NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 68

ตอนที่ 68

บทที่ 68 หนึ่งหมัดหนึ่งหมื่น

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของหลี่ฝางก็ดังขึ้น

เซี่ยลู่โทรเข้ามาถามเขา “หลี่ฝาง ทำไมนายไม่อยู่ในโรงเรียน ไปไหนแล้ว?”

“ตอนนี้ฉันมีเรื่องด่วน เกรงว่าอีกครึ่งชั่วโมงกลับไปไม่ได้แล้ว” หลี่ฝางนั่งอยู่ในรถและเอ่ยอย่างอ่อนใจ

“หา มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” เซี่ยลู่ถามอย่างเป็นห่วง

“ฉันสบายดี แต่เพื่อนฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย” มี หลี่ฝางครุ่นคิดและเอ่ย “เธอส่งที่ตั้งโรงแรมมาให้ฉัน จบเรื่องแล้วฉันจะไปที่นั่น”

หลังจากวางสาย หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็เอ่ยถาม “หลี่ฝาง นายจะให้ลู่หลุ่ยยืม 300000 จริงหรือ? ”

หลี่ฝางพยักหน้า

พูดตามตรง หลี่เสี่ยวเสี่ยวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง นั่นเพราะมิตรภาพของลู่หลุ่ยและหลี่ฝางก็แค่คนที่รู้จักผ่านๆ เท่านั้น

แค่คนรู้จักแบบผ่านๆ ใครจะกล้าให้ยืมเงิน 300000?

“หลี่ฝาง นายสนใจลู่หลุ่ยขึ้นมาแล้วหรือ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามอีกครั้ง

หลี่ฝางกลอกตา “นี่ในเวลาไหนแล้ว เธอยังมีใจมาถามถึงเรื่องนี้อีก”

“ฝ่าไปเลย”

ในเวลานั้นเอง เมื่อถึงไฟแดง ถังหยู่ซวนก็ไม่ลังเลที่จะฝ่ามันไป

“ไม่มีลูกตาหรือไงวะ นี่มันไฟแดง! ” ชายหนุ่มที่ขี่รถยนต์ไฟฟ้าเกือบจะถูกชน และยื่นนิ้วกลางให้รถฟอร์ดสีแดงของถังหยู่ซวน

แม้ว่าหลี่ฝางและลู่หลุ่ยจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ความประทับใจที่หลี่ฝางมีต่อเธอนั้นดีอย่างยิ่ง

เรียบร้อย เรียบง่าย และใจดี หลี่ฝางไม่มีทางปล่อยให้เด็กสาวดีๆ คนนี้ถูกชายชรานั่นข่มเหงแน่

เมื่อเห็นว่าถังหยู่ซวนกำลังไล่ตามชายชราได้แล้ว กลับมีรถ BMWคันหนึ่งแซงขึ้นมาและขับขวางรถของถังหยู่ซวนเอาไว้

บีเอ็มดับเบิลยูคันนี้ขับอย่างเอื่อยเฉื่อยและช้าอย่างยิ่ง

“ไอ้เวรเอ้ย มันจงใจไม่ให้เราแซง พวกเราไปทางไหน มันก็มาขวางเอาไว้! ” ถังหยู่ซวนด่าด้วยความโกรธ

“ชนมัน! ” หลี่ฝางเอ่ยทันที

“แต่ว่านั่นคือ BMW! ” ถังหยู่ซวนกลัวเล็กน้อย

“ชน ฉันจ่าย!” หลี่ฝางพูด

“นายพูดแล้วนะ” ถังหยู่ซวนกลืนน้ำลายและเอ่ย “งั้นฉันชนแล้วนะ!”

“เวรเอ้ย จุกจิกจริงโว้ย!” หลี่ฝางเหยียบคันเร่งแทนถังหยู่ซวนทันที!

เสียงโครมดังขึ้น รถ BMW ถูกชนไปด้านหนึ่ง ท้ายรถพังบุบเข้าไปเป็นแอ่งใหญ่

“เวรเอ้ย ไม่เห็น Mercedes Benz

ไอ้แก่นั่นแล้ว!” ถังหยู่ซวนด่า

“ชายชรานั่นมีวิลล่าในลู่เฉิง ลู่หลุ่ยคงจะถูกพาไปที่นั่น” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเล่า

หลังจากถังหยู่ซวนได้ฟังคำพูดของหลี่เสี่ยวเสี่ยว เขาก็ขับรถไปที่ลู่เฉิง และพบกับเมืองสีเขียวและพบ Mercedes Benzคันนั้น

“ตาแก่นี่ช่างรวยจริงๆ ว่ากันว่าราคาห้องในลู่เฉิงต่ำสุดก็ 20000ขึ้นไป ส่วนวิลล่าน่าจะมากกว่า 10 ล้าน! ” ถังหยู่ซวนถอนหายใจ

ตามที่หลี่เสี่ยวเสี่ยวบอก ในที่สุดพวกเขาก็พบวิลล่าของชายชรา

“ตรงนี้แหละ แต่ว่าชายชราคนนั้นไม่ใช่คนที่จะตอแยได้ง่ายๆ เบื้องหลังของเขาน่ากลัวไม่น้อย” หลี่เสี่ยวเสี่ยวกล่าว

“ไร้สาระ คนโง่ยังมองออกด้วยซ้ำไป ชายชราคนนี้สามารถซื้อวิลล่าหลายสิบล้านได้ จะเป็นคนธรรมดาได้หรือไง? ” ถังหยู่ซวนแค่นเสียง

หลี่ฝางหัวเราะและเตะประตูวิลล่าให้เปิดออก

ก็แค่วิลล่าราคา 10 ล้าน บาร์ของตัวเองมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเสียด้วยซ้ำ

ในแง่ของทรัพย์สิน ตนเองจะเปรียบเทียบกับชายชราคนนี้ไม่ได้หรือไง?

ในแง่ของภูมิหลัง ใครจะเทียบได้กับสวีจื่อโห้?

ดังนั้น หลี่ฝางจึงไม่กลัวที่จะไปยั่วยุชายชราลามกนั่น

ทันทีที่เข้าไปในห้อง ก็เห็นลู่หลุ่ยและชายชราทันที

“พวกแก พวกแกตามฉันมาทำไม! ” ชายชรามองไปที่หลี่ฝางและคนอื่นๆ ด้วยความกลัว

ส่วนลู่หลุ่ย เธอสวมเพียงชุดชั้นในและกำลังยืนตัวสั่น

ถังหยู่ซวนกำหมัดแน่น และชกเข้าที่ใบหน้าของชายชราทันที

ชายชราล้มกระแทกกับพื้น เขาชี้ไปที่ถังหยู่ซวน “แก แกกล้าต่อยฉัน?”

“ต่อยแล้วยังไง?” ถังหยู่ซวนดูถูก “คนที่น่าขยะแขยงอย่างแก สมควรถูกฆ่าตาย! ”

ถังหยู่ซวนพูดจบก็ถ่มน้ำลายใส่ชายชรา

“หลุ่ยหลุ่ย ใส่เสื้อผ้าของเธอซะ เรื่องเงินสำหรับผ่าตัดพ่อของเธอ พวกเราช่วยเธอแก้ปัญหาได้แล้ว” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหยิบเสื้อผ้าของลู่หลุ่ยและส่งให้เธอ

“จริงหรือ?” ลู่หลุ่ยถามอย่างตื่นเต้น

“จริง”

“พวกเธอไปเอาเงินมากมายทั้งหมดนั้นมาจากไหน” ลู่หลุ่ยแทบไม่อยากจะเชื่อ

“หลี่ฝางบอกว่าเขาจะให้เธอยืม” หลี่เสี่ยวเสี่ยวยิ้มและมองไปที่หลี่ฝาง “ใช่ไหม หลี่ฝาง”

“ใช่” หลี่ฝางพยักหน้า

“เสี่ยวเสี่ยว เธอหมายความว่ายังไง กำลังล้อเล่นกับฉันหรือไง!” ชายชราค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ

ท่าทางของเขาดูโกรธอย่างยิ่ง “ฉันให้เงินมัดจำกับเธอไปแล้ว ดังนั้นลูกเจี๊ยบตัวนี้ก็เป็นของฉัน”

“นี่คือค่ามัดจำ 30000 หยวน ฉันคืนให้คุณ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหยิบเงินสด 30000 หยวนออกมาจากกระเป๋า จากนั้นจึงโยนมันลงต่อหน้าชายชรา

ใครจะรู้ว่าชายชราไม่ได้มองเงินนั่นเลยสักนิด เขาหัวเราะ “เสี่ยวเสี่ยว พวกเราเซ็นสัญญาแล้ว”

“สัญญาบอกชัดเจน ว่าถ้าหากลูกเจี๊ยบตัวน้อยนี่ผิดสัญญา ฉันไม่เพียงแค่ไม่ต้องจ่ายเงินให้เธอ แต่เธอจะต้องชดใช้โดยการจ่ายเงินให้ฉันสิบเท่าของค่ามัดจำ”

“นอกจากนี้ ชายชราอย่างฉันร่างกายบอบบางอย่างยิ่ง กำปั้นเมื่อกี้ของพ่อหนุ่มนั่น อย่างน้อยๆ เขาก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ฉัน 10,000 หยวน”

“บ้านมึงสิ ต่อยแกหนึ่งหมัดจ่ายแกหนึ่งหมื่น ทำไมแกไม่มาปล้นเอาซะเลยล่ะ!” ถังหยู่ซวนมองไปที่ชายชราอย่างเย็นชา

“ฉันบอกแล้ว ชายชราอย่างฉันร่างกายบอบบางมาก” ชายชรายิ้มร้ายกาจ “ฉันรู้ว่านายทำอะไร ก็แค่คนล้างรถเท่านั้น เงินเดือนเดือนหนึ่งก็แค่พันกว่าหยวน”

“เงินหมื่นหยวนนายไม่มีทางมีแน่ แบบนี้ นายจงยืนนิ่งๆ ว่าง่าย ให้ฉันได้ต่อยนายสักยก แบบนั้นหนึ่งหมื่นหยวนนั่นฉันไม่เอาแล้ว”

“สำหรับลูกเจี๊ยบตัวนี้ พวกนายสามารถเอากลับไปได้ แต่จะต้องหลังจากที่พวกนายมาเอาเงินมา 300000 เท่านั้น! ” ชายชราคิดว่าหลี่ฝางคงไม่มีเงิน 300000แน่

“หมายเลขบัตร! ” หลี่ฝางถามอย่างเรียบๆ

“ชายหนุ่ม นายถามหมายเลขบัตรฉันทำไม หรือว่านายมีเงินชดเชยฉัน?” ชายชรามองไปที่หลี่ฝางอย่างติดตลกและพูดหมายเลขบัตรของตนออกมา

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา กดมันสองสามครั้งและพูดขึ้น “เงินโอนไปแล้ว คุณตรวจสอบดู”

“พ่อหนุ่ม อย่ามาพูดจาล้อเล่นตรงนี้” ทันทีที่ชายชราพูดจบ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “1 ล้าน?”

“ฉันโอนไปให้นายไปหนึ่งล้าน หักเงินสามแสนนั่นไป ที่เหลืออีกเจ็ดแสนสำหรับต่อยนาย” หลี่ฝางมองไปที่ชายชราอย่างเย็นชา “เรายังมีเหลืออีก 69หมัด นายจะต้องอดทนหน่อย อย่าให้พวกเราต่อยนายจนตายล่ะ! ”

“ถังหยู่ซวน ครั้งนี้นายสามารถต่อยได้เท่าที่ต้องการแล้ว” หลี่ฝางขยิบตาให้ถังหยู่ซวน

ชายชราอึ้งไป จากนั้นจึงรีบวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนก

หลี่ฝางเข้าไปขวางทางชายชราเอาไว้ “ตาแก่ คุณจะไปไหน คุณบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าต่อยนายหนึ่งหมัดพวกเราต้องจ่ายหนึ่งหมื่นเป็นค่ารักษาพยาบาล?”

“เมื่อกี้คุณคิดว่าพวกเราไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ใช่ไหม?” หลี่ฝางหัวเราะ

“แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดว่าคุณไม่น่าจะรับมือกับหมัดทั้งหกสิบนี้ไหวนะ” หลี่ฝางจุ๊ปาก จากนั้นจึงดึงคอเสื้อของชายชราขึ้นมาและผลักไปให้กับถังหยู่ซวน

ถังหยู่ซวนต่อยชายชราเข้าที่ใบหน้าและทำให้เขาล้มลง

“เบาหน่อย อย่าให้ถึงตาย กระดูกเก่าๆ แบบนี้ ไม่คุ้มค่าที่จะลำบากไปด้วย!” หลี่ฝางเตือนถังหยู่ซวน

“ไม่ต้องห่วง เจ้าเฒ่านี้ทนจะตายไป! ”

ถังหยู่ซวนชกชายชราที่ใบหน้าหมัดต่อหมัด ปากก็พร่ำด่าอย่างไม่หยุด

ในที่สุดใบหน้าของชายชราก็ถูกต่อยจนบวมเป็นหัวหมู ระหว่างทางถังหยู่ซวนรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาแล้ว หลี่เสี่ยวเสี่ยวจึงช่วยต่อยแทนเขาไปมากกว่าสิบหมัด

เมื่อหลี่ฝางและคนอื่นๆ เข้ามา ลู่หลุ่ยก็แทบจะร้องไห้ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าชายชราถูกตีจนเป็นหัวหมู เธอถึงค่อยเปลี่ยนจากน้ำตาเป็นรอยยิ้ม

ชายชราถูกทุบตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนร้องขอความเมตตาจากถังหยู่ซวน แต่ไหนเลยที่ถังหยู่ซวนจะเต็มใจปล่อยเขาไป

“เวรเอ้ย หนึ่งหมัดหนึ่งหมื่นนี่ หากน้อยไปสักหมัด ก็คือเงินเดือนครึ่งปีของฉันเชียวนะ!” ถังหยู่ซวนเอ่ยอย่างปวดใจอยู่บ้าง

พอคิดเช่นนี้ ถังหยู่ซวนก็ต่อยหนักขึ้น

หลังจากต่อยเสร็จ ชายชราก็พยุงตัวขึ้นมา และใช้เวลาอยู่นานถึงทรงตัวได้ “พวกแก พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

“ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร?” หลี่ฝางกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“ฉันบอกนายให้ ตาเฒ่า อย่าคิดว่ามีเงินสักหน่อยแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจ ฉันบอกนาย บนโลกนี้ยังมีคนที่มีเงินมากกว่านายอยู่” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เด็กน้อย ฉันรู้ว่านายมีเงิน แต่ต่อให้นายมีเงินมากกว่านี้ นายก็ตอแยฉันไม่ได้” แววตาของชายชรามีประกายสังหารออกมา

หลี่ฝางยิ้ม “งั้นหรือ?”

“เด็กน้อย นายรู้รึเปล่าว่าในตงไห่ใครเป็นลูกพี่ใหญ่?” ชายชรามองไปที่ หลี่ฝางและถาม

“คุณรู้จักสวีจื่อโห้เสียด้วย?” หลี่ฝางยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฮึ่ม เด็กน้อย เลขาของสวีจื่อโห้ ก็คือลูกเขยของฉัน! ” ชายชราเอ่ยดังลั่น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน