ครั้งก่อนต่อสู้กับหยูจิงหง หยูจิงหงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิงเลย
ถึงแม้ว่าตอนนี้หยูจิงหงไปฝึกฝนมาอีกแล้ว แต่ว่าความต่างกันนี้ยังคงไล่ตามไม่ทัน
“ครั้งก่อนฉันไม่ได้ใช้ไม้ตาย ดังนั้นครั้งก่อนไม่นับ ครั้งนี้พวกเรามาอีก”
บนกายหยูจิงหงสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นตัวหนึ่ง สวมใส่กางเกงกีฬากับรองเท้าผ้าใบ การแต่งกายของเนี่ยเฟิงก็ต่างกันไม่มาก
ฝีมือยิงปืนของหยูจิงหงดีมาก แต่การต่อสู้ระยะประชิดก็ไม่เลวมากเช่นกัน
เพราะว่าอาชีพของพวกเขานี้ ทุกวันล้วนต้องเข้าออกเกือบตาย มักจะมีสภาพการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน พบเจอกับสภาพการณ์เช่นนี้ก็เป็นการทดสอบความสามารถไหวพริบของทหารคนหนึ่งแล้ว
ประเด็นหลักคือ เพียงแค่คุณแข็งแกร่งพอ ก็จะไม่หวาดกลัว สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันเหล่านี้
เนี่ยเฟิงมีความประหลาดใจเล็กน้อย “พี่สอง ความหมายของคุณคือจะให้ผมออกไม้ตายเหรอ?”
หยูจิงหงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ฉันไม่รู้ว่าช่วงนี้สู้แกได้หรือไม่ แต่ว่าไม่เป็นไร ลองดูก่อน มาเถอะ!”
เนี่ยเฟิงยักคิ้วหนึ่งที เขาจ้องมองกำปั้นของตนเองจ้องมองแล้วจ้องมองอีก พูดอย่างไม่โอเวอร์สักนิด——กำปั้นนี้ของเขาชกลงไป หยูจิงหงอาจจะตายได้
ไม่ใช่ผู้หญิงมิสู้ผู้ชายเลย เป็นเพราะว่าเนี่ยเฟิงยากลำบากอยู่ในสนามรบมานานเกินไป คนตายที่เขาเคยเห็นมาก่อนมากกว่าคนที่มีชีวิตอยู่จริงๆ
อยู่ภายใต้สภาพการณ์ที่อันตรายเช่นนั้นยังต้องคิดวิธีอยู่รอด นี่ต่อทุกคนมากล่าวแล้วล้วนเป็นการทดสอบที่จริงจังมากฉากหนึ่ง ไม่อนุญาตให้เกิดความผิดพลาดสักนิด
ถึงปัจจุบันนี้ยังมีไม่กี่คนที่จะทำให้เนี่ยเฟิงออกไม้ตายจริงๆ โดยเฉพาะคนที่โอ้อวดตัวเองว่ามีการต่อสู้ป้องกันตัวเล็กน้อยเหล่านี้ ล้วนหนีไม่พ้นสิบท่าของตนเอง
“เอาล่ะ ฉันก็ไม่พูดจาไร้สาระกับแกอีกแล้ว มาเถอะ!”
หยูจิงหงก็ไม่มีความหมายที่จะยอมอ่อนข้อให้เนี่ยเฟิงเช่นกัน เพียงแค่เห็นเธอจู่โจมฉับพลันในทันที ความเร็วมือน่าตื่นตระหนกมาก!
หยูจิงหงมีรูปแบบเฉียบแหลมปราดเปรียว รูปร่างของเธอกับเนี่ยเฟิงแตกต่างกันมาก แม้ว่าเนี่ยเฟิงดูแล้วผอมกว่า แต่เนี่ยเฟิงคนนี้ไม่ได้ผอมจริงๆ ลักษณะการปะทุของเขาแข็งแกร่งมาก
หยูจิงหงใช้ท่าเสือดำล้วงใจ พุ่งไปยังหัวใจของเนี่ยเฟิงโดยตรง ก่อนที่เนี่ยเฟิงจะเจอกับคู่ต่อสู้ กล่าวโดยทั่วไปล้วนสามารถวินิจฉัยได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคู่ต่อสู้ของตนเองหรือไม่
เพราะว่าสายตา, สีหน้า,ท่าทางของคนคนหนึ่งล้วนสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนคนนั้น
เนี่ยเฟิงติดความเคยชิดที่สำรวจคู่ต่อสู้เป็นนิสัยแล้ว ก่อนที่ยังไม่ทันประมือกันเนี่ยเฟิงก็รู้ว่าคนคนนี้เชี่ยวชาญอะไรแล้ว
บนนิ้วมือของหยูจิงหงมีผิวหนังด้านเป็นพิเศษ นี่เกิดจากการกำปืนมาโดยตลอด นอกจากนี้ เพราะว่าเธอคือทหาร ต้องฝึกอบรม ดังนั้นรูปร่างของเธอก็จะยิ่งตั้งตรงกว่าคนอื่นๆ
นี่กลายเป็นความเคยชินแล้ว อยากจะทำการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ยากกว่าเรื่องหนึ่ง
ตามความจริง หยูจิงหงปกปิดดีมากแล้ว กล่าวโดยทั่วไป ความตื่นตัวไม่ได้แข็งแกร่งอย่างเนี่ยเฟิงขนาดนั้นก็จะมองสถานะของหยูจิงหงไม่ออกเช่นกัน
และการวางท่าของหยูจิงหงเมื่อกี้ ดูออกได้ว่าเธออยากจะใช้ปัญญาเอาชนะ เพราะเธอวินิจฉัยตนเองว่าไม่สามารถจัดการเขาได้ สู้ตามตรงเป็นไปไม่ค่อยได้
สาเหตุที่เข้ามาก็ใช้ท่าพยัคฆ์ดำควักใจ ก็คือเพื่อที่จะบีบบังคับเนี่ยเฟิงให้จู่โจม
ท่าของเธอที่อยู่นัยน์ตาของเนี่ยทั้งหมดเฟิงล้วนเป็นแบบสโลว์ เนี่ยเฟิงจับกุมไว้ได้ง่ายมาก
ครั้งก่อนเนี่ยเฟิงต่อสู้กับหยูจิงหง ไม่กี่ท่าก็เอาชนะหยูจิงหงแล้ว ทำให้หยูจิงหงรู้สึกประสบความล้มเหลวเล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีก
หยูจิงหงสังเกตว่าตนเองแตกต่างกับแรงพลังของเนี่ยเฟิงมาก ตอนนี้เปลี่ยนแผนการแล้ว
แต่ว่าท่าของเธอถูกเนี่ยเฟิงมองทะลุปรุโปร่งแล้ว เนี่ยเฟิงเจอท่าไหนแก้ท่านั้น หลังจากรับมือกับหยูจิงหงสามสี่ท่าแล้ว หยูจิงหงก็รู้ว่าเนี่ยเฟิงมองเธอทะลุปรุโปร่งแล้ว
“ไม่เอาแล้ว!”
หยูจิงหงหยุดมือ เพียงแค่สั้นๆไม่กี่ที เธอก็เหงื่อท่วมตัวแล้ว แต่เนี่ยเฟิงกลับไม่หอบสักนิด มีฝีมือชำนาญยอดเยี่ยม
“เป็นยังไงแล้วเหรอพี่สอง?” เนี่ยเฟิงซักถามอย่างมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย
“แกยังถามฉันว่าเป็นยังไงแล้วเหรอ?” หยูจิงหงล้วนโมโหจนหัวเราะแล้ว “แกล้วนจับได้ชัดเจนถึงการคาดคิดวินิจฉัยของฉันแล้ว รู้ว่าท่าต่อไปของฉันจะทำอะไร สู้ต่อไปอีกฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก”
หยูจิงหงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเช็ดแล้วเช็ดอีก ไม่กี่ทีเมื่อกี้ทำให้แก้มของเธอร้อนวูบเล็กน้อย
“นี่เพียงแค่เทคนิคเล็กๆน้อยๆ”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที
“นี่กลับไม่ใช่เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ง่ายขนาดนั้น คนที่อยู่ในหัวสามารถทำการวินิจฉัยปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วคือแข็งแกร่งมากแล้ว ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก”
หยูจิงหงส่ายหัวต่อๆกัน “ครั้งก่อนต่อสู้กับแกฉันก็ไม่มีความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้……”
อยู่ดีๆหยูจิงหงนึกได้ถึงอะไร เธออดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง “ในตอนนี้แกไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดเลยสักนิดเชียวเหรอ?”
เนี่ยเฟิงล้วนเกรงใจมากที่จะบอกหยูจิงหงว่าตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดเช่นกัน อย่างนี้เป็นไปได้ที่อาจจะยิ่งโจมตีความกระตือรือร้นของเธอ
“ไอ้หนุ่ม ฉันก็รู้ว่าแกย่อมไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดแน่นอน! เป็นเช่นนี้จริงๆ”
หยูจิงหงค่อยๆถอนหายใจออกหนึ่งที “ช่างเถอะ นั่นก็คือสติปัญญาที่ดีของแก เก่งมากพอ”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที “ก็ไม่มีอะไร!”
ทั้งสองคนลงจากเวทีประลอง ในเวลานี้หยูจิงหงได้รับสายหนึ่ง หลังจากเธอรับสายแล้ว ขมวดคิ้วอย่างแน่น “ท่านพูดอะไรนะ?”
“ได้ ฉันรู้แล้ว”
“เป็นยังไงแล้วเหรอพี่สอง? สีหน้าของคุณทำไมดูแย่ขนาดนั้นล่ะ?”
เมื่อกี้หยูจิงหงยังพูดเล่นกับตนเองอยู่ดีๆสีหน้าเปลี่ยนแล้ว ดูแล้วลักษณะท่าทีเหมือนจริงจังมาก
“เสี่ยวเฟิง ครั้งก่อนตอนที่แกไปเขตทหารได้เจอกับหัวหน้าระดับสูงสุดของพวกเราไหม?”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาหนึ่งที ส่ายหัวต่อๆกัน “ไม่มีนะ? ตอนนั้นหลังจากผมสอบปากคำเสร็จก็กลับมาเลย”
“นี่ก็ประหลาดแล้ว”
หยูจิงหงจ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที ผิวของเขาขาวสะอาดหมดจดมาก สีของลูกตาใสมาก ทันทีที่เห็นเหมือนมีเชื้อสายของคนต่างชาติเล็กน้อย
“เป็นยังไงแล้วเหรอ? ทำไมบอกว่าประหลาดล่ะ?”
เนี่ยเฟิงไม่ค่อยเข้าใจ
“ฉันไม่ใช่บอกแล้วเหรอว่าช่วงนี้ได้รับภารกิจชิ้นหนึ่ง ภารกิจนี้จะต้องให้ฉันไปทำ ตอนนี้ฉันได้รับเนื้อหาของภารกิจแล้ว”
“งั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเหรอ? ทำภารกิจเสร็จเร็วก็สามารถพักผ่อนได้เร็วหน่อยล่ะ! ภารกิจนี้ยากมากเลยเชียวเหรอ?” เนี่ยเฟิงคิดอยู่ถ้าหากภารกิจนี้ยากมากล่ะก็ เขาสามารถช่วยได้
“ภารกิจนี้ไม่ยาก เป็นภารกิจที่ง่ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยรับมา”
หยูจิงหงค่อยๆถอนหายใจออกมาหนึ่งที
“งั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัดกลุ้มแล้วมั้ง?”
“อืม…….ภารกิจของฉันก็คือพาแกกลับไปเจอหัวหน้าของพวกเรา”
เนี่ยเฟิงอึ้งชะงัก เขาคิดอยู่ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ครั้งก่อนไปเขตทหารนั้นถูกคุณท่านกลุ่มนั้นพบเห็นแล้วมั้ง?
ถ้าหากแม้แต่สิ่งนี้ล้วนสืบหาไม่ได้ล่ะก็ ไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายได้แล้วจริงๆ
ตามความจริงเนี่ยเฟิงยังไม่ได้คิดให้ดีๆว่าจะติดต่อกับพวกเขาหรือไม่ ทั่วโลกล้วนอยากจะประจบเขา
“แม้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ในเมื่อเป็นภารกิจของพี่สอง งั้นผมก็ตามคุณไปด้วย”
หยูจิงหงมีความกังวลเล็กน้อย “แกแอบทำอะไรลับหลังฉันหรือไม่? แกรีบพูด”
เนี่ยเฟิงงุนงงเต็มใบหน้า “ไม่มีล่ะ ผมล้วนไม่ได้ทำอะไร จริงๆ”
แต่ว่าเนี่ยเฟิงล้วนไม่ได้ทำอะไร ทำไมพวกเขาฝั่งโน้นจะให้เธอพาเนี่ยเฟิงกลับไปล่ะ? นี่ก็ประหลาดมากแล้ว
“สาบานต่อฟ้า! จริงๆ!”
เนี่ยเฟิงไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เพียงแค่คนของฝั่งโน้นสังเกตถึงสถานะของเขาเท่านั้น
“ช่างเถอะ ฉันไปพร้อมกับแก มีเรื่องอะไรฉันรับไว้เอง”
หยูจิงหงไม่เข้าใจว่าทำไมคุณท่านจะให้เนี่ยเฟิงไปจริงๆ
วันนั้น หยูจิงหงไปยังเขตทหารพร้อมกับเนี่ยเฟิง
หลังถึงสถานที่ ครูทหารมาแล้ว
“ผู้กอง ฉันต้องการพาเนี่ยเฟิงไปพบกับคุณท่าน” ครูทหารทำความเคารพกับหยูจิงหงหนึ่งที ในใจหยูจิงหงหวาดกลัวทันที