NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 39

ตอนที่ 39

บทที่39 ตัวต่อตัวกับตู้เฟย

“ช่างนายเถอะ ฉันรู้ว่าเงินนายใช้ไปจะหมดแล้ว” หลิวเฉียวเฉียวถอนหายใจ เอ่ยอย่างดูถูก: “หลี่ฝาง นายบอกว่านายถูกลอตเตอรี่ ทำไมต้องแสร้งทำตัวเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยด้วย”

“นายอยากเทียบกับโจวเจ๋ นายเทียบเขาได้เหรอ?” หลิวเฉียวเฉียวส่ายหน้า

“ถ้าฉันบอกเธอว่าฉันเป็นทายาทเศรษฐีคนหนึ่งจริง ๆ ล่ะ” หลี่ฝางหัวเราะ

“ล้อเล่นอะไร คืนก่อนฉันกลับบ้านได้ยินมาหมดแล้ว พ่อแม่นายกลับมาแล้ว พวกเขาหายไปหลายปี ที่จริงแล้วถูกแชร์ลูกโซ่หลอก”

หลี่ฝางยิ้มเก้อ ๆ พ่อแม่เขาคู่นี้ ยังสามารถแต่งเรื่องได้เก่งกว่าตัวเขาอีก

“นายก็แค่ดวงดีกว่าพวกเรา ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ก็เท่านั้น” หลิวเฉียวเฉียวกล่าว

หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไร พูดตามความจริง ตัวเองก็ไม่ใช่ทายาทเศรษฐี แต่ตัวเองนั้นควรนับเป็นรุ่นที่สามต่างหาก

หลี่ฝางหัวเราะเหอ ๆ : “แล้วโทรศัพท์เครื่องนี้เธอยังจะเอาหรือไม่เอา?”

“เอา ทำไมจะไม่เอา เพราะนาย คืนก่อนฉันถึงรับเคราะห์ไปไม่น้อย” หลิวเฉียวเฉียวรับเอาโทรศัพท์ ประคองไว้ในมือทั้งสองข้าง สายตาฉายแววตื่นเต้นดีใจ

ต่อมา เธอมองหลี่ฝางอย่างสงสัยเล็กน้อย: “โทรศัพท์นี่จะเป็นของปลอมไหม ฉันได้ยินมาว่าไอโฟนXS ราคาขายเริ่มต้นแปดพันกว่านะ”

“ใบเสร็จก็ให้เธอ ฉันซื้อ512G” หลี่ฝางพูดนิ่ง ๆ : “หมื่นสองพันแปด”

หลิวเฉียวเฉียวกลืนน้ำลาย แปลกใจเล็กน้อย: “หลี่ฝาง ทำไมนายถึงยังมีเงินเยอะขนาดนั้น?”

“เซี่ยลู่บอกว่าเงินนายใช้ไปหมดแล้วนี่” หลิวเฉียวเฉียวย่นหัวคิ้ว สงสัยเล็กน้อย

“แต่ไม่ว่าอย่างไร ขอบคุณนายมาก” หลิวเฉียวเฉียวเปิดกล่องโทรศัพท์ออก สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“เป็นฉันขอบคุณเธอถึงจะถูก ขอบคุณที่ยังจำได้ว่าฉันเคยเป็นเพื่อนเธอ” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงซับซ้อน

สามปีนี้ หลี่ฝางสูญเสียเกือบทุกอย่าง รวมไปถึงเพื่อน ญาติพี่น้อง…..

มาวันนี้เขามีเงินแล้ว พวกเพื่อน ญาติมิตร ที่เคยเสียไป ที่จริงแล้วเขาสามารถกวักมือเรียกพวกเขามาอยู่ข้างกายได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ว่า หลี่ฝางไม่ต้องการแล้ว

เพราะคนพวกนี้ตอนที่หลี่ฝางต้องการพวกเขามากที่สุด ก็ทอดทิ้งหลี่ฝาง

หลี่ฝางพูดจบก็จะไปแล้ว หลิวเฉียวเฉียวเรียกเขาไว้ แล้วพูดกับเขา: “ถ้าหากนายยังมีเงินแล้วล่ะก็ อย่าจ่ายสุรุ่ยสุร่าย อย่าไปเทียบกับพวกตู้เฟย พวกเขาเป็นทายาทตระกูลร่ำรวย พ่อของพวกเขารู้วิธีหากำไร ปีหนึ่งได้กำไรหลายล้าน จนกระทั่งหลายสิบล้าน ไม่ว่าพวกเขาจะกิจการขาดทุนอย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่เงินของนาย จ่ายไปก็หมดแล้วหมดเลย”

“แล้วก็ไม่ต้องสู้กับตู้เฟยแล้ว นายสู้เขาไม่ได้ แล้วยังมีไอ้หลี่หลงนั่นอีก พ่อของเขาคือลูกพี่หลี่ ทั้งตงไห่ มีแค่ลูกพี่หลินเท่านั้นที่จะต่อกรเขาได้”

หลี่ฝางยิ้มไม่ได้พูดอะไร หลิวเฉียวเฉียวจึงเบิกตาใส่เขา: “นายยิ้มอะไร”

“ขอบใจเธอที่หวังดี” หลี่ฝางไม่ได้พูด แต่ในใจกลับคิดว่าน่าขำมาก เขาคิดในใจ:พ่อของตู้เฟยคนนั้นเทียบกับพ่อของเขา เทียบได้กับผีสิ!

ฐานะของพ่อตู้เฟยพึ่งจะมีมูลค่ามากกว่าร้อยล้าน แต่พ่อของเขานั้น เตรียมลงทุนในตงไห่หลายร้อยล้าน จะบอกว่าเทียบไม่ได้ ต้องบอกว่าตู้เฟยนั้นเทียบตนเองไม่ได้ถึงจะถูก

ส่วนหลี่หลงคนนั้น พ่อมันคือลูกพี่หลี่แล้วอย่างไร ถ้าหากหลี่หลงบีบคั้นตัวเขาจริง ๆ ตัวเองจะไปหาสวีจื่อโห้ ให้สวีจื่อโห้จัดการลูกพี่หลี่นี่ซะ

คาบที่สองตอนบ่าย ตู้เฟยถึงกลับมาถึงห้อง เขามองหลี่ฝาง สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

เลิกคาบแล้ว ตู้เฟยมาถึงตรงหน้าของหลี่ฝาง ด้านหลังเขายังมีเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงตามมาด้วย

หลี่ฝางเอ่ยถามอย่างเย็นชา: “คุณคิดจะทำอะไร ตีฉัน?”

“ตีคุณแล้วจะทำไม?” ตู้เฟยโต้กลับ พูดกับเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงที่อยู่ด้านหลังตัวเอง: “จัดการมันให้ฉัน!”

หลี่ฝางลุกขึ้น มองเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิง: “แกสองคนก็ลองทำอะไรฉันดูสิ”

“พวกแกสองคนลืมแล้วเหรอ ฉันเป็นน้องชายของหลินชิงชิง พวกแกสองคนตีฉัน ฉันรับประกันเลยว่าพวกแกออกนอกโรงเรียนไม่ได้แน่”

พอหลี่ฝางขู่ จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งก็หวาดกลัวในทันที

“พี่เฟย ฉันอยู่ ๆ ก็ปวดท้อง ต้องไปห้องน้ำ” เกาเสิ้งกุมท้อง พูดขึ้นมาทันที

จางเสี่ยวเฟิงเห็นเกาเสิ้งเดินหนีไป ก็ยกมือกุมท้อง พูดเลียนแบบตามเกาเสิ้ง: “พี่เฟย ฉันก็ปวดท้อง ฉันก็ต้องไปห้องน้ำ”

“แม่งสิ!”

มองเกาเสิ้งกับจางเสี่ยวเฟิง ตู้เฟยด่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง: “ไร้ประโยชน์ทั้งคู่จริง ๆ”

“ตู้เฟย ทำไมคุณยังมีหน้าบอกว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ล่ะ” หลี่ฝางหัวเราะในลำคอ มองตู้เฟยอย่างหยอกล้อ: “ถ้าคุณมีฝีมือ คุณก็สู้กับฉันด้วยตัวเองสิ!”

“เหี้ยแม่ง คุณคิดว่าฉันกลัวคุณเหรอ!” ตู้เฟยถกแขนเสื้อขึ้น มองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นเยียบ: “มา พวกเรามาสู้กันตัวต่อตัว!”

“โอเค ตัวต่อตัว!” หลี่ฝางตอบตกลงอย่างสบาย ๆ

หลี่ฝางกับตู้เฟยมาถึงข้างหลังห้อง ทั้งสองเผชิญหน้ากัน จ้องอีกฝ่ายด้วยใบหน้าถมึงทึง

“หลี่ฝาง วันนี้ฉันจะเอาคุณให้ตาย!” ตู้เฟยจ้องหลี่ฝางด้วยตาแดง ๆ

ตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้ ตู้เฟยยังไม่ได้หลับตาลงเลยสักครั้ง เขาอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด ดูแลพวกพี่น้องของหลี่หลงที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแค่เสียเงินแต่ยังเดือดร้อนอีก

พวกของหลี่หลงมีคนเลือดออกในสมอง ตอนนี้กำลังพ้นขีดอันตราย

พ่อของตู้เฟย ดุด่าตู้เฟยอย่างรุนแรง

ตอนเที่ยงลูกพี่หลี่มา ก็ด่าหลี่หลงอีกชุดใหญ่ และหลังจากที่หลี่หลงถูกพ่อตัวเองด่าแล้ว ก็ทุบตีตู้เฟยอีกหนึ่งยก ระบายความโกรธลงที่ตัวเขา

ในตอนนั้นตู้เฟยยิ่งโกรธแค้นโทษหลี่ฝาง พอจะพูดได้เลยว่าถึงขีดสุดแล้ว

แน่นอนว่า หลี่ฝางยิ่งแค้นตู้เฟย ตู้เฟยไม่เพียงแค่แย่งเซี่ยลู่ไป ยังรังแกเขามาสามปี

ตู้เฟยเริ่มลงมือก่อน ตัวของเขาโถมเข้าใส่หลี่ฝาง ตะครุบกดลงกับพื้น แต่หลี่ฝางเบี่ยงตัวยื่นแขนออกไปจับคอของตู้เฟย แล้วบีบแน่น

ไม่นาน ใบหน้าตู้เฟยเริ่มแดง เริ่มหายใจลำบาก

ประสบการณ์ต่อยตีของตู้เฟยเท่ากับศูนย์ ถูกเลี้ยงแบบเอาใจตั้งแต่เด็กจนโต ไม่พูดถึงเรื่องต่อยตี แค่ถูกตีก็ยังมีเพียงไม่กี่ครั้งเอง

หลี่ฝางพลิกตัวกลับ กดตู้เฟยลงกับพื้น เขายกกำปั้นขึ้น แล้วปล่อยหมัดใส่หน้าของตู้เฟย

“พี่เฟย!”

ในตอนนั้นเอง จางเสี่ยวเฟิงก็กลับมา แม้เขาจะไม่กล้าทำอะไรหลี่ฝาง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ช่วยตู้เฟย

เขาตะโกนเรียกตู้เฟย ส่งเก้าอี้ใส่มือให้ตู้เฟย

ตู้เฟยรับเก้าอี้มา ก็ทุบเข้าที่ศีรษะของตู้เฟย

หลี่ฝางมึนหัวไปชั่วขณะ ล้มลงบนพื้น เขาสะบัดไปมา รีบคลานขึ้นมา

“เหี้ยแม่งเอ๊ย!”

ตู้เฟยทุบเก้าอี้ลงมาอีกครั้ง หลี่ฝางใช้แขนบังไว้ เสียงแตกร้าวดังขึ้น หลี่ฝางรู้สึกว่าแขนของตัวเองนั้นหักแล้ว

ในตอนนั้นเองโจวหยางก็โยนเก้าอีกตัวเข้ามา หลี่ฝางใช้มืออีกข้างหนึ่งเก็บขึ้นมา แล้วฟาดกลับไปทางตู้เฟย

ตู้เฟยไม่ได้ต่อยตีบ่อยเท่าหลี่ฝาง สักพัก ก็ล้มลงบนพื้น

“หลี่ฝางลุกขึ้นยืน ยกเท้าข้าหนึ่งเหยียบหน้าอกของตู้เฟย: “ไหน ลุกขึ้นมาสิ คุณไม่ใช่ว่าอยากฆ่าฉันเหรอ?”

พูดจบ หลี่ฝางก็กระทืบลงบนอกตู้เฟยอย่างแรง ตู้เฟยสำรอกออกมา น้ำย่อยถูกหลี่ฝางกระทืบจนอ้วกออกมาหมด

“เกาเสิ้ง จางเสี่ยวเฟิง พวกแกสองคน!” ตู้เฟยที่ล้มอยู่บนพื้น ใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกน

“ถ้าพวกแกสองคนกล้าเข้ามาฉันจะบอกพี่ฉันจัดการพวกแก” หลี่ฝางใช้เก้าอี้ชี้หน้าเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิง พูดขู่เสียงเย็น

“ฉันปวดท้องอีกแล้ว” เกาเสิ้งกุมท้อง หมุนตัวจากไป จางเสี่ยวเฟิงก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว

“ให้ตาย!” ตู้เฟยสิ้นหวังแล้ว

หลี่ฝางโยนเก้าอี้ออกไป เท้าข้างหนึ่งเหยียบที่ลำคอของตู้เฟย: “ตู้เฟย เรียกฉันว่าลูกพี่!”

“คุณฝันเหรอ!” ตู้เฟยมองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นเยียบ ด่ากราด: “ไอ้เหี้ย คนอย่างคุณทำฉันตาย คอยดูว่าพ่อฉันถึงเวลานั้นจะจัดการคุณอย่างไร”

“พ่อคุณก็แค่เศษสวะ!” หลี่ฝางพูดอย่างเหยียดหยามแล้ว ก็เพิ่มแรงที่เท้า

“ถ้าคุณไม่เรียก ฉันจะเหยียบคอคุณขาดซะ!” หลี่ฝางเหยียบคอตู้เฟยไว้แน่น เหยียบจบเส้นเลือดดำของเขาโป่งนูนขึ้นมา

หลี่ฝางยกมุมปากยิ้มเย็น ย่อตัวลงแล้วฟาดมือลงไป: “ตู้เฟย คุณทะนงตัวนักเหรอ”

“ได้ คุณไม่เรียก ฉันจะตบคุณเรื่อย ๆ ตบจนกว่าจะเรียก!” หลี่ฝางสะบัดมือตบไปเรื่อย ๆ ตีจนตู้เฟยไม่พยศอีก

ไม่รู้ว่าตอนไหน เซี่ยลู่ก็มาถึงห้องของหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง นายทำอะไร ปล่อยพี่เฟยเดี๋ยวนี้!” เซี่ยลู่วิ่งเข้ามา พูดรั้งหลี่ฝาง

“ไสหัวออกไป!” หลี่ฝางไม่มีความเมตตาใด ๆ ตบหน้าเซี่ยลู่ไป แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา: “ถ้าเธอยังเข้ามาอีก ฉันจะตบเธอ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท