NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 29

ตอนที่ 29

บทที่29 เพื่อนคนจนของหลี่เสี่ยวเสี่ยว

ที่Recalling the pastค่อนข้างลำเอียง ขับรถมา หลี่ฝางก็จ่ายไปห้าสิบ

“ถ้าตู้เฟยไม่เอาปอร์เช่ให้ผม ผมก็ซื้อรถ แต่ซื้อรถอะไรดี?” หลี่ฝางยืนหน้าประตูRecalling the past พูดกับตัวเอง

ถึงตั้งแต่เล็กหลี่ฝางจะขับรถ แต่เขาไม่เข้าใจเรื่องรถ โดยเฉพาะรถหรู เขายิ่งไม่เข้าใจ

ตอนเด็ก รถหรูในสายตาหลี่ฝางคือBMW เบนซ์แล้วก็ออดี้ ตอนนี้เขามีแปดล้านกว่าหยวนแล้ว รถพวกนี้กลับไม่เข้าตาเขา

ดูว่าตู้เฟยเลือกอันไหนก่อนละกัน

ยังไงซะครั้งนี้หลี่ฝางก็ตัดสินใจแล้ว ถ้าตู้เฟยไม่เอาปอร์เช่ให้ตัวเอง งั้นก็ไปแจ้งความเขา

หน้าประตูRecalling the past ยังคงมีรถหรูแต่ละยี่ห้อจอดทิ้งไว้ หลี่ฝางเห็นก็ดีใจ: “คิดไม่ถึงว่าสถานที่ลำเอียงขนาดนั้น ก็ยังมีคนมาตั้งเยอะ”

คนมาเยอะ ก็หมายความว่าเขาทำเงินได้เยอะ หลี่ฝางมองเห็นรถหรูเป็นแถวๆ นี้ ในใจก็ดีใจสุดๆ

รออยู่หน้าประตูสักพักหนึ่ง ฟอร์ดสีแดงคันหนึ่งจอดตรงหน้าหลี่ฝาง

คนบนรถลงมา หลี่เสี่ยวเสี่ยวกับชายหญิงอีกคู่หนึ่ง

“แนะนำละกัน นี่คือลู่หลุ่ย เพื่อนสนิทของฉัน สวยเนอะ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวคล้องแขนหญิงสาว พูดด้วยรอยยิ้ม

หลี่ฝางพยักหน้า ผู้หญิงที่ชื่อลู่หลุ่ยนี้ดูนิ่งๆ เป็นแบบเห็นครั้งแรกก็เป็นผู้หญิงที่มีออร่ามาก ผมยาว สวมยีนเข้ารูป ขาเรียวเล็ก และก็ยาวมาก ยืนตรงหน้าหลี่ฝาง หลี่ฝางคิดว่าตัวเองไม่สูงเท่าผู้หญิงคนนี้

“คนนี้ชื่อถังหยู่ซวน เป็นเพื่อนมอต้นฉันเอง แต่ตอนนี้ไม่เรียนแล้ว อยู่สังคมมืด” ตอนที่แนะนำถังหยู่ซวน สีหน้าหลี่เสี่ยวเสี่ยวนิ่งมาก

หลี่ฝางแนะนำตัวเองเสร็จ ทุกคนก็เข้าไปในผับ

หลินชิงชิงดึกหน่อยถึงจะมาได้ เพราะว่าสนามบินห่างกับRecalling the pastไกลมาก

เพิ่งเข้ามา ถังหยู่ซวนก็ตาเป็นประกาย หยุดฝีเท้าลง: “นี่ก็คือRecalling the past โคตรสวยเลย โดยเฉพาะมังกรนี้ ได้ยินว่าเป็นทำจากทองคำ ไม่รู้ว่าต้องจ่ายไปแค่ไหน”

แขกที่มาเที่ยวRecalling the past ตอนนี้ไม่ใช่แค่ตงไห่ เมืองอื่นๆ ก็มากัน พวกเขาต่างถูกดึงดูดด้วยมังกรทองคำ

หลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่เชื่อว่ามังกรนี้จะเป็นทองบริสุทธิ์ทำ คิดว่าอย่างมากก็คงชุบด้วยทองแหละ แต่ถึงจะชุบทอง แต่รูปปั้นนี้ช่างเหมือนจริงสุดๆ น่าจะมีค่ามากเช่นกัน

หลี่เสี่ยวเสี่ยวกลอกตาใส่ถังหยู่ซวน: “โง่จริงๆ เลย มาผับครั้งแรกหรือไง ไม่ต้องดูแล้ว หาที่นั่งเถอะ!”

“พี่ซวนผมเที่ยวผับทุกวัน แต่ที่Recalling the past มาครั้งแรกจริงๆ ค่าใช้จ่ายโคตรสูง คนทั่วไปใครจะมาเที่ยวที่นี่กันล่ะ มาเที่ยวที่นี่ ต่างเป็นลูกเศรษฐี”

พูดจบ ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝางอย่างเจ้าเล่ห์: “หลี่ฝาง คุณก็คงไม่ใช่ลูกเศรษฐีหรอกนะ”

หลี่ฝางลูบหัวด้วยความอาย นี่มองออกด้วยเหรอ?

“ล้อเล่นน่า รู้ว่าคุณไม่ใช่ลูกเศรษฐี คุณก็แค่ถูกหวย” ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างสับสน: “คนรวยพวกนั้น จะมาสนุกกับพวกเราที่ไหนกันล่ะ?”

“หึ แล้วพวกลูกเศรษฐีมีอะไรโดดเด่นตรงไหนกัน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพึมพำ

“หลี่ฝางก็ไม่แย่กว่าพวกเขา” ถ้าไม่ใช่ว่าหลี่ฝางเตือนหลี่เสี่ยวเสี่ยวอีกครั้ง ไม่ให้เธอเปิดเผยความลับว่าตัวเองรวย ก็น่าจะถูกหลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดออกมาแล้ว

ซื้อบ้านราคาเต็มไปกว่าสองล้านหยวน ก็เปรียบได้กับว่าเป็นพวกลูกเศรษฐีของตงไห่แล้ว

ไม่ว่าจะตู้เฟยหรือโจวเจ๋ พวกเขาใครจะได้มาสองล้านบ้าง?

“ใช่ โชคของหลี่ฝางไม่แย่ไปกว่าพวกเขา หลี่ฝาง ไม่งั้นพรุ่งนี้คุณไปซื้อลอตเตอรี่อีก ใบสิ ถูกได้อีกครึ่งล้านเชียว?” ถังหยู่ซวนพูดพร้อมกับขำ ฟังไม่ออกว่าเย้ยหยันหรือล้อเล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ซื้อแล้ว ผมซื้อทุกวัน แต่ถูกแค่ครั้งเดียว” หลี่ฝางพูดจบ ก็หาที่นั่ง

พนักงานเดินมา เห็นหลี่ฝางสายตาก็เปลี่ยน: “น้องชาย คุณมาอีกแล้ว?”

“ใช่ ไม่ต้อนรับเหรอ” หลี่ฝางยิ้มอย่างขี้เล่น ในใจเขากำลังคิด พนักงานคนนี้รู้ตัวตนของตัวเองหรือไม่

“ต้อนรับสิ ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว” พนักงานยิ้มอย่างเป็นมิตร: “น้องชาย คุณจะดื่มอะไร?เป็นชุดหรือว่าสั่งเดี่ยวๆ มา นี่คือเมนูเหล้า”

“พวกคุณสั่งเถอะ” หลี่ฝางเอาเมนูให้ถังหยู่ซวนกับหลี่เสี่ยวเสี่ยว

ถังหยู่ซวนแย่งรับเข้ามาก่อน: “งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ เพื่อน”

หลี่ฝางยิ้มนิดๆ ไม่สนใจ

“ห่า แพงขนาดนี้ เบียร์ที่ถูกที่สุดก็ขวดละหกสิบหยวน นี่มันไม่โกงไปหน่อยเหรอ?” มองแวบหนึ่ง ถังหยู่ซวนก็ขมวดคิ้ว

“Snow ร้านอื่นขายแค่ยี่สิบ ที่นี่ตั้งแปดสิบ!”

ร้านมืด ต้องเป็นร้านมืดแน่!

ถังหยู่ซวนโอบไหล่หลี่ฝาง: “เพื่อน เราเปลี่ยนที่เที่ยวไหมล่ะ ที่นี่ราคาสูงไปเยอะมากเลย!”

หลี่ฝางหันหน้าไป พูดกับถังหยู่ซวน: “ไม่เป็นไร พี่ซวน สั่งๆ ไปเถอะ ไม่ต้องประหยัดเพื่อผม”

“ใช่ พวกเรามากันแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องออกไป” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหยอกแขนถังหยู่ซวน แย่งเมนูไป

“เอา Budweiser มาให้เราสองโหล”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวเพิ่งพูดจบ ถังหยู่ซวนก็จ้องเขา พูดเบาๆ : “Budweiserขวดละร้อยกว่าเลยนะ”

“วางใจเถอะ เพื่อนฉันมีเงิน ใครจะเหมือนคุณ จนสุดๆ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวกลอกตาใส่ถังหยู่ซวน

ถังหยู่ซวนโกรธจนไม่พูด

“ยังมีอย่างอื่นไหม?”

“ใช่สิ หลุ่ยหลุ่ยไม่ดื่ม เอาเครื่องดื่มมาให้เราขวดหนึ่ง” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดเสริม

“เสี่ยวเสี่ยว ฉันดื่มน้ำก็พอ” ในที่สุดลู่หลุ่ยก็พูด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าผับมาแล้วเปิดปากพูด

“โอเค สั่งอย่างอื่นอีกไหม?” พนักงานถามต่อ

“พอแล้ว พอแล้ว” ถังหยู่ซวนรีบพยักหน้า เขาปวดใจแทนหลี่ฝางที่ต้องจ่ายเงิน

“เอาของกินเล่นกับแกล้มมาหน่อย ใช่สิ หลี่ฝาง ฉันขอสั่งไวน์สักสองสามขวดได้ไหมอ่ะ ฉันไม่อยากดื่มเบียร์” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่หลี่ฝาง: “เบียร์สั่งให้พวกคุณสองคน”

“งั้นก็เอา Hennessy มาสองขวดละกัน” หลี่ฝางพูด

“ใช่สิ เอา Royal Salute มาด้วยสองขวด แล้วก็XOอะไรน่ะ เอามาสองขวด……” หลี่ฝางไม่มองเมนูเลย พูดต่อ: “กับแกล้มผลไม้อะไรพวกนี้ก็เอามา ผมไม่อยากให้โต๊ะว่าง”

“โอเค น้องชาย เดี๋ยวเสิร์ฟให้”

พอพนักงานลงไป ถังหยู่ซวนก็ตะลึง

ลู่หลุ่ยก็เอาแต่มองหลี่ฝาง มีแค่หลี่เสี่ยวเสี่ยวที่นิ่งสุดๆ เทียบกับฉากที่หลี่ฝางรูดบัตรไปสองล้านกว่าเพื่อซื้อห้องแล้ว ฉากนี้ถือว่าเด็กๆ ไปเลย

“เพื่อน คุณไม่ใช่ลูกเศรษฐี แต่รวยกว่าลูกเศรษฐีเสียอีก!”

ถังหยู่ซวนกลืนน้ำลาย อารมณ์ยากที่จะนิ่งลง: “Royal Saluteขวดหนึ่งก็สามพันแปดแล้ว สองขวดก็เจ็ดพันหก ส่วน Hennessy ,XO ต่างก็หลายพัน คิดๆ แล้ว……” ถังหยู่ซวนไม่กล้าคิด ตอนนี้เขาทำงานในร้านรถยนต์ เงินเดือนหนึ่งเดือนยังไม่ถึงสองพันหยวนเลย

หลี่ฝางนี่มันเป็นเงินเดือนเขาทั้งปีเชียว เขาจะไม่ช็อกได้ไง?

“หลี่ฝาง พวกเราสี่คน หลุ่ยหลุ่ยก็ไม่ดื่ม สั่งเยอะขนาดนั้น สิ้นเปลืองหรือเปล่าน่ะ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวกลับเสียดายเงิน รู้สึกว่าเกินไป

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเพื่อนอีกสองคนมาด้วย”

“อีกอย่าง พวกเราไม่ได้กินบุฟเฟต์ เหลือเยอะก็ไม่มีใครมาปรับ กลัวอะไร” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์

ยังไงดื่มไม่หมด ก็เอากลับไปได้ ยังเป็นของตัวเอง ในใจหลี่ฝางอยากพูด

“หลี่ฝาง พวกเราสองคนหาที่บูชากัน” ถังหยู่ซวนย้ายกัน มาตรงหน้าหลี่ฝาง: “เป็นเพื่อนกับคุณ โคตรดีเลย”

“ผมถังหยู่ซวนออกมาเที่ยวทุกวัน แต่ไม่มีความสุขขนาดนี้มาก่อน ไม่ได้ รอพนักงานเอาเหล้ามาเสิร์ฟ ผมจะอัพลงวีแชท ให้พวกเพื่อนๆ อิจฉาหน่อย” ถังหยู่ซวนพูดด้วยใบหน้าดีใจ

หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน ส่ายหน้ายิ้ม

หลี่ฝางเพิ่งรวยนั้น ก็อยากจะโอ้อวดบ้าง แต่ต่อมาเขาก็ทนไม่ไหว เพราะแค่โชว์ว่าตัวเองเป็นลูกคนรวย ตัวเองก็คงได้ไจเพื่อนมาไม่ได้

ใช้ตัวตนลูกเศรษฐีไปเป็นเพื่อน ยากที่จะตัดสินว่าอีกฝ่ายเห็นแก่เงินตัวเอง หรือว่ามองตัวเองที่ตัวตน แต่ตอนนี้ หลี่ฝางคิดว่าแยกแยะคนรอบๆ ตัวได้

ถือว่าถังหยู่ซวนก็ยังคุ้มค่าที่จะเป็นเพื่อนด้วย

แป๊บเดียวพนักงานก็เอาเหล้ามาเสิร์ฟ ถังหยู่ซวนกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวก็รีบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป จากนั้นก็อัพลงโชว์ กลับเป็นลู่หลุ่ยที่ยังคงนิ่งเฉย

เวลานี้ โต๊ะที่นั่งข้างหลี่ฝางที่ไม่ค่อยพอใจ มีคนหัวโล้นยืนขึ้น ชี้ไปที่พนักงานที่เสิร์ฟเบียร์ด่าไปว่า: “แม่งเอ๊ย พวกคุณหมายความว่าไง พวกเรามาก่อนพวกเขา ทำไมเสิร์ฟให้พวกเขาก่อนล่ะ?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท