NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 22

ตอนที่ 22

บทที่22 ใส่ร้าย

ถึงห้อง หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็จงใจอ่อยหลี่ฝาง ดีดดิ้นแป๊บหนึ่ง แล้วก็ดึงสายเสื้อในตัวเองลง แล้วแป๊บหนึ่งหลี่ฝางก็ทนไม่ไหว

หลี่ฝางดึงหลี่เสี่ยวเสี่ยวไปที่เตียงอย่างร้อนใจ ถอดเสื้อของเธอ

แต่คืนนี้ หลี่ฝางกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่ได้เกิดอะไรขึ้นจริงๆ สาเหตุเพราะหลี่เสี่ยวเสี่ยวประจำเดือนมา

วันถัดมาตู้เฟยขับปอร์เช่คันหนึ่งไปโรงเรียน ลงจากรถก็ถูกพวกนักเรียนล้อมไว้

“พี่เฟย คุณขับปอร์เช่แล้ว นี่มันเท่าไหร่กันเนี่ย?”

“พี่เฟย พาผมไปนั่งรถเล่นเมื่อไหร่ ผมยังไม่เคยนั่งปอร์เช่เลยนะ”

ตู้เฟยยิ้มอย่างสุขสมหวัง: “พูดดีนี่ รอมีโอกาสจะพาพวกคุณไปนั่งรถเล่น แต่รถผม พาสาวสวยไปได้เท่านั้นนะ”

โจวหยางผ่านมาก็มอง นี่ไม่ใช่รถของพี่ชายฝั่งพ่อของตัวเองหรอกเหรอ กลายเป็นของตู้เฟยตั้งแต่เมื่อไหร่?

ที่จริงนี่เป็นรถมือสองที่ตู้เฟยซื้อมาจากโจวเจ๋ แค่ห้าแสนหยวน

แน่นอน สำหรับนักเรียนแล้ว ซื้อรถไปห้าแสน ถือว่าเป็นตัวเลขที่นับไม่ถ้วนเชียว

เห็นหลี่ฝาง ตู้เฟยก็โบกมือทักทาย เรียกเขา: “หลี่ฝาง รถนี้เป็นไงบ้าง?”

“ก็ได้นะ” หลี่ฝางวิจารณ์ไปเรียบๆ

“ฮ่าฮ่า ผมรู้ว่าในใจคุณต้องอิจฉาแน่นอน จะบอกให้นะ ผมซื้อคันนี้ได้ ก็เป็นเพราะมีคุณเป็นส่วนช่วย” ตู้เฟยคิดว่าหลี่ฝางจะโกรธ แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางทำเหมือนกับไม่ได้ยิน หมุนตัวออกไป

“แม่งเอ๊ย รอผมได้โอกาสก่อน จะต้องจัดการเขาสักครั้ง” มองไปที่แผ่นหลังหลี่ฝาง ตู้เฟยพูดอย่างเยือกเย็น

สองสามวันนี้ ตู้เฟยอยู่ในเงื้อมมือของหลี่ฝางอยู่ในหลายครั้ง แต่ต้องอัดอั้นไว้มากๆ

“ผมจะคอยดูว่าต่อไปคุณจะเป็นไง!” ตู้เฟยคิดว่าหลี่ฝางไม่มีเงินแล้ว ในใจก็ผ่อนคลายอย่างมาก

เวลาหนึ่งวัน ตู้เฟยแทบจะได้รับการยกยอต่อผู้คนมากมาย ก็แค่ตอนที่เข้าเรียนคาบพละ ตู้เฟยพาจางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งไปหาหลี่ฝางเจอ ขวางทางที่เขาจะไป “หลี่ฝาง เอาโทรศัพท์ผมคืนมา”

“คุณหาผิดคนแล้ว โทรศัพท์ไม่ได้อยู่ที่ผม” หลี่ฝางดันตู้เฟยออก

“ห่าเอ๊ย ชักจะกล้ายิ่งใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ ยังจะกล้ายุ่งกับผมอีก ลองมายุ่งกับผมอีกไหมล่ะ?” ตู้เฟยจ้องหลี่ฝางอย่างเยือกเย็น พูดขู่: “เชื่อไหมว่าผมจะตัดนิ้วของคุณให้แยกจากกันหมด?”

“งั้นคุณเชื่อไหมว่าตอนนี้ผมก็จะโทรหาพี่สาวผม?” หลี่ฝางไม่กลัวตู้เฟยหาเรื่อง

มีลูกสาวของลูกพี่หลินคุ้มครอง หลี่ฝางสามารถทำตัวกร่างในโรงเรียนได้

“ห่า หลี่ฝาง คุณมันหน้าไม่อายเสียจริง ต้องให้ผู้หญิงมาคุ้มกัน คุณมันต่างอะไรกับแมงดาเกาะผู้หญิงกันล่ะ” ตู้เฟยทำอะไรหลี่ฝางไม่ได้ จึงได้แต่ก้าวร้าวใส่

หลี่ฝางไม่หลงกล เขาหันออกเดินออกไป

หลี่ฝางหมดคำพูด ตู้เฟยโกงตัวเองไปหลายแสน ยังจะสนแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวอีก?

หรือว่าโทรศัพท์นี้มีอะไรที่รู้ไม่ได้?

หลี่ฝางหามุมที่ไม่มีคน เอาโทรศัพท์ตู้เฟยออกมา เปิดมาดู ที่แท้ ในโทรศัพท์ก็มีความลับมากมาย

“ห่าเอ๊ย!”

หลี่ฝางตะลึงทันที คลิปพวกนี้ต่างเป็นที่ตู้เฟยแอบถ่าย เป็นภาพลามกชัดๆ !

หลี่ฝางดูของตู้เฟยกับเซี่ยลู่เสร็จ ก็ไม่สบายใจอย่างมาก เซี่ยลู่ที่วันๆ ดูเย็นชาขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าอยู่บนเตียงจะชำนาญขนาดนั้น

“จางเชี่ยน?”

พอเปิดอันต่อไป หลี่ฝางก็ยิ่งช็อก ตู้เฟยเป็นชู้กับจางเชี่ยน

ทุกคลิปมีประมาณสามสี่นาที หลี่ฝางยิ้มดูถูก ตู้เฟยนี่ มีความบกพร่องทางนั้นอย่างเห็นได้ชัด

เปรียบเทียบกันแล้ว โทรศัพท์ของเซี่ยลู่มีแค่รูปเซลฟี่โชว์ไม่กี่รูปเทียบกับคลิปตู้เฟยพวกนั้นแล้ว ไม่น่าสนใจสักนิด

คลิปพวกนี้บวกกับเสียงที่อัดแล้ว แค่หลี่ฝางคิด ก็ทำให้ตู้เฟยตายได้ตลอดเวลา

ก็แค่ไม่มีทางเลือกเท่านั้นแหละ หลี่ฝางไม่อยากทำแบบนี้ หนึ่งเพราะการเผยแพร่ภาพอนาจารถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สองก็เพราะว่า หลี่ฝางกับเซี่ยลู่ก็จะเป็นที่ฉาวโฉ่ ถึงตอนนั้น พวกเขาจะต้องเอาคืนตัวเองอย่างบ้าคลั่งแน่

ไม่แน่อาจจะเอาถึงชีวิต

หากเป็นเมื่อก่อน หลี่ฝางก็ไม่กลัวพวกเขาจะเอาชีวิตตัวเอง แต่ตอนนี้ตัวเองเป็นลูกเศรษฐี จะเอาชีวิตไปทิ้งเล่นๆ ไม่ได้

ดังนั้น ทำแผนตู้เฟยล้ม ต้องค่อยๆ ทำ อย่าออกแรงมากไม่ได้เด็ดขาด

เข้าคาบพละเสร็จ ทุกคนกลับไปในห้องเรียนพร้อมกัน แต่ไม่รู้ว่าตู้เฟยไปไหนแล้ว

นั่งลงได้ไม่นาน จู่ๆ ครูประจำชั้นก็มาที่ห้อง เขาจ้องหลี่ฝาง มองอยู่นาน: “หลี่ฝาง คุณออกมาสิ ผมมีเรื่องจะถามคุณ”

สายตาครูประจำชั้นแปลกเล็กน้อย หลี่ฝางรู้สึกได้ถึงสิ่งไม่ดี

“ครูครับ คุณเรียกหาผมทำไม?” พอหลี่ฝางออก ก็ถามทันที

“หลี่ฝาง คุณตอบครูมาตรงๆ คุณได้ขโมยนาฬิกาข้อมือตู้เฟยหรือไม่ ถ้าใช่ รีบเอาออกมา ถ้าให้ครูหาเจอเอง เรื่องก็จะลำบากยิ่งขึ้นนะ” ครูประจำชั้นถามพร้อมขมวดคิ้ว

หลี่ฝางยิ้มออกมา: “นาฬิกาข้อมือเก่าๆ ของเขาเนี่ยเหรอครับ ใครมันจะขโมยกัน!”

“ความหมายคุณคือคุณไม่ได้ขโมยใช่ไหม?”

“เปล่าครับ” หลี่ฝางส่ายหน้า

“งั้นถ้าไม่ คุณก็ไม่ว่าอะไรถ้าครูจะค้นกระเป๋าใช่ไหม?” ครูประจำชั้นได้รับความเห็นด้วยจากหลี่ฝาง ก็คลำกระเป๋าเขา คลำออกมาได้สามเครื่อง

“หลี่ฝาง ทำไมกระเป๋ากางเกงคุณมีโทรศัพท์สามเครื่องได้?” สีหน้าครูประจำชั้นเย็นชาลงทันที: “ครูถาม อีกสองเครื่องเป็นของใคร?”

“ครูครับ โทรศัพท์สีขาวของฉันเอง” ตอนนี้เซี่ยลู่ออกมา มาที่ตรงนี้: “ฉันก็ว่าทำไมโทรศัพท์ฉันจึงหาไม่เจอ ที่แท้คุณก็ขโมยไปนี่เอง!”

“หลี่ฝาง คุณมันไร้ยางอาย ขโมยโทรศัพท์คนอื่น” เซี่ยลู่พูดด้วยความโกรธ: “ครูคะ เรื่องนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาด”

“แน่นอน” สีหน้าครูประจำชั้นยิ่งหม่นลง: “หลี่ฝาง คุณยังขโมยอะไรอีก เอาออกมาหมดแล้ว?”

หลี่ฝางพูดไม่ออกในเวลานี้ รู้แล้วว่าตัวเองถูกเล่นงานเข้าให้

“มาที่ออฟฟิศครู!”

หลี่ฝางตามครูประจำชั้นไปที่ออฟฟิศ เห็นตู้เฟยนั่งบนโซฟา

เห็นโทรศัพท์ในมือครูประจำชั้น สีหน้าตู้เฟยมีความตื่นตกใจ: “ครูครับ ทำไมโทรศัพท์ผมอยู่ที่มือครูล่ะ”

“นี่ครูเพิ่งค้นมาจากกระเป๋ากางเกงของหลี่ฝาง” ครูประจำชั้นตะลึงเล็กน้อย เอาโทรศัพท์คืนตู้เฟย: “ที่แท้ก็โทรศัพท์คุณเอง งั้นเอาคืนไป”

“หลี่ฝาง ผมตู้เฟยได้ไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า คุณไม่ใช่แค่ขโมยโทรศัพท์ผมไป ยังขโมยนาฬิกาผมอีก?” ตู้เฟยเดินไปที่หลี่ฝาง ถาม: “บอกมา นาฬิกาผมล่ะ”

“ตู้เฟย ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว นาฬิกาคุณไม่ได้หายไปสักหน่อย”

“มั่วซั่ว นาฬิกาผมหายไปชัดๆ ไม่สิ ไม่ใช่หาย แต่ถูกคุณขโมยไป จางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งเห็นกับตาว่าคุณเอานาฬิกาผมไป ยังจะปฏิเสธอีกเหรอ?” ตู้เฟยพูดด้วยเสียงเยือกเย็น และยังอ้างถึง ‘พยาน’ ขึ้นมาด้วย

“เรียกจางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งมา”

แป๊บเดียว จางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งก็มา เข้ามา จางเสี่ยวเฟิงก็พูดโทษไปที่หลี่ฝาง: “ครูครับ เรื่องเป็นแบบนี้ เมื่อกี๊ที่เรียนคาบพละ พวกเราไปเล่นบาสกัน ตู้เฟยกลัวว่าพวกเราจะชนนาฬิกาเขาพัง ก็เลยถอดนาฬิกาวางลงแป้นบาส พอพวกเราเล่นบาสเสร็จ ก็ไม่เห็นนาฬิกาแล้วครับ”

“นั่นก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นหลี่ฝางขโมยไปนะ” ครูประจำชั้นถามอย่างสงสัย

“แต่พวกเราเห็นหลี่ฝางนั่งอยู่คนเดียวที่ใต้แป้นบาส ตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้คิดมาก แต่หลังจากเขาไป นาฬิกาของตู้เฟยก็ไม่มีแล้ว” จางเสี่ยวเฟิงมองครูประจำชั้น เหลือบมอง: “ครูครับ ผมว่าหลี่ฝางต้องเอานาฬิกาของตู้เฟยซ่อนไว้ในโต๊ะแน่”

“ครูครับ นาฬิกาผมแปดหมื่นกว่าหยวนเชียว นั่นเป็นเรือนที่ครั้งที่แล้วพ่อผมไปทำงานที่ยุโรปแล้วซื้อเป็นของขวัญวันเกิดกลับมาให้” ตู้เฟยพูดในเวลานี้

“แพงมาก” ครูประจำชั้นตกใจ เขารู้ว่าบ้านตู้เฟยรวย แต่ไม่คิดว่านาฬิกาเรือนหนึ่งจะตั้งแปดหมื่นกว่าหยวน

“งั้นพวกเราไปดูที่โต๊ะของหลี่ฝางกัน ดูว่านาฬิกาอยู่ที่นั่นจริงไหม”

หลังจากครูประจำชั้นพูดจบ สีหน้าพวกตู้เฟยก็มีรอยยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ

แล้วก็เจอนาฬิกาในโต๊ะหนังสือของหลี่ฝางจริงๆ ตรงนี้หลี่ฝางพอเดาได้อยู่ ในเมื่อจางเสี่ยวเฟิงพูดขนาดนี้ จะต้องเตรียมการณ์ไว้อยู่แล้วแน่

นี่มันโยนความผิดให้คนอื่นชัดๆ แต่หลี่ฝางกลับไม่มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าตัวเองบริสุทธิ์

“ครูครับ ที่หลี่ฝางขโมยนี้เป็นอาชญากรรม พวกเราควรจะแจ้งความก่อนหรือไม่” ตู้เฟยยิ้มอย่างน่ากลัว แทบอยากจะทำให้หลี่ฝางถึงตาย

“หลี่ฝาง คุณยังมีอะไรที่อยากพูดไหม?” ครูประจำชั้นมองหลี่ฝาง ถอนหายใจออกมา

เขาก็ไม่อยากเห็นหลี่ฝางถูกตำรวจพาไป แต่ถ้าหากตู้เฟยยืนยันจะแจ้งความ งั้นหลี่ฝางได้เข้าคุกแน่นอน ยังไงมูลค่าของคดีนี้ก็ใหญ่มาก โทรศัพท์สองเครื่อง บวกกับ Rolex อีกแปดหมื่นอีก

“ผมไม่ได้พูดอะไรมั่วๆ” หลี่ฝางนิ่ง ไม่กลัว ถ้าตู้เฟยจะแจ้งความจริงๆ งั้นตัวเองก็ได้แต่เอาคลิปนั่นออกมา

“หลี่ฝาง คุณบรรลุนิติภาวะยัง?” เวลานี้ ครูประจำชั้นก็ถามอีก

“ครูจำได้ว่าคุณยังไม่ครบสิบแปดนี่ จากกฎหมายแล้ว ยังไม่บรรลุนิติภาวะก่อเหตุอาชญากรรมขึ้น ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบด้วย เบอร์พ่อคุณเบอร์อะไร ถ้าคุณไม่กล้าโทร เดี๋ยวครูโทรเอง”

หลี่ฝางทำอะไรไม่ได้ได้แต่เอาโทรศัพท์ให้ครูประจำชั้น ครูประจำชั้นโทรศัพท์เสร็จ พูดไปอีกว่า: “หลี่ฝาง อีกครึ่งชั่วโมงพ่อของคุณจะมาที่โรงเรียน”

“จริงเหรอ?” หลี่ฝางก็ตื่นเต้นขึ้นมา: “พ่อผมจะมาจริงๆ ?”

ไม่ใช่ว่าต้องอีกสองวันเหรอ?

หรือว่าไม่ได้นั่งรถไฟ แต่นั่งรถไฟความเร็วสูงมา?

“ไอ้ห่า ดีใจทำบ้าอะไร!รอพ่อคุณมาเถอะ ตำรวจจะจับคุณสองพ่อลูกไปหมด” ตู้เฟยทำเสียงเยือกเย็นใส่ในลำคอ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท