NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

บทที่ 18 สมบัติของหลี่ฝาง

“เซี่ยลู่ ฉันบอกเธฮเมื่อไหร่ว่าฉันมีเงิน 200000? ” หลี่ฝางถูกเซี่ยลู่ทำสับสน เมื่อกี้ตนไม่ได้พูดประโยคนี้นี่?

“นายถูกล็อตเตอรี่ 500000 และเชิญเราไปทานอาหารค่ำคืนนั้นนายใช้ไป 100,000 หยวน และถูกพี่ชายของ จางเชี่ยนหลอกไป 80000 หยวน จากนั้นคืนนั้นก็แพ้ให้พี่เฟยอีก 140000 หยวน เมื่อนับแล้วไม่ใช่ว่ายังเหลืออยู่อีก 200000 หยวนหรือไง?” เซี่ยลู่ร้องไห้กระซิกขณะสรุปบัญชีให้หลี่ฝางฟัง

ในใจของหลี่ฝางเริ่มหัวเราะขึ้นมา ติดกับเร็วขนาดนี้เชียว?

“อืม พวกนายไม่ต้องเล่นละครอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้าใจขึ้นมา ว่าที่แท้ที่พวกนายทำแบบนี้ ก็เพื่อเงินในกระเป๋าฉัน” ทำอะไรอีกแล้วฉันเห็นแล้วว่าคุณทำแบบนี้เพื่อเงินในกระเป๋าของฉัน” หลี่ฝางแฉ

ในเวลานั้นเอง ตู้เฟยก็แสดงสีหน้าที่แท้จริงออกมา “ทำไม เมื่อกี้ฉันเล่นได้ไม่เลวใช่ไหม?”

ในตอนนี้ เซี่ยลู่ไม่ได้ร้องไห้อีกต่อไป “พี่เฟย เมื่อกี้ฉันถูกเขาเอาเปรียบไปไม่น้อย คุณห้ามปล่อยเขาไปง่ายๆ นะ”

หลี่ฝางมองไปที่เซี่ยลู่และก่นด่าในใจ แม่งเอ้ย เมื่อกี้เธอไม่ใช่หรือไงที่เอาตัวเองมาส่งถึงอกฉัน? ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นฉันไปเอาเปรียบเธอขึ้นมาได้

“ลำบากเธอแล้ว ที่รัก” ตู้เฟยลูบหน้าของเซี่ยลู่

“หลี่ฝาง เอาเงินมาให้ฉันเถอะ”

“ใช่ เอาเงินมาให้เสียดีๆ นายจะได้ถูกทุบตีน้อยหน่อย””

เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงมองไปที่หลี่ฝาง อย่างเย็นชาและขอเงินจากเขา

“เจ้าพวกโง่ ทำอะไรน่ะ! ” ตู้เฟยกรอกตาใส่พวกเขา จากนั้นจึงด่าขึ้น “หรือพวกนายไม่รู้หรือไงว่าปล้นเงินมันผิดกฏหมาย?”

“หลี่ฝาง พวกเรามาคุยกันเถอะ” ตู้เฟยมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า

“คุยอะไร? หลี่ฝางถามขึ้น

“นายให้เงินจากลอตเตอรีส่วนที่เหลือแก่ฉัน แล้วฉันจะให้รูปภาพกับนาย เป็นไง?” ตู้เฟยเขย่ารูปหลี่ฝางที่อยู่ในมือถือ

“ถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”

“ถ้านายไม่ตกลง ฉันก็จะพิมพ์ภาพนี้ออกมาหลายพันฉบับและแปะไว้ตามถนนทุกแห่งในตงไห่ ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับร่างกายน่าเกลียดของนาย”

พูดจบ ตู้เฟยก็มีอีกความคิดหนึ่ง “แน่นอนว่าฉันสามารถให้เซี่ยลู่แจ้งความกับตำรวจว่านายคุณข่มขืนเธอ ยังไงเสียตอนนี้บนตัวฉันก็มีหลักฐานอยู่””

“ฉันให้เงินกับนายก็พอ” หลังจากฟังจบ หลี่ฝางก็โมโหขึ้นมา ไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหน ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

ตอนนี้ดูเหมือนว่า การให้เงินกับตู้เฟยเป็นทางออกที่ดีที่สุด

“แต่ว่าการกระทำของนายตอนนี้คือกำลังแบล็กเมล์ฉัน เป็นการทำผิดกฎหมายเหมือนกัน” หลี่ฝางหัวเราะเยาะ “ต่างจากการปล้นตรงไหนกัน?”

“แน่นอนว่าต่าง ถ้าปล้น นายกล้าแจ้งตำรวจ แต่ตอนนี้ นายกล้าไหมล่ะ?” ตู้เฟยหัวเราะลั่น “รีบๆ เอาเงินมาให้ฉันเถอะ”

“ฉันเหลือเงินแค่แสนเดียว นายเอาบัญชีนายมา ฉันโอนให้ พวกนายดูเหมือนจะลืมอะไรไปหน่อย ถูกลอตเตอรี่จะต้องจ่ายภาษีด้วย” หลี่ฝางไม่ต้องการให้ตู้เฟยมากเกินไป

สองแสนเปลี่ยนเป็นหนึ่งแสน เมื่อจู่ๆ เงินก็ลดลงไปมาก สีหน้าของตู้เฟยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที

“แม่งเอ้ย นายบอกว่ายากจนไม่มีทักษะอะไรอื่น แต่ทำไมใช้เงินถึงได้ใช้เก่งนัก” ตู้เฟยตบหลี่ฝางเข้าฝ่ามือหนึ่ง จากนั้นจึงก่นด่า และเอาเงินจากเขา

หลังจากได้รับเงิน 100000 หยวนจากหลี่ฝาง ตู้เฟยก็พูดกับตัวเอง “เงิน 100,000 หยวนที่เหลือ ไปหาส้งเสียงและโจวเจ๋ช่วยเหลือก็พอ””

“ตอนนี้เงินก็โอนไปแล้ว นายลบรูปเถอะ” หลี่ฝางเอ่ยขอ

“ลบบ้านมึงสิ นายคิดว่าฉันโง่หรือไง ฉันลบรูปแล้ว เกิดนายเอาหลักฐานการโอนไปแจ้งตำรวจขึ้นมาล่ะทำยังไง? ฉันจะบอกนายให้ รูปนี้ฉันไม่มีทางลบ” ตู้เฟยพูดจบก็เดินออกไปทันที

หลี่ฝางคว้ากางเกงของเขา จากนั้นจึงโทรหาเจ้าหัวแบน “พี่โจว พวกเขาลงไปแล้ว คุณทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินคืนมาก็พอ”

ตู้เฟยและคนอื่นๆ ออกจากโรงแรมอย่างมีความสุข

จางเสี่ยวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก “พี่เฟย คุณเก่งเกินไปแล้ว แค่แป๊บเดียว ก็ได้เงินแสนหนึ่งมาอยู่ในมือ””

“พ่อของฉันปีหนึ่งเพิ่งจะทำเงินได้ 100000 เท่านั้นเองนะ”

เกาเสิ้งเอ่ยปากถาม “พี่เฟย เงินนี้พี่จะแบ่งยังไง! ”

“ใครบอกว่าฉันจะแบ่งมัน” ตู้เฟยขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือเงินที่ฉันจะใช้ซื้อรถ”

“เมื่อคืนวานพวกแกสองคนไม่ได้บอกว่าจะหาโอกาสลงมือสั่งสอนหลี่ฝางสักทีไม่ใช่หรือไง ฉันก็ให้โอกาสพวกแกแล้วไง พวกแกไม่ขอบคุณฉันก็แล้วไป แต่กลับยังมาขอแบ่งเงินจากฉันอีก?” เงินนี้เป็นเงินที่ฉันกับเซี่ยลู่โกงมา มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกนายกัน” ตู้เฟยยิ้มเยาะ

สีหน้าของเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงเปลี่ยนไปทันที พวกเขารู้สึกว่าตนเองก็ถูกหลอกมาเช่นกัน

“พี่เฟย อย่างน้อยๆ ก็ต้องแบ่งสักนิดหน่อย”

“ถูกต้อง คุณโกงเจ้าเด็กนั้นมาตั้ง 100,000 หยวนเชียวนะ”

ตู้เฟยครุ่นคิดสักครู่และเอ่ย “ก็ได้ อีกเดี๋ยวฉันจะโอนให้พวกนายคนละพัน””

เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงยังคิดจะพูดต่อ แต่จู่ๆ ทันใดนั้นก็มีLand Roverคันใหญ่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

“เชี่ย ไอ้บ้าที่ไหนขับรถวะเนี่ย ลืมเอาลูกตามาหรือไง?” เกาเสิ้งชี้ไปที่รถและด่า

“ขับLand Roverแล้วใหญ่นักหรือไง! ” จางเสี่ยวเฟิงเตะเข้าที่รถทันที จากนั้นจึงสบถออกมา

“ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงขับ! ”

หลังจากมองดูอย่างชัดเจน จางเสี่ยวเฟิงก็ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น “แม่งเอ้ย พวกผู้หญิงหน้าเหม็น ลงมาเดี๋ยวนี้ อย่าคิดว่าหน้าตาดีหน่อยแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไร””

“เมื่อกี้เธอทำฉันตกใจแทบแย่ ชดใช้เงินมา! ”

ประตูรถเปิดออก หลินชิงชิงกระโดดลงมาจากLand Rover และเอ่ยถาม “พวกนายต้องการเท่าไหร่?”

“อย่างน้อยๆ ก็ต้องเป็นแสน?” จางเสี่ยวเฟิงคิดสักพัก จากนั้นจึงหันไปถามตู้เฟย “พี่เฟย พี่ว่าได้ไหม?”

ในตอนนั้นเองตู้เฟยกลับนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ทั้งตัวมีท่าทางตกตะลึง

“งั้น 100000 ถ้าเธอไม่ให้พวกเรา พวกเราจะนอนลงไม่ยอมลุก! ” เกาเสิ้งเข้าไปนอนลงตรงหน้ารถLand Rover”ทันที

“เสี่ยวเฟิง รีบนอนลง” หลังจากเกาเสิ้งนอนลงก็เรียกจางเสี่ยวเฟิงต่อ

จางเสี่ยวเฟิงตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นถึงค่อยเข้าใจว่าที่แท้เกาเสิ้งคิดแสร้งทำตัวเป็นคนโดนชนเพื่อเรียกเงิน!

หลังจากที่ทั้งสองคนนอนลง หลินชิงชิงก็หัวเราะ “หากชนก็คงตายแน่ๆ “”

“ได้ ฉันจะช่วยพวกนายเอง” หลินชิงชิงกระโดดขึ้นรถโดยไม่ลังเลใดๆ จากนั้นจึงสตาร์ทรถทันที จนเกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงตกใจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“แม่งเอ้ย นี่เธอจะชนพวกเราให้ตายจริงๆ! ”

“เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง! ”

ทั้งสองเตะเข้าที่Land Rover อีกครั้ง ในเวลานั้นเอง บนเบาะหลังรถLand Roverก็มีชายคนหนึ่งลงมา

ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเจ้าหัวแบน

เจ้าหัวแบนพุ่งเข้ามา จากนั้นจึงเตะเกาเสิ้งจนกระเด็นออกไปเกือบห้าเมตร เมื่อจางเสี่ยวเฟิงได้เห็นตะลึงตาค้าง

หุ่นของเกาเสิ้ง น้ำหนักเกือบจะร้อยกิโล คนทั่วไปเตะเขา เขายังไม่แม้แต่ขยับสักนิดด้วยซ้ำ

แต่แค่ฝ่าเท้าเดียวของเจ้าหัวแบน….

“รถของฉันแกยังกล้าเตะ! ” หลังคว้าคอเสื้อของจางเสี่ยวเฟิง เจ้าหัวแบนก็ยกหมัดขึ้นทันที

“รนหาที่ตาย! ” เจ้าหัวแบนชกใส่หน้าจางเสี่ยวเฟิงทีละหมัดๆ จนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด

เมื่อตู้เฟยเห็นเข้าก็ถึงกับขาสั่น

มาถึงเร็วขนาดนี้เชียว?

หลินชิงชิงลงจากรถและมองไปที่ตู้เฟยอย่างใจเย็น “เด็กน้อย ความสามารถเมื่อวานล่ะ”?”

“เมื่อวานนายไม่ได้กร่างนักหรือไง? แม้กระทั่งฉันนายยังกล้าตี นายแน่ดีนี่”

“แล้วอีกสองคนล่ะ?” หลินชิงชิงถาม

ตู้เฟยกลืนน้ำลาย แค่คิดว่าเขาจะต้องสู้กับลูกสาวของลูกพี่หลิน ในนาทีนั้น เขาเกือบคิดจะตายด้วยซ้ำ

“พี่ชิง จะจัดการกับเจ้าเด็กนี่ยังไง?” หลังจากที่ทำให้จางเสี่ยวเฟิงหมดสติ เจ้าหัวแบนก็หันกลับมา

“เสี่ยวโจว นายอยู่กับฉันมาตั้งนานแล้ว เรื่องแค่นี้ต้องให้ฉันบอกอีกหรือไง?” หลินชิงชิงพูดจบ สีหน้าก็เหี้ยมขึ้นทันที “หักขาเขาให้ฉัน! ”

“เดี๋ยวก่อน! ”

ทันใดนั้น ตู้เฟยก็ร้องออกมา “ฉันจะโทรหาพ่อ”

ตู้เฟยหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอย่างเร่งรีบ และกดโทรหาพ่อของตนทันที “พ่อ รีบช่วยผมด้วย ดูเหมือนว่าผมจะไปยั่วโมโหลูกพี่หลินเข้าให้แล้ว…””

……

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฝางก็มาถึงที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ทันทีที่เขาเข้าไป ก็ได้ยินเสียงร้องของหลินชิงชิง “น้องชาย ตรงนี้”

หลี่ฝางเดินเข้าไปนั่งข้างๆ หลินชิงชิง “พี่ ได้มือถือมาไหม?”

“ได้มาแล้ส” เจ้าหัวแบนหยิบมือถือสี่เครื่องออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“แม่งเอ้ย ปล้นมาหมดเลยหรือ? เอาแค่ของตู้เฟยก็พอแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วเอาโทรศัพท์มือถือทั้งหมดใส่กระเป๋า

“นายบอกให้ปล้นมือถือของพวกเขา แต่ไม่ได้บอกว่าใครนี่ ดังนั้น พวกเราเลยเอามาทั้งหมด” หลินชิงชิงพูดจบก็ถอนหายใจ “แต่ฉันคิดไม่ถึงนิดหน่อย””

“อะไรหรือ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”?”

“ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแค่ฉันคิดไม่ถึงว่าพ่อของตู้เฟยกับพ่อของฉันจะรู้จักกัน เดิมทีฉันคิดจะหักขาเจ้านั่นสักหน่อย ให้เขาได้จดจำไว้นานๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพ่อของฉันจะโทรมาแล้วบอกให้ฉันอย่าลงมือกับตู้เฟย”

หลี่ฝางเบ้ปาก ท่าทางผิดหวังอยู่บ้าง

ตงไห่ใหญ่โตขนาดนี้ พ่อของตู้เฟยและลูกพี่หลินล้วยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในตงไห่ ดังนั้นการไหว้หน้ากันเล็กๆ น้อยๆ จึงเป็นเรื่องปกติ”

“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ฟังพ่อ แล้วบอกให้เสี่ยวโจวตีเขาอย่างแรงไปยกหนึ่ง” ผ่านไปชั่วครู่ มุมปากของหลินชิงชิง ก็ค่อยยิ้มขึ้นมา

หลี่ฝางเองก็ยิ้มตาม “ถ้าลูกพี่หลินรู้เจ้าจะดุพี่รึเปล่า”

“ดุก็ดุไปสิ ยังไงฉันก็เป็นลูกสาวของเขา เขาตีฉันไม่ได้สักหน่อย” หลินชิงชิงเอ่ยหน้าเฉย “ที่สำคัญคือฉันเกลียดคนพวกลูกเศรษฐีอยู่แล้ว พอมาเห็นพวกคนกลุ่มนี้ก็เดือดขึ้นมา”

เดิมทีหลี่ฝางต้องการหาโอกาสบอกตัวตนที่แท้จริงของตนกัลหลินชิงชิง แต่หลังจากฟังประโยคนี้ หลี่ฝางก็ล้มเลิกความคิด

หลี่ฝางคิดว่าหลินชิงชิงเป็นคนดีจริงๆ แต่เธอเกลียดพวกลูกเศรษฐีจะให้ทำยัไง หรือว่าแม้กระทั่งคุณปู่ผู้เป็นเศรษฐีแถวหน้าเขาก็ไม่เอาแล้ว ก็คงเป็นไปไม่ได้

“สภาพนายตอนนี้ ก็โดนตีมาไม่น้อยเลย บอกพี่สาวมา พวกเขาตีนายทำไม! ” หลินชิงชิง จิบกาแฟและถามด้วยท่าทางปวดใจ

หลี่ฝางบอกหลินชิงชิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา และข้ามฉากคลุมเครือของเขากับเซี่ยลู่ไป หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ปกปิดอะไร เขาเล่าออกมาจนหมด

หลังจากได้ หลินชิงชิงก็โมโหขึ้นมา เธอตบโต๊ะและเอ่ย “เจ้าพวกสารเลว กล้ามาหาเรื่องน้องชายของฉัน! ”

“นายเองก็เหมือนกัน เมื่อครู่ตอนโทรคุยทำไมนายไม่บอกฉันเรื่องเงิน หากนายบอกฉันก่อน ฉันคงทวงคืนมาให้นายไปแล้ว?” หลินชิงชิงมองไปที่หลี่ฝางและพูดด้วยความตำหนิ

“ไม่เป็นไร พี่ เงินไม่ได้คืนมาก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือได้รูปกลับมาก็พอ” หลี่ฝางสามารถเสียเงินไปได้ แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้ตู้เฟยมาแบล็กเมลล์เขา แบบนี้ เท่ากับถูกบีบบังคับเกินไป

ในเวลานี้เอง หลี่ฝางหยิบสิ่งของออกมาจากอกเขา “พี่ ผมจะให้พี่ดูสมบัติของผม”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท