บทที่ 18 สมบัติของหลี่ฝาง
“เซี่ยลู่ ฉันบอกเธฮเมื่อไหร่ว่าฉันมีเงิน 200000? ” หลี่ฝางถูกเซี่ยลู่ทำสับสน เมื่อกี้ตนไม่ได้พูดประโยคนี้นี่?
“นายถูกล็อตเตอรี่ 500000 และเชิญเราไปทานอาหารค่ำคืนนั้นนายใช้ไป 100,000 หยวน และถูกพี่ชายของ จางเชี่ยนหลอกไป 80000 หยวน จากนั้นคืนนั้นก็แพ้ให้พี่เฟยอีก 140000 หยวน เมื่อนับแล้วไม่ใช่ว่ายังเหลืออยู่อีก 200000 หยวนหรือไง?” เซี่ยลู่ร้องไห้กระซิกขณะสรุปบัญชีให้หลี่ฝางฟัง
ในใจของหลี่ฝางเริ่มหัวเราะขึ้นมา ติดกับเร็วขนาดนี้เชียว?
“อืม พวกนายไม่ต้องเล่นละครอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้าใจขึ้นมา ว่าที่แท้ที่พวกนายทำแบบนี้ ก็เพื่อเงินในกระเป๋าฉัน” ทำอะไรอีกแล้วฉันเห็นแล้วว่าคุณทำแบบนี้เพื่อเงินในกระเป๋าของฉัน” หลี่ฝางแฉ
ในเวลานั้นเอง ตู้เฟยก็แสดงสีหน้าที่แท้จริงออกมา “ทำไม เมื่อกี้ฉันเล่นได้ไม่เลวใช่ไหม?”
ในตอนนี้ เซี่ยลู่ไม่ได้ร้องไห้อีกต่อไป “พี่เฟย เมื่อกี้ฉันถูกเขาเอาเปรียบไปไม่น้อย คุณห้ามปล่อยเขาไปง่ายๆ นะ”
หลี่ฝางมองไปที่เซี่ยลู่และก่นด่าในใจ แม่งเอ้ย เมื่อกี้เธอไม่ใช่หรือไงที่เอาตัวเองมาส่งถึงอกฉัน? ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นฉันไปเอาเปรียบเธอขึ้นมาได้
“ลำบากเธอแล้ว ที่รัก” ตู้เฟยลูบหน้าของเซี่ยลู่
“หลี่ฝาง เอาเงินมาให้ฉันเถอะ”
“ใช่ เอาเงินมาให้เสียดีๆ นายจะได้ถูกทุบตีน้อยหน่อย””
เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงมองไปที่หลี่ฝาง อย่างเย็นชาและขอเงินจากเขา
“เจ้าพวกโง่ ทำอะไรน่ะ! ” ตู้เฟยกรอกตาใส่พวกเขา จากนั้นจึงด่าขึ้น “หรือพวกนายไม่รู้หรือไงว่าปล้นเงินมันผิดกฏหมาย?”
“หลี่ฝาง พวกเรามาคุยกันเถอะ” ตู้เฟยมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า
“คุยอะไร? หลี่ฝางถามขึ้น
“นายให้เงินจากลอตเตอรีส่วนที่เหลือแก่ฉัน แล้วฉันจะให้รูปภาพกับนาย เป็นไง?” ตู้เฟยเขย่ารูปหลี่ฝางที่อยู่ในมือถือ
“ถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”
“ถ้านายไม่ตกลง ฉันก็จะพิมพ์ภาพนี้ออกมาหลายพันฉบับและแปะไว้ตามถนนทุกแห่งในตงไห่ ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับร่างกายน่าเกลียดของนาย”
พูดจบ ตู้เฟยก็มีอีกความคิดหนึ่ง “แน่นอนว่าฉันสามารถให้เซี่ยลู่แจ้งความกับตำรวจว่านายคุณข่มขืนเธอ ยังไงเสียตอนนี้บนตัวฉันก็มีหลักฐานอยู่””
“ฉันให้เงินกับนายก็พอ” หลังจากฟังจบ หลี่ฝางก็โมโหขึ้นมา ไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหน ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ตอนนี้ดูเหมือนว่า การให้เงินกับตู้เฟยเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“แต่ว่าการกระทำของนายตอนนี้คือกำลังแบล็กเมล์ฉัน เป็นการทำผิดกฎหมายเหมือนกัน” หลี่ฝางหัวเราะเยาะ “ต่างจากการปล้นตรงไหนกัน?”
“แน่นอนว่าต่าง ถ้าปล้น นายกล้าแจ้งตำรวจ แต่ตอนนี้ นายกล้าไหมล่ะ?” ตู้เฟยหัวเราะลั่น “รีบๆ เอาเงินมาให้ฉันเถอะ”
“ฉันเหลือเงินแค่แสนเดียว นายเอาบัญชีนายมา ฉันโอนให้ พวกนายดูเหมือนจะลืมอะไรไปหน่อย ถูกลอตเตอรี่จะต้องจ่ายภาษีด้วย” หลี่ฝางไม่ต้องการให้ตู้เฟยมากเกินไป
สองแสนเปลี่ยนเป็นหนึ่งแสน เมื่อจู่ๆ เงินก็ลดลงไปมาก สีหน้าของตู้เฟยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที
“แม่งเอ้ย นายบอกว่ายากจนไม่มีทักษะอะไรอื่น แต่ทำไมใช้เงินถึงได้ใช้เก่งนัก” ตู้เฟยตบหลี่ฝางเข้าฝ่ามือหนึ่ง จากนั้นจึงก่นด่า และเอาเงินจากเขา
หลังจากได้รับเงิน 100000 หยวนจากหลี่ฝาง ตู้เฟยก็พูดกับตัวเอง “เงิน 100,000 หยวนที่เหลือ ไปหาส้งเสียงและโจวเจ๋ช่วยเหลือก็พอ””
“ตอนนี้เงินก็โอนไปแล้ว นายลบรูปเถอะ” หลี่ฝางเอ่ยขอ
“ลบบ้านมึงสิ นายคิดว่าฉันโง่หรือไง ฉันลบรูปแล้ว เกิดนายเอาหลักฐานการโอนไปแจ้งตำรวจขึ้นมาล่ะทำยังไง? ฉันจะบอกนายให้ รูปนี้ฉันไม่มีทางลบ” ตู้เฟยพูดจบก็เดินออกไปทันที
หลี่ฝางคว้ากางเกงของเขา จากนั้นจึงโทรหาเจ้าหัวแบน “พี่โจว พวกเขาลงไปแล้ว คุณทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินคืนมาก็พอ”
ตู้เฟยและคนอื่นๆ ออกจากโรงแรมอย่างมีความสุข
จางเสี่ยวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก “พี่เฟย คุณเก่งเกินไปแล้ว แค่แป๊บเดียว ก็ได้เงินแสนหนึ่งมาอยู่ในมือ””
“พ่อของฉันปีหนึ่งเพิ่งจะทำเงินได้ 100000 เท่านั้นเองนะ”
เกาเสิ้งเอ่ยปากถาม “พี่เฟย เงินนี้พี่จะแบ่งยังไง! ”
“ใครบอกว่าฉันจะแบ่งมัน” ตู้เฟยขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือเงินที่ฉันจะใช้ซื้อรถ”
“เมื่อคืนวานพวกแกสองคนไม่ได้บอกว่าจะหาโอกาสลงมือสั่งสอนหลี่ฝางสักทีไม่ใช่หรือไง ฉันก็ให้โอกาสพวกแกแล้วไง พวกแกไม่ขอบคุณฉันก็แล้วไป แต่กลับยังมาขอแบ่งเงินจากฉันอีก?” เงินนี้เป็นเงินที่ฉันกับเซี่ยลู่โกงมา มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกนายกัน” ตู้เฟยยิ้มเยาะ
สีหน้าของเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงเปลี่ยนไปทันที พวกเขารู้สึกว่าตนเองก็ถูกหลอกมาเช่นกัน
“พี่เฟย อย่างน้อยๆ ก็ต้องแบ่งสักนิดหน่อย”
“ถูกต้อง คุณโกงเจ้าเด็กนั้นมาตั้ง 100,000 หยวนเชียวนะ”
ตู้เฟยครุ่นคิดสักครู่และเอ่ย “ก็ได้ อีกเดี๋ยวฉันจะโอนให้พวกนายคนละพัน””
เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงยังคิดจะพูดต่อ แต่จู่ๆ ทันใดนั้นก็มีLand Roverคันใหญ่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
“เชี่ย ไอ้บ้าที่ไหนขับรถวะเนี่ย ลืมเอาลูกตามาหรือไง?” เกาเสิ้งชี้ไปที่รถและด่า
“ขับLand Roverแล้วใหญ่นักหรือไง! ” จางเสี่ยวเฟิงเตะเข้าที่รถทันที จากนั้นจึงสบถออกมา
“ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงขับ! ”
หลังจากมองดูอย่างชัดเจน จางเสี่ยวเฟิงก็ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น “แม่งเอ้ย พวกผู้หญิงหน้าเหม็น ลงมาเดี๋ยวนี้ อย่าคิดว่าหน้าตาดีหน่อยแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไร””
“เมื่อกี้เธอทำฉันตกใจแทบแย่ ชดใช้เงินมา! ”
ประตูรถเปิดออก หลินชิงชิงกระโดดลงมาจากLand Rover และเอ่ยถาม “พวกนายต้องการเท่าไหร่?”
“อย่างน้อยๆ ก็ต้องเป็นแสน?” จางเสี่ยวเฟิงคิดสักพัก จากนั้นจึงหันไปถามตู้เฟย “พี่เฟย พี่ว่าได้ไหม?”
ในตอนนั้นเองตู้เฟยกลับนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ทั้งตัวมีท่าทางตกตะลึง
“งั้น 100000 ถ้าเธอไม่ให้พวกเรา พวกเราจะนอนลงไม่ยอมลุก! ” เกาเสิ้งเข้าไปนอนลงตรงหน้ารถLand Rover”ทันที
“เสี่ยวเฟิง รีบนอนลง” หลังจากเกาเสิ้งนอนลงก็เรียกจางเสี่ยวเฟิงต่อ
จางเสี่ยวเฟิงตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นถึงค่อยเข้าใจว่าที่แท้เกาเสิ้งคิดแสร้งทำตัวเป็นคนโดนชนเพื่อเรียกเงิน!
หลังจากที่ทั้งสองคนนอนลง หลินชิงชิงก็หัวเราะ “หากชนก็คงตายแน่ๆ “”
“ได้ ฉันจะช่วยพวกนายเอง” หลินชิงชิงกระโดดขึ้นรถโดยไม่ลังเลใดๆ จากนั้นจึงสตาร์ทรถทันที จนเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงตกใจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“แม่งเอ้ย นี่เธอจะชนพวกเราให้ตายจริงๆ! ”
“เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง! ”
ทั้งสองเตะเข้าที่Land Rover อีกครั้ง ในเวลานั้นเอง บนเบาะหลังรถLand Roverก็มีชายคนหนึ่งลงมา
ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเจ้าหัวแบน
เจ้าหัวแบนพุ่งเข้ามา จากนั้นจึงเตะเกาเสิ้งจนกระเด็นออกไปเกือบห้าเมตร เมื่อจางเสี่ยวเฟิงได้เห็นตะลึงตาค้าง
หุ่นของเกาเสิ้ง น้ำหนักเกือบจะร้อยกิโล คนทั่วไปเตะเขา เขายังไม่แม้แต่ขยับสักนิดด้วยซ้ำ
แต่แค่ฝ่าเท้าเดียวของเจ้าหัวแบน….
“รถของฉันแกยังกล้าเตะ! ” หลังคว้าคอเสื้อของจางเสี่ยวเฟิง เจ้าหัวแบนก็ยกหมัดขึ้นทันที
“รนหาที่ตาย! ” เจ้าหัวแบนชกใส่หน้าจางเสี่ยวเฟิงทีละหมัดๆ จนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด
เมื่อตู้เฟยเห็นเข้าก็ถึงกับขาสั่น
มาถึงเร็วขนาดนี้เชียว?
หลินชิงชิงลงจากรถและมองไปที่ตู้เฟยอย่างใจเย็น “เด็กน้อย ความสามารถเมื่อวานล่ะ”?”
“เมื่อวานนายไม่ได้กร่างนักหรือไง? แม้กระทั่งฉันนายยังกล้าตี นายแน่ดีนี่”
“แล้วอีกสองคนล่ะ?” หลินชิงชิงถาม
ตู้เฟยกลืนน้ำลาย แค่คิดว่าเขาจะต้องสู้กับลูกสาวของลูกพี่หลิน ในนาทีนั้น เขาเกือบคิดจะตายด้วยซ้ำ
“พี่ชิง จะจัดการกับเจ้าเด็กนี่ยังไง?” หลังจากที่ทำให้จางเสี่ยวเฟิงหมดสติ เจ้าหัวแบนก็หันกลับมา
“เสี่ยวโจว นายอยู่กับฉันมาตั้งนานแล้ว เรื่องแค่นี้ต้องให้ฉันบอกอีกหรือไง?” หลินชิงชิงพูดจบ สีหน้าก็เหี้ยมขึ้นทันที “หักขาเขาให้ฉัน! ”
“เดี๋ยวก่อน! ”
ทันใดนั้น ตู้เฟยก็ร้องออกมา “ฉันจะโทรหาพ่อ”
ตู้เฟยหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอย่างเร่งรีบ และกดโทรหาพ่อของตนทันที “พ่อ รีบช่วยผมด้วย ดูเหมือนว่าผมจะไปยั่วโมโหลูกพี่หลินเข้าให้แล้ว…””
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฝางก็มาถึงที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ทันทีที่เขาเข้าไป ก็ได้ยินเสียงร้องของหลินชิงชิง “น้องชาย ตรงนี้”
หลี่ฝางเดินเข้าไปนั่งข้างๆ หลินชิงชิง “พี่ ได้มือถือมาไหม?”
“ได้มาแล้ส” เจ้าหัวแบนหยิบมือถือสี่เครื่องออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“แม่งเอ้ย ปล้นมาหมดเลยหรือ? เอาแค่ของตู้เฟยก็พอแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วเอาโทรศัพท์มือถือทั้งหมดใส่กระเป๋า
“นายบอกให้ปล้นมือถือของพวกเขา แต่ไม่ได้บอกว่าใครนี่ ดังนั้น พวกเราเลยเอามาทั้งหมด” หลินชิงชิงพูดจบก็ถอนหายใจ “แต่ฉันคิดไม่ถึงนิดหน่อย””
“อะไรหรือ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”?”
“ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแค่ฉันคิดไม่ถึงว่าพ่อของตู้เฟยกับพ่อของฉันจะรู้จักกัน เดิมทีฉันคิดจะหักขาเจ้านั่นสักหน่อย ให้เขาได้จดจำไว้นานๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพ่อของฉันจะโทรมาแล้วบอกให้ฉันอย่าลงมือกับตู้เฟย”
หลี่ฝางเบ้ปาก ท่าทางผิดหวังอยู่บ้าง
ตงไห่ใหญ่โตขนาดนี้ พ่อของตู้เฟยและลูกพี่หลินล้วยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในตงไห่ ดังนั้นการไหว้หน้ากันเล็กๆ น้อยๆ จึงเป็นเรื่องปกติ”
“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ฟังพ่อ แล้วบอกให้เสี่ยวโจวตีเขาอย่างแรงไปยกหนึ่ง” ผ่านไปชั่วครู่ มุมปากของหลินชิงชิง ก็ค่อยยิ้มขึ้นมา
หลี่ฝางเองก็ยิ้มตาม “ถ้าลูกพี่หลินรู้เจ้าจะดุพี่รึเปล่า”
“ดุก็ดุไปสิ ยังไงฉันก็เป็นลูกสาวของเขา เขาตีฉันไม่ได้สักหน่อย” หลินชิงชิงเอ่ยหน้าเฉย “ที่สำคัญคือฉันเกลียดคนพวกลูกเศรษฐีอยู่แล้ว พอมาเห็นพวกคนกลุ่มนี้ก็เดือดขึ้นมา”
เดิมทีหลี่ฝางต้องการหาโอกาสบอกตัวตนที่แท้จริงของตนกัลหลินชิงชิง แต่หลังจากฟังประโยคนี้ หลี่ฝางก็ล้มเลิกความคิด
หลี่ฝางคิดว่าหลินชิงชิงเป็นคนดีจริงๆ แต่เธอเกลียดพวกลูกเศรษฐีจะให้ทำยัไง หรือว่าแม้กระทั่งคุณปู่ผู้เป็นเศรษฐีแถวหน้าเขาก็ไม่เอาแล้ว ก็คงเป็นไปไม่ได้
“สภาพนายตอนนี้ ก็โดนตีมาไม่น้อยเลย บอกพี่สาวมา พวกเขาตีนายทำไม! ” หลินชิงชิง จิบกาแฟและถามด้วยท่าทางปวดใจ
หลี่ฝางบอกหลินชิงชิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา และข้ามฉากคลุมเครือของเขากับเซี่ยลู่ไป หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ปกปิดอะไร เขาเล่าออกมาจนหมด
หลังจากได้ หลินชิงชิงก็โมโหขึ้นมา เธอตบโต๊ะและเอ่ย “เจ้าพวกสารเลว กล้ามาหาเรื่องน้องชายของฉัน! ”
“นายเองก็เหมือนกัน เมื่อครู่ตอนโทรคุยทำไมนายไม่บอกฉันเรื่องเงิน หากนายบอกฉันก่อน ฉันคงทวงคืนมาให้นายไปแล้ว?” หลินชิงชิงมองไปที่หลี่ฝางและพูดด้วยความตำหนิ
“ไม่เป็นไร พี่ เงินไม่ได้คืนมาก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือได้รูปกลับมาก็พอ” หลี่ฝางสามารถเสียเงินไปได้ แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้ตู้เฟยมาแบล็กเมลล์เขา แบบนี้ เท่ากับถูกบีบบังคับเกินไป
ในเวลานี้เอง หลี่ฝางหยิบสิ่งของออกมาจากอกเขา “พี่ ผมจะให้พี่ดูสมบัติของผม”