พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 144 คำโกหกสีขาว

บทที่ 144 คำโกหกสีขาว

บทที่ 144 คำโกหกสีขาว

เนี่ยเฟิงเห็นโจวลี่ซือทำท่าทางจริงจัง เขาจึงตอบอย่างจริงจังด้วยเช่นกัน

“พี่ห้า อันที่จริงมีเรื่องหนึ่งที่ผมปิดบังพวกพี่มาตลอด เพราะผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไง”

“นายถูกหวย?!”

โจวลี่ซือพูดตัดบทเนี่ยเฟิง จากนั้นก็กล่าวอย่างเข้าใจทันทีว่า “มิน่านายถึงไม่บอกพวกเรา! เพราะอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย นายจะไปกล้าพูดที่ไหนกัน?”

เนี่ยเฟิง :……

มีหลายครั้งที่เนี่ยเฟิงคิดจะบอกพวกหล่อน แต่ในเมื่อพวกหล่อนพูดเช่นนี้ เนี่ยเฟิงก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง

“ไม่ใช่หรือ?”

โจวลี่ซือเห็นท่าทางเนี่ยเฟิงเงียบๆ ไป จากนั้นราวกับว่าเธอได้สติขึ้นมา “ฉันรู้แล้ว……ถูกหวยใช่ว่าจะได้เงินมากขนาดนั้น งั้นที่นายมีเงินมากขนาดนี้ ก็แสดงว่า นายได้รับเบี้ยประกันจากพ่อแม่นายใช่ไหม?”

เพราะอย่างไรวงศ์ตระกูลของเนี่ยเฟิงก็ดีมากมาตลอด ในสมัยนั้นก็เคยเป็นผู้ปกครองมณฑลมณฑลหนึ่ง พ่อแม่จะมีเงินประกันสูงมากก็เป็นเรื่องธรรมดา

โจวลี่ซือนึกสงสารขึ้นมาทันที “เจ้าเด็กคนนี้! พ่อแม่นายทิ้งมรดกเหล่านั้นไว้ให้นาย นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย รู้ไหม?”

เนี่ยเฟิง : “ผม……”

“เดี๋ยวเราไปบอกฝ่ายจัดงาน ขอคืนเครื่องบินเหล่านี้ทั้งหมด นายเอาเบี้ยประกันไว้ใช้จ่ายในชีวิตเถอะ เครื่องบินนี่พี่ไม่เอาก็ได้ เดิมพี่ก็แค่ต้องการปกป้องนาย จะเอาเงินนายมาได้ยังไงกัน?”

โจวลี่ซือส่ายหน้าพลางถอนหายใจ หลังเธอได้สัมผัสของจริงจนครบถ้วนแล้ว ก็ค่อยๆ นำเครื่องบินลงจอดอย่างช้าๆ เธอออกจากเครื่องบินอย่างอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง

ต้องบอกว่า เฮลิคอปเตอร์609ลำนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ มิน่าราคาถึงสูงขนาดนั้น ที่แท้ก็มีเหตุผล

“นายฟังพี่นะ รีบไปจัดการให้เร็วหน่อย นี่ไม่ใช่เรื่องตลก รู้ไหม?”

เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “เงินนี่ผมโอนเข้าบัญชีพวกเขาแล้ว พวกเขาจะคืนเงินได้ยังไง อีกอย่าง ผมซื้อเครื่องบินมาตั้งมากขนาดนั้น พวกเขาเองก็ต้องส่งเงินคืนเศรษฐีคนอื่นๆ เช่นกัน มาตอนนี้ผมบอกไม่ซื้อแล้ว พวกเขาไม่สูญเสียแย่หรือ พี่ห้า ในเมื่อเงินนี่ผมจ่ายไปแล้ว งั้นพี่ก็เสพสุขมันอย่างสบายใจไปเลยแล้วกัน!”

โจวลี่ซือถลึงตามองเนี่ยเฟิง “เหลวไหล! เครื่องบินมากมายขนาดนี้นายจะเอาไปจอดไว้ที่ไหนกัน? ปกติค่าดูแลรักษาต้องใช้เงินเท่าไหร่นายรู้ไหม?”

กับอีแค่ค่าดูแลรักษากับค่าใช้จ่ายจะใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว

เทียบกับเครื่องบินรบของประเทศมองโกเลียที่เขาสะสมอยู่ เงินพวกนี้ก็แค่จิ๊บๆ เท่านั้น

แต่เพื่อทำให้โจวลี่ซือสบายใจ เนี่ยเฟิงจึงพูดว่า “ในเมื่อผมซื้อแล้ว ผมก็ต้องมีเหตุผลของผม อันที่จริงผมไม่ได้ใช้เงินเบี้ยประกันอะไรหรอก พอดีมีเพื่อนผมคนหนึ่งไหว้วานมาน่ะ”

โจวลี่ซือถามอย่างสงสัย “เพื่อนคนไหน ไหว้วานอะไร?”

“พี่ห้ารู้จักการบินพลเรือนจงเฟิงไหม?”

โจวลี่ซือพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว การบินพลเรือนจงเฟิงเป็นการบินที่ใหญ่ลำดับต้นๆ ของหวาเซี่ยเลยล่ะ”

ตอนนั้นโจวลี่ซือคิดจะไปสอบสัมภาษณ์ที่การบินพลเรือนจงเฟิง แต่เพราะเหตุผลหลายๆ อย่าง โจวลี่ซือจึงไม่ได้ไป แต่มาอยู่ที่บริษัทการบินพลเรือนของเมืองจินไห่แทน

“เซียวหลางผู้รับผิดชอบการบินพลเรือนจิงเฟิงกับผมเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกเขากำลังจะเริ่มสร้างโรงจอดเครื่องบินที่เยี่ยนตูพอดี เมื่อวานผมเอ่ยกับเขาว่าวันนี้จะมาดูงานนิทรรศการ เขาดีใจมาก เลยวานให้ผมช่วยดูๆ ให้เขาหน่อย เพราะเมื่อก่อนผมกับเขาเคยขับเครื่องบินด้วยกัน”

คำที่เนี่ยเฟิงพูดออกมาล้วนมีจุดที่เชื่อไม่ได้อยู่

เพียงแต่หากบอกโจวลี่ซือว่าเขาเป็นราชามังกรของสำนักมังกรตอนนี้ เขากังวลว่าโจวลี่ซือจะตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!”

โจวลี่ซือกล่าวอย่างเข้าใจทันที “ดังนั้นครั้งนี้คนที่ซื้อเครื่องบินมากมายขนาดนั้นความจริงก็คือการบินพลเรือนจงเฟิง?”

โจวลี่ซือถามเนี่ยเฟิงเสียงเบา

เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ใช่แล้ว แต่เขาบอกว่า ผมช่วยงานเขาครั้งนี้ เขาสามารถมอบเครื่องบินให้ผมได้หนึ่งลำ”

“คำพูดล้อเล่นของคนอื่นนายยังจะคิดเป็นจริงเป็นจังอีก เครื่องบินแพงขนาดนั้นจะบอกว่าให้ก็ให้ได้ยังไง?”

โจวลี่ซือส่ายหน้า “แต่ยังดี ที่นายไม่ใช่คนจ่ายเงิน ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี”

โจวลี่ซือพูดเสร็จ ก็ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก

“แน่นอนอยู่แล้ว พี่เห็นผมเหมือนคนที่มีเงินหลายพันล้านหรือ? แต่เห็นท่าทางที่พวกเขาถูกหักหน้าไปเมื่อกี้ ผมก็รู้สึกมีความสุขชะมัด”

เวลานี้เนี่ยเฟิงกำลังคิดจะบอกพวกเขาเรื่องที่สร้างโรงจอดเครื่องบินแห่งหนึ่งพอดี ไม่อย่างนั้นคำโกหกนี้คงฟังไม่ขึ้น

“แต่เจ้าหมอนั่นตกลงเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงจ้องจะเล่นงานพวกเราด้วย? ฉันไม่ได้มีความแค้นอะไรกับพวกเขาสักหน่อย ฉันจำไม่เห็นได้ว่าเคยไปล่วงเกินคนแบบนี้เข้า”

โจวลี่ซือถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ ดูท่าทางทุกข์ใจอย่างมาก

“เจ้าหมอนั่นคือญาติผู้พี่ของซ่าวเจ๋ เขาชื่อจางเจิ้นกั๋ว”

“อะไรนะ?! มิน่าพี่ก็ว่าพวกเขาสองคนดูหน้าตาคล้ายๆ กัน ที่แท้ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันนี่เอง ถึงกับส่งญาติผู้พี่ของเขามาหาเรื่องกันที่นี่เชียวเหรอ ทำเกินไปแล้วนะ!”

“ก็นั่นน่ะสิ ตอนนี้พอมาคิดดูแล้วก็รู้สึกโกรธมาก”

เนี่ยเฟิงกล่าวสมทบไม่หยุด

“แต่พวกเขาก็ถูกหักหน้าอย่างรุนแรงไปแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปคนอย่างซ่าวเจ๋จะทำเรื่องอะไรออกมาอีกก็ไม่สนแล้ว น้อยลงหนึ่งเรื่องดีกว่าเพิ่มขึ้นหนึ่งเรื่อง พวกเราอย่าไปยั่วโมโหพวกเขาดีกว่า หลังงานนิทรรศการวันนี้จบลง พี่ก็ต้องกลับเมืองจินไห่แล้ว เพราะยังมีงานต้องทำอีก พี่คงจะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนนายแล้ว”

โจวลี่ซือมองเนี่ยเฟิงอย่างเสียใจอยู่บ้าง “ตอนแรกคิดจะให้นายไปลองปรับตัวอยู่บนเครื่องบิน แต่บังเอิญว่ายังจัดเที่ยวบินไม่ลงตัว รอถึงเวลาจัดเสร็จแล้ว พี่ค่อยเรียกนายไปลองปรับตัวดูแล้วกัน?”

“พี่ห้าทำงานไปเถอะ ไม่เป็นไร”

“เด็กอย่างนายหัดขับเครื่องบินเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นบอกพี่เลย ทำให้พี่อวดเก่งต่อหน้านายแล้ว ใครจะรู้ว่านายขับเครื่องบินได้เก่งขนาดนั้น”

โจวลี่ซือกล่าวอย่างฉุนๆ

“ความจริงก็ไม่ได้เก่งอะไร อีกอย่างผมรู้สึกว่านี่ไม่นับเป็นความสามารถอะไร ผมก็เลยไม่ได้พูด อีกอย่าง พวกพี่ๆ ก็หางานให้ผมแล้ว ผมรู้สึกโชคดีมาก”

เนี่ยเฟิงใบหน้าเต็มไปด้วยความซื่อตรงจริงใจไร้เจตนาร้าย

“นายเลิกถ่อมเถอะ นายไม่แสดงความสามารถของนายออกมา แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าควรหางานแบบไหนให้นาย อีกทั้งก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่นายชอบคืออะไร เรื่องนี้ฉันต้องเอาไปพูดคุยกับพี่น้องคนอื่นๆ สักหน่อยแล้ว เสี่ยวเฟิงของพวกเราเก่งกาจขนาดนี้ ควรต้องอวดให้มากๆ!”

โจวลี่ซือมองเนี่ยเฟิงยิ้มๆ

“พี่ แล้ว609ลำนี้พี่ต้องการขับไปไหน?”

“นายยังจะพูดกับพี่อีกนะ นี่เป็นเครื่องบินที่คนอื่นซื้อ เกี่ยวอะไรกับพวกเรา? นายอย่าไปอยากได้ของเหล่านั้นของคนอื่นเลย ถึงเวลากินของคนอื่นปากอ่อน รับของคนอื่นมือไม้อ่อน……”

โจวลี่ซือพูดมาถึงตรงนี้ก็กระแอมเล็กน้อย “พี่ไม่ได้บอกว่าเพื่อนนายไม่ดีนะ เพียงแต่รับของของเพื่อนนายมา ถึงเวลาเขาขอให้นายทำอะไร นายก็จะหมดหนทางปฏิเสธ รู้ไหม?”

“แต่คนสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างผม มีอะไรให้พวกเขาเรียกใช้กัน?”

เนี่ยเฟิงพูดพลางกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจ

“จะพูดแบบนี้ไม่ได้ นายอย่าดูถูกตัวเองแบบนี้ เสี่ยวเฟิงของพวกเรายอดเยี่ยมจะตาย นายว่าวิชาแพทย์ก็ยอดเยี่ยม แถมยังขับเครื่องบินเป็นอีก ยังมีอะไรที่นายทำไม่เป็นอีกบ้าง นายช่างไม่มั่นใจเกินไปแล้ว”

“แต่ผมปฏิเสธพวกเขาแบบนี้ดูไม่ค่อยดีนัก เอาอย่างนี้เถอะ ผมจะให้พวกเขาเก็บเครื่องบินไว้ที่โรงจอดเครื่องบิน ถึงเวลาก็ให้พวกเขามอบสิทธิพิเศษให้กับพี่?”

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท