The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 445 ไพ่ใบสุดท้าย

บทที่ 445 ไพ่ใบสุดท้าย

ทรายสีทองลอยคลุ้ง

อุณหภูมิร้อนระอุ แม้แต่ลมยังกลายเป็นไอร้อน

เฉินตงสบตากับเฉินเต้าหลิน

คุนหลุนที่อยู่ด้านข้างก็มองไปที่เฉินเต้าหลินด้วยความสงสัย โดยไม่ใส่ใจความเจ็บปวดอีก

ทั้งๆ ที่เป็นการลอบฆาตกรรมธรรมดาเหตุการณ์หนึ่งแท้ๆ แต่กลับทำให้เจ้าบ้านเฉินที่ยิ่งใหญ่ต้องหายตัวไป

ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำให้ตัวเองหายไป ซ่อนตัวอยู่อย่างไร้ร่องรอย

ความลับของเรื่องนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องอยากรู้!

โดยเฉพาะคนที่เพิ่งรอดจากการตามไล่ฆ่าเมื่อเมื่อครู่

เฉินเต้าหลินกลับไม่มีท่าทางรีบร้อน เขาค่อยๆ หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าแล้วจุดสูบหนึ่งมวน

ควันลอยฟุ้งลอดฟันออกมาอย่างเชื่องช้า

เฉินเต้าหลินหลับตาพลางอมยิ้ม “พวกแกคงคิดว่าการหายตัวไปของฉันเกิดจากเหตุการณ์ลอบฆาตกรรมธรรมดาเหตุการณ์หนึ่งใช่ไหม”

“ครับ” เฉินตงตอบ

หากเป็นเหตุการณ์ตอนนั้นที่ยิวหมิน อันดับยมราชที่ 18 ขององค์กร hidden killers ลอบฆ่า แล้วพ่อหายตัวไปคงจะไม่ทำให้เขาข้องใจมากขนาดนี้

แต่ตอนนั้นยิวหมินตายด้วยฝีมือของลุงเต้าจูนไปแล้ว แถมยังโดนตัดหัวเสียบประจานไว้บนป้ายตระกูลเฉินประกาศก้องให้ใต้หล้ารู้

แต่พ่อกลับหายตัวไปจากเหตุการณ์ลอบฆาตกรรมธรรมดาครั้งหนึ่ง แถมยังเป็นนักฆ่าธรรมดาๆ คนหนึ่งที่โดนฆ่าตายคาที่ไปแล้วด้วย

หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ การที่มือสังหารโดนฆ่าตายคาที่ไปแล้วนั้น ตอนนั้นพ่อน่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่หมดห่วงไร้กังวล แต่กลับหายตัวไปดื้อๆ

“เฮ้อ!”

เฉินเต้าหลินเม้มปาก “ตงเอ๋อ ตระกูลเฉินไม่ได้เป็นอย่างที่ลูกคิดไว้หรอก”

ระหว่างเอ่ย สายตาห่างไกลของเฉินเต้าหลินก็เหม่อมองไปยังซากเฮลิคอปเตอร์ที่ไฟลุกท่วม

“การหายตัวของพ่อ ไม่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพ่อไม่หายตัวไป ไม่เพียงแค่พ่อกับลูกเท่านั้น แต่จะทำให้ตระกูลเฉินต้องตกอยู่ในอันตราย”

เปรี้ยง!

เฉินตงเกิดความรู้สึกลังเลบางอย่างที่เกิดขึ้นราวกับฟ้าผ่าลงมาในตอนกลางวัน

ตระกูลเฉิน……จะตกอยู่ในอันตราย?

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน

ตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่ที่กำทรัพย์สินของประเทศเอาไว้ ต่อให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีมาจากไหน ในสายตาของตระกูลเฉินก็เป็นเพียงมดในดินที่ไม่มีค่าอะไรให้พูดถึง

บุคคลใหญ่โตคับฟ้าเช่นนี้ หากตกอยู่ในอันตรายก็น่าจะเป็นความเน่าเฟะภายในปรากฏออกมา มากกว่าจะเป็นฝีมือของคนนอก?

แม้แต่คุนหลุนเองก็ยังเป็นใบ้ไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เฉินเต้าหลินเหล่มองเฉินตงกับคุนหลุนแล้วส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“ฉันรู้ว่าคำพูดเช่นนี้ พอพูดออกไปแล้ว พวกแกคงไม่อยากจะเชื่อ แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน สิ่งที่ฉันรู้และเห็นย่อมแตกต่างจากพวกแก”

เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้งไป แล้วชี้ไปที่ซากเฮลิคอปเตอร์ไฟท่วม

“ตัวอย่างเช่นเฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำนี้ ลูกคิดว่านี่เป็นเพียงการตามฆ่าธรรมดาๆ อย่างนั้นหรือ นี่เป็นการประกาศอย่างชัดเจนต่างหากว่าต้องการจะสังหารหมู่!”

เฉินตงเหม่อมองไปที่ทะเลเพลิง

เขาฟังออกว่า แม้ว่าพ่อจะกำลังเล่าเรื่องราวอยู่ แต่จริงๆ แล้วพยายามที่เปลี่ยนประเด็นสนใจ เพื่อหลบเลี่ยงประเด็นสำคัญต่างหาก

เห็นได้ชัดว่าพ่อไม่ได้ต้องการจะปิดบังเขา แต่เป็นเพราะสถานะของเขาในตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะรู้

“พ่อกำลังสงสัยใครอยู่กันแน่” เฉินตงถามคำถามที่ตนสงสัยมากที่สุดออกไป

ตั้งแต่เหตุการณ์ลอบฆ่าจนถึงการหายตัวไปของพ่อ การที่พยายามจะบอกว่าปกป้องใคร ไม่สู้พูดออกมาว่าสงสัยใคร

“ความลับ”

เฉินเต้าหลินยิ้มอย่างยากคาดเดา เขาหันไปมองเฉินตง “สิ่งที่ลูกต้องรู้คือ จุนหลิน กรุ๊ปเป็นไผ่ใบสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ลูก ไผ่ใบนี้ไม่เพียงช่วยลูกชิงตำแหน่งเจ้าบ้านมาได้เท่านั้น แต่ในอนาคตหากลูกต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก นี่จะเป็นทุนที่ช่วยให้ลูกกลับสู่อำนาจได้อีกครั้ง”

“พ่อปิดเรื่องนี้มาได้ตั้งหลายปี ไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้ในเหตุการณ์ของลูกชายตระกูลฉินเลย แต่การที่พ่อหายตัวไป ทำให้ตระกูลเฉินไม่สามารถใช้อำนาจได้ชั่วคราว จึงทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องมันปรากฏออกมา”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เฉินเต้าหลินก็มองเฉินตงอย่างลึกซึ้งและยิ้มอย่างประหลาดใจ “ลูกฉลาดมากที่สามารถตามสืบจากร่องรอยจนตามหาพ่อเจอ แต่ลูกต้องจำเอาไว้ ไผ่ใบสุดท้ายอย่างจุนหลิน กรุ๊ปของตระกูลเจิ้ง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปห้ามเปิดเผยให้ใครรู้ ถ้าลูกหงายไพ่ใบสุดท้ายออกไปแล้ว งั้นการเดิมพันทั้งหมดก็ไม่สนุกอีกต่อไป”

เฉินตงพยักหน้า

เขาไม่ใช่คนโง่ จุนหลิน กรุ๊ปของตระกูลเจิ้งแอบปกปิดบุคคลใหญ่โตเช่นนี้เอาไว้มันหมายความว่าอย่างไร เขาเข้าใจดี

นี่เทียบเท่าได้กับระเบิดที่มีอาณุภาพร้ายแรง ที่สามารถทำลายโลกให้บิดเบี้ยวได้ในช่วงเวลาที่สำคัญ

ยิ่งซ่อนไว้ลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะมีประโยชน์กับเขามากเท่านั้น!

แต่เหตุการณ์วิกฤตของฉินเย่ครั้งนี้ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่เผยไพ่ใบสุดท้ายออกมา

เฉินตงขยี้จมูกก่อนจะเอ่ยอย่างรู้สึกละอาย “ขอโทษครับ ผมมาที่นี่เลยทำให้พ่อต้องเจอเหตุการณ์อย่างเมื่อกี้นี้”

“เด็กโง่ อะไรที่จะต้องเกิด ช้าเร็วก็ต้องเกิด”

เฉินเต้าหลินตบไหล่เฉินตง “ลูกจำไว้ รักษาไพ่ใบสุดท้ายอย่างตระกูลเจิ้งนี้ไว้ให้ดี วันหนึ่งหากลูกจำเป็นต้องใช้ เจ้าบ้านเจิ้งจะต้องช่วยลูกอย่างสุดกำลัง ตอนแรกพ่อยังกังวลเรื่องเจ้าบ้านเจิ้งคนต่อไปอาจจะไม่มีความภักดีอย่างเดิม แต่พรหมลิขิตของลูกที่ตระกูลเจิ้งครั้งนี้ทำให้พ่อหายห่วงแล้ว”

เจิ้งจุนหลิน?

รอยยิ้มของเฉินตงหายไปพร้อมๆ กับคำพูดของเขา

นับว่าเป็นพรหมลิขิตอย่างแท้จริง

การช่วยเจิ้งจุนหลิน เดิมทีเป็นเพียงความเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันเท่านั้น

ตอนนี้เจิ้งจุนหลินกลายเป็นเพื่อนของเขา ในอนาคตตระกูลเจิ้งจะยังคงไม่ต่างอะไรจากปัจจุบัน นั่นคือภักดีต่อเขาอย่างหมดใจ

“พ่อวางแผนจะทำอะไรต่อไป” เฉินตงขมวดคิ้วแล้วชี้ไปยังทะเลเพลิง

การบุกโจมตีของเฮลิคอปเตอร์สามลำ การหายตัวไปของพ่อถูกเปิดเผย

เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่ว่าใครก็คงคาดเดาไม่ถูก

“ลูกวางใจ คนที่คิดจะฆ่าพ่อ ไม่ได้ทำได้ง่ายขนาดนั้น”

เฉินเต้าหลินหยักไหล่แล้วเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “ขอแค่ซ่อนตระกูลเจิ้งกับจุนหลิน กรุ๊ปเอาไว้ได้ก็พอ พ่อคิดว่าจะยังคงหายตัวต่อไปอีก ฝีมือของพวกมันตามหาตัวพ่อไม่เจอแน่”

เมื่อกล่าวจบ

เฉินเต้าหลินหันไปมองคุนหลุนที่สีหน้าเริ่มซีด “ผ่านมานานแล้ว ลูกรีบไปหาคนมาช่วยเถอะ คุนหลุนคงทนได้อีกไม่นานนัก”

เฉินตงมองเฉินเต้าหลิน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เดิมทีคิดว่าการหาตัวพ่อเจอ จะทำความข้องใจทั้งหมดหายไปและจัดการเรื่องราวต่อไปได้ไม่ยาก

แต่ตอนนี้ สิ่งที่เขารู้มีเพียงคำพูดที่เป็นปริศนาเท่านั้น

พ่อพยายามเล่าเรื่องโดยหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ ยิ่งทำให้ความสงสัยของเขามากขึ้น

แต่เมื่อเห็นสภาพของคุนหลุนตอนนี้ เฉินตงจำเป็นต้องข่มความสงสัยของตัวเองเอาไว้

เพราะคุนหลุนน่าจะทนต่อไปได้อีกไม่นานแล้ว

แผลจากการถูกยิงและแรงกระแทก อาจไม่ถึงขั้นทำให้ตายคาที่ แต่การเสียเลือดมากเกินไปนั้นอันตรายถึงชีวิต

“รอผมอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะพยายามตามหาที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ แล้วติดต่อท่านหลงให้มาช่วย”

เฉินตงฝืนยกร่างกายที่อ่อนล้าและเจ็บระบมเดินห่างออกไป

การไล่ฆ่าเพิ่งจะจบสิ้นไป ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางกลับเข้าไปในเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือได้

ทำได้เพียงหาที่ใดสักที่ที่มีสัญญาณมือถือ

สถานการณ์ของคุนหลุนตอนนี้ไม่สู้ดีนัก พ่อเองก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

หากไม่มีคนคอยคุ้มกัน ถ้ามีการโจมตีขึ้นมาอีกครั้ง คงจะเกิดการเข่นฆ่ากันขึ้นมาอีก

ทว่า

ขณะที่เฉินตงเดินไปได้ไม่ไกลนัก เสียงของเฉินเต้าหลินก็ตะโกนดังขึ้นด้านหลัง

“ตงเอ๋อ ระวังคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน และก็คนในตระกูลเฉินไว้ด้วย!”

เฉินตงชะงัก ปลายหางตาของเขาปรากฏเส้นเลือดเต้นตุบๆ อย่างข้องใจ

ที่ผ่านมาเขาก็ระวังคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและคนในตระกูลเฉินมาตลอดอยู่แล้ว ทำไมพ่อจะต้องกำชับแบบนี้อีกครั้งด้วย?

“เข้าใจแล้วครับ” เฉินตงไม่ได้ถามอะไรต่อ

แล้วรีบก้าวอาดๆ จากไป

“นายท่าน คุณชายโตขึ้นเร็วมาก”

คุนหลุนยิ้มพลางกล่าวออกมา “เกินความคาดหมายของพวกเราทุกคน”

“จริงด้วย ความสามารถด้านการต่อสู้ของเขา ขนาดฉันยังมองไม่ออก” เฉินเต้าหลินยิ้มอย่างประหลาดใจ “แกเคยถามเขาเรื่องชีวิตในวัยเด็กบ้างไหม”

“เคยถามครับ คุณชายก็ไม่รู้เหมือนกัน”

คุนหลุนส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างหม่นหมอง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาอีกว่า “ผมไม่รู้ว่านายท่านกำลังสงสัยใคร แต่ผมรู้จักนิสัยของนายท่านดี ผมคิดว่าการที่นายท่านพยายามปิดบังคุณชายไปตลอดแบบนี้คงไม่ดีต่อคุณชายเท่าไหร่ ทำแบบนี้จะยิ่งทำให้นายท่านลำบากมากยิ่งขึ้นด้วย สถานการณ์จะยิ่งไม่ดีต่อนายท่านมากขึ้น”

“เห๊อะ!”

เฉินเต้าหลินตัวสั่นก่อนจะหัวเราะเยาะ “คนเป็นพ่ออย่างฉัน แต่ไม่เคยอยู่ข้างกายเขาเลยตลอดยี่สิบกว่าปี ไม่เคยมอบความสุขความอุ่นใจให้เขาในวัยเด็ก ตอนนี้หลานเอ๋อจากไปแล้ว ถ้าฉันยังลากตงเอ๋อเข้ามาอยู่ในความยากลำบากเช่นนี้อีก ฉันจะยังสมควรถูกเรียกว่าพ่ออยู่อีกหรอ”

ระหว่างที่พูด สีหน้ายิ้มแย้มของเฉินเต้าหลินก็เริ่มซีดขาว

เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลทะลักออกมาจากปากของเขา

เลือดที่หยดลงบนพื้นได้ก่อให้เกิดหลุมเล็กๆ บนทะเลทรายที่มีเลือดเอ่อล้น……

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท