NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 62

ตอนที่ 62

บทที่ 62 หลี่หลง คุกเข่าคำนับฉันซะ

ในวันที่ลูกพี่หลี่เสียชีวิต คนของเขาได้ตรวจสอบหลี่ฝางไปแล้วรอบหนึ่ง

บ้านในชุมชนหยุนหู ก็ถูกค้นพบในตอนนั้นเช่นกัน เวลานั้นหลี่หลงก็ให้ความสนใจถึงเรื่องนี้

ชายหัวสกินเฮดพยักหน้าให้หลี่หลง “พี่ใหญ่ ตรวจสอบแล้ว สิ่งที่เด็กนั่นพูดคือความจริง”

“พวกแกไปถามใครมา ทำไมเร็วขนาดนี้?” ดวงตาของหลี่ฝางดูโง่งมอยู่บ้าง

“จะถามใครได้อีก ก็ถามพ่อแม่ของแกไง คนของฉัน ตอนนี้กำลังไปเป็นแขกของบ้านแกอยู่” ลี่หลงยิ้ม คำพูดแสดงออกถึงการคุกคาม

“ถ้าแกไม่ยินยอม พ่อและแม่ของแกก็จะลงเอยแบบเดียวกับแก”

“หลี่หลง ไอ้เฮี้ย! ” หลี่ฝางยืนขึ้นและพุ่งเข้าใส่หลี่หลง

เสียงปึงดังขึ้น!

หลี่หลงยื่นขาออกมาถีบหลี่ฝางกระเด็นออกไป

สมกับที่หลี่หลงเป็นแชมป์ซ่านต่า แค่ลูกเตะเดียวครั้งนี้ ทำเอาหลี่ฝางเจ็บเกือบตาย!

“อย่าแตะต้องพ่อแม่ฉัน บ้านและเงิน ฉันให้แกทั้งหมด” หลี่ฝางประนีประนอม พ่อแม่ของเขาจะเกิดเรื่องขึ้นไม่ได้

“นี่คือสัญญาโอนอสังหาริมทรัพย์ เซ็นซะ” หลี่หลงยิ้ม เห็นชัดว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว

หลังจากที่หลี่ฝางเซ็นอย่างเชื่อฟัง หลี่หลงก็นำเครื่อง POS ออกมาอีกครั้ง “ใส่รหัสผ่าน”

หลี่ฝางไม่ได้มองด้วยซ้ำและใส่รหัสผ่านทันที

“เวรเอ้ย มึงไอ้เด็กเปรต มึงกล้าโกงกู!” หลี่หลงยืนขึ้น และชกเข้าที่หน้าของหลี่ฝาง

“เวรเอ้ย ฉันไปโกงอะไรแกวะ เงินก็โอนไปแล้วไม่ใช่หรือไง?” หลี่ฝางจ้องมองไปที่เครื่อง POS และจากนั้นจึงเห็นคำว่า “การชำระเงินสำเร็จ” ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“แกรู้ไหมว่าฉันใส่เงินไปเท่าไหร่?” สีหน้าของหลี่หลงแฝงรอยยิ้มเย็นชา

“เมื่อกี้ฉันใส่ไปหนึ่งล้าน แกบอกว่าบัตรแกมีเงินแค่ 600000 ไม่ใช่หรือไง?” หลี่หลงตะคอก

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางถึงรู้แล้วว่าตนถูกหลอก

ให้ตายเถอะ ไม่คิดเลยว่าหลี่หลงไอ้บ้านี่จะมีลูกเล่นมากขนาดนี้

เสียงบี๊บดังขึ้น

เป็นเสียงโทรศัพท์มือถือในมือของชายหัวสกินเฮด

จู่ๆ ใบหน้าของหลี่ฝางก็ลุกลี้ลุกลน นี่คือโทรศัพท์มือถือของเขา เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ จะต้องเป็นข้อความแจ้งเตือนการหักบัตรธนาคารแน่

จบแล้ว จบเห่แล้ว พริบตาเดียวเงินกว่าแปดล้านล้วนคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

แต่ใครจะรู้ว่า เพียงชั่วครู่ชายหัวสกินเฮดกลับวางมือถือกลับเข้าไปในอกเสื้อเช่นเดิม

“เฮี้ยเอ้ย แกมีเงินเท่าไหร่กันแน่?” หลี่หลงหยิบมีดออกมา และชี้ไปที่หลี่ฝาง

หลี่ฝางกลืนน้ำลายและข่มความกลัวลงไปจากนั้นจึงพูดขึ้น “นั่นคือทั้งหมด”

“สามล้านห้า สองล้านซื้อบ้าน ฉันใช้ไปห้าแสน ที่เหลืออีกล้านหนึ่ง ให้แกหมดแล้ว” หลี่ฝางกล่าว

“ไอ้บ้าเอ้ย ลองรูดใหม่อีกที! ” หลี่หลงไม่เชื่อเขา และหยิบเครื่อง POS ออกมาทันที

ในตอนนั้นเอง แลนด์โรเวอร์คันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่หลี่หลง

“หลินชิงชิง?” หลี่หลงถอยกลับ คิ้วขมวดขึ้นมา

หลินชิงชิงและคนอื่นๆ ลงจากรถ จากนั้นจึงยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง

“หลินชิงชิง เธอมาที่นี่ได้ยังไง? ” หลี่หลงถามอย่างสงสัย

หลินชิงชิงก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยพูด “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่า ลูกพี่หลี่เป็นคนเชื่อเรื่องโชคลางและสร้างวัดขึ้นมาให้ตัวเองแห่งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นความจริง”

เมื่อได้เห็นหลินชิงชิง จิตใจของหลี่ฝางก็สงบลงมาได้

“ทำไม คนชั่วร้ายขนาดนั้น ตายไปแล้วยังอยากให้คนมากราบไหว้บูชางั้นหรือ?” หลินชิงชิงหัวเราะเยาะ

“ห้ามดูถูกพ่อฉัน” หลี่หลงกำมีดในมือแน่น นั่นเพราะเขาเห็นว่าจางกงหมิงเองก็นั่งอยู่ในรถเช่นกัน

“เวรเอ้ย จางกงหมิง ไม่คิดว่าแกจะมาด้วย”

เมื่อมองไปที่จางกงหมิง ใบหน้าของหลี่หลงก็เหี้ยมขึ้นมาทันที “แกก็มารนหาที่ตายใช่ไหม?!”

จางกงหมิงไขว้ขาบิดตัว และนั่งอยู่ข้างคนขับ ในปากมีไม้จิ้มฟันแคะอยู่ เขามองไปที่หลี่หลงอย่างเหยียดหยาม

“หาที่ตาย? ฉันคงไม่อายุสั้นเหมือนลูกพี่หลี่ ฉันอายุยืนยาวจะตาย” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลี่หลงหน้าอึมครึมขึ้นมาและหัวไปพูดกับชายหัวสกินเฮด “ขึ้นไป ไปจัดการสับไอ้จางกงหมิงให้ตายซะ! ”

ชายหัวสกินเฮดและคนอื่นๆ รับคำ ก่อนจะกลับเข้าไปในวัดและหยิบมีดพร้าเล่มหนึ่งออกมา

หลี่หลงมองไปที่จางกงหมิงและยิ้มอย่างเย็นชา “จางกงหมิง อีกเดี๋ยวฉันจะสับแกให้เป็นเนื้อบด! ”

เมื่อหลี่หลงพูดจบ เขาก็หยิบมีดพร้ามา ในขณะที่ชายหัวสกินเฮดและพรรคพวกก็ตามเขาไปติดๆ

มีคนจำนวนมากที่อยู่ภายใต้คำสั่งของหลี่หลง จนหลิวเฉียวเฉียวตกใจจนเริ่มวิ่งลงจากภูเขา

เซี่ยลู่นิ่งคิด จากนั้นเองก็เริ่มวิ่งลงจากภูเขาเช่นกัน

หลี่ฝางดึงชายเสื้อของหลินชิงชิงและเอ่ยถาม “พี่ พวกเราทำยังไงดี?”

เจ้าหัวแบนมีสีหน้าสงบ ไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย

“ไม่ต้องกลัว” หลินชิงชิงตบไหล่หลี่ฝาง “ไม่เป็นไร”

หลี่ฝางกลืนน้ำลาย ในใจคิด ถึงแม้ว่าเจ้าหัวแบนจะเก่งกาจ แต่ก็คงสู้คนหมูมากไม่ได้หรอกมั้ง?

ยิ่งไปกว่านั้น คนของหลี่หลงทุกคนมีมีดพร้า

เมื่อหลี่หลงเข้ามาใกล้ จางกงหมิงก็หยิบปืนลูกซองลำกล้องแฝดออกมาและเล็งไปที่หัวของหลี่หลง “ลองเดินเข้ามาอีกสักก้าวดู! ”

หลี่หลงหยุดฝีเท้าลงทันที จากนั้นจึงกลืนน้ำลายด้วยความกลัว

เมื่อชายคนหนึ่งถูกปืนจ่อที่หัว ความรู้สึกนั้นช่างสิ้นหวังอย่างยิ่ง

ราวกับได้ก้าวเท้าเข้าสู่ยมโลกไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“หลี่หลง อาศัยแก คิดจะมาแย่งตำแหน่งพี่ใหญ่ของเมืองตะวันออก แกมีความแข็งแกร่งพอหรือไง?” จางกงหมิงกระโดดลงจากแลนด์โรเวอร์ และเดินเข้าใกล้หลี่หลงอย่างช้าๆ

ลี่หลงหายใจเข้าลึก “จางกงหมิง แกอย่าเข้ามามั่วซั่ว”

จางกงหมิงวางปืนลูกซองสองลำกล้องแฝดลงบนศีรษะของหลี่หลงโดยตรง “มั่วซั่ว? มั่วซั่วตรงไหน?”

“ยิงเข้าใส่นายสักที แบบนี้เรียกมั่วซั่วรึเปล่า?”

“นายลองมองไปรอบๆ ป่าเขาลำเนาไพร ไม่มีใครสักคน ต่อให้ฉันยิงนายไป ก็คงไม่มีใครรู้ใช่ไหม?” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน พวกชิงชิงรู้ แต่พวกเขาไม่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อฟ้องฉันแน่”

“คนของนายเองก็รู้ แต่ถ้าฉันฆ่านายทิ้ง พวกเขาเองก็คงไม่กล้าไปสถานีตำรวจเพื่อฟ้องฉันเหมือนกัน” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชายผมสั้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “จางกงหมิง นายควรคิดให้ดีๆ ก่อนจะยิง ปืนลูกซองลำกล้องแฝดของนายกระบอกนี้ มีกระสุนเพียงหกนัด แต่พวกเรามีมากกว่า 30 คน หากนายกล้าฆ่าลูกพี่ของพวกเรา พวกเราไม่มีทางปล่อยแกไปแน่” ที่นี่

“งั้นหรือ?”

จางกงหมิงยิ้มฮี่ฮี่ จากนั้นจึงขยับปืนและเล็งไปที่ชายผมสั้น “นายจะไม่ปล่อยฉันไป ใช่ไหม? ”

เสียงปืนดังขึ้น จางกงหมิงยิงเข้าใส่ไหล่ของชายผมสั้น อานุภาพของกระสุนนั้นรุนแรงมากและเจาะทะลุเข้าไปในร่างกายของชายหัวสกินเฮดด้วยทันที

เสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้นมาจากปากของชายผมสั้น

“มา ฉันถามนาย หากฉันฆ่าลูกพี่ของพวกนายไปแล้ว พวกนายคนไหนจะล้างแค้นให้เขา ลุกขึ้นมา ให้ฉันดูสักหน่อย” จางกงหมิงกวาดปืนใส่ทุกคนรอบหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยหยุดลงที่หัวของหลี่หลง

“ฉันมีกระสุนแค่หกนัดก็จริง แต่พวกนายสามสิบกว่าคนในที่นี่ มีใครหกคนกล้าออกมาตายหรือเปล่า?” จางกงหมิงถามด้วยรอยยิ้ม

“ขออภัย กล่าวให้ถูกคือ ยังมีอีกห้านัด” หลังจากหยุดไปชั่วครู่ จางกงหมิงก็เสริมด้วยรอยยิ้ม

“ห้าคนที่ไม่กลัวความตายมีไหม?”

ปืนนัดเมื่อครู่นั้น ทำให้ขวัญของทุกคนถึงกับผวา ในเวลานี้ ใครกันที่ยังกล้ายืนขึ้น?

เห็นได้ชัดว่า ใครยืนขึ้น จางกงหมิงก็ยิงคนนั้น

เมื่อเห็นว่าทุกคนนิ่งเงียบ จางกงหมิงก็ขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงประกายสังหารออกมา “หลี่หลง ฉันนับถึงสาม แกจงคุกเข่าโขกหัวให้ฉันสามที แล้วฉันจะปล่อยแกไป”

“ไม่อย่างนั้น ฉันจะยิงแกซะ!”

จางกงหมิงเอ่ยอย่างเหี้ยมเกรียม “ในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ อีกเดี๋ยวพอฉันฆ่านายเสร็จ ก็หาสักที่ฝังเอาไว้ แม้กระทั่งตำรวจก็หาศพนายไม่เจอ”

“สาม!” จางกงหมิงพูดจบก็เริ่มนับทันที

“พี่หมิง ผมผิดไปแล้ว” ใบหน้าของหลี่หลงมีเหงื่อไหลลงมา ถูกปืนจ่อไปที่ศีรษะแบบนี้ เขายอมแล้ว

“สอง! ” จางกงหมิงยังคงนับต่อไป

“พี่หมิง อาณาเขตทั้งหมดในเมืองตะวันออกผมให้พี่ ผมไม่เอาอะไรแล้ว” หลี่หลงตกใจจนตัวสั่น เขารู้ดีว่าจางกงหมิงไม่ได้กำลังล้อเล่น คนคนนี้สามารถยิงออกมาได้จริงๆ

อีกทั้งยังยิงเข้าที่หัวเขาด้วย หลี่หลงยังไม่อยากตาย!

“หนึ่ง! ” จางกงหมิงขยับมือและเริ่มเหนี่ยวไก

สุดเสียง หลี่หลงก็คุกเข่าลงทันที!

ปึงปึงปึง!

โดยไม่มีความลังเลใดๆ หลี่หลงคำนับจางกงหมิงสามครั้ง

“ให้เวลานายหนึ่งวัน ออกไปจากเมืองตงไห่ซะ” จางกงหมิงกล่าวอย่างเย็นชา

จางกงหมิงเก็บปืน ท่าทางเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามของพี่ใหญ่แห่งยุทธภพ

หลังจากที่จางกงหมิงกลับไปที่รถ หลี่หลงก็รู้สึกว่าพลังทั้งหมดของตัวเองหมดลงแล้ว เขานอนอยู่บนพื้นอย่างทุรนทุราย ตกใจจนขวัญกระเจิง

“เด็กน้อย ฉันช่วยชีวิตนายไว้ เงินหนึ่งแสนนั่น ฉันไม่คืนนายแล้วนะ” จางกงหมิงหรี่ตามองหลี่ฝาง

“ไม่คืนก็ไม่คืน ไม่เป็นไรแล้ว”

หลี่ฝางพูดอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นจึงเดินเข้าไปที่ชายหัวสกินเฮด และพูดว่า “คืนโทรศัพท์มือถือให้ฉัน! ”

สายตาของชายหัวสกินเฮดแฝงแววซับซ้อนเล็กน้อย เมื่อกี้เขาเห็นแล้ว ว่าในบัตรของหลี่ฝางยังมีอีกมากกว่า 7 ล้าน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน