเครื่องแต่งกายแบบนักธุรกิจของ OL ดังนั้นขาทั้งสองข้างของเธอ นอกจากจะมีกระโปรงคอยปิดบังเอาไว้อยู่ ก็มีเพียงแค่ถุงน่องบางๆ อีกเพียงหนึ่งชั้นเท่านั้น
ขณะที่มือใหญ่ของเฉินตงสัมผัสลงไป ทำให้หน้าของเธอถอดสีทันที เป็นความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต
ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในอาการตกใจ ทันใดนั้น มือใหญ่ของเฉินตงก็ค่อยๆ……