เนี่ยเฟิงรู้สึกสนใจกับท่าทางของอลิซที่พยายามจะอธิบายมาก อลิซรู้ฐานะของตัวเอง เนี่ยเฟิงไม่อยากแกล้งเธอ จึงพูดอย่างยิ้มๆไปว่า
“เอาล่ะ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว ฉันล้อเธอเล่นน่ะ ฉันไม่อยากสร้างสมาคมของตัวเองอะไรทั้งนั้น ฉันมาที่นี่เพื่ออยากตั้งใจเรียนเท่านั้น”
ในตอนเริ่มแรกอลิซไม่สามารถหาเรื่องพูดคุยกับเนี่ยเฟิงได้ คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะหาทางลงให้เธอได้ อลิซจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ฉันไม่เคยได้ยินเลยนะว่ามีคนมาที่นี่เพื่อตั้งใจเรียนหนังสือ”
ในตอนที่อลิซเตรียมจะพูดคุยกับเนี่ยเฟิงอยู่นั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามา
ขาตรงเรียวยาวคู่นั้น ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งสวมชุดเดรสรัดรูปประดับเลื่อมสีดำ ซึ่งดูสะดุดตาเป็นพิเศษภายใต้แสงไฟหลากสีสัน
อลิซรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เดิมทีเธอคิดจะคุยกับเนี่ยเฟิงดีๆ คราวนี้เป็นใครอีกล่ะ?
เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เห็นเข้ากับลิซ่า ใบหน้าของลิซ่ามีการแต่งหน้าอย่างงดงาม การแต่งกายของเธอในวันนี้ก็ไม่เหมือนกับเธอ ตอนนี้ทั้งตัวของลิซ่าเปล่งประกายออร่าของ“ผู้หญิงเลว”ออกมา
“ถ้าไม่เป็นอะไร ฉันขอนั่งข้างๆนายได้ไหม?”
“เป็น!”อลิซกอดแขนของเนี่ยเฟิงไว้อย่างไม่รู้ตัว เธอเหมือนกับกำลังประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอยู่
“ฉันไม่ได้ถามเธอสักหน่อย”
ลิซ่ายักไหล่ มองข้ามอลิซไปเลย แล้วนั่งลงข้างๆของเนี่ยเฟิง ร่างกายครึ่งหนึ่งของเธอแทบจะแนบสนิทไปที่บนตัวของเนี่ยเฟิง
หลังจากที่พานฉางอันเห็นฉากนี้แล้ว เขาก็กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
ถ้าจะพูดว่าอลิซเป็นดาวในโรงเรียน และเป็นคนที่ไม่ว่าใครๆก็ต่างหมายปอง ถ้าอย่างนั้นลิซ่าก็เป็นดอกไม้บนยอดเขาสูงที่ยากจะเอื้อมถึง
ความงามของลิซ่าก็เหมือนกับคลีโอพัตรา โดยเฉพาะดวงตาอันลึกล้ำคู่นั้น ลำพังแค่มองก็เหมือนจะถูกดูดเข้าไปยังไงอย่างนั้น
พานฉางอันเลียริมฝีปากอันแห้งผาก เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่โพยพุ่งออกมาจากร่างกายของลิซ่า สิ่งนี้สามารถทำให้ผู้ชายเกิดความพลุ่งพล่านได้
ถึงพานฉางอันจะอิจฉามากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงออกมา เพราะพานฉางอันรู้ดีว่าสังคมขนาดเล็กแบบนี้ อิทธิพลย่อมแข็งแกร่งที่สุดเสมอ ล้วนเป็นเป้าหมายของผู้อื่น
เมื่อครู่พานฉางอันสามารถคุยกับหญิงสาวคนอื่นๆได้แล้ว ในความเป็นจริงนั้นเขาอาศัยบุญบารมีของเนี่ยเฟิง
ถ้าหากไม่ใช่เนี่ยเฟิงก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ตนเองจะคุยกับผู้หญิงเหล่านี้ได้ พานฉางอันรู้ดีว่าเนี่ยเฟิงเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ตนเป็นเพียงแค่สุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือเท่านั้น
ถึงพานฉางอันจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างไร แต่เขาก็สลัดความคิดเช่นนี้ทิ้งอย่างรวดเร็ว พานฉางอันนึกฝันว่าในอนาคตเขาก็ต้องแข็งแกร่งเหมือนอย่างเนี่ยเฟิง!
เนี่ยเฟิงถูกสาวสวยสองคนกอดแขนทั้งซ้ายและขวา ซึ่งมันทำให้เขาอดนึกถึงอันน่ากับซาวาก่อนหน้านี้ไม่ได้ ที่พวกเธอทั้งสองคนต่างพากันหึงหวงเพราะตนเองแบบนี้ ตอนนี้พอมานึกๆดูแล้วก็ตลกดี
เนี่ยเฟิงไม่ได้แกะมือของพวกเธอออก เขาได้แต่หัวเราะแล้วถามขึ้นมาว่า“พวกเธอกอดแขนของฉันอยู่ จะให้ฉันดื่มเหล้ายังไง?”
“นายอยากจะดื่มเหล้า ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้มือของนายเลยหนิ ฉันป้อนให้นายมันก็เหมือนกัน”
ลิซ่าพูดจบ ก็จับแก้วเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา เธอยื่นเหล้าออกไป ฉากนี้ทำให้อลิซโกรธมาก
ทั้งๆที่วันนี้เธอเป็นคนชวนเนี่ยเฟิงมาที่นี่ ใครจะไปรู้ว่าระหว่างทางจะมีคนโผล่เข้ามาแทรกกลางแบบนี้!
ผู้หญิงคนอื่นๆตัวสั่นงันงกไปตามๆกัน แน่นอนว่าพวกเธอรู้ดีว่าอลิซไม่กลัวลิซ่า เพราะว่าครอบครัวของอลิซไม่เบาเลย
แต่ลิซ่าก็เป็นลูกสาวของข้าราชการระดับสูงของพันธมิตรที่หนึ่ง ความสามารถของเธอยอดเยี่ยมมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เป็นประธานของสมาพันธ์นักศึกษาวิทยาเขตAหรอก
ได้ยินมาว่าลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายรูปร่างใหญ่ หลังจากที่เธอเรียนชั้นปีที่สี่จบก็ได้ไปรับหน้าที่เป็นทหารหญิงของพันธมิตรที่หนึ่ง
สิ่งนี้ไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นได้
ดวงตาทั้งคู่ของอลิซราวกับมีประกายไฟปะทุออกมา เธอเอาแต่จ้องไปที่ลิซ่า เพราะอลิซรู้ดีว่าคนอย่างลิซ่าขอเพียงแค่เป็นของที่เธอชอบ เธอไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด จะต้องเอามาอยู่ในมือให้ได้
เมื่อเห็นว่าลิซ่ายื่นเหล้าในมือไปที่ปากของเนี่ยเฟิง อลิซจะทนได้อย่างไร เห็นเพียงแค่อลิซยกแก้วเหล้าที่อยู่ในมือของตัวเองยื่นออกไป“ถ้าจะดื่มก็ต้องดื่มแก้วของฉัน ฉันเป็นคนชวนเนี่ยเฟิงมานะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอสักหน่อย เธออย่าหน้าด้านนั่งที่ที่ฉันจองไว้นะ”
“นายหญิงของเมืองทองทำไมถึงขี้เหนียวแบบนี้นะ?แค่มานั่งดื่มด้านเท่านั้นเอง ทำไมเธอต้องใช้สายตาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนั้นกับฉันด้วย?”
ลิซ่ากะพริบตาปริบๆ วิธีนี้ใช้ได้ผลกับผู้ชายส่วนใหญ่ แต่สำหรับอลิซแล้วไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย อลิซบดกรามของเธอไปมา“ลิซ่า ตกลงเธอหมายความว่ายังไงกันแน่?”
“ฉันหมายความว่ายังไง?ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรอ?ฉันชอบเขา เนี่ยเฟิง หลังจากที่วันนี้ฉันได้เห็นนายกระทืบหวางต้าฉิวอย่างกล้าหาญ ฉันก็ไม่สามารถลืมมันได้เลย เป็นไง?จะลองคบกับฉันดูไหม?”
ลิซ่าราวกับเป็นคนไม่มีกระดูก เธอเอาร่างของเธอเบียดแนบสนิทไปบนตัวของเนี่ยเฟิง
“หน้าด้าน!”ลิซ่าโมโหจนกัดฟันกรอด ตอนนี้เธอไม่เก็บซ่อนอีกต่อไปเช่นกัน เธอดึงตัวเนี่ยเฟิงกลับมาทันที“เนี่ยเฟิง ฉันจะไม่ปิดบังนายอีกต่อไปแล้ว ถึงยังไงนายเป็นสเปคที่ฉันชอบ!”
พานฉางอันถูกเบียดจนไปอยู่ข้างๆแล้วค่อยดูฉากที่เกิดขึ้น นี่เป็นผู้หญิงสองคนที่ฮอตในโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำเลยนะ แต่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงสองคนนี้จะแย่งเนี่ยเฟิงกัน
ประเด็นหลักคือเพราะวันนี้เนี่ยเฟิงแสดงตัวแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้เห็นก็ต้องหวั่นไหวอยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องปกติ
“เธอวางใจเถอะ ไม่มีผู้ประสบความสำเร็จคนไหนที่ชอบเด็กสาวปัญญาอ่อนแบบเธอหรอกนะ แน่นอนว่าพวกเขาต้องชอบคนที่เหมาะสมกับพวกเขา”
หลังจากที่ลิซ่าพูดจบก็ชี้มาที่ตนเอง“ยกตัวอย่างเช่นคนแบบฉัน”
“เหอะๆ!ตลกชะมัด เธอไม่ส่องกระจกดูหน่อยรึไงว่าตัวเองอายุเท่าไรแล้ว ยังอยากจะเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนอยู่อีก?ผู้หญิงแก่อย่างเธอน่ะ หลอกเด็กผู้ชายไร้เดียงสาพวกนั้นยังพอไหว เนี่ยเฟิงกับฉันน่ะมีความลับที่บอกใครไม่ได้ เธอล่ะมีไหม?”
เนี่ยเฟิงได้กลิ่นมาคุในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน ผู้หญิงสองคนคงไม่ได้จะทำสงครามกันหรอกนะ?
“เนี่ยเฟิง นายพูดอะไรหน่อยสิ ตกลงนายชอบแบบไหนกันแน่ แบบฉันหรืออลิซ?”
ลิซ่ามีความมั่นใจกับความงามและรูปร่างรวมไปถึงเสน่ห์ของตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงอลิซจะสวยและไร้เดียงสามาก แต่เมื่อความไร้เดียงสาเผชิญหน้ากับความเซ็กซี่มันก็เทียบกันไม่ได้เลย
ดังนั้นอลิซจึงรู้สึกว่าเนี่ยเฟิงน่าจะเลือกตนเองถึงจะถูก แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เนี่ยเฟิงจะเหลือบตามองลิซ่าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วส่ายหัวไปมา“ขอโทษจริงๆนะ เธอไม่ใช่สเปคที่ฉันชอบ”
ก่อนหน้านี้เนี่ยเฟิงก็เคยพูดแบบนี้กับตนเองมาก่อน หลังจากที่อลิซได้ฟังก็เริ่มรู้สึกยินดีปรีดากับความโชคร้ายของคนอื่น“ได้ยินแล้วใช่ไหม อย่าคิดว่าตัวเองหน้าตาไม่เลวแล้วจะหว่านเสน่ห์ใครก็ได้นะ!หึ!ไม่ดูสารรูปตัวเองหน่อยล่ะ!”
อลิซลืมไปหมดแล้ว เนี่ยเฟิงปฏิเสธตนเองแบบนี้เช่นกัน
รอยยิ้มของลิซ่าแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า แต่เธอก็กลับมายิ้มอย่างรวดเร็ว“ผู้ชายน่ะมักปากไม่ตรงกับใจ เขาบอกว่าไม่ชอบฉันก็แค่ใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับเท่านั้นแหละ แต่เขาบอกว่าไม่ชอบเธอ อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบจริงๆก็ได้”