NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 11

ตอนที่ 11

บทที่ 11 หลินชิงชิงมาแล้ว

แปดหมื่นก็แปดหมื่น ฉันจะโอนให้นาย” หลี่ฝางไม่แม้แต่จะคิด และตอบตกลงอย่างสบายๆ

นี่กลับทำให้จางจื้อเหาสับสนขึ้นมาเล็กน้อย เขามองไปที่หลี่ฝางอยู่นาน “เด็กอย่างนายตอบรับแบบสบายๆ อย่างนี้ คงไม่ได้คิดจะโกงใช่ไหม?”

“ฉันบอกนายให้ ฉันไม่ว่าจะด้านขาวด้านมืดล้วนผ่านมาหมดแล้ว ฉันขอแนะนำนายเลิกคิดที่จะแจ้งตำรวจหรือหาคนมาแก้แค้นไปได้เลย ไม่งั้นฉันจะฆ่านายแน่” จางจื้อเหาลากหลี่ฝางไปที่ห้องทำงานของเขา จากนั้นจึงให้หลี่ฝางเขียนบันทึก แสดงเจตนาว่าหลี่ฝางสมัครใจด้วยตนเอง

หลังให้เงินแก่จางจื้อเหา จางจื้อเหาก็หัวเราะเยาะ “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีธุระของนายแล้ว ไสหัวไปเถอะ”

หลี่ฝางไม่รั้งอยู่ต่อ และแกล้งทำท่าไปจากร้านขายรถมือสองจื้อเหา

ไม่นานหลังจากที่หลี่ฝางไปได้ไม่นาน เซี่ยลู่และคนอื่นๆ ก็มาที่ห้องทำงานของจางจื้อเหาอย่างมีความสุข

หลี่ฝางหลังแอบดูก็ได้แต่ด่าอย่างลับๆ พวกสวะสามตัว มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะให้พวกนายต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บนเตียง

หากเป็นในอดีต ความคิดแบบนี้ของหลี่ฝางคงจะเป็นแค่ฝันกลางวัน แต่ตอนนี้เขามีเงินแล้ว ความคิดนี้ย่อมสามารถเปลี่ยนเป็นความจริงได้อย่างแน่นอน

หลี่ฝางอยู่นอกสำนักงานของจางจื้อเหา และแอบฟังบทสนทนาด้านใน

“พี่ เจ้าเด็กโง่คนนั้นให้เงินพี่จริงๆ หรือ” จางเชี่ยนหลังจากเข้าประตูมา ก็ถามอย่างมีความสุข

“อืม นี่ไง”

“แล้วเงินของพวกเราล่ะ?” พวกผู้หญิงของจางเชี่ยนเริ่มหัวเราะคิกคักถาม

เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของหลี่ฝางก็เกร็งแน่น คล้ายคาดเดาอะไรได้แล้ว

ตามที่หลี่ฝางคาดเดา ผู้หญิงหลายคนเข้าหาจางจื้อเหาก็เพื่อมาขอแบ่งเอาเงิน

“ไม่ต้องห่วง ฉันจางจื่อเหาซื่อสัตย์ในธุรกิจของฉัน แต่ว่าพวกเธอเองก็เห็น รถ BMW ข้างนอกนั่นถูกชนได้รับความเสียหายจากเด็กหน้าเหม็นนั้น ค่าซ่อมรถอย่างต่ำๆ ก็มีหนึ่งถึงสองหมื่นแล้ว ที่เหลืออีกหกหมื่น ฉันจะแบ่งให้พวกเธอคนละสองพัน” จางจื้อเหาพูดอย่างขี้งก

“พี่ คุณทำเงินได้มากกว่าหกหมื่น แต่กลับแบ่งให้พวกเราแค่สองพัน นี่อย่างไรก็ออกจะน้อยเกินไป” ผู้หญิงของจางเชี่ยนหลายคนไม่พอใจทันที

“ใช่ พี่เหา ยังไงเสียแกะอ้วนตัวนี้ก็เป็นพวกเราที่เอามาให้คุณ”

“เรื่องดีๆ แบบนี้ในอนาคตพวกเราจะไม่ทำงานร่วมกับคุณแล้ว”

สีหน้าของจางจื้อเหาเคร่งขึ้น เขาเอ่ยยิ้มเยาะ “น้อยเกินไป? น้อยเกินไปพวกเธอไม่เอาก็ได้นี่!”

“ฉันจะบอกพวกเธอให้ ถึงแม้ฉันจะได้มามาก แต่ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงมากด้วยเช่นกัน หากเด็กนั่นไปแจ้งตำรวจขึ้นมาล่ะ? หรือถ้าเด็กนั้นไปหาคนมาล้างแค้นล่ะ? อันตรายทั้งหมดที่ซ้อนอยู่ล้วนเป็นฉันคนเดียวที่แบกรับมัน” จางจื้อเหาเอ่ยด้วยความอารมณ์เสีย

“วางใจเถอะ พี่ ไม่มีอันตรายอะไรหรอก ก่อนหน้านั้นฉันก็บอกกับพี่แล้ว พ่อแม่ของหลี่ฝางหายตัวไปเมื่อสามปีก่อนและตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวใดๆ อักทั้งเขาเองก็ไม่มีเพื่อนคนไหน ในโรงเรียนของพวกเรา พวกเรามักจะกลั่นแกล้งเขาเสมอ เขาถูกโกงแม้กระทั่งตดยังไม่กล้าด้วยซ้ำ” จางเชี่ยนรีบกล่าวอย่างรวดเร็วให้จางจื้อเหาวางใจ

“ก็ได้ อย่างนั้นฉันจะเพิ่มให้พวกเธอเพิ่มอีกห้าร้อย หากหลังจากนี้มีเรื่องดีๆ แบบนี้อีก จำไว้ว่าให้ติดต่อฉัน” จางจื้อเหาหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากลิ้นชักและส่งให้จางเชี่ยน

“ตอนเย็นพวกเธอว่างกันหรือเปล่า ฉันเลี้ยงเหล้าพวกเธอเป็นไว?” หลังแบ่งเงินเสร็จ จางจื้อเหาก็จ้องมองไปที่เซี่ยลู่

เซี่ยลู่ส่ายหัว “ฉันไม่ว่าง ฉันนัดกับแฟนของฉันเอาไว้”

“เหอะ นัดกับแฟนมีอะไรดีกัน ไปเที่ยวกับพวกเราต่างหากถึงจะมีความหมาย ฉันพาพวกเธอไปคลับ เป็นไง?” จางจื้อเหายังคงเกลี้ยกล่อม

“พอเถอะพี่ พวกพี่ชายพวกนั้นของพี่ แต่ละคนลามกจะตาย พอดื่มเหล้าหน่อยมือไม้ก็มา ไม่งั้นฉันจะแนะนำพวกผู้หญิงให้พี่เป็นไง” จางเชี่ยนเอ่ยขึ้น และเอาเบอร์มือถือกับหมายเลขวีแชทของหลี่เสี่ยวเสี่ยวให้แก่จางจื่อเหา

“ผู้หญิงคนนี้สวยไหม?” จางจื้อเหาถาม

“ถึงจะไม่สวยเท่าพวกเรา แต่ก็หน้าตาไม่เลว สำคัญคือนัดง่าย นัดออกมาแล้วพี่ให้เธอดื่มเหล้าสักหน่อย คิดจะทำอะไรก็ได้แล้ว จากนั้นให้เงินเธอไม่กี่ร้อยหยวนในภายหลังก็พอ”

หลังจากพูดจบ เซี่ยลู่ จางเชี่ยนและคนอื่นๆ ก็จากไป

หลังจากออกมา หลิวเฉียวเฉียวก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “จางเชี่ยน ฉันว่าพี่ชายของเธอขี้เหนียวเกินไปแล้ว เขาขุด เงินมาจากหลี่ฝาง 80000 แต่กลับให้พวกเราไม่ถึงแปดพัน ไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ”

“ใช่ ฉันก็คิดว่ามันน้อยเกินไป”

จางเชี่ยนจือปาก และถูกเซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวตำหนิ เพื่อชดเชยขอโทษ เธอจึงเอ่ยขึ้น “วันนี้ฉันเลี้ยงทุกคนเอง พวกเธอเลือกที่จะไปร้องเล่นเต้นรำได้เลย”

“ดี ดี”

เซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวเห็นด้วย

หลี่ฝางได้เห็นฉากนี้ หัวใจของเขาก็เย็นเฉียบขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะหลิวเฉียวเฉียว เมื่อคืนหลี่ฝางเห็นว่าเธอน่าสงสาร ดังนั้นจึงอดใจไม่ได้ที่จะแตะต้อง

“บ้าเอ้ย พวกขยะ!” หลี่ฝางถุยน้ำลาย จากนั้นจึงด่าออกมาอย่างรุนแรง

ในเวลานั้นเอง หลินชิงชิงก็โทรมา

ทันทีที่โทรศัพท์ดังขึ้น ความสนใจของจางจื้อเหาก็ถูกกระตุ้นทันที

“ใครกัน?”

จางจื้อเหาขมวดคิ้ว จากนั้นจึงวิ่งออกมาจากห้องทำงานและเห็นทันทีว่าเป็นหลี่ฝาง

“แกไอ้ลูกหมา ยังไม่ไสหัวไปอีก!” จางจื้อเหาหัวเราะ จากนั้นจึงมองไปที่หลี่ฝางอย่างสนุกสนาน “แอบซ่อนตัวอยู่ที่นี่คิดจะขโมยเงินคืนไปหรือไง?”

หลี่ฝางรู้สึกกลัวอยู่บ้าง เพราะจางจื้อเหาสูงถึง 1.85 เมตร ตัวใหญ่บึกบึนอีกทั้งยังลงมืออย่างโหดเหี้ยม

“เมื่อกี้ได้ยินหมดแล้วสินะ? คนที่ทำร้ายแกจริงๆ ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นพวกเพื่อนนักเรียนสาวของแกต่างหาก หากแกคิดจะแก้แค้น ฉันแนะนำให้ไปหาพวกเธอ อย่ามาหาฉัน”

“นายทำอะไรฉันไม่ได้ รู้ไหมว่าพี่ใหญ่ของฉันเป็นใคร? พี่ใหญ่ของฉันชื่อ ลูกพี่หลี่ ทั้งตงไห่นายไปถามดูได้ ใครไม่รู้จักลูกพี่หลี่”

“ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่านายจะโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์ นายเซ็นชื่อให้ฉันแล้ว นี่เป็นใบรับรองความสมัครใจของนาย”

จางจื้อเหากังวลว่าหลี่ฝางจะโทรแจ้งตำรวจ ดังนั้นเขาจึงเริ่มเอ่ยพูดจาข่มขู่ออกมา

ในเวลานั้นเอง มีรถสองคันขับเข้ามาในร้านขายรถมือสองจื้อเหา คันหนึ่งเป็นเบนซ์ ส่วนอีกคันเป็น Land Rover

“เฮ้อ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา นั่นคือรถของพี่แปด” ดวงตาของจางจื้อเหาเป็นประกายขณะมองไปที่รถเบนซ์

หลังจากนั้นจางจื้อเหาก็คิดขึ้นได้ ถ้าลูกพี่หลี่รู้เข้าว่าเขาไถเงินมาได้แปดหมื่นในวันนี้ เขาจะต้องแบ่งมันออกไปครึ่งหนึ่งแน่”

จางจื้อเหาชี้ไปที่จมูกของหลี่ฝาง “อีกเดี๋ยวนายอย่าได้พูดอะไรออกไปจะดีที่สุด หากนายพูดจามั่วซั่ว ฉันจะตัดลิ้นของนาย! ”

“รู้แล้ว”

หลี่ฝางเห็นหลินชิงชิงลงมาจาก Land Rover ในใจก็อดหัวเราะไม่ได้: รอดูเถอะว่าอีกเดี๋ยวนายจะตายอย่างไร!

เมื่อได้เห็นหลินชิงชิงขับLand Rover อีกทั้งยังหาลูกพี่หลี่มาช่วย หลี่ฝางก็รู้สึกได้ทันทีว่าหลินชิงชิงทรงอิธิพลมากแค่ไหน

จางจื้อเหาวิ่งเหยาะๆ ไปพบเขา และส่งบุหรี่ให้ลูกพี่หลี่ด้วยความเคารพ “พี่แปด ลมอะไรหอบพี่มาที่นี่? ”

ลูกพี่หลี่ตัวเล็กอย่างยิ่ง เขาสูงเพียง 1.6 เมตร แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกน่ายำเกรง

เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันไปมองหลินชิงชิง หลินชิงชิงเดินเข้ามา “ฉันถามนาย นายชื่อจางจื้อเหาหรือเปล่า?”

“ใช่ มีอะไรหรือ?”

“BMW คันนั้นของนายหรือเปล่า” หลินชิงชิงชี้ไปที่ BMW ที่อยู่ไม่ไกล

“เป็นของฉัน สาวสวย เธออยากซื้อมันหรือ?” มุมปากของจางจื้อเหาผุดยิ้มและคิดว่าลูกพี่หลี่กำลังนำธุรกิจมาให้เขา

“ไม่ผิด เป็นเขา”

หลินชิงชิงมองไปที่ลูกพี่หลี่ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พี่แปด คนของพี่ พี่พูดมาว่าจะจัดการยังไง”

“เดี๋ยวก่อน พี่แปด นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมไม่เข้าใจ?” จางจื้อเหางงงันไปแล้ว เขามองหลินชิงชิงและมองกลับไปที่ลูกพี่หลี่

ในเวลานั้นเองหลี่ฝางก็เกินออกมาคุยกับหลินชิงชิง “พี่ ทำไมถึงพึ่งมา”

“น้องชาย แผลบนใบหน้านาย…” หลินชิงชิงสัมผัสใบหน้าของหลี่ฝาง ในใจรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง “ฉันบอกนายแล้วไม่ใช่หรือไง ให้หยุดเขาเอาไว้ก่อน เขาอยากได้เงินก็ให้ไป จะได้ไม่ต้องถูกตี ทำไมยังถูกตีมาอีก”

หลี่ฝางเม้มปาก “เรื่องนี้โทษผมคนเดียวไม่ได้ เขาไม่เล่นตามเกมนี่ ผมลงจากรถเขาก็ลงมือทันที ตีเสร็จถึงค่อยบอกว่าจะเอาเงิน”

เหตุผลที่หลี่ฝางให้เงินออกไปอย่างง่ายดาย ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เป็นความคิดของหลินชิงชิง

หลินชิงชิงบอกหลี่ฝาง หากจางจื้อเหาคิดจะแบล็กเมล์ ก็ให้เอาเงินให้เขาก่อน รอหลินชิงชิงมาถึงค่อยเอากลับคืน

จุดประสงค์ก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้จางจื้อเหาลงมือ

คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝางก็ยังคงถูกทุบตีอยู่ดี

“อย่างนั้นเงินนายให้เขาไปแล้วหรือเปล่า?” หลินชิงชิงถามด้วยความโมโหอยู่บ้าง

“ให้แล้ว ให้เขาไป80000” หลี่ฝางพูดตามความจริง จากนั้นเขาก็มองไปที่จางจื้อเหา ในเวลานี้สีหน้าของจางจื้อเหาเปลี่ยนเป็นซีดขาดอย่างมาก

“พี่แปด พี่ได้ยินแล้ว แล้วก็ได้เห็นเองแล้วด้วย คนของพี่ตีน้องชายฉันไม่พอ ยังหลอกเอาเงินไปอีก 80000”

หลินชิงชิงกอดอก จากนั้นจึงถามด้วยท่าทางเอาเรื่อง “พี่จะต้องให้คำตอบกับพวกเรา”

“เฮ้อ” ลูกพี่หลี่ถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นมองจางจื้อเหา

“อาเหา” ลูกพี่หลี่เรียกเบา ๆ

“พี่…..แปด…” น้ำเสียงของจางจื้อเหาไม่เพียงแต่สั่นสะท้าน แต่ยังมีเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลลงมาจากขมับของเขาด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท