The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 431 เจิ้งจุนหลิน

บทที่ 431 เจิ้งจุนหลิน

เมื่อแสงอาทิตย์ลาลับ ความมืดเข้ามาแทนที่

สถานที่อย่างบาร์เหล้าเป็นที่รวมตัวกันของคนหลากหลายอาชีพ ที่มีคนดีเลวผสมปนเปกันไป

มีบรรดาไฮโซที่กินอยู่อย่างหรูหรา และมีคนรากหญ้าที่ต้องการหาความบันเทิงใจเมื่อชีวิตไม่เป็นไปดั่งหวัง

จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะตามสืบข่าวของจุนหลิน กรุ๊ปได้ในสถานที่เช่นนี้

อาจจะง่ายถึงขั้นดื่มเหล้าเพียงแก้วเดียว

บาร์ทไวไลท์

ที่นี่เป็นบาร์เหล้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ ดนตรีเฮฟวีเมทัลกำลังส่งเสียงดังสนั่นหู

ดวงไฟหรูหราหลากสีส่องลำแสงกวาดไปบนฟลอร์เต้นรำตามจังหวะเสียงเพลง

กลุ่มคนเคลื่อนกายส่ายไหวและพากันดื่มเหล้าเมามายเต็มที่ภายใต้ความมืดมิด

อากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุราที่เสียดแทงจมูก

กริ๊ง!

เสียงเคาะกระดิ่งกังวานดังก้องขึ้นอย่างกะทันหัน

ดีเจบนเวทีกำลังสนุกสนานได้อารมณ์ “คืนนี้คุณชายเจิ้งเลี้ยง!”

เย้!

ในตอนนั้นเสียงฝูงชนดังอื้ออึงขึ้นด้วยความดีใจพร้อมๆ กับเสียงดนตรีที่เปิดดังขึ้น

ที่โซฟาเลานจ์วีไอพีในความมืดสลัวนั้น

หนุ่มวัยรุ่นที่มีใบหน้าอ่อนวัยคนหนึ่งอายุราวๆ ยี่สิบปี กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย

เขาแต่งกายด้วยชุดสูทที่ดูโดดเด่นกว่าคนทั่วไป

ผิวหน้าขาวใสของเขาสะท้อนความร้ายกาจออกมา

ทว่ารอยยิ้มของเขากลับดูเปล่าเปลี่ยวและเบื่อหน่าย

รอบๆ ตัวเขามีสาวสวยเซ็กซี่แต่งตัวจัดจ้านรายล้อมราวกับฝูงหงส์ห้อมล้อมมังกร พวกเธอกำลังดื่มด่ำกันอย่างสนุกสนาน

“คุณชายเจิ้ง ชนแก้วกันหน่อยค่ะ”

สาวสวยคนหนึ่งโน้มตัวลงเน้นให้เห็นโค้งเว้าร่างกายเย้ายวน มีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อ เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชวนมอง

เพี๊ยะ!

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายเจิ้งกลับหยิบธนบัตรปึกหนึ่งออกมาฟาดลงไปที่หน้าอกของสาวสวยคนนั้น

สีหน้าของเขาเย็นชาถึงขั้นดูไร้อารมณ์พลางชี้นิ้วไปยังเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ “ในเมื่อเธอชอบดื่มขนาดนี้ ก็ดื่มเข้าไปให้หมดนี่เลย”

จู่ๆ ก็พูดเช่นนี้

ทำให้คนที่นั่งอยู่ในโซนโซฟาเลานจ์นี้เงียบลงทันใด

หญิงสาวคนอื่นๆ ที่รายล้อมอยู่ต่างพากันเงียบกริบไม่ปริปาก

ส่วนสาวสวยที่ถูกเงินฟาด สีหน้าถอดสีและชะงักไปในตอนนั้น

“ดื่มสิ!”

คุณชายเจิ้งล้วงเอาเงินออกมาอีกปึกหนึ่งแล้วฟาดลงบนหน้าอกของหญิงสาวคนนั้นอีก “แก้วละหมื่น เธอยิ่งดื่มเยอะเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งให้เยอะเท่านั้น! เธอชอบดื่ม ฉันก็ชอบดูเธอดื่มเหมือนกัน!”

เขาพูดพลางล้วงเงินทีละปึกออกมาวางกองอยู่ตรงหน้าหญิงสาวคนนั้น

ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง

เพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นที่ด้านหน้าของหญิงสาวคนนั้นก็มีธนบัตรสีแดงกระจายอยู่เต็มไปทั่ว

“นี่ถึงแสนนึงแล้วใช่ไหมน่ะ” เมื่อหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้สติก็เอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ส่วนหญิงสาวที่ถูกใช้เงินฟาดตอนนั้นได้สติกลับมาแล้ว เธอมองเงินตรงหน้าแล้วกัดฟันตัวเองแน่น จากนั้นจึงตัดสินใจหันไปหยิบเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม

คุณชายเจิ้งยิ้มหยัน แล้วควักเงินปึกหนาออกมาทุ่มลงบนโต๊ะ

“จะดื่มหมดนี่เลยจริงดิ!”

หญิงสาวที่รายล้อมหลายๆ คนเริ่มได้สติกลับมา พวกเธอพุ่งเข้าไปหาสุราที่อยู่บนโต๊ะราวกับสัตว์ที่หิวกระหาย

ส่วนคุณชายเจิ้งที่มีสีหน้าเย็นชามาตลอดนั้น เวลานี้แสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

คนจำนวนมากในบาร์เหล้าแห่งนี้เริ่มหันมามอง

เป็นภาพที่ยากจะไม่ใส่ใจ เพราะทุกคนต่างรู้ว่าชายหนุ่มที่ดูอันตรายผู้นั้นเป็นคนเลี้ยงคืนนี้

ทั้งยังมีคนจำนวนมากที่มองด้วยสายตาชื่นชม

คนรวย…จะทำอะไรก็ได้

ส่วนบริเวณโต๊ะที่อยู่หน้าเวทีอีกด้านหนึ่ง เฉินตงแอบมองเหตุการณ์นั้นอยู่อย่างเงียบๆ “น่าสมเพช”

“คุณชายไม่เข้าใจหรอกครับ นี่มันเรื่องปกติมาก”

ท่านหลงโยกร่างเบาๆ ไปตามเสียงเพลง ร่างกายที่ปกติผอมบางเหมือนตัวจะหัก ตอนนี้กลับมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่ามหัศจรรย์

สีหน้าของคุนหลุนที่อยู่ข้างๆ แปลกประหลาด เขาคิดจะปรามท่านหลงลง

แต่ท่านหลงไม่รู้ตัว เขากระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

เฉินตงขยี้จมูกอย่างเอือมระอา ในความคิดของเขา ภาพลักษณ์ของท่านหลงนับวันก็ยิ่งพังลงทุกวัน

“คุนหลุน ไปสืบข่าวมาหน่อย”

เฉินตงไม่สนใจท่านหลง แต่สั่งให้คุนหลุนไปสืบสถานการณ์มาแทน

“คุณชาย ผมมีเสี่ยวลู่อยู่แล้วนะครับ” คุนหลุนลังเล

เฉินตงเงียบไป แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกไป ท่านหลงก็เดินพลางโยกตัวเข้าไปยังฟลอร์เต้นรำเสียแล้ว

เฉินตง “……”

คุนหลุน “……”

“รูปหล่อ อยากได้คนเป็นเพื่อนไหมล่ะ”

สาวสวยแต่งตัวจัดจ้านสองสามคนเดินโยกตัวเข้ามายังโซฟาเลานจ์

เฉินตงส่ายหน้า “ผมกลัวพวกคุณจะมาแย่งเหล้าผมกินมากกว่า”

หญิงสาวกลุ่มนั้นช็อกไป จากนั้นจึงก่นด่าพลางเดินห่างออกไป

“พระเจ้า เพิ่งเคยเห็นคนขี้งกขนาดนี้ คิดว่าคนมาที่บาร์เพื่อดื่มเหล้าอย่างเดียวหรอ”

“คุณพระ งกขนาดนี้ทำไมไม่ไปนั่งกินร้านข้างถนนล่ะ จะมาสถานที่หรูๆ อย่างที่บาร์นี้ทำไม”

“กาดำคิดอยากจะย้อมตัวเป็นหงส์สิท่า”

เฉินตงไม่ได้ใส่ใจ เขาจะปล่อยให้พวกผู้หญิงกลางคืนมาล้อมรอบกายเขาได้อย่างไร?

สิบนาทีต่อมา

เฉินตงกับคุนหลุนที่กำลังจิบสุรากันอยู่นั้นหยุดชะงัก และสีหน้าแปรเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ

เนื่องจากเห็นท่านหลงเดินกลับมาที่โซฟาเลานจ์ โดยโอบสาวเข้ามาทั้งซ้ายขวา

ใบหน้าสูงวัยของเขาปรากฏความภาคภูมิใจ สาวสวยทั้งสองในอ้อมอกต่างกำลังคลอเคลียอย่างเย้าอารมณ์

เฉินตงมองดูหญิงสาวทั้งสองคนจึงเห็นว่าอายุค่อนข้างแตกต่างจนถึงขั้นสามารถเรียกท่านหลงว่าปู่ยังได้

แต่คำว่าความรักนี้เองที่พาให้พวกเขามีโอกาสได้โคจรมาเจอกัน

และหนึ่งในสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นสาวน้อยที่คุณชายเจิ้งใช้เงินฟาดหัวให้ดื่มสุราเข้าไปจนหมดก่อนหน้านี้

เมื่อนั่งลงแล้วจึงเห็นว่าสาวน้อยคนนี้เมามาก เธอตัวอ่อนตัวพับนั่งลงบนโซฟา สายตาของเธอล่องลอย แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ

“ดื่มเยอะเพื่อเงิน มันคุ้มแล้วเหรอ”

เฉินตงมองสาวน้อยคนนั้นด้วยความข้องใจ

เมื่อก่อนตอนที่เขายังเป็นรองประธานของบริษัทไท่ติ่ง บ่อยครั้งเขาต้องพาลูกค้าไปคุยงานกันตามบาร์และร้านคาราโอเกะต่างๆ แต่เขาก็ขีดเส้นให้ตัวเองเสมอจึงไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสาวน้อยพวกนี้

“ฮ่าๆ คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเงินมันดีขนาดไหน”

สาวน้อยคนนั้นยิ้มพลางโบกมือไปมา ดวงตาของเธอปรากฏน้ำตาคลอ “ฉันลำบากตั้งแต่เด็ก แม่ทิ้ง พ่อก็ป่วยติดเตียง แถมยังต้องส่งน้องชายเรียนมหาวิทยาลัยอีก ที่ฉันยอมออกมาทำอะไรแบบนี้ก็เพื่อเงิน ดังนั้นมีงานอะไรก็ต้องทำ…”

เธอพูดพลางร้องไห้กระซิก

ราวกับคำถามของเฉินตงไปกระตุ้นอารมณ์บางอย่างเข้า เธอจึงมองเฉินตงเป็นที่ระบายความในใจ

ท่านหลงกับคุนหลุนที่อยู่ข้างๆ เห็นอย่างนี้ก็ได้แต่พูดไม่ออก

“พล็อตเรื่องเก่าๆ แบบนี้ยังเอามาใช้อยู่อีกหรอ”

เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเป็นเช่นนี้ เฉินตงจึงหัวเราะออกมาอย่างเอือมระอา

เขาขี้เกียจจะสนใจเรื่องที่หญิงสาวคนนี้แต่งขึ้นมา จึงหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า

สาวน้อยที่กำลังร้องไห้ เริ่มเหล่ตามองบัตรธนาคารใบนั้นด้วยสายตาที่เป็นประกาย

เฉินตงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ผมไม่ได้อยากให้คุณดื่มเหล้า แค่ต้องการจะถามคำถามบางอย่างเกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ป ถ้าทำให้ผมพอใจได้ คุณแค่บอกตัวเลขมา ผมจะโอนให้ทันที”

สาวน้อยคนหนึ่งที่สามารถนั่งร่วมโต๊ะกับไฮโซหนุ่มผู้ใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ คงจะเคยเห็นและรู้เรื่องราวอะไรมาบ้าง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ปที่คนอื่นไม่รู้

“จริงเหรอคะ”

น้ำตาของสาวน้อยคนนั้นหยุดไหล

ส่วนสาวน้อยอีกคนที่ยังอยู่ในอ้อมอกของท่านหลงก็แสดงอาการประหลาดใจออกมา

“ผมไม่มีความจำเป็นต้องแต่งเรื่องหลอกคุณ” เฉินตงเหล่ตามอง

เธอเริ่มแสดงอาการเงอะงะออกมา จากนั้นจึงครุ่นคิดก่อนจะยกนิ้วหนึ่งนิ้วขึ้นมา “หนึ่งล้าน”

“ตกลง!”

เฉินตงโอนเงินไปทันที

เมื่อสาวน้อยคนนั้นเห็นข้อความการโอนเงินเข้ามาที่มือถือ เธอดีใจอย่างลิงโลด เธออ้าแขนออกพลางวิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตง

“หยุด!”

เฉินตงยกมือขึ้นห้ามแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ผมแค่ต้องการข้อมูลจากคุณ ไม่ได้ต้องการตัวคุณ”

“ตามใจ…”

แม้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะผิดหวังไปบ้าง แต่เธอก็ดูออกว่าเฉินตงไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา

จากนั้นเธอจึงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วชี้ไปยังคุณชายเจิ้งที่ใช้เงินซื้อเธอให้ดื่มเหล้า

“นู่น เขานั่นไง คุณถามฉันไม่สู้ไปถามเขา เขาชื่อว่าเจิ้งจุนหลิน คุณชายใหญ่ของจุนหลิน กรุ๊ป”

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างมีความนัยบางอย่าง เขามองไปที่เจิ้งจุนหลินด้วยสายตาเป็นประกาย

จริงอย่างที่เขาว่ากันว่า…ของบางอย่างตามหาให้ตายก็ไม่เจอ แต่สุดท้ายกลับจะมาบังเอิญเจอเอาง่ายๆ

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท