The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 419 โกรธจนเก็บอาการไม่อยู่

บทที่ 419 โกรธจนเก็บอาการไม่อยู่

ในห้องทำงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เฉินตงยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม ราวกับรูปปั้น มองดูทัศนียภาพภายนอกอยู่ที่ริมหน้าต่าง

และยกแก้วชาขึ้นมาจิบเป็นครั้งคราว

แต่นั่งอยู่ในท่าทีผ่อนคลาย

ถึงเวลาออกล่าแล้ว!

เขากำลังรอ รอให้ทางด้านของฉินเย่ส่งข่าวมา

การแข่งขันด้านเงินทุน เมื่อขาดยักษ์ใหญ่อย่างRothschildไป เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย

ดาบคมกริบกำลังปักลงไปบนหัวของทั้งสองบริษัทอย่างเงียบๆ

นอกห้องทำงาน

เสี่ยวหม่าและกูหลังต่างก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“พี่กูหลัง วันนี้พี่ตงเป็นอะไรไป?”

เสี่ยวหม่าถือเป็นผู้ช่วยมือดีของเฉินตงในบริษัท ตอนนี้เขาเองก็ยังรู้สึกงุนงง “มาบริษัทตั้งแต่เช้า เอาแต่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง และไม่ลงมือทำงานอะไรเลยสักนิด”

“บริษัทของเราคงไม่ได้มีปัญหาใหญ่หรอกใช่ไหม? ผมจำได้ว่าตอนนั้นที่บริษัทมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านสลัมทางภาคตะวันตกของเมือง ประธานเฉินก็เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน?” มีคนคาดเดาขึ้นมา

“จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของบริษัทของเราเลย หากไม่ใช่เพราะประธานเฉินถ่อมตัวแล้วล่ะก็ ตอนนี้บริษัทของเราคงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไปแล้ว” มีพนักงานบางคนพูดขัดขึ้นมา

สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่กูหลัง

ความคิดเช่นเดียวกับเสี่ยวหม่า ในสายตาของพวกเขา กูหลังใกล้ชิดกับเฉินตงมากที่สุด

เสี่ยงหม่าเพียงแค่รับผิดชอบงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งเท่านั้น

ส่วนกูหลัง มีส่วนร่วมในเรื่องส่วนตัวของเฉินตงด้วย

“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

กูหลังลูบจมูกอย่างเก้อเขิน “เมื่อครู่เข้าไปรินน้ำชาให้คุณเฉิน ได้ยินเขาพูดแต่ว่าได้เวลาออกล่าแล้ว บอกว่าอาจจะแจกโบนัสให้กับพวกเรา”

โบนัส?!

ทุกคนต่างผงะไป รวมถึงเสี่ยวหม่าด้วย

ช่วงนี้……ไม่มีโครงการที่จะแจกโบนัสนี่?

สงสัยก็สงสัย แต่ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมา

ตอนที่พวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติที่สุดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ที่ต่างตัดสินใจทำงานกับเฉินตงต่อไป ก็เป็นเพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเฉินตง

ในขณะเดียวกัน ก็คาดหวังว่าจะได้เฉลิมฉลอง

โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านสลัมแถบภาคตะวันตก ทำให้ทุกคนในบริษัทต่างก็อิ่มท้องไปตามๆ กัน

เฉินตงเองก็ไม่เคยตอบแทนพนักงานทุกคนอย่างขาดตกบกพร่อง!

ในใจของพนักงานทุกคนของไท่ติ่งรู้ดีว่า ที่ติดตามเฉินตงมาตั้งแต่แรก เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว!

เวลาใกล้เที่ยง

ในที่สุดเสียงโทรศัพท์ของเฉินตงก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าฉินเย่เป็นคนโทรเข้ามา

เฉินตงก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วกดรับสาย

“พี่ตง เก็บเกี่ยวกำไรเรียบร้อยแล้ว!”

ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่พยายามข่มความยินดีเอาไว้ แต่ก็ยังเผยให้เห็นความรู้สึกออกมา

“เท่าไหร่?” เฉินตงถามด้วยความอยากรู้

เฉินเย่หัวเราะร่าออกมา “ตอนนี้ยังไม่บอกพี่ก่อน ตอนบ่ายยังมีครึ่งหลังอีก ตอนเช้าผมยังไม่ให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าตลาด ตอนบ่ายหากผ่านไปได้ด้วยดี ครั้งนี้คงเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของเรา และคงทำให้พวกเราอิ่มจนพุงกาง”

ตู้ด!

เฉินตงวางสายโทรศัพท์

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าหมอนี่ ยังมีลับลมคมในกับฉันอีก?”

แต่เมื่อฉินเย่บอกว่าไม่ได้ให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าตลาด ก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

เพียงแค่อาศัยบริษัทของตัวเอง หงหุ้ย และจุนหลิน กรุ๊ป ก็สามารถทำกำไรได้สำเร็จ หากตอนบ่ายเมื่อเปิดตลาด แล้วให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าร่วมในตลาดด้วยแล้วล่ะก็……นั่นคงจะแข็งแกร่งดุจภูเขาไท่ซานจริงๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็ยิ้มร่าออกมา “อยากจะกินเฉินตง ก็คอยดูละกันว่าใครกระเพาะใหญ่กว่าใคร!”

อีกทางด้านหนึ่ง

ที่ตระกูลเฉิน

ภายในห้องเงียบสงัด

เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนหย่าง และเฉินหยู่เฟยนั่งนิ่งด้วยใบหน้าซีดเผือด

เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ สองชั่วโมงเมื่อครู่ ทำให้พวกเขารู้สึกงุนงงราวกับอยู่ในความฝัน

เก็บเกี่ยว!

ถูกเก็บเกี่ยวไปอย่างหมดเปลือก!

ถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี!

ความตื่นเต้นยินดีในตอนแรกที่เป็นเฉินตงถูกโจมตีอย่างหนัก ตอนนี้ความตื่นเต้นนั้นกลับแปรเปลี่ยนไป ความยินดีกลับแปลเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง

“นี่ นั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เฉินเทียนหย่างเอ่ยปากทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด “ทำ ทำไมพวกเราถึงถูกเล่นงานกลับเสียแล้ว? ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า?”

ความรู้สึกที่เหมือนไม่เป็นความจริง ทำให้เฉินเทียนหย่างเหม่อลอยไป ไม่สามารถตั้งสติได้

เมื่อครู่เพียงแค่เปิดตลาด ทางฝั่งฉินเย่ก็ลงมือเก็บเกี่ยวอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า และบ้าคลั่ง

สถานการณ์ที่น่ากลัวที่เช่นนี้ แตกต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานราวฟ้ากับดิน!

ใบหน้าอันงดงามที่ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึงของเฉินหยู่เฟย ค่อยๆ เผยความหวาดกลัวออกมา ริมฝีบางขยับเล็กน้อย “พวกเรา ดีใจกันเร็วเกินไปใช่ไหม?”

มีเพียงแค่เฉินเทียนเซิงที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทีดุร้ายราวกับงูพิษ มีรังสีของความโกรธแค้นแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งตัว

ถึงแม้จะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเช่นเขา แต่ในเวลานี้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือ ให้สติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ ช่วยควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองไม่ให้ปะทุออกมา

“พี่ พี่พูดอะไรหน่อยสิ!”

เฉินเทียนหย่างเห็นเฉินเทียนเซิงนิ่งเงียบไป ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที “การเก็บเกี่ยวเฉพาะช่วงเช้า พวกเราก็ขาดทุนไปมหาศาลแล้ว เมื่อวานไม่ได้เป็นแบบนี้เสียหน่อย!”

ปัง!

เฉินเทียนหย่างให้ฝ่ามือตบโต๊ะ และพูดขึ้นมาทันทีว่า “หรือพวกเราจะถูกเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาหักหลังเข้าแล้ว?”

เฉินหยู่เฟยผงะไป จากนั้นแววตาที่มองเฉินเทียนหย่างก็ดูแปลกไป

“เจ้าโง่!”

เฉินเทียนเซิงลูบหน้าอย่างแรง แล้วจ้องมองเฉินเทียนหย่างด้วยแววตาดุดัน “เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวารู้ดีว่าเราเป็นคนตระกูลเฉิน พวกเขาไม่กล้าที่จะหักหลังพวกเราหรอก!”

สายตาค่อยๆ เลื่อนไปมองยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ “พวกเรา……คงถูกเฉินตงและฉินเย่ ตลบหลังเข้าให้แล้ว”

คำพูดที่ทำให้รู้สึกตกตะลึง

สีหน้าของเฉินเทียนหย่างและเฉินหยู่ไปเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เมื่อคิดถึงภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ความหวาดกลัวก็พลุ่งพล่านจากเท้าของพวกเขาทั้งสองขึ้นไปบนหัว

ริมฝีปากแดงระเรื่อของเฉินหยู่เฟยสั่นเทา “คำพูดเตือนสติของพี่เทียนเซิง ฉัน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่พวกเขาขาดทุนไปพันล้านเมื่อวาน เหมือน เหมือนกับว่าจงใจล่อเหยื่อพวกเรา?”

“บ้าเอ๊ย ลูกสวะนั่น นอกจากความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย!”

เฉินเทียนหย่างก่นด่าด้วยความโมโห

เฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยหันมองเฉินเทียนหย่างด้วยท่าทีแปลกๆ และรู้สึกประหลาดใจ

ความเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่หนึ่งในคุณสมบัติที่เจ้าบ้านพึงมีอย่างนั้นหรือ?

แต่ทั้งสองคนก็ไม่พูดอะไร

เฉินหยู่เฟยหันมองเฉินเทียนเซิงอย่างจริงจัง “พี่เทียนเซิง พวกเราจะถอนตัวกันดีกว่าไหม?”

ถึงแม้ช่วงเช้าจะถูกเก็บเกี่ยวกำไรไปหนึ่งระลอก แต่ถ้าหยุดการสูญเสียได้ทันเวลา ก็ยังพอควบคุมการสูญเสียได้

ทว่า

เฉินเทียนเซิงกลับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น และพูดด้วยความโศกเศร้า “ยังถอนตัวได้อีกหรือ? ทุกอย่างเริ่มขึ้นแล้ว ใครจะไปห้ามไม่ให้หิมะถล่มลงมาได้?”

คำพูดเดียว แต่กลับทำให้เฉินหยู่เฟยพูดอะไรไม่ออก

ส่วนเฉินเทียนหย่างซึ่งอยู่อีกทางด้านหนึ่งกลับโกรธจนหน้าเขียวและกัดฟันแน่น

ทั้งสามรู้ดีว่าสถานการณ์ทางการเงินเป็นเช่นไร เมื่อเงินทุนหลายพันล้านเข้าไปสู่ตลาด คิดว่าเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองชั่วโมงในตอนบ่าย จะสามารถถอนทุนกลับมาได้ทันอย่างนั้นหรือ?

ภายในห้องเงียบสงัด

เหมือนบรรยากาศทุกอย่างหยุดนิ่ง

ประจวบเหมาะกับในตอนนี้

โทรศัพท์ของเฉินเทียนเซิงดังขึ้น

เฉินเทียนเซิงที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจัด ไม่แม้แต่จะมอง เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะและกดเปิดลำโพง

“สวัสดีครับคุณผู้ชาย ห้องจัดเลี้ยงที่คุณจองไว้ ได้ถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว พร้อมรอต้อนรับตลอดเวลาครับ”

นี่เป็นสายโทรศัพท์จากสถานที่จัดเลี้ยงที่เฉินเทียนเซิงได้จองไว้ล่วงหน้า

คำพูดง่ายๆ ประโยคเดียว กลับเหมือนมีดที่ถูกเผาจนร้อน ทิ่มแทงลงมาที่ใจของพวกเฉินเทียนเซิงทั้งสามคนอย่างรุนแรง

วินาทีถัดมา

เส้นเลือดบริเวณหางตาของเฉินเทียนเซิงปูดโปนขึ้นมา ใบหน้าดุร้าย และอารมณ์โกรธก็ปะทุออกมา

“ต้อนรับบ้าอะไร ไสหัวไปให้พ้น!”

ตุ้บ!

หลังจากส่งเสียงด้วยความโกรธออกมา เฉินเทียนเซิงก็โยนโทรศัพท์ลงไปบนพื้นอย่างแรงจนแตกละเอียด

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท