บทที่ 153 เป็นฝ่ายถูกกระทำ
และในอีกด้านหนึ่งเฮยหลงก็โทรติดพวกเขา (เบื้องบน)
“คุณนายครับ พบเจ้าเมล็ดพันธุ์ที่รอดตายนั่นแล้ว”
ภายในห้องโถงหรูหรา ณ อาคารสไตล์ยุโรปหลังหนึ่ง มีผู้หญิงที่แต่งกายด้วยชุดกี่เพ้าและได้รับการดูแลอย่างดีที่กำลังยกถ้วยน้ำชาขึ้นและดื่มชานั้น เมื่อได้ยินเสียงของเฮยหลงที่ปลายสาย มือของหล่อนก็หยุดชะงักไปในทันที
“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะหาที่นี่เจอได้เร็วขนาดนี้ นี่เป็นความผิดของเจ้าแห่งวงการทั้งสี่ของเมืองจินไห่ ที่ไม่มีความสามารถเอาซะเลย”
ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าคุณนายจิบชาไปคำหนึ่ง จากนั้นก็วางถ้วยชาลง
เฮยหลงเอ่ยถึงเรื่องในวันนี้ไปเล็กน้อย
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้แกยังทําไม่ได้ แล้วแกจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของฉันได้ยังไงกันล่ะ?”
ความสามารถของเขานั้นไม่ธรรมดา แม้แต่ผู้อำนวยการสถานีตำรวจศูนย์ก็ยังประจบเขา ผมคิดว่าเขาต้องมีบางอย่างที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน”
เพียงแต่ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้ตรวจสอบฐานะของเนี่ยเฟิงอย่างละเอียดเท่านั้น
“นี่มันแปลกมาก เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปสืบหาเรื่องนี้เอง แล้วแกจะทํายังไงต่อไปล่ะ? นั่นมันกว่าหมื่นล้านเลยนะ”
“คุณนาย แน่นอนว่าผมจะไม่มอบเงินก้อนนี้ให้เขาอย่างเด็ดขาด เมื่อครู่ผมได้เรียกรวมตัวรุ่นพี่ร่วมสํานักของผมแล้ว ไม่นานพวกเขาก็จะมาถึงที่นี่ เมื่อถึงตอนนั้นผมจะให้บทเรียนพวกเขา”
เฮยหลงรับประกัน
“แกก็รู้ ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สําคัญ ดังนั้นอย่าเล่นลูกไม้อะไรออกมาก็แล้วกัน ฉันให้สิทธิ์เช่นนี้กับแกไม่ใช่ให้แกไปทําอะไรที่ขายหน้า”
เฮยหลงรีบพยักหน้าทันที “คุณนาย วางใจเถอะ ผมต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้อย่างแน่นอน”
“ไม่ใช่ว่าแค่ให้บทเรียนเล็กเล็กน้อยน้อยให้เขา แต่จงฆ่าเขาทิ้งไปสะ” เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนที่ควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว แกเข้าใจความหมายของฉันนะ ฉันไม่ค่อยเชื่อพี่น้องร่วมสํานักของแกเลย ดังนั้นคืนนี้ฉันจะส่งทีมนักฆ่าเพื่อช่วยเหลือพวกแก และเขาต้องตายให้ได้ไม่ว่าในกรณีใดใด”
เฮยหลงยิ่งรู้สึกถึงความอัปยศอดสู เพราะพี่น้องร่วมสำนักของพวกเขานับว่าร้ายกาจมากเหมือนกัน
แต่ในเมื่อคุณนายได้พูดเช่นนี้แล้ว เฮยหลงจึงทำได้แค่พยักหน้า
“คุณนายวางใจเถอะ ถ้าครั้งนี้ผมทํามันพังอีก ผมจะชดใช้ด้วยชีวิต!”
“ถ้าครั้งนี้แกทํามันพังอีก แกจะไม่มีโอกาสได้โทรหาฉันอีก”
เมื่อคุณนายพูดจบก็วางสายไป เฮยหลงรู้สึกกดดันมาก
เพราะคุณนายเป็นเจ้านายโดยตรงของเขา แม้กระทั่งสถานฝึกยุทธเฮยหลงก็ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคุณนาย เหตุผลที่พวกเขาสามารถแสดงแผนการอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาในเมืองเยี่ยนตูได้นั้น ล้วนอาศัยบุญวาสนาของคุณนายทั้งนั้น
ซึ่งในตอนนี้เขาก็สุขสบายมานานเกินไปแล้ว และคิดไม่ถึงเลยว่า จะมีลูกหลานของตระกูลเนี่ยมาหาถึงหน้าประตูอย่างไม่คาดคิด
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเนี่ยเฟิงเก่งกาจถึงเพียงนี้และนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในคืนนี้จะต้องกำจัดเขาให้ได้!
ในตอนบ่ายเนี่ยเฟิงก็ได้ทำการแจ้งสำนักมังกร ให้ไปสืบการประชุมครั้งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ต่อให้พวกเขาจะวางแผนอะไรไว้ เนี่ยเฟิงก็ไม่กังวล
เห็นได้ชัดว่าเฮยหลงกําลังถ่วงเวลาในวันนี้ และในคืนนี้เฮยหลงจะไม่มอบเงินให้กับเขาอย่างเชื่อฟังแน่นอน
โรงแรมฉางอานเป็นเขตควบคุมของเนี่ยเฟิง ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะส่งคนมากี่คน ก็ทำได้เพียงเข้าได้แต่ออกไม่ได้แค่นั้น
ท้องฟ้ามืดลงโดยไม่รู้ตัว
เนี่ยเฟิงมองนาฬิกาแล้วครุ่นคิดว่าเฮยหลงกับพวกเขาอาจจะยังไม่มา ดังนั้นเขาจึงทานข้าวเย็นด้วยตนเอง
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆเมื่อถึงเวลากลางดึก พนักงานแผนกต้อนรับถึงจะโทรมาหาเขา
“เถ้าแก่ มีคนอยากพบเถ้าแก่ค่ะ”
พนักงานต้อนรับได้รับข่าวแล้ว และรู้ว่าเนี่ยเฟิงเป็นเจ้านายใหญ่ของพวกเขา ดังนั้นชื่อเรียกของเนี่ยเฟิงจึงเปลี่ยนไป
เนี่ยเฟิงทานข้าวเสร็จไม่นาน ก็ถึงเวลาที่จะยืดเส้นยืดสายพอดี ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงยิ้มแล้วพูดว่า
“เรียกเขาขึ้นมาเถอะ”
เนี่ยเฟิงอยู่ในห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีท หลังจากเปิดประตูแล้ว เฮยหลงก็เดินเข้ามาด้วยมือเปล่า เขามองไปรอบรอบเนี่ยเฟิงเพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงเนี่ยเฟิงคนเดียว จากนั้นเฮยหลงจึงยิ้มเยาะแล้วพูดว่า
“เนี่ยเฟิง แกช่างกล้าหาญเสียจริง คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าเผชิญหน้ากับฉันเพียงลําพัง”
“หาไม่แล้ว ฉันคงต้องหาคนมาต้อนรับแกอีกอยู่หรือเปล่า?”
เนี่ยเฟิงกางมือออก แล้วถามต่อว่า
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว เงินที่ต้องชดใช้ให้ฉันล่ะ?”
“แน่นอนว่าฉันจะเผาให้แก!”
เห็นเพียงเฮยหลงล้วงเอาแก๊สน้ำตาออกมาจากกระเป๋า แล้วกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว และคิดไม่ถึงเลยว่าเฮยหลงจะเตรียมการเช่นนี้ได้ แต่เนี่ยเฟิงเป็นคนที่สามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ได้ ในระดับนี้สำหรับเนี่ยเฟิงแล้วมิอาจกระทบอะไรกับเขาได้
แสงไฟในห้องมืดลงทันที จึงทําได้เพียงอาศัยแสงไฟจากด้านนอกห้องเท่านั้น เพื่อให้เห็นสถานการณ์ในห้องอย่างชัดเจน
เฮยหลงเรียกรวมตัวรุ่นพี่ร่วมสำนักของเขาทันที
แต่สิ่งที่ทําให้เขารู้สึกแปลกใจก็คือ ไม่ว่าเขาจะพยายามติดต่อรุ่นพี่ร่วมสำนักของเขาอย่างไร ก็ไม่มีใครตอบรับเขาเลยสักคนเดียว
เฮยหลงรู้สึกกระวนกระวายใจไปครู่หนึ่ง วันนี้เขาไม่ได้บุกเดี่ยว เพราะเขารู้ดีว่าศิลปะการต่อสู้ของเนี่ยเฟิงเหนือกว่าเขา ถ้าเขามาด้วยตัวเอง เขาจะต้องโดนจับมัดห้อยและเฆี่ยนตีเท่านั้น!
เป็นเพราะเขารู้ว่าเนี่ยเฟิงร้ายกาจมาก ดังนั้นเฮยหลงจึงเรียกรวมตัวรุ่นพี่ร่วมสำนักของตัวเอง และพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ฝึกยุทธ์ทั้งนั้น ทั้งยังแข็งแกร่งมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในตอนนี้จะติดต่อรุ่นพี่ร่วมสำนักทุกคนไม่ได้?!
“อย่าได้เสียเวลาเลยและอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกเตรียมที่จะมาที่นี่”
เสียงหัวเราะของเนี่ยเฟิงก็ดังขึ้นมา เขาไม่ได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตาเลยสักนิด
“แกทําอะไรลงไป!”
“แน่นอนว่าหลังจากที่พวกแกเข้าไปในโรงแรม พวกแกก็ถูกกำจัดไปทีละคนแล้ว ไม่เช่นนั้นแกก็จะคิดว่าสำนักมังกรของพวกเรากินมังสวิรัติ?”
“อะไร? แกเป็นคนของสำนักมังกรงั้นเหรอ?”
ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมผู้อำนวยการสถานีตำรวจศูนย์ ถึงเคารพเขามากขนาดนั้น ที่แท้เขาก็เป็นคนของสำนักมังกรนี่เอง แต่แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นอะไรของสำนักมังกร แม้แต่สถานีตำรวจศูนย์ก็ยังให้มารยาทเขาขนาดนั้น?
“ฉันไม่เพียงแต่เป็นคนของสำนักมังกรเท่านั้น แต่ฉันยังเป็นราชามังกรแห่งสำนักมังกรอีกด้วย”
เฮยหลงตกใจกลัวอยู่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้เขาได้ยินมาว่าราชามังกรแห่งสำนักมังกรเป็นคนที่อายุน้อยมาก และเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนผู้นี้จะเป็นเนี่ยเฟิงที่รอดชีวิตจากคดีร้ายแรงบนทะเลได้!
หลังจากที่เขาหายตัวไปห้าปีเขาก็กลายเป็นราชามังกรแห่งสำนักมังกรงั้นเหรอ?!
“คนพวกนั้นที่พวกแกส่งมา ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”
เนี่ยเฟิงเหมือนกับภูตผี ที่มาถึงด้านหลังเฮยหลงอย่างไม่รู้ตัว เฮยหลงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของคนอื่น จึงรีบต่อต้านกลับทันที จากนั้นก็เห็นเพียงเขาชกเฮยหลงไปยกหนึ่ง!
ท่วมกลางความมืด เฮยหลงไม่สามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเนี่ยเฟิงเลย เพราะกลิ่นอายของเนี่ยเฟิงสับสนวุ่นวายเกินไป และมันก็เป็นอะไรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก!
เขาไม่สามารถจับร่างของเนี่ยเฟิงได้ จึงทําได้เพียงคอยป้องกันการถูกกระทำเท่านั้น
“อย่างแกเนี่ยะนะยังสามารถเป็นเจ้าสํานักสถานฝึกยุทธเฮยหลงได้?คนที่เชื้อเชิญให้แกเป็นเจ้าสํานัก คงตาบอดไปแล้วมั้ง”
เสียงหัวเราะของเนี่ยเฟิงราวกับปิศาจหากรอจนกว่าเฮยหลงจะมีปฏิกิริยากลับมา มือและเท้าของเขาคงขยับไม่ได้แล้ว
เอ็นมือและเอ็นเท้าของเขาถูกเนี่ยเฟิงตีจนขาด และเขาก็ไม่มีกำลังใดใดเลยที่จะสู้ได้!
“รุ่นพี่ร่วมสำนักของแกและทีมนักฆ่าของกลุ่มนักฆ่าพวกนั้นถูกฉันกำจัดไปหมดแล้ว และเหตุผลที่ฉันไว้ชีวิตแก ก็เพื่อถามคําถามเดียวกับแก”
เนี่ยเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าเฮยหลง และมองเขาลงมาจากด้านบน “หากคําตอบของแกทําให้ฉันพอใจ เช่นนั้นฉันสามารถใช้ทักษะทางการแพทย์ของฉันเชื่อมต่อมือและเท้าของแกกลับมาได้ ให้ครึ่งค่อนชีวิตของแกต่อจากนี้ยังสามารถฝึกวรยุทธ์ได้ แต่ถ้าแกปฏิเสธที่จะตอบ เช่นนั้นแกก็จะเหลือแต่ทางแห่งความตาย”