NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

บทที่ 10 ต้มตุ๋น

หลี่ฝางไม่ใช่ขับรถครั้งแรก แต่คือขับรถดีขนาดนี้ครั้งแรก

พ่อของหลี่ฝางชื่อหลี่ต๋าคาง เมื่อก่อนเป็นคนขับรถแท็กซี่ ตอนที่เขายังเด็ก หลี่ฝางก็ฝึกขับรถเป็นแล้ว

ถึงไฟแดงที่หนึ่ง หลี่ฝางรีบเหยียบเบรก แต่ทันใดนั้นเขาเพิ่งรู้ว่ามีปัญหา นั่นก็คือเบรกไม่หยุด

“แม่งเอ้ย เป็นอะไรวะ!? ”

ได้ยินแต่เสียงดังปั้ง รถBMWที่หลี่ฝางขับไปชนโดนรถญี่ปุ่นคันหนึ่ง ไฟท้ายของรถคันนั้นถูกชนจนยับเยิน

“ไอ้เหี้ย ใครชนรถของกูวะ?

บนรถมีชายหนึ่งหญิงหนึ่งลงจากรถ ผู้ชายลงจากรถก็เริ่มด่า: “มึงขับรถเป็นหรือไม่เป็นวะ รีบลงมาเดี๋ยวนี้!”

“แม่งเอ้ย ไอ้หมาน้อย ขับรถBMWแล้วแน่เหรอ” ชายคนนั้นด่าว่าและชี้หน้าหลี่ฝาง

หลี่ฝางตกใจมาก รถมือสองนี่ไม่ดีจริงๆ เบรกก็เสีย โชคดีที่ไม่ซื้อ

หลี่ฝางลงจากรถก็รีบขอโทษ รีบพูดแต่คำว่า: “ผมชดใช้เงินให้ ผมชดใช้ค่าเสียหายให้”

“พูดอะไร มึงมาชนกูเอง มึงไม่ชดใช้แล้วใครจะมาชดใช้วะ? ชายคนนั้นก็ยังหน้าตาบึ้งๆ

“ดูมึงใส่เสื้อผ้าเก่าๆ นี่สิ ดูก็เหมือนพนักงานซ่อมรถในอู่ซ่อมรถยนต์ ขับรถBMWของคนอื่นออกมาโชว์ล่ะสิ เสแสร้งหาพ่อมึงเหรอ!”

“พอแล้ว เสี่ยวโจว อย่าด่าอีกเลย ฉันรู้จักเด็กคนนี้”

เวลานี้ เสียงที่คุ้นๆ หูดังขึ้น: “น้องชาย ยังจำฉันได้ไหม? ”

“อ้าว คุณนั่นเอง ทำไมบังเอิญจัง? ” เงยหน้าเห็นเป็นคนคุ้นเคย หลี่ฝางไม่รู้สึกกลัวขนาดนั้นแล้ว

คือหลินชิงชิง

วันนี้เธอใส่ชุดกระโปรงสั้นสีดำ ขายาวขาวเนียนจนทิ่มตาหลี่ฝาง

“ใช่สิ เมื่อคืนขอโทษด้วยนะ เมามากเกินไป บอกว่าจะไปเที่ยวหานาย แต่ไม่ได้ไป”

หลินชิงชิงชี้รถBMW: “นี่เป็นรถของนายเหรอ? ”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วก็ขอโทษ: “ของร้านรถมือสองครับ ผมขับออกมาลองขับดู เมื่อกี้ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้น เบรกเสียกะทันหัน ขอโทษด้วยนะครับ พี่ชิงชิง พี่ชาย”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องชดใช้หรอก”

“พี่ชิง คุณดูสิท้ายรถโดนชนซะยับเยิน รูใหญ่ขนาดนี้!” ชายคนนี้ตอนแรกไม่ค่อยยอม แต่เห็นแก่หน้าของชิงชิง สุดท้ายก็ปล่อยไปไม่เอาเรื่อง

หลินชิงชิงคนนี้มีหน้ามีตาใหญ่โตจริงๆ

หลังจากที่ชายคนนี้ไปแล้ว หลินชิงชิงช่วยขับรถBMWเข้าไปริมทาง

“รถคันนี้ใครเป็นคนขายให้นาย เบรกเสียชัดเจนขนาดนี้” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว ในคำพูดคือกำลังจะบอกหลี่ฝางว่ามีคนอยากจะให้ร้ายเขา

หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ ก็พอเข้าใจบ้าง

“งั้นทำยังไงดี? ” หลี่ฝางจะร้องไห้แล้ว ตอนนี้รถก็ชนเสียขนาดนี้ ถึงแม้ไม่ซื้อ คงต้องชดใช้เงินก้อนใหญ่แน่ๆ

“เอางี้ นายบอกฉันมาคนที่ขายรถให้นายชื่ออะไร อยู่แถวไหน นายเป็นน้องชายฉัน ในเมื่อมีคนจะให้ร้ายนาย ฉันต้องไม่อยู่นิ่งๆ อย่างแน่นอน” หลินชิงชิงรู้สึกโมโห

หลี่ฝางมองดูหลินชิงชิง นึกถึงเรื่องเมื่อคืน เมื่อคืนหลินชิงชิงดื่มหนักไปหน่อย ด้านหลังมีชายหนุ่มที่สักมังกรเสือติดตามอยู่หลายคน จึงเรียกพี่อย่างกับคนรู้จักกัน

หลี่ฝางคิดว่าหลินชิงชิงต้องรู้จักคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจแน่นอน

“พี่ครับ คนนั้นชื่อจางจื้อเหา เปิด ร้านขายรถมือสองจื้อเหาอยู่แถวๆ ถนนชิงหลง” หลี่ฝางบอก

“ฉันจำไว้ละ”

หลินชิงชิงคิดอยู่สักพักและพูดขึ้นมาว่า: “อย่างนี้นะ พี่มีธุระต้องจัดการนิดหน่อย รีบร้อนมาก นายกลับไป ร้านขายรถมือสองจื้อเหาก่อน ดูว่านายนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่”

“ฉันจัดการธุระตนเองเสร็จแล้วจะรีบไปหานาย” หลินชิงชิงบอก

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกเศร้าหงอยนิดๆ ตอนแรกเขานึกว่าหลินชิงชิงจะกลับไปพร้อมกับเขา แต่นึกไม่ถึง…..

“พี่ครับ เดี๋ยวค่อยไป ผมโอนเงินให้พี่นิดหนึ่งก่อน”

“ไม่ต้อง”

“ไม่ได้ เมื่อกี้ชนรถเพื่อนของพี่ ไปซ่อมก็ต้องเสียตังค์แน่นอน” หลี่ฝางเมื่อคืนแอดวีแชทของหลินชิงชิงไว้แล้ว รีบหยิบมือถือออกมาโอนเงินไปให้หลินชิงชิงสองหมื่น

“น้องชายเอ้ย บ้านนายทำเหมืองทองเหรอ รถคันนั้นซ่อมขึ้นมาก็แค่ไม่กี่ร้อย อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งพัน นายโอนให้ฉันตั้งสองหมื่นทำไม จะรับเลี้ยงดูพี่เหรอ!”

หลินชิงชิงเอามือหยิบจมูกของหลี่ฝาง พูดหยอกๆ หนึ่งคำ: “พี่ไม่ขอรับให้ใครเลี้ยงดูนะ เงินเดี๋ยวฉันโอนกลับไปให้”

“อย่าเลย พี่ เดี๋ยวพี่ไปขอให้ใครไปช่วยเหลือ ก็ต้องเสียเงินอยู่ดี เอาเงินให้พี่ยังดีกว่าให้จางจื้อเหาไอ้เลวนั่นหลอกไป” หลี่ฝางหัวเราะ

ตอนนี้สิ่งที่หลี่ฝางไม่ขาดก็คือเงินนั่นแหล่ะ อย่าลืม คุณปู่ของเขาเป็นถึงมหาเศรษฐีดูไบ ดูไบเชียวนะ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกส่วนมากอยู่ที่นั่นหมด

“อย่างนั้นก็ไม่ได้ นายเป็นน้องชายฉัน ช่วยเหลือน้อง ฉันจะรับเงินได้ไงล่ะ” หลินชิงชิงตบๆ ไหล่ของหลี่ฝาง จากนั้นก็เรียกรถออกไป

แต่ก่อนที่หลินชิงชิงจะไปได้ให้คำสัญญากับหลี่ฝางว่า ครั้งนี้ไม่ผิดนัดกับเขาแน่นอน

ขับรถกลับไปถึงเต็นท์รถ พอหลี่ฝางลงจากรถ ก็ถูกจางจื้อเหาถีบที่ท้องของเขา

“มึงโดนหาที่ตายเหรอ เอารถของกูไปชนจนเป็นแบบนี้!”

จางจื้อเหาดึงตัวหลี่ฝางไปที่หน้ารถBMWคันนั้น ชี้ไปตรงที่ถูกชน: “ไอ้เด็กบ้า แกเอารถกูไปชนจนเละอย่างนี้ แกให้ฉันขายยังไง? ”

“พี่ อย่าตีอีกเลย” จางเชี่ยนวิ่งเข้ามาดึงตัวจางจื้อเหา

“พี่ใจเย็นๆ นะ หลี่ฝางไม่ได้ตั้งใจแน่นอน” จางเชี่ยนรีบหันไปพูด: “ใช่ไหม หลี่ฝาง? ”

จางเชี่ยนเด็กโง่คนนี้นี่ ถามอะไรมั่วๆ มีใครคนไหนจะตั้งใจขับไปชนเอง? ไม่ใช่โรคจิตสักหน่อย?

หลี่ฝางมองหน้าจางจื้อเหา จางจื้อเหาก็จ้องเขาอย่างดุร้าย ทั้งสองสบตากัน หลี่ฝางรู้สึกกลัวๆ ตอนแรงกะจะเปิดเผยแผนการของจื้จางอเหาออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่คิดไปคิดมา หลี่ฝางตัดสินใจไม่ดีกว่า

ข้อแรก ถ้าเปิดเผยแล้วจางจื้อเหาก็ไม่ยอมรับ

ข้อสอง จางจื้อเหาโมโหขึ้นมาต้องตีตนเองอีกแน่ๆ

ผู้ชายอกสามศอกไม่ยอมเสียเปรียบเรื่องที่อยู่ตรงหน้าหรอก หลี่ฝางยอมอดทนไว้ รอหลินชิงชิงมาถึงค่อยว่ากัน

“หลี่ฝาง นายเอารถพี่เหาไปชนจนเสียเยอะขนาดนี้แล้ว นายก็ซื้อไปเลย ถ้าไม่อย่างนั้น พี่เหาต้องไม่ปล่อยนายง่ายๆ แน่”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา ด่าเซี่ยลู่ในใจหนึ่งคำ: ซื้อเหี้ยดิ

“พี่เหา รถคันนี้ราคาเท่าไหร่นะ? ” ถึงแม้หลี่ฝางไม่คิดจะซื้อ แต่ก็ลองๆ ถามดู เขากำลังยื้อเวลา รอให้หลินชิงชิงมาถึง

จางจื้อเหาก็ยังทำหน้าบึ้ง: “ราคาปกติรถคันนี้ราคาสามแสนกว่า แต่เห็นแก่ชิงชิง ผมลดให้นายสองหมื่น ขายให้นายสองแสนแปด เงินดาวน์ไม่เกินแสน”

“อะไรนะ? เมื่อกี้นายบอกว่าแสนกว่านิ……” หลี่ฝางพูดไม่ออก แค่แป๊บเดียว ราคาขึ้นเป็นเท่าตัว!

หลี่ฝางเพิ่งจะเข้าใจ จางจื้อเหาได้วางแผนหลอกตนเองตั้งแต่แรกแล้ว

“ผมเคยพูดเหรอ? ทำไมผมจำไม่ได้? ” จางจื้อเหาถามและยิ้มด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์

หลี่ฝางมองดูพวกเซี่ยลู่ แต่พวกเธอไม่มีใครออกมาพูดอะไรเลย แม้แต่หลิวเฉียวเฉียวก็ไปยืนอยู่อีกข้าง เลือกที่จะอยู่เงียบๆ

จางเชี่ยนยังพูดอีกว่า: “หลี่ฝาง นายต้องฟังผิดแน่ๆ นี่มันรถBMW series5 จะขายราคาแค่แสนกว่าหยวนได้ยังไง? ”

“หลี่ฝาง ไม่อย่างนั้นนายก็วางดาวน์ซื้อไปเลย รอนายซื้อแล้ว ฉันจะไปเที่ยวกับนายทุกวันเลย” เซี่ยลู่เข้าไปชิดๆ ตัวหลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ในใจกำลังด่าเซี่ยลู่ ซื้อเหี้ย

หลิวเฉียวเฉียวก็พูดขึ้นมาด้วย: “หลี่ฝาง นายก็ซื้อๆ ไปเถอะ ฉันดูรถคันนี้ก็สวยดีนะ สวยกว่ารถคันที่ตู้เฟยขับอีก”

“ใช่สิ ตู้เฟยคันนั้นมันแค่series3 นี่มันseries5 แพงกว่าอีกระดับหนึ่งเลยล่ะ” จางเชี่ยนสองมือกอดอก พูดอย่างภาคภูมิใจ

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่รู้ควรทำยังไงดี

“ตกลงนายจะซื้อหรือไม่ซื้อล่ะ”

จางจื้อเหาเดินเข้ามาก็ยกขาถีบหลี่ฝางล้มไปที่รถ

“ถ้าวันนี้แกไม่ซื้อรถของกู กูจะตีมึงให้ขาหัก” จางจื้อเหาจ้องมองหน้าหลี่ฝางอย่างดุร้าย

เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างหลี่ฝาง สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือการถูกข่มขู่ แค่ลงมือตีสักชุด อะไรก็ยอมหมด

จางจื้อเหารู้จุดอ่อนจุดนี้

“พี่เหา ผมเอารถพี่ไปชนจนเสีย ชดใช้เงินให้พี่ได้ไหม? ” หลี่ฝางนวดๆ ท้องตัวเองและยืนขึ้นมา

“รถผมซื้อไม่ไหว” หลี่ฝางบอก

จางจื้อเหาเงียบไปสักพักแล้วก็พูดว่า: “ก็ได้ แต่ว่านี่มันรถ BMW series5 ซ่อมขึ้นมาก็ไม่ถูก นายไม่เพียงแค่ทำให้หน้ารถเสีย เบรกรถก็เหยียบจนเสียไปด้วย”

จางจื้อเหายังไม่เคยเข้าไปดูข้างในรถก็รู้แล้วว่าเบรกรถเสียแล้ว นี่มันยอมสารภาพเองชัดๆ นิ

แต่ถึงแม้จะไม่ยอมสารภาพเอง หลี่ฝางก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมาให้ชัดเจน ได้แต่ตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ: “งั้นเอาอย่างนี้พี่เหา พี่ดูว่าผมต้องชดใช้เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม”

“ฉันคิดดูก่อน” จางจื้อเหาแกล้งทำเป็นดูรอบๆ รถ แล้วเดินกลับมาหาหลี่ฝาง

“แปดหมื่น น้อยกว่านี้สลึงหนึ่งก็ไม่ได้!”

จางจื้อเหาพูดอย่างเยือกเย็น นี่เป็นแผนการที่พวกเซี่ยลู่คิดไว้อยู่แล้ว หลี่ฝางถูกรางวัลสองแสน เมื่อคืนใช้จ่ายไปแสนสองหมื่น บนตัวเขาน่าจะเหลือประมาณแปดหมื่น

แต่พวกเซี่ยลู่นึกไม่ถึงว่าจางจื้อเหาจะโหดขนาดนี้ คิดจะตุ๋นเงินแปดหมื่นนั่นให้หมด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท