The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 218 โหดเหี้ยม!

บทที่ 218 โหดเหี้ยม!

“ เข้าใจ ”

เฉินตงพูดอย่างเย็นชา

เขาหันกลับไปมองฉินเย่

เวลานี้ ฉินเย่เต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว แต่ละแผลที่เฉือนลึกเข้าไปจนมองเห็นกระดูก

นี่เห็นได้ชัด ว่าต้องการฆ่าฉินเย่ให้ตาย ด้วยวิธีเฉือนร่าง

เลือดล้างด้วยเลือด ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต!

“ฉินเย่ ปล่อยฉันเถิด ได้โปรดปล่อยฉันไป

ฉันเป็นอาสามของนายนะ”

ร้องครวญครางอ้อนวอนขอความเมตตา

อาสาม?

เฉินตงได้ยินเช่นนี้ ความโกรธก็เพิ่มมากขึ้น

“ อาสาม? ”

ฉินเย่หัวเราะเย็นชาอย่างอ่อนแรง “ผมบอกแล้ว ว่าจะทำลายตระกูลฉิน”

ฉินเจิ้งหน้าซีด ขณะที่เผชิญกับสายตาของฉินเย่ เขาไม่กล้าแม้กระทั่งจะอ้อนวอนขอความเมตตา

“พวกคุณ จะรอผมลงมือเองรึ?”

เฉินตงยักคิ้วและมองไปทางสมาชิกตระกูลฉินอีกสี่คน “หรือว่า อยากไปอยู่ด้วยกัน ”

ซึงสมาชิกทั้งสี่คนของตระกูลฉินก็บาดแผลเต็มตัว

ในขณะที่เฉินตงกำลังตะโกนใส่เขา ร่างกายเย็นยะเยือก จนลืมความเจ็บปวดไปเลย

ทั้งสี่คนมองหน้ากันด้วยความลังเล

ฆ่าฉินเจิ้ง นี่เป็นโทษประหารเลยนะ !

“ฆ่ามัน ปล่อยพวกแก หากไม่ฆ่า ก็ไปตายด้วยกันซะ”

ท่านหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา แต่ฟังดูเหมือนฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง

ทันใดนั้น สมาชิกทั้งสี่คนของตระกูลฉินก็ลุกขึ้นยืน และพุ่งเข้าหาฉินเจิ้ง

ฉากนี้ ทำให้เฉินตงยิ้มเยาะในใจ

ฆ่ากันเอง นี่ตระกูลฉินเป็นถึงมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของซีสู่ได้ไง

ไม่แปลกใจ ที่ฉินเย่จะฆ่าพ่อของตัวเอง

ความลับในนั้น มันต้องเป็นสิ่งที่เกินความอดทนของฉินเย่แล้วจริงๆ

เฉินตงหันหน้ามองไปทางแสงไฟที่อยู่ไม่ไกลนัก หลุมที่ขุดเสร็จเรียบร้อย

และข้างบ่อหลุม มีกล้องวิดีโอที่ตั้งอยู่

เขาพูดอย่างเย็นชา “บันทึกเรียบร้อย แล้วนำกลับตระกูลฉิน”

ทั้งสี่คนไม่มีการตอบสนอง ท่าทีดุร้ายราวกับสัตว์ป่า พวกเขาแบกฉินเจิ้งเดินลงไปยังหลุม

เวลานี้ ใบหน้าซีดเผือด หมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นรนอีกต่อไป มองไปในหลุมที่ใกล้เข้าไปถึง ด้วยความสิ้นหวัง

เขานึกไม่ถึง ว่าแผนการทุกอย่างที่ตัวเองวางไว้ ตอนนี้กลับกลายเป็นสถานที่ฝังศพของเขา

กลิ่นปัสสาวะที่เหม็นรอยมา

กางเกงของฉินเจิ้งที่เปียกชุ่ม และน้ำตาแห่งความกลัวไหลออกมาจากดวงตาของเขา

สิบนาทีต่อมา

รถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่กำลังขับตรงไปยังโรงพยาบาลลี่จิง

บนรถ

ฉินเย่ซึ่งนอนสลบอยู่และหัวพิงบนตักของเฉินตง

แม้จะสลบไปอย่างหมดสติ แต่ยังคงขมวดคิ้วแน่น และโกรธเคือง

“ นี่มันแค้นหนักขนาดไหนกัน? ”

เฉินตงบ่นด้วยน้ำเสียงที่ไร้จิตวิญญาณ “ ท่านหลง คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องในตอนนั้นบ้างไหม? ”

ท่านหลงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ คุณชาย นี่เป็นความลับส่วนตัวของฉินเย่และตระกูลฉินซีสู่ กระผมก็มิอาจพูดอะไรได้ ไม่แน่ในวันหน้าฉินเย่เขาอาจยินดีที่จะเล่าให้คุณชายฟังก็เป็นไปได้ ”

เฉินตงขมวดคิ้ว “ คุณไปสืบเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมาสักละเอียดขนาดนี้แล้ว คุณยังจะมาบอกผมว่านี่คือความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น? ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด อย่ามาตอแหล ”

ท่านหลง “ …… ”

ระหว่างที่เปลี่ยนท่านั่ง เฉินตงขยับไปโดนบาดแผลที่แผนหลัง ถึงกับขมวดคิ้วแน่นเลย

ภายในรถ มีแต่กลิ่นคาวของเลือดที่เข้มข้น

ทั้งตัวของฉินเย่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด

แต่ก็ยังอดทนมาจนถึงตอนนี้

โดนมีดเฉือนไปสิบเก้าครั้ง ความเจ็บปวดนั้น แม้แต่เฉินตงก็ยังไม่กล้าจินตนาการ

เขาตกใจกับความอดทนของฉินเย่จริงๆ

ว่าแต่……..

“ ท่านหลง เรื่องราวในครั้งนี้ คุณพอรู้เรื่องบ้างไหม? ”

ชัดว่าเป็นเรื่องคืนนี้

ท่านหลงส่ายหน้าและกล่าวอย่างสงสัย “เหตุการณ์เกินขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่มีเวลาตรวจสอบอย่างละเอียด แต่น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ฉินเย่จะขอเอาตัวเองออกจากลำดับในวงศ์ตระกูล คงไม่มีตระกูลใดที่จะใจแคบเช่นนี้ เว้นแต่จะเป็นตระกูลที่ใช้อำนาจมืด ถึงจะทำเช่นนี้ แต่ความเป็นไปได้ก็น้อยนัก ”

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น “ เช่นนั้นก็รอฉินเย่ตื่นถึงจะรู้เรื่อง แต่ว่า….. ”

เขากำมืออย่างแน่นและชกไปที่หน้าอกของฉินเย่อย่างเบามือ

“ นายต้องรอดนะเว้ย น้องชาย ”

……………

สามวันต่อมา

ในที่สุดฉินเย่ก็ได้ออกจากห้องICU และย้ายไปยังห้องVIPผู้ป่วยทั่วไป

และเฉินตงก็โล่งอกไปสักที

ใบแจ้งอาการฉุดเฉินหลายสิบฉบับที่ออกโดยโรงพยาบาลในช่วงสามวันที่ผ่านมา ถูกฉีกทิ้งเป็นชิ้นๆ

เมื่อหันเดินกลับไปยังห้องผู้ป่วย ฉินเย่ก็ได้สติขึ้นมาแล้ว

แต่ก็ยังอ่อนแรงอยู่ ใบหน้าซีดเผือดไม่มีสีเลือด

ฉินเย่ในเวลานี้ ถูกพันด้วยผ้าขาวทั้งตัว อย่างกับมัมมี่

“ ในที่สุดผมก็รอดมาได้ ”

เฉินตงกับฉินเย่สบตากันและยิ้มอย่างโล่งใจ

“ ขอบคุณ ขอบคุณ……. ”

เสียงของฉินเย่อ่อนแรงมาก จนยากที่จะได้ยินผ่านเครื่องช่วยหายใจ

เฉินตงส่ายหน้า และมานั่งข้างเตียง

มองไปที่ท่านหลง และถามว่า “ คุณสืบไปถึงไหนแล้ว ”

“ ยังเลย ตระกูลฉินปกปิดได้ดีมาก ”

ท่านหลงส่ายหน้า “ อีกอย่าง เรื่องของฉินเจิ้ง สามวันมานี้ ตระกูลฉินก็ยังนิ่งเฉย”

คืนนั้นหลังจากส่งฉินเย่เข้าห้องฉุกเฉิน เฉินตงก็ได้สั่งท่านหลงให้ใช้อำนาจของตระกูลเฉินไปตรวจสอบสาเหตุของการฆ่าฉินเย่

สามวันมานี้ ก็ยังไม่มีแม้แต่วี่แวว

อย่างไรก็ตาม เขานึกไม่ถึงว่าตระกูลฉินจะนิ่งเฉยกับเรื่องของฉินเจิ้งที่เกิดขึ้น

เฉินตงส่ายหน้า และก้มหน้ามองฉินเย่ “ ก็มีแต่ถามนายแล้วแหละ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะฆ่านาย? ”

ฉินเย่นัยน์ตาดูเศร้าหมอง

หลังจากนิ่งไปไม่กี่วินาที

จู่ๆ เขาก็หัวเราะ

แม้ว่าเขาจะอ่อนแออย่างหนัก แต่เขายังคงเยาะเย้ยถากถาง ท่าทางไม่แคร์อะไรทั้งนั้น

“ไม่มีอะไร ”

เขายักไหล่ และสะเทือนไปถึงบาดแผล ทำให้เขาเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว นิ่งไปสักพักก่อนที่จะพูดว่า ผมก็แค่ ขุดหลุมฝังศพของพ่อ และโรยขี้เถ้าทิ้ง

ตูมมม!

เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย แต่กลับเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน

ทำให้เฉินตงและท่านหลงตกใจจนหน้าอึ้ง

ฆ่าพ่อไม่พอ?

ยังไปขุดหลุมฝังศพและโรยขี้เถ้าทิ้ง

โหดเหี้ยมจริง!

ไม่ต้องตกใจ ….แค่ก แค่ก แค่ก…..

ฉินเย่ยิ้มอย่างเฉยเมย และไออย่างรุนแรงเพราะอาการบาดเจ็บของเขา จึงกล่าวต่อว่า ฉันไม่ใช่คนของตระกูลฉินแล้ว ทำไม…..จะทำไม่ได้?

ประโยคนี้ ทำให้เฉินตงและท่านหลงพูดไม่ออก

แต่เฉินตง ยังคงสัมผัสถึงความซับซ้อนในแววตาของฉินเย่ได้อย่างชัดเจน

แววตาที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด แต่สามารถสัมผัสได้ถึงความเกลียดชัง

อาจเป็นเพราะเกลียดจนสุดขีดแล้วจริงๆ ถึงได้เป็นเช่นนี้

“ พักผ่อนให้ดีๆเถอะ”

เฉินตงหายใจเข้าลึกแล้วลุกขึ้นเดินออกจากไป

ท่านหลงก็เดินตามออกไปจากห้องผู้ป่วย

เฉินตงเอนตัวไปพิงข้างกำแพงทางเดิน ในหัวยังคงมีแต่แววตาของฉินเย่ที่เห็นเมื่อกี้ ปรากฏขึ้นมาอยู่เรื่อย เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เหมือนอกจะระเบิด

เขานึกว่าอดีตของเขานั้นมันมืดมนมากแล้ว

แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เมื่อเทียบกับอดีตของฉินเย่แล้ว เขาก็ถือว่าอยู่ในความสว่างแล้ว

“เด็กคนนี้ แบกภาระไว้เยอะเกิน ” ท่านหลงถอนหายใจ “ตระกูลฉินมันเป็นพวกเดรัจฉานสวมเสื้อผ้าจริงๆ ”

เฉินตงมองท่านหลงอย่างประหลาดใจ

แต่ยิ้มเล็กน้อย “ดูแลเขาให้ดี ผมออกไปก่อน ”

“วางใจเถอะคุณชาย ท่านหลงกล่าวอย่างนอบน้อม”

เฉินตงยกนิ้วโป้งขึ้นโดยไม่หันกลับมามอง “ท่านหลง ก่อนหน้านี้ลืมชมท่านแล้ว ท่านซ่อนได้ลึกจริงๆ วิชาไทเก๊กของท่าน คาดว่าเจอกับคู่แข่งอย่าคุนหลุนก็ไม่เกรงกลัวแล้วล่ะมั้ง? ”

ท่านหลงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “ที่ไหนกัน? นั่นมันได้มาจากระหว่างที่แลกเปลี่ยนทักษะกับฉินเย่ทั้งนั้น เอาไปสู้ใครไม่ได้หรอก ”

“ เชอะ ”

เฉินตงยิ้มอ่อนๆ

ขณะเดียวกัน

ตระกูลฉินแห่งเมืองซีสู่กลับมีบุคคลสำคัญท่านหนึ่งมาเยือน…..

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท