NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

บทที่ 13 พบกันในบาร์

หลังจากที่แบ่งปันเงินแล้ว พวกเซี่ยลู่ก็เตรียมจะหาบาร์เพื่อฉลอง เธอโทรหาตู้เฟยและขอให้ตู้เฟยขับ BMW มารับพวกเธอ

เมื่อได้ยินว่าตู้เฟยกำลังจะมา จางเชี่ยนและหลิวเฉียวเฉียวก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาทันที

“ลู่ลู่ ตู้เฟยคนนั้นเมื่อคืนหลอกเราเสียจนหมดรูป ทำไมเธอยังติดต่อเขาอยู่อีก” จางเชี่ยนรู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับเซี่ยลู่

“เขาอธิบายให้ฉันแล้ว เมื่อว่าสาเหตุที่ปิดมือถือ ก็เพราะเขาถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ ไม่ใช่เจตนา พวกเธออย่าเข้าใจเขาผิดไป” เซี่ยลู่เชื่อคำโกหกของตู้เฟยอย่างโง่เขลา แถมยังแก้ตัวให้เขาอีกด้วย

จางเชี่ยนและหลิวเฉียวเฉียวมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ

หลังจากนั้นไม่นาน ตู้เฟยก็ขับรถ BMWมา หญิงสาวทั้งสามเข้าไปในรถ จางเชี่ยนเป็นคนแรกที่ตำหนิเขา “ตู้เฟย เมื่อคืนคุณทำให้พวกเราหมดรูปอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเฉียวเฉียว เธอถูกหลี่ฝาง….”

หลิวเฉียวเฉียวปิดปากของจางเชี่ยนอย่างรวดเร็ว เธอถลึงตาใส่ ไม่ใช่จางเชี่ยนพูดเรื่องไร้สาระ

แม้ว่าหลิวเฉียวเฉียวและหลี่ฝางจะไม่ได้ทำอะไรลงไปเมื่อคืน อีกทั้งยังบริสุทธิ์อยู่ แต่ถ้าผู้คนรู้ว่าหลิวเฉียวเฉียวและหลี่ฝางเปิดห้อง อย่างนั้นชื่อเสียงของเธอจะต้องพังพินาศอย่างแน่นอน

เรื่องแบบนั้น แค่เปิดห้องก็หมายถึงการกระทำแล้ว

ตู้เฟยยิ้มอย่างอึดอัด “เมื่อคืนนี้ฉันถูกตำรวจจราจรตรวจจับ หากไม่ใช่เพราะเส้นสายของพ่อฉัน วันนี้คงออกมาไม่ได้แล้ว”

“เอาอย่างนี้ เพื่อชดเชยความผิดพลาดเมื่อคืน ฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในคืนนี้ตกลงไหม?” ตู้เฟย”กล่าวอย่างใจกว้าง

“พวกเราจะไปเที่ยวที่ไหน? ”

“บาร์ที่เพิ่งเปิดใหม่ในตงไห่เถอะ ชื่อว่า Recalling the past ได้ยินว่าไม่เลวพวกเราไปที่นั่น ฉันนัดเพื่อนเอาไว้ ล้วนเป็นลูกเศรษฐี พวกเธอสองคนฉวยโอกาสนี้ให้ดีนะ” ตู้เฟยเอ่ยอย่างขี้เล่นขณะมองหลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยน

ตั้งแต่เซี่ยลู่และตู้เฟยคบกัน หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนก็อาศัยผลพลอยได้ให้ตู้เฟยแนะนำพวกลูกเศรษฐีให้พวกเธอได้รู้จัก ตอนนี้โอกาสมาแล้ว

“ตู้เฟย ทำไมคุณไม่บอกก่อน ฉันกับเฉียวเฉียวจะได้แต่งตัวมา”

“นั่นสิ ไม่ได้เตรียมตัวเลย”

ถึงRecalling the pastจะไม่ใช่สถานที่ที่นับว่าดี แต่อย่างที่กล่าวไป สถานที่เพื่อการบันเทิงใกล้การพนันแบบนี้ ตั้งอยู่ไกลออกไปหน่อยก็ไม่เป็นอะไร

เมื่อมาถึงRecalling the past ตู้เฟยก็จอดรถไว้ด้านหลัง Land Rover ของหลินชิงชิงพอดี

“แม่เจ้า รถหรูทำไมถึงเยอะขนาดนี้!” ตู้เฟยกวาดตามองรถ เฟอร์รารี่ ปอร์เช่ รถหรูแทบทุกประเภทล้วนมีอยู่ อีกทั้งยังมีโรลส์รอยสอีกสองคัน

แม่เจ้าโว้ย

คนที่ขับโรลส์รอยซ์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกบอสใหญ่ คนระดับพวกเขา ทำไมถึงมาดื่นเหล้าที่บาร์?

“ตู้เฟย บาร์นี้ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่” จางเชี่ยนเงยหน้าขึ้นดู ภายนอกบาร์ดูธรรมดาทั่วไป

แต่หลังจากเดินเข้าไป พวกเขาก็ตกใจ

เมื่อคืนนี้พวกเขาเห็นหินภูเขาประดับในLotus แต่วันนี้พวกเขากลับเห็นมังกรทอง

มังกรนั้นดูมีความเหมือนจริง ราวกับว่ากำลังบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ฉันบอกพวกเธอให้ มังกรตัวนี้ทำจากทองคำบริสุทธิ์” ตู้เฟยจ้องมองไปที่มังกร ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

“ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้ามันทำจากทองคำบริสุทธิ์จริง ราคาจะเท่าไหร่กัน?” เซี่ยลู่เบ้ปาก สีหน้าไม่เชื่อ

“พ่อของฉันบอกฉันเอง ย่อมไม่ใช่เรื่องโกหกแน่ ฉันเดาว่ามังกรตัวนี้ตัวเดียว น่าจะมีราคามากกว่าพันล้านหยวน”

“มากกว่าพันล้าน?”

เซี่ยลู่และคนอื่นๆ สูดลมหายใจเข้า “แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในตงไห่ ยังไม่กล้าฟุ่มเฟือยขนาดนี้”

“ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่าง ทั้งหมดเป็นพ่อที่บอกกับฉัน พ่อบอกว่าเบื้องหลังที่นี่มีเถ้าแก่ใหญ่คุ้มอยู่ ค่าตัวเกรงว่าจะมากกว่าหลายแสนล้าน”

“หลายแสนล้าน อย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของจีนหรอกหรือไง”

“ก็คงไม่ต่างกัน”

หลังจากนั้นไม่นาน ตู้เฟยก็เรียกหาบริกรและขอที่นั่งวีไอพี

หลังจากสั่งไวน์และเบียร์จากต่างประเทศมาจนเต็มโต๊ะ ตู้เฟยก็ยิ้มและพูดอย่างภูมิใจ “วันนี้ทุกคนสนุกเต็มที่ ฉันเลี้ยงเอง”

“ตู้เฟย คุณรวยจริงๆ เลยนะ”

การบริโภคขั้นต่ำของที่นั่งวีไอพีคือ 8.8 พัน แต่ไวน์ที่สั่งมาเหล่านี้ของตู้เฟยเกินค่าใช้จ่ายขั้นต่ำไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าจะเกิดเรื่องซ้ำเมื่อคืนขึ้นซ้ำสอง

“ตู้เฟย นายคงไม่เอาพวกเรามามัดจำไว้ที่นี่หรอกนะ!” หลิวเฉียวเฉียวเอ่ยเสียงเย็นเยียบ เห็นชัดว่ายังเจ็บใจกับเรื่องเมื่อคืน

“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ฉันรูดบัตรก่อนแล้วกัน”

คืนนี้พ่อของตู้เฟยให้เงินเขามา 100000 หยวน เพื่อให้เขาเข้ามาสำรวจที่Recalling the pastจะ

นอกจากตู้เฟยแล้ว ยังมีคนดังในตงไห่หลายคนที่มาที่นี่ เป้าหมายล้วนต้องการสืบข่าวเรื่องเศรษฐีลึกลับ และพยายามค้นหาเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับเขา

นั่นเพราะเศรษฐีลึกลับจะนำเงินลงทุนมาถึงหลายหมื่นล้าน ใครกันในตงไห่ที่จะไม่ตาลุกวาว?

“เพื่อนของฉันจะมาที่นี่เร็วๆ นี้ ฉันบอกพวกเธอสองคนให้ เพื่อนของฉันสองคน ทุกคนล้วนรวยระดับหลายร้อยล้านถ้าพวกเธอสองคนมีความสามารถในการจับเขา ฉันรับประกันว่าพวกเธอจะมีความสุขและความมั่งคั่งไปตลอดชีวิต” ตู้เฟยดูเวลา และเอ่ยเตือนหลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยน

“ฉันต้องไปห้องน้ำเพื่อแต่งหน้า ขอโทษที” จางเชี่ยนยืนขึ้นและเดินไปที่ห้องน้ำ หลังจากนั้นไม่นานหลิวเฉียวเฉียวก็ตามมา

ในเวลานี้ ตู้เฟยชี้ไปที่ไม่ไกล “ลู่ลู่ เธอลองดูคนคนนั้น คล้ายกับหลี่ฝางไหม?”

“หลี่ฝาง? พี่เฟย คุณต้องมองผิดไปแน่ๆ เงินจากการจับสลากทั้งหมดของหลี่ฝางถูกพวกเราโกงไปหมดแล้ว จะมีเงินมาที่แบบนี้ได้ยังไง!” ทันทีที่เซี่ยลู่นึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เธอก็แอบดีใจลับๆ

“ฉันอาจจะมองผิดไป” เมื่อตู้เฟยหันมองอีกครั้ง หลี่ฝางก็ถูกคนบังเอาไว้

“นายว่าทำไมหลี่ฝางถึงได้โง่ขนาดนั้น พี่ชายของจางเชี่ยนแค่กระทืบเขานิดหน่อย แต่เขากลับให้เงินทั้งหมด 80000 หยวนแก่เขา ช่างสิ้นหวังจริงๆ! “เซี่ยลู่ดื่มเหล้า จากนั้นจึงเอ่ยอย่างเหยียดหยาม

“แบบนั้นก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เขากลายเป็นคนยากจนตัวเปล่าอีกครั้ง เมื่อคืนเขาทำให้ฉันเสียหน้า รอพรุ่งนี้ที่โรงเรียน ฉันจะจัดการเขาสักหน่อย” ตู้เฟยเอ่ยพูด ในตามีประกายเย็นชาวาบผ่าน

“แต่ว่าพี่ชายของจางเชี่ยนออกจะโลภไปหน่อย เขาหลอกเอาเงินจากหลี่ฝางมาได้ตั้ง 80000 แต่กับให้พวกเราแค่8000 แม่งเอ้ย เซี่ยลู่ ทีหลังเธอนัดเขาออกมา ฉันจะให้คนไปขวางเขาเอาไว้ จัดการเขาสุดหน่อย บางทีอาจจะยอมคายออกมาอีกหน่อย”

“เงิน8000นี้ พวกเราต้องแบ่งได้สี่หมื่นถึงจะถูก” ตู้เฟยยิ้มอย่างร้ายกาจ

เซี่ยลู่พึ่งพยักหน้า ก็มีคนโอบรอบคอและดึงเธอเข้าสู่อ้อมอก

“เสี่ยวเฟย นี่คือผู้หญิงที่นายจะแนะนำให้ฉันรู้จักหรือ หน้าตาสวยจริงๆ” ผู้ชายผมยาวคนหนึ่งจ้องไปที่”เซี่ยลู่จนเธอตกใจกลัว

เซี่ยลู่ผลักชายผมยาวออกไป “ฉันเป็นแฟนของตู้เฟย พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว”

“พี่เสียง พี่เจ๋ เธอเป็นแฟนของผม เหยื่อของพี่อยู่ตรงนู้น” ตู้เฟยรีบดึงเซี่ยลู่มาหน้าตน จากนั้นจึงพยักหน้าไปทางห้องน้ำ

ในเวลานี้หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนเพิ่งแต่งหน้าเสร็จพอดี ตู้เฟยหัวเราะและพูดว่า “เป็นไง ไม่เลวใช่ไหม? ”

“ไม่เลว “หุ่นและหน้าตาไม่เลว เพียงแต่มีผู้หญิงคนหนึ่งดูเหมือนจะไม่บริสุทธิ์นี่!” ชายผมยาวขมวดคิ้วขณะมองจางเชี่ยน

“พี่เสียง ไม่เสียงแรงที่เป็นนักฆ่าสาวบริสุทธิ์ ดูจากไกลๆ ยังมองออกว่าบริสุทธิ์รึเปล่า เทพ!” ตู้เฟยหาเรื่องมาชมเขา

“แน่อยู่แล้ว” ชายผมยาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อหลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนกลับมายังที่นั่งวีไอพี ลูกเศรษฐีทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืน

“สวัสดี ฉันชื่อส้งเสียง พ่อของฉันเป็นประธานบริษัทส้งซื่อ” ชายผมยาวแนะนำตัว

“ฉันชื่อโจวเจ๋ บริษัทเจียเหอเป็นของครอบครัวของฉัน ฉันคิดว่าพวกคุณสองคนมีศักยภาพที่จะเป็นดารา นี่คือนามบัตรของฉัน ถ้าคุณต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง โทรหาฉันได้” โจวเจ๋ทะเยอทะยานมากขึ้น เขาคิดจะกินรวบ

ตู้เฟยแอบหัวเราะ โจวเจ๋คนนี้อาศัยบริษัทเจียเหอของครอบครัวตนเอง หลอกผู้หญิงมาแล้วไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย

หลังจากทำความรู้จักสั้น ๆ จางเชี่ยนก็นั่งลงถัดจากโจวเจ๋และหลิวเฉียวเฉียวนั่งหน้าส้งเสียง

หลังดื่มไปกี่อึก จู่ๆ หลิวเฉียวเฉียวก็พูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ฉันเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ พวกเธอเดาสิว่าฉันเห็นใคร?”

“เห็นใคร?” เซี่ยลู่ถาม

“ฉันเห็นหลี่ฝางเข้าจริงๆ ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองตาฝาด แต่หลังจากเข้าไปใกล้ฉันกับเชี่ยนเชี่ยนก็ค่อยพบว่าเป็นเขาจริงๆ” หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้วอย่างตื่นเต้น นั่นเพราะเมื่อวานเธอตกลงที่จะเป็นแฟนสาวของ”หลี่ฝาง แต่วันนี้เธอกลับออกมาหาผู้ชายคนอื่น

หลิวเฉียวเฉียวรู้สึกว่าตนเป็นคนเสเพลอยู่บ้าง

“เขาอยู่ที่นี่จริงๆ หรือ?” ตู้เฟยกล่าวแค่นยิ้มที่เย็นชา “เรียกเขามานี่ มาเล่นกับเขาสักหน่อย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท