NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 38

ตอนที่ 38

บทที่38 สามสาวพี่น้องทะเลาะกัน

ถังหยู่ซวนที่เปื้อนเลือดเป็นจุด ๆ เมื่อขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่ ก็เกือบถูกคนขับรถไล่ลงรถแล้ว

“ลุง เป็นลุงอีกแล้ว” หลี่ฝางเอ่ยทักทายคนขับรถแท็กซี่ “เดี๋ยวเพิ่มทิปให้ลุง”

ตอนขามา คนขับรถเก็บหลี่ฝางไปแล้วห้าพัน ครั้งนี้เลยกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

“ช่างเถอะ อย่างมากก็แค่ล้างรถ จ่ายไม่เท่าไหร่หรอก” คนขับรถแท็กซี่มองถังหยู่ซวน: “อย่าให้เกิดเรื่องก็พอ”

“เขาตายไม่ได้ วางใจเถอะลุง”

หลี่ฝางพูดพลาง ให้คนขับรถไปส่งถังหยู่ซวนที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

จัดการถังหยู่ซวนเรียบร้อยแล้ว หลี่ฝางมองหลิวเฉียวเฉียว เอ่ยถามด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง: “เธอโอเคไหม”

หลี่ฝางเงียบไปสักพัก: “ขอบคุณเธอด้วย ถ้าไม่ได้เธอ วันนี้ฉันอาจจะพิการไปแล้ว”

ถ้าไปได้รับแจ้งเตือนจากหลิวเฉียวเฉียว หลี่ฝางต้องกลับไปที่โรงเรียนแน่ ถูกซุ่มตีที่หน้าประตูโรงเรียน หลี่ฝางอาจจะต้องตายแน่

หลิวเฉียวเฉียวที่รู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย: “ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเตือนนายแล้วจะถูกจับได้ ถ้ารู้ตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่เตือนนายหรอก”

“เห็นแก่เพื่อนร่วมชั้น เลยส่งข้อความหานาย ไม่คิดเลยว่าข้อความนี้เกือบจะฆ่าฉัน คนพวกนั้นไม่ใช่คน พวกมันยังคิดจะเปลื้องผ้าฉัน” นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ หลิวเฉียวเฉียวตกใจหวาดผวาจนตัวสั่น

ถ้าหากไม่ใช่เพราะส้งเสียงอยู่ เกรงว่าเสื้อผ้าเธอคงถูกเปลื้องออกจนหมดแล้ว

ถ้าหากเมื่อกี้ถูกเปลื้องผ้าจนหมด หลิวเฉียวเฉียวไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

คิดถึงตรงนี้ หลิวเฉียวเฉียวเลยขอบคุณส้งเสียงมาก โชคดีที่มีเขาอยู่

หลี่ฝางไม่รู้จะขอบคุณหลิวเฉียวเฉียวอย่างไรแล้ว ที่จริงแล้วหลิวเฉียวเฉียวช่วยตน ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือหลี่หลงตีเธอ ทำให้เธอโกรธแค้นอยู่ในใจ

“เฮ้ หงุดหงิดจะตายอยู่แล้ว นายว่าหลี่หลงนั่น ยังจะมาวุ่นวายหาเรื่องฉันไหม” หลิวเฉียวเฉียวกระทืบเท้า แล้วถามอย่างกังวล

หลี่ฝางส่ายหน้า ยังไงเขาก็ยังไม่เข้าใจหลี่หลง

“ไม่ต้องกลัว ยังมีฉัน” หลี่ฝางมองหลิวเฉียวเฉียว ตบลงที่หน้าอกตัวเอง

“นาย?” หลิวเฉียวเฉียวมองค้อนใส่หลี่ฝาง: “เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”

“อย่าลืมสิ พี่สาวฉันเป็นถึงลูกสาวของลูกพี่หลิน หลินชิงชิง” หลี่ฝางหัวเราะ พลางพูด: “ฉันยังมีพี่สาวฉันคุ้มครองอยู่”

“ใช่แล้ว หลี่ฝาง งั้นนายช่วยฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม?” หลิวเฉียวเฉียวเอาตัวเข้ามาติดเขา

“เรื่องอะไร?”

“นายช่วยฉันวางแผน ให้พี่สาวนายรับฉันเป็นน้องสาวอะไรแบบนี้ อย่างนี้ฉันก็มีหน้าในโรงเรียนแล้ว หลี่หลงก็ไม่กล้าทำอะไรฉันตามใจแล้ว” หลิวเฉียวเฉียวใบหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนามองหลี่ฝาง

หลี่ฝางเกรงใจที่จะปฏิเสธ จึงได้แต่พูด: “งั้นฉันช่วยเธอถามให้แล้วกัน”

……

ตอนเที่ยงของวันต่อมา จางเชี่ยนถึงกลับมาถึงที่โรงเรียน ในมือเธอถือไอโฟนXรุ่นใหม่ล่าสุด แกว่งไปมาตรงหน้าเซี่ยลู่กับหลิวเฉียวเฉียว: “โจวเจ๋ให้ฉันมา”

“เชี่ยนเชี่ยน ยินดีกับเธอด้วย ในที่สุดก็พาแฟนเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยได้” เซี่ยลู่ส่งยิ้มให้จางเชี่ยน

หลิวเฉียวเฉียวรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แต่ในใจเธอรู้ดีว่า ไอโฟนXนี้จางเชี่ยนใช้ร่างกายแลกมา

“เฉียวเฉียว คืนก่อนหลังจากที่เธอถูกหลี่ฝางพาไปด้วยแล้ว ส้งเสียงก็โกรธใหญ่เลย” เซี่ยลู่มองหลิวเฉียวเฉียวพลางพูด: “ส้งเสียงต้องหึงแน่ ๆ เธอหาเวลาว่างไปอธิบายกับเขาหน่อย”

“คืนก่อนฉันบอกเขาแล้ว ฉันกับหลี่ฝางไม่มีความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น แต่เขาไม่ได้สนใจฉัน” หลิวเฉียวเฉียวเบะปาก นึกโทษหลี่ฝางอีกในใจ

“ฉันว่านะเฉียวเฉียว คืนก่อนเธอโดนผีอำเหรอ ทำไมถึงแอบส่งข้อความให้หลี่ฝาง ถ้าไม่ใช่เพราะส้งเสียงคุ้มครองเธอ เธอจบเห่แน่”

“เปลือยกายต่อหน้าพวกสัตว์เพศผู้มากมายขนาดนั้น พวกมันต้องทำแบบนั้นกับเธอแน่” จางเชี่ยนมองเหยียดหลิวเฉียวเฉียวพร้อมพูด

“เธอยังจะพูดอีก คืนก่อนตอนฉันถูกทำร้าย เธอไม่ช่วยฉันเลย ยังเป็นเซี่ยลู่ที่ดีกว่า ที่คอยช่วยเหลือฉัน” หลิวเฉียวเฉียวก็มองเหยียดจางเชี่ยน รู้สึกว่าจางเชี่ยนปฏิบัติกับเธอไม่ดีพอที่จะเป็นพี่น้อง

“ฉันตกใจมากต่างหาก ถ้าเกิดพวกเขายังจับฉันเปลื้องผ้าไปด้วยจะทำอย่างไร?” จางเชี่ยนพูดแก้ต่างให้ตัวเอง

“แล้วทำไมเซี่ยลู่ถึงไม่กลัวล่ะ” หลิวเฉียวเฉียวเอ่ย

“หลิวเฉียวเฉียว เธอหมายความว่าอะไร หาเรื่องกันใช่ไหม ฉันไม่ได้ช่วยแล้วมันทำไม ทำไมฉันต้องช่วยเธอด้วย เธอมันไม่เจียมตัวเอง จะส่งข้อความเตือนหลี่ฝางให้ได้ ยังจะมาโทษฉัน!” จางเชี่ยนถูกกล่าวหาจนร้อนรน

เซี่ยลู่เกรงว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนจะทะเลาะกันขึ้นมา จึงรีบเอ่ยขึ้น: “พูดให้น้อย ๆ หน่อยทั้งหมดเลย เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันก็ไม่ได้อยากพูดหรอก หลิวเฉียวเฉียวบีบให้ฉันพูด คืนก่อนถ้าเธอไม่ส่งข้อความเตือนหลี่ฝาง ตู้เฟยจะเสียเงินเยอะขนาดนั้นเหรอ?”

จางเชี่ยนถลึงตาใส่หลิวเชี่ยนเชี่ยน หัวเราะในลำคอ: “ถ้าเธอไม่เตือน ก็คงไม่บังเอิญเจอกับพวกของคนหัวโล้นนั่น ไม่บังเอิญเจอพวกของคนหัวโล้น คนของหลี่หลงก็คงไม่เจ็บตัว”

“ตอนนี้คนของหลี่หลงบาดเจ็บแล้ว ตู้เฟยต้องรับผิดชอบทั้งหมด หลิวเฉียวเฉียว เธอทำให้ตู้เฟยเสียหายไปหลายแสน เธอรู้บ้างไหม?” จางเชี่ยนพูดเสียงเย็น

หลิวเฉียวเฉียวอ้าปากกว้าง ส่งเสียงเออออออกมาเสียงดัง

“เป็นความผิดเธอทั้งหมด” จางเชี่ยนเอาความรับผิดชอบทั้งหมดผลักใส่หลิวเฉียวเฉียว

หลิวเฉียวเฉียวมองเซี่ยลู่อย่างเกรงใจ: “ลู่ลู่ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายตู้เฟย”

ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดพวกนี้ของจางเชี่ยน เซี่ยลู่ก็ยังไม่มีท่าทีตอบกลับมา เธอขมวดหัวคิ้ว: “มีคนถูกคนหัวโล้นขับรถชนขาข้างหนึ่ง พี่เฟยต้องชดใช้อย่างน้อยหลายแสน”

“ยังมีอีกคนถูกตีจนเลือดออกในสมอง ตอนนี้กำลังผ่าตัด”

“คนอื่นแม้จะอาการไม่หนัก แต่ก็ต้องนอนโรงพยาบาลทั้งหมดน่ะ”

เซี่ยลู่ถอนหายใจยาว: “เฉียวเฉียว เธอจะให้ฉันว่าเธอว่าอย่างไรดี!”

“ขอโทษ ขอโทษ” หลิวเฉียวเฉียวเอาแต่ขอโทษไม่หยุด

“เธอบอกมาสิว่าทำไมถึงช่วยหลี่ฝาง เธอสนใจเขาเหรอ?” เซี่ยลู่ยังโกรธอยู่เล็กน้อย: “ถ้าเธอสนใจเขา ก็ไปอยู่กับเขาสิ พวกเราก็ไม่ต้องเป็นพี่น้องกันอีก”

“ลู่ลู่ เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันจะไปสนใจหลี่ฝางได้อย่างไร” หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้วแน่น ยังไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี

ด้วยความบังเอิญในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็เดินผ่านทั้งสามคนพอดี

“ผู้ชายของเธอมาแล้วรีบไปหาเขาเถอะ” จางเชี่ยนผลักหลิวเฉียวเฉียว ผลักเธอเข้าใส่อ้อมกอดของหลี่ฝาง

หลี่ฝางชะงักไป ไม่ได้พูดอะไร

หลิวเฉียวเฉียวสะอื้นเสียงเบา มองหลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่พลางถามกลับ: “ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายตู้เฟย ฉันแค่ไม่อยากเห็นหลี่ฝางถูกทำร้ายจนกลายเป็นคนพิการก็เท่านั้น”

“แม้หลี่ฝางจะถูกลอตเตอรี่ กลายเป็นที่น่ารังเกียจ แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก หรือว่าพวกเธอลืมไปแล้ว? ตอนเด็กพวกเราถูกรังแก ใครเป็นคนแรกที่ออกมาปกป้องพวกเรา โดยเฉพาะเธอ เซี่ยลู่ เมื่อก่อนหลี่ฝางดีกับเธอแค่ไหน คอยปกป้องเธอทุกที่”

เซี่ยลู่สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองในทันที: “หุบปาก!”

“หลิวเฉียวเฉียว เธออย่าพูดถึงอดีต ฉันยอมรับ เมื่อก่อนหลี่ฝางดีกับฉัน เมื่อก่อนเขาเป็นเพื่อนพวกเราจริง ๆ แต่พวกเราทำไมถึงตีตัวออกห่างจากเขา ไม่ใช่เพราะเขาทำตัวใฝ่ต่ำเองเหรอ เขาซักผ้าให้รูมเมทของตัวเอง ซักถุงเท้าเหม็นเน่า ยกน้ำล้างเท้า ไม่มีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเลยสักนิด คนแบบนี้ ไม่สมควรเป็นเพื่อนของฉันเซี่ยลู่”

“เมื่อก่อนเขาเคยปกป้องฉัน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับฉันเขาล้วนยืนอยู่ข้างหน้าฉัน แต่หลายปีมานี้เขาทำอะไรเพื่อฉันบ้าง ฉันจะบอกพวกเธอให้ ไม่ใช่เพราะฉันทอดทิ้งหลี่ฝาง แต่เป็นหลี่ฝางที่ทอดทิ้งฉัน!”

เซี่ยลู่พูดจบ โกรธปึงปังกลับไปที่โต๊ะของตนเอง ฟุบศีรษะลงแล้วอยู่ ๆ ก็เริ่มร้องไห้ออกมา

จางเชี่ยนสบถในลำคอ ต่อว่าหลิวเฉียวเฉียวอีกครั้ง: “หลิวเฉียวเฉียว ทั้งหมดเพราะเธอทำให้เซี่ยลู่ต้องร้องไห้”

จางเชี่ยนพูดจบ ก็กลับเข้าห้องเรียนไปปลอบเซี่ยลู่ หลิวเฉียวเฉียวยืนอยู่หน้าหลี่ฝาง สีหน้าแข็งทื่อ

“ฉันไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่เธอคิด ที่ฉันทนกล้ำกลืนต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น ก็เพราะอยากหาเงินไว้เข้ามหาลัยก็เท่านั้น ฉันถึงจะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเองได้ สุดท้ายทำไมฉันถึงไม่มาเล่นกับพวกเธอ ไม่รับหน้าแทนเซี่ยลู่แล้ว ก็เพราะว่าฉันรู้ว่าฉันไม่คู่ควรกับพวกเธอ ยิ่งไม่คู่ควรกับเธอ” หลี่ฝางมองเซี่ยลู่ที่ฟุบหน้าร้องไห้บนโต๊ะ มุมปากยกยิ้มขมขื่น

พูดตามตรง เซี่ยลู่ไม่เข้าใจสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลายปีมานี้ของหลี่ฝางอยู่แล้ว

“ให้เธอ” หลี่ฝางเอาไอโฟนXSที่ตนเองพึ่งซื้อมาใหม่ส่งให้หลิวเฉียวเฉียว เดิมทีหลี่ฝางซื้อให้ตัวเอง แต่เมื่อสักครู่เห็นจางเชี่ยนโอ้อวดหลิวเฉียวเฉียว จึงอยากจะตบหน้าจางเชี่ยน

“ต่อไปไม่ว่าโจวเจ๋จะให้ของขวัญอะไรกับจางเชี่ยน ฉันก็จะซื้อให้เธอหนึ่งชิ้น รับรองว่าแพงกว่าของเธอแน่!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท