NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 66

ตอนที่ 66

บทที่ 66 ด้านที่น่าสงสารของเซี่ยลู่

เซี่ยลู่เพิ่งมาถึง ยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์เธอจึงถามขึ้น “หลี่ฝาง นี่มันคืออะไรกัน?”

“เธอมองไม่ออกหรือไง? ตอนนี้ตู้เฟยตกอยู่ในมือของพวกเราแล้ว ตอนนี้เธออยากตีเขาก็ตี” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยลู่มองไปที่ตู้เฟย ดวงตาแฝงไว้ด้วยความเกลียดชัง

“ไม่ต้องห่วง เธอตีไปเขาก็ไม่กล้าสู้กลับ”

“ถ้าเขากล้าสู้กลับ ฉันจะปล่อยให้พี่หมิงหักขาเขาซะ” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จางกงหมิงจุ๊ปาก ท่าทางไม่สบอารมณ์ “เสี่ยวฝาง นายนี่ช่างขี้โกงไปหน่อยนา!” จางกงหมิงส่ายหัวและเอ่ย

“พี่หมิง พี่ยังกลัวตู้ต้าไห่เลยหรอ ตอนนี้ยังไงเสียพี่ก็เป็นถึงพี่ใหญ่ของเขตตะวันออกของเรานี่” หลี่ฝางเอ่ยประจบอย่างรวดเร็ว

“เรื่องยิ่งน้อยยิ่งดีนี่ ฉันไม่กลัวเขา แต่ก็ไม่ได้อยากไปหาเรื่องเขา” จางกงหมิงกล่าว

หลี่ฝางยื่นบุหรี่ให้ “ทำไมล่ะ? เพราะตู้ต้าไห่มีเงิน? ”

“ใช่ เพราะเขามีเงิน สังคมปัจจุบันนี้ เงินสามารถทำได้ทุกอย่าง ขอแค่นายมีเงิน อยากทำอะไรก็ทำ อย่าเห็นว่าฉันเป็นลูกพี่ใหญ่ของเขตตะวันออก นี่ไม่ได้มีอะไรสักนิด ในสมองของทุกคนล้วนมีราคา”

“ตู้ต้าไห่คนนี้เป็นมหาเศรษฐี ถ้าเขาให้รางวัลสัก 10 ล้านหยวนเป็นค่าแรงฉัน นายว่าคนพวกนี้ ใครจะไม่ใจสั่น?” จางกงหมิงชี้ไปที่กลุ่มพี่น้องของเขา และพูดขึ้น “คนแรกที่จะลงมีดกับฉัน ย่อมเป็นพวกเขา”

“แต่พวกเขาเป็นพี่น้องของคุณ พวกเขาจะลงมือกับคุณได้ยังไง” หลี่ฝางไม่เชื่อ

“พี่น้องอะไรกัน นั่นคือเงินสิบล้าน อย่าว่าแต่พี่น้องร่วมสาบานเลย แม้กระทั่งพี่น้องที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพื่อเงินสิบล้าน พวกเขาก็พร้อมที่จะฟันใส่อีกฝ่ายด้วยมีดนั่น นายเชื่อไหม?” จางกงหมิงพ่นควันออกมา และพูดอย่างมีความหมาย

หลี่ฝางได้ยิน เขาก็ได้รับแรงบันดาลใจครั้งใหญ่ขึ้นมา

ตนมีเงินมากขนาดนั้น จากนี้ไปหากใครมาหาเรื่องตนอีก เขาก็ให้เงินจัดการซะให้หมด!

เซี่ยลู่หยุดอยู่นานไม่ลงมือ หลี่ฝางทนไม่ไหวจึงเดินเข้าไปถาม “ทำไม ลงมือไม่ลงหรือ”

“ไม่ใช่” เซี่ยลู่ส่ายหัว

“แล้วทำไมเธอไม่ตีเขาล่ะ เมื่อครู่เขายังตบตีเธอต่อหน้าคนตั้งมากมาย” หลี่ฝางถาม

เซี่ยลู่ขมวดคิ้วและมองไปที่ตู้เฟย “นายปล่อยฉันไปได้ไหม? ”

“ฉันขอร้องนายล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ? ฉันยอมรับ ว่าที่ฉันตกลงว่าจะคบกับนายในตอนแรกก็เพราะเงินของนาย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายเองก็ไม่ได้ซื้ออะไรหรูหราให้ฉัน นายแค่รับปากกับฉันก็เท่านั้น”

“ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่กับนายมาตั้งนาน พอเลิกกันฉันก็ไม่ได้อะไรสักนิด แต่นายกลับมาตามตอแยฉัน มาขัดขวางฉันจากการตามหาความสุขของตัวเอง ตู้เฟย ที่แท้แล้วนายหมายความว่ายังไงกันแน่?”

ในที่สุดเซี่ยลู่ก็ยิ่งรู้สึกเต็มตื้น จนเกือบจะร้องไห้ออกมา

“หรือว่านายอยากให้ฉันเอาเงินที่นายให้คืนกลับไป ฉันคืนเงินให้นายก็ได้แล้วนี่” เซี่ยลู่กล่าวอย่างหมดหนทาง

ตู้เฟยเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยลู่ “เซี่ยลู่ ให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันในเมื่อก่อนมันไม่ใช่คน เป็นตัวบัดซบ…”

“ให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉันจะปฏิบัติกับเธออย่างดี”

เซี่ยลู่ส่ายหัว “ไม่มีโอกาสแล้ว”

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกเราจะมาถึงขั้นนี้ได้ จากกันด้วยดีไม่ได้หรือ? ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปสักที? ตอนที่ฉันอยู่กับนายมีผู้ชายมากมายมาตามจีบฉัน ฉันก็ปฏิเสธไปหมด เพื่อนาย ฉันไม่ติดต่อเข้าใกล้ผู้ชายอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่ฝาง เพื่อเอาใจนาย ฉันทำร้ายเขาไปไม่ใช่แค่หนึ่งครั้ง”

“ตู้เฟย นายชอบบอกว่าฉันรักเงิน บอกว่าฉันเป็นแค่วัตถุ ช่างน่าหัวเราะ สองปีที่ผ่านมา ฉันขอให้นายซื้อมือถือให้ฉันมาตลอด นายก็ไม่ได้ซื้อให้ไม่ใช่หรือไง? แล้วฉันไปจากนายรึเปล่า? ตู้เฟย ฉันรักเงิน แต่ฉันก็รักนาย”

“กระเป๋าที่นายซื้อให้ นายบอกว่าเพื่อนของนายซื้อมันมาจากยุโรป แต่พอฉันไปถามที่เคาน์เตอร์ พวกเขากลับบอกฉันว่าเป็นของปลอม เป็นแค่ของบนแผงขายของธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่แม้แต่ของเลียนแบบเกรดสูงด้วยซ้ำ”

สีหน้าของตู้เฟยเริ่มสับสนขึ้นมา เขากำลังลนลาน

“เซี่ยลู่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา จากนั้นจึงโอนเงินหนึ่งหมื่นหยวนไปยัง Alipay ของตู้เฟย” ตู้เฟย ฉันโอนเงินหนึ่งหมื่นหยวนไปที่ Alipay ของนาย นายลองดู ถ้ามันไม่เพียงพอ นายก็บอกตัวเลขมา ฉันจะค่อยๆ ทยอยคืนให้”

“เซี่ยลู่ ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันต้องการเธอ” ตู้เฟยจับมือของเซี่ยลู่ด้วยความสับสนไว้แน่น “เซี่ยลู่ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”

“ก่อนหน้านี้ฉันไม่เข้าใจ ฉันคิดว่าเธออยู่กับฉันเพียงเพราะฐานะลูกเศรษฐีของฉัน แต่ตอนนี้ฉันถึงรู้แล้ว ว่าฉันรักเธอ”

“ในเมื่อเธอรักฉัน แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะ เป็นเพราะจางเชี่ยนงั้นหรือ?” ตู้เฟยกล่าวอย่างเศร้าๆ

“จางเชี่ยนก็มีส่วนครึ่งหนึ่ง ฉันรู้ว่านายเจ้าชู้ อีกทั้งยังรู้ด้วยว่านายนอกใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว นายกับผู้ประกาศหญิงในบริษัทของโจวเจ๋หลายคนมีความสัมพันธ์คลุมเครือกัน นายแอบให้รางวัลพวกเธอไปไม่น้อยกว่า 100000 เรื่องพวกนี้ฉันรู้ทั้งหมด ก็แค่ฉันไม่ได้พูดมันเท่านั้น”

เซี่ยลู่เผยรอยยิ้มขมขื่น “ที่ฉันจากมา ก็เพราะฉันเหนื่อยแล้ว นายไม่ได้รักฉันสักนิด ตู้เฟย ปล่อยฉันไปเถอะ”

“ที่แท้เธอรู้ทุกอย่าง เธอรู้ว่ากระเป๋าเป็นของปลอม เธอรู้ว่าฉันแอบคบกับพวกผู้ประกาศหญิง แล้วทำไมเธอถึงไม่พูดล่ะ” ตู้เฟยขมวดคิ้วและมองไปที่เซี่ยลู่อย่างไม่เข้าใจ

“ฉันไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้ นอกจากนี้ ต่อให้ฉันจะพูดออกไป แล้วมันจะมีความหมายอะไรกัน ฉีกหน้านาย? เปิดเผยความเจ้าเล่ห์ของนาย? ” เซี่ยลู่หัวเราะ

“พอเถอะ ตู้เฟย นายไปคบกับพวกผู้ประกาศหญิงต่อเถอะ” เซี่ยลู่กล่าว

เซี่ยลู่หันหน้าไปมองที่หลี่ฝางและพูดว่า “หลี่ฝาง ฉันไม่อยากตีเขา”

“พวกเราไปกันเถอะ” เซี่ยลู่กล่าว

หลี่ฝางพยักหน้าและเดินตามเซี่ยลู่ออกจากตรอกไป หลังจากที่เธอเดินออกมาจากตรอกได้ไม่ทันสิบก้าว เธอก็นั่งลงยองๆ และเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

เซี่ยลู่เพียงรู้สึกเพียงแค่หัวใจของเธอจุกเสียดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอพยายามอย่างหนักเพื่อบ่มเพาะความสัมพันธ์ แต่มันกลับไม่ได้สุกงอมหรือมีอิทธิพลต่อตู้เฟย ในทางกลับกัน มันกลับกลายเป็นจุดจบที่เต็มไปด้วยบาดแผล

หลี่ฝางยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยลู่ ไม่รบกวนเธอ ก่อนหน้านี้ หลี่ฝางเคยคิดมีแผนการแก้แค้นที่ชั่วร้าย ซึ่งก็คือการนอนกับเซี่ยลู่แล้วทิ้งเธอไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยลู่จะทำผิดกับตน แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด หลี่ฝางก็รู้สึกว่าเธอน่าสงสารอยู่ไม่น้อย

แม้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยลู่จะทำผิดกับตน แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด หลี่ฝางก็รู้สึกว่าเธอน่าสงสารอยู่ไม่น้อย

หลี่ฝางไม่รบกวนเซี่ยลู่ เขาปล่อยให้เธอร้องไห้ไปจนลืมไปแล้วว่าเธอร้องไห้มานานแค่ไหน อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยลู่ยืนขึ้น ในที่สุดเธอก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก

หลี่ฝางไม่รบกวนเซี่ยลู่ เขาปล่อยให้เธอร้องไห้ไปจนลืมไปแล้วว่าเธอร้องไห้มานานแค่ไหน อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยลู่ยืนขึ้น ในที่สุดเธอก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก

“ขอโทษด้วย ทำให้นายต้องเห็นเรื่องน่าตลกแล้ว” เซี่ยลู่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ปล่อยวางแล้ว?” หลี่ฝางถามอย่างไม่แน่ใจ

เซี่ยลู่กล่าวด้วยรอยยิ้มแห้ง “ฉันไม่รู้ แต่ในใจของฉันยังรู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง ฉันคิดมาตลอดว่าตนเองจะได้เป็นคุณนายเศรษฐีที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียง แต่กลับไม่คิดเลยว่าที่แท้ทุกอย่างในนั้นมันว่างเปล่า แถมยังเอาตัวเองจมลงไปด้วย”

“ว่ากันว่าแม้ไก่ป่าจะบินขึ้นกิ่งไม้ แต่มันก็ไม่สามารถกลายเป็นนกฟีนิกซ์ได้ ฉันไม่เคยเชื่อมาก่อน แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว” เซี่ยลู่พูดกับตัวเอง

“หลี่ฝาง ตอนนี้นายกำลังดูถูกฉันอยู่หรือเปล่า กำลังคิดอยากจะหัวเราะเยาะฉันไหม? ” เซี่ยลู่ถามหลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหัวและเอ่ย “ไม่ เธอคิดมากเกินไป”

“ไม่เป็นไร ฉันทำตัวให้คนดูถูกฉันจริงๆ ฉันทำแท้งให้ตู้เฟยถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้อะไรมาสักนิด หากต่อไปแต่งงานแล้วถูกสามีรู้เข้า เขาจะต้องดูถูกให้ ตู้เฟยสองยางและไม่มีอะไรเลยถ้าฉันแต่งงานในภายหลังและสามีในอนาคตรู้เรื่องนี้เขาจะดูถูกเหยียดหยามฉันแน่”

“ก่อนหน้านี้ฉันอ่านหนังสือพิมพ์ ดูเหล่านางงามฮ่องกง ดาราหญิงพวกนั้น พวกเธอตั้งท้องให้กับคุณชายเศรษฐี ล้วนได้รับเงินปลอบขวัญ แต่ฉันกลับไม่ได้อะไรสักนิด”

เซี่ยลู่พูดไป น้ำตาก็ร่วงหล่นจากดวงตาของเธอ

หลี่ฝางได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในใจก็รู้สึกทนไม่ได้อยู่บ้าง เซี่ยลู่เป็นแค่เด็กมัธยมปลายเท่านั้น แต่กลับแท้งลูกสองครั้งให้ตู้เฟย คิดแล้วนี่มันย่ำแย่จริงๆ

ตู้เฟยไอ้คนสารเลว ไม่สมควรปล่อยเขาไปเลยจริงๆ

หลี่ฝางชี้ไปที่ร้านตัดผมและเอ่ย “ไปเถอะ เธอไปสระผมสักหน่อย”

ในระหว่างการทะเลาะกันเมื่อครู่ทำให้ตอนนี้ผมของเซี่ยลู่ยุ่งเหยิง

เมื่อออกจากร้านตัดผม หลี่ฝางก็พาเซี่ยลู่ไปซื้อชุดใหม่

เมื่อดูราคาบนป้าย เซี่ยลู่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ซับซ้อน “ฉันช่างโง่จริงๆ นายว่าคนที่ดีขนาดนี้อย่างนาย ฉันมองข้ามไปได้ยังไงกัน”

หลี่ฝางไม่ได้เอ่ยอะไร ทำเพียงแต่ส่ายหัวและหัวเราะ

“ตอนนี้ฉันยังมีโอกาสไหม?” เซี่ยลู่มองไปที่หลี่ฝางและถาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท