NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 36

ตอนที่ 36

บทที่36 ขาของตู้เฟยราคาเท่าไหร่?

“ตู้เฟย คุณลืมอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองตู้เฟยอย่างเย็นชา

“ถ้าคุณไม่พูดฉันก็ลืมไปแล้วจริง ๆ คุณยังมีบันทึกเสียงอยู่ในมือนี่ ใช่ไหม?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางพลางหัวเราะในลำคอ

“แต่คุณเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ฉันว่าคุณไม่ส่งบันทึกเสียงนั่นให้ฉันแน่” ตู้เฟยพูด

“ต่อให้ฉันยกปอร์เช่ให้คุณ คุณก็สำรองไฟล์บันทึกเสียงไว้อยู่ดี”

ตู้เฟยหัวเราะ มองหลี่หลง: “พี่หลง ลงมือเถอะ ช่วยผมหักขาหมอนี่ซะ”

“ให้หมอนี่ไม่มีทางไปโรงพักแจ้งตำรวจได้” ตู้เฟยหัวเราะเสียงเย็น

เมื่อหลี่หลงพยักหน้า กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เริ่มขยับ แต่ละคนหยิบไม้เบสบอลออกมาจากอ้อมแขน มุ่งมาทางหลี่ฝางและถังหยู่ซวน

“หลี่ฝาง” ในตอนนั้นเอง ถังหยู่ซวนก็เอ่ยขึ้นมา

“นายวิ่งให้เร็วหน่อย ที่นี่ห่างจากคลับแค่ร้อยกว่าเมตร แค่นายวิ่งเข้าไปในคลับ ก็ไม่เป็นไรแล้ว ต่อให้หลี่หลงจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่กล้าลงมือที่Recalling the past เมื่อถึงRecalling the pastแล้ว ก็โทรหาพี่ชิงชิง เธอจะมารับนาย” ถังหยู่ซวนหัวเราะ คิดหาทางออกแทนหลี่ฝาง

“แล้วนายล่ะ?” หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน

“ฉัน? ฉันก็รอพวกนายมาช่วยฉันไง” ถังหยู่ซวนพูดอย่างไม่ใส่ใจ: “ชีวิตเน่า ๆ ของฉัน พวกมันไม่ต้องการหรอก เป้าหมายของพวกมันคือนายไม่ใช่ฉัน”

“วิ่ง!” พูดจบ ถังหยู่ซวนก็ผลักหลี่ฝางออกไป ขากะเผลกพุ่งเข้าใส่พวกของหลี่หลง

เมื่อไปถึงข้างหน้าคนพวกนี้ ถังหยู่ซวนก็ถูกเตะลงกับพื้นทันที เขากอดคนหนึ่งไว้อย่างสุดชีวิต ไม่ให้มันเข้ามาใกล้

“เป็นไอ้โง่จริง ๆ สินะ จะเอาไม้ซีกงัดไม้ซุงเหรอ?” มองการกระทำโง่เขลาของถังหยู่ซวนเช่นนั้นแล้ว ตู้เฟยและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“หลี่ฝาง นายรีบวิ่งสิ!” ถังหยู่ซวนหันไป แล้วตะโกนไปทางหลี่ฝางเสียงดัง

“วิ่งเชี้ยอะไร!” หลี่ฝางกัดฟันกรอด ด่าอย่างโมโห

หลี่ฝางไม่วิ่ง ถ้าวิ่งแล้ว เขาจะไม่กลับมาเลย

ยิ่งไปกว่านั้น คนของหลี่หลงเยอะขนาดนั้น จะให้เขาวิ่งหนีไปได้อย่างไร

หลี่ฝางตะโกนใส่หลี่หลง: “หลี่หลง บอกคนของคุณหยุดตี”

“แม่งเอ้ย คุณเป็นใครฮะ ถึงกล้ามาสั่งฉัน” หลี่หลงย่นคิ้วอย่างโกรธ ๆ

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” หลี่ฝางส่ายหน้า: “ฉันแค่จะบอกว่า คุณตีเขาไปก็ไม่มีประโยชน์”

“ถ้าพวกคุณอยากตี ก็ควรจะตีฉัน” หลี่ฝางพูด

“ตัวต่อตัว” หลี่หลงหน้าครึ้มลง ไม่คิดจะปล่อยใครไปเลยสักคน

“แม่คุณสิ ตู้เฟยให้คุณเท่าไหร่ ฉันจะให้พวกคุณสองเท่า!” หลี่ฝางตะโกนเสียงดัง เขาไม่คิดจะลูกเล่นอีกต่อไป ถ้ายังใช้ลูกเล่นต่ออีก ขาของตัวเองก็คงได้หายไปจริง ๆ

หลี่หลงได้ยินดังนั้น ก็ตะโกนสั่งลูกน้องของตัวเองทันทีทันใด: “หยุดก่อน”

“เจ้าหนุ่ม เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ฉันเหมือนจะได้ยินไม่ชัด” หลี่หลงเดินไปทางหลี่ฝาง แล้วถามอีกรอบ

“ตู้เฟยให้คุณเท่าไหร่ ฉันจะให้คุณสองเท่า” หลี่ฝางพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

หลี่หลงหัวเราะในลำคอ ตบหน้าหลี่ฝางเบา ๆ เอ่ยอย่างเหน็บแนม “อย่างคุณ จะมีเงินเยอะขนาดนั้นเหรอ?”

“ตู้เฟยให้ฉันมาหลายแสน!” หลี่หลงถามอย่างสงสัย: “คุณจะจ่ายสองเท่าได้?”

“ได้!” หลี่ฝางพยักหน้า

“งั้นก็ดี ตู้เฟยให้ฉันสองแสนห้า ถ้าหากว่าคุณให้ฉันห้าแสนได้ล่ะก็ วันนี้จะปล่อยคุณไป” หลี่หลงพูด

ตอนนั้นเองตู้เฟยก็เริ่มร้อนใจ: “พี่หลง ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้ไปได้!”

หลี่หลงไม่ได้สนใจเขา มองแค่หลี่ฝาง: “ห้าแสน คุณแน่ใจนะว่าจะจ่ายได้?”

เซี่ยลู่ดึงแขนตู้เฟยไว้แล้วพูดกับเขา: “พี่เฟย พี่ร้อนใจอะไร หลี่ฝางจะมีห้าแสนที่ไหน”

“เขาถูกลอตเตอรี่แค่ห้าแสน ยังถูกเขาใช้ไปหมดแล้ว พี่ให้เขาเอามาห้าแสนตอนนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร?” เซี่ยลู่เอ่ย

“ก็จริง หมอนี่ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้าแสนให้หลี่หลงหรอก” ตู้เฟยจึงเบาใจลง

“ตู้เฟยจ่ายสองแสนห้าซื้อขาข้างหนึ่งของฉัน ใช่ไหม” ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางมองหลี่หลง แล้วหัวเราะ

“ใช่ ถ้าคุณอยากจะซื้อกลับไป ต้องจ่ายเป็นสองเท่าของราคา” หลี่หลงพูด

“ห้าแสนให้คุณได้ ฉันจะเพิ่มให้คุณอีกห้าแสน แล้วคุณช่วยฉันหักขาทั้งสองข้างของตู้เฟย” หลี่ฝางมองตู้เฟย พูดด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

“นั่นไม่ได้” หลี่หลงส่ายหน้า

“ทำไมไม่ได้ ขาข้างหนึ่งไม่ใช่ว่าสองแสนห้าเหรอ? ฉันให้คุณเพิ่มอีกห้าแสน หักขาสองข้าง ทำไมไม่ได้?” หลี่ฝางถามอย่างไม่เข้าใจ

“บอกคุณแบบนี้แล้วกัน คนเรา แบ่งได้ตามระดับต่าง ๆ นี่ตู้เฟยเลยนะ เป็นคนระดับแรก แต่คุณน่ะ เป็นคนระดับล่าง ขาข้างหนึ่งของคนระดับล่างเลยราคาสองแสนห้า” หลี่หลงพูดกลั้วหัวเราะ

หลี่ฝางกัดฟันกรอด: “งั้นคุณบอกฉันมา ขาของคนระดับสูงราคาเท่าไหร่?”

ในมือหลี่ฝางมีอยู่แปดล้านกว่า ในตอนนี้เขาได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะต้องจ่ายกี่ล้าน เขาก็ต้องการหักขาหมาอย่างตู้เฟย

แต่ใครจะรู้ว่าหลี่หลงก็ยังคงส่ายหน้า: “ขาของคนระดับสูง ต่อให้จ่ายเท่าไหร่ ฉันก็ไม่กล้าตี”

“พ่อของตู้เฟยเป็นถึงผู้พัฒนามีชื่อของตงไห่ ฐานะทางสังคมมากกว่าร้อยล้าน ถ้าฉันไปหักขาตู้เฟยแล้ว พ่อของเขาจะปล่อยฉันไปเหรอ?”

“ฉันหักขาตู้เฟย จะทำให้ฉันกับพ่อของฉันเดือดร้อนมากมาย แต่คุณไม่เหมือนกัน ฉันสืบมาแล้ว พ่อแม่คุณล้วนเป็นคนธรรมดา ไม่มีเบื้องหลังอะไร อย่างเดียวที่ทำให้คนหวาดกลัวได้ คิดว่าคือหลินชิงชิง”

“แต่ว่าหลินชิงชิงเป็นแค่พี่สาวนอกไส้ของคุณเท่านั้นเอง ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ กับคุณ ต่อให้ฉันหักขาคุณ เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเหนือฉัน ก็ยังมีพ่อฉันอยู่”

หลี่หลงหัวเราะจนพูดจบ แล้วถามขึ้นอีก: “ว่าไง คุณมีเงินไถ่ขาตัวเองคืนไปไหม?”

“ถ้ามีก็รีบเอาเงินมาให้ฉัน ถ้าไม่มีก็อย่าเสือกพูดอะไรไร้สาระกับฉัน เสียเวลาอันมีค่าของฉัน” หลี่หลงพูด

“ฉันขอใช้โทรศัพท์!” หลี่ฝางล้วงโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะโทรหาพ่อของตน

“โทรทำไม?”

“หาคนเอาเงินมาให้คุณไง ฉันไม่ได้เอาเงินติดตัวมาเยอะขนาดนั้น?” หลี่ฝางมองบนใส่หลี่หลง

หลี่หลงก็กระโดดบินยกเท้าขึ้น เตะบริเวณท้องของหลี่ฝาง: “แม่คุณสิ คุณคิดว่าฉันเชื่อคุณจริงเหรอ ให้คุณโทรศัพท์ คุณก็ต้องแจ้งตำรวจก่อนแน่นอน!”

“เห็นโทรศัพท์ห่วยแตกนี่ของคุณแล้ว ก็แค่ไม่กี่ร้อยหยวน จะเอาเงินครึ่งล้านมาจ่ายให้ได้?” หลี่หลงหัวเราะออกมา: “เมื่อกี้ฉันแค่หยอกคุณเล่น”

หลี่หลงหัวเราะอยู่สักพัก ลูกน้องของเขาก็ถือไม้เบสบอลเดินเข้าหาหลี่ฝาง

เซี่ยลู่คว้าแขนตู้เฟยไว้: “พี่เฟย จะหักขาเขาจริง ๆ เหรอ?”

ตู้เฟยหัวเราะเสียงเย็น: “ทำไม สงสารอีกแล้ว?”

“สงสารกับผีสิ ฉันกลัวมีเรื่องต่างหาก ในมือหลี่ฝางยังมีบันทึกเสียงที่พวกเราแบล็กเมล์เขาอยู่ พวกเราจะหักขามัน เขาก็ต้องเกลียดพวกเรามากขึ้น รอสว่างแล้ว เขาต้องแล่นไปแจ้งความแน่” เซี่ยลู่ขมวดคิ้วแน่น เอ่ย: “ถึงตอนนั้น พวกเราไม่จบเห่กันเหรอ?”

“ฉันรู้อยู่แล้ว” ตู้เฟยยกมุมปากขึ้น แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง

“แต่ว่าฉันก็ถูกมันบังคับเหมือนกัน ฉันจ่ายไปตั้งสามแสน” ตู้เฟยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน รู้สึกเสียดายเงินเล็กน้อย

“ไอ้หลี่ฝางคนนี้ เจ้าเล่ห์เกินไป บวกกับที่เมื่อก่อนพวกเราทำแบบนั้นกับมัน ต่อให้ฉันเอาปอร์เช่ให้มัน มันต้องเก็บบันทึกเสียงไว้แน่ ขอแค่มีบันทึกเสียงอยู่ พวกเราจะถูกมันจูงจมูกทั้งชีวิต”

“ดังนั้นฉันถึงจะให้หลี่หลงหักขามันข้างหนึ่ง เป็นขั้นแรกให้แก่มัน รอหลี่หลงหักขามันแล้ว ฉันก็จะให้มันลบบันทึกเสียงทั้งหมดทิ้ง ถ้าหากไม่ลบ ฉันก็จะหักขาอีกข้างของมัน”

ตู้เฟยพูดพลางยิ้มเหี้ยม: “รอหลี่ฝางถูกลงโทษแล้ว มันก็จะกลัวฉัน ถึงตอนนั้น ต่อให้มันจะมีไฟล์บันทึกเสียงสำรอง ก็ไม่กล้าไปสถานีตำรวจแจ้งความฉัน”

“คนอย่างหลี่หลงนั้น เขาทำคนพิการมาแล้วไม่น้อย เขาก็ยังอยู่ดีไม่มีเรื่องอะไรไม่ใช่เหรอ? มีพ่อของเขาลูกพี่หลี่อยู่ ใครจะกล้าไปในสถานีตำรวจแจ้งความลูกชายเขา แบบนั้นก็รนหาที่ตายน่ะสิ!”

“ฉันหักขาหลี่ฝางแล้ว เพราะอยากจะบอกหลี่ฝาง คนจนอย่างมัน สู้ทายาทตระกูลที่ร่ำรวยอย่างพวกเราไม่ได้หรอก เป็นศัตรูกับฉัน จุดจบขอบมันมีแต่ตายกับตายเท่านั้น”

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ มองคนของหลี่หลงที่ถือไม้เบสบอลเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เหงื่อกาฬไหลซึมบนใบหน้าของเขา

“เจ้าหนุ่ม อีกเดี๋ยวก็ทนหน่อยละกัน”

คนนั้นยกไม้เบสบอลขึ้น เมื่อกำลังจะตีหลี่ฝาง อยู่ ๆ แสงแสบตาของไฟรถก็ส่องเข้าตาเขา

“แม่ง รถใครวะ ส่องตาฉันจนจะบอดแล้ว!”

คนของหลี่หลงกำลังยกแขนขึ้นบังตา แต่ทว่ากลับเห็นรถพุ่งเข้ามาทางพวกเขา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท