NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 87

ตอนที่ 87

บทที่87 การแก้แค้นของหลี่ต๋าคาง

“ใช่ชื่อหลี่เหลียนเจ๋หรือเปล่า?” หลี่ฝางพูดเตือน

“ใช่ใช่ใช่ เขานั่นแหละ พ่อจำได้ว่าเขาเคยแสดงเป็นหวงเฟยหง” หลี่ต๋าคางพูดอย่างคิดขึ้นได้: “ครั้งที่แล้วก่อนไป เขาจะเอาหินทิเบต (gZi Beads) ให้พ่อให้ได้ พ่อหยิบมาดู มันก็แค่ไม้พังๆ ใช่ไหมล่ะ ก็เลยคืนเขาไป”

“สุดท้ายพ่อเห็นว่าจี้นี่ไม่เลว ก็เลยเอามา แต่เขาบอกว่า จี้นี้เทียบกับหินทิเบต (gZi Beads) แล้ว ถูกกว่าเยอะเลย” หลี่ต๋าคางพูดเสียงทุ้มเบา: “แค่สามสิบกว่าล้านเท่านั้น”

“สามสิบกว่าล้านนี่ยังเรียกว่าถูกแล้ว?” หลี่ฝางกลืนน้ำลาย รู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองพังทลายลง

ไม่น่าล่ะพ่อของตัวเองถึงได้กล้าจ่ายไปมากกว่าสองพันล้านเพื่อเปิดโรงแรมห้องหนึ่ง ที่แท้ในสายตาของเขา จี้สามสิบล้านก็แค่ของขายแผงลอย บอกว่าให้ก็ให้จริง

หลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่ช่วยชีวิตตัวเอง ตัวเองก็เอาสร้อยราคาสามหมื่นให้พวก

เทียบกับพ่อตัวเองแล้ว ตัวเองนี่ขี้งกเสียจริง

“เห็นลูกตาโตตกตะลึงขนาดนี้ เสียใจเหรอ?เสียใจก็จีบสาวน้อยคนนี้มาอยู่ในมือให้ได้สิ ไม่งั้นจี้ราคาสามสิบล้านก็ถือว่าเสียไปฟรี” หลี่ต๋าคางพูดเบาๆ

หลี่ฝางพูด: “ผมกับลู่หลุ่ยยังไม่มีอะไรคืบหน้ากันเลยครับ”

“พ่อไม่ได้เปิดโอกาสให้ลูกแล้วเหรอไง?หลายวันนี้พ่อกับแม่ของลูกจะไม่มา ให้ลู่หลุ่ยดูแลลูกดีๆ” หลี่ต๋าคางส่งสายตาให้หลี่ฝาง

“ลุงคะ ลุงกับหลี่ฝางพึมพำอะไรกันคะ” ลู่หลุ่ยถาม

“ไม่งั้นฉันกลับไปก่อนดีไหมคะ” ลู่หลุ่ยคิดในใจว่าสองพ่อลูกนี้มีอะไรอยากพูดส่วนตัวหรือเปล่า ตัวเองเป็นคนนอกอยู่ตรงนี้ จะส่งผลต่อพวกเขาหรือไม่

ดังนั้นลู่หลุ่ยคิดว่าจะออกไปยืนสักพัก รอหลี่ต๋าคางไปแล้วค่อยเข้ามา

เวลานี้หลี่ต๋าคางยืนขึ้นมาจากข้างเตียง เดินไปหน้าประตูแล้วพูดกับลู่หลุ่ย: “หลุ่ยหลุ่ยจ๊ะ เสี่ยวฝางของเราต้องยกให้คุณแล้วนะ”

“บัตรนี้คุณเอาไว้ก่อนนะ หลายวันนี้เสี่ยวฝางลงจากเตียงไปมาไม่สะดวกนัก ถ้าเขาอยากซื้ออะไร ก็ช่วยช่วยวิ่งไปซื้อให้เขาหน่อยนะ ลุงเป็นหนี้น้ำใจหนูแล้ว” หลี่ต๋าคางให้บัตรเอทีเอ็มลู่หลุ่ย

ถือบัตรเอทีเอ็มนี้ไว้ ลู่หลุ่ยขมวดคิ้ว บัตรเอทีเอ็มนี้ทำไมเป็นสีดำนะ?

เธอเอาใส่กระเป๋าอย่างระวัง มาตรงหน้าหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง ฉันว่าซุปไก่น่าจะอุ่นอยู่ เดี๋ยวฉันตักให้คุณอีกถ้วยเอาไหม”

“เมื่อกี๊พี่พยาบาลบอกว่า ระหว่างทางคุณเสียเลือดไปตั้งมาก ร่างกายอ่อนแอ ต้องบำรุงเยอะๆ ……” ลู่หลุ่ยไม่ทันรอหลี่ฝางตอบ ก็ไปตักซุปไก่ให้เขา แล้วมาเสิร์ฟให้

“คุณลุกขึ้นไม่สะดวก ฉันป้อนคุณเอง” ลู่หลุ่ยพูด

“จะได้ไงกันล่ะแบบนี้” หลี่ฝางอายเล็กน้อย ยังไงทั้งสองก็ไม่ได้สนิทกันมาก

ถ้าหลินชิงชิงหรือหลี่เสี่ยวเสี่ยวล่ะก็ หลี่ฝางก็รับได้อยู่ แต่ลู่หลุ่ย……หลี่ฝางมักจะรู้สึกเกรงใจหน่อยๆ

“ฉันรับปากคุณลุงแล้วว่าจะดูแลคุณดีๆ แล้วยังรับของขวัญของเขาอีก” พูดไป ลู่หลุ่ยก็มองจี้ที่คอแวบหนึ่ง: “ถึงนี่จะเป็นของขายแผงลอย แต่ก็สวยสุดๆ สายตาคุณลุงมีแววมากเลย”

ในใจของหลี่ฝางคิด นั่นมันของขายแผงลอยที่ไหนกันล่ะ นี่เป็นถึงหยกเขียวมรกตเชียวนะ เป็นของมีค่าของหลี่เหลียนเจ๋ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ราคากว่าสามสิบล้าน

หลี่ฝางเตือนอย่างเป็นห่วง: “ลู่หลุ่ยนะ ผมบอกคุณอย่างหนึ่ง ต่อไปคุณไม่มีเงินล่ะก็ มายืมผมได้เลย แต่เอาจี้ไปขายเด็ดขาด นี่เป็นถึงน้ำใจของพ่อผม ถ้าคุณจะขาย ก็ต้องขายให้ผม เข้าใจไหม?”

“ฉันไม่มีทางขายหยกที่คุณลุงให้แน่ คุณวางใจเถอะ” สีหน้าของลู่หลุ่ยเปลี่ยนหน่อยๆ มีความโกรธเล็กน้อย

เธอคิดในใจ:ถึงฉันจะจน ก็ไม่มีทางขายของแผงลอยนี่ ตอนที่ซื้อไม่กี่สิบหยวน แล้วขายจะมีคนซื้อเหรอ?ถึงตัวเองไม่มีเงิน ก็ไม่ขาดเงินไม่กี่หยวนหรอก

ลู่หลุ่ยยิ่งคิดยิ่งหดหู่ ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่หลี่ฝางช่วยชีวิตพ่อตัวเอง เธอก็แทบอยากจะเอาซุปไก่นี้สาดใส่หน้าเธอ

“งั้นก็ดี” หลี่ฝางโล่งอก ลู่หลุ่ยไม่รู้มูลค่าจี้อันนี้ ถ้าไปเจอคนที่รู้ดีเรื่องนี้ ซื้อจากเธอไปไม่กี่พัน งั้นไม่ใช่ว่าทำให้ผู้ชายคนนั้นทำเงินได้มากหรอกเหรอ?

ในใจหลี่ฝางกลัวมากว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้

“เมื่อคืนสถานการณ์เร่งรีบไป ฉันยังไม่ทันขอบคุณคุณเลย หลี่ฝาง ขอบคุณคุณจริงๆ ขอบคุณที่ช่วยพ่อฉัน” ลู่หลุ่ยพูดอย่างขอบคุณ

“ที่ช่วยพ่อคุณคือหมอ ไม่ใช่ผม” หลี่ฝางส่ายหน้าพูดยิ้มๆ

“หมอช่วยพ่อฉัน ไม่ใช่เพราะคุณให้เงินพวกเขาเหรอ?” ลู่หลุ่ยหัวเราะเหอะๆ : “คุณไม่จ่ายค่าผ่าตัด ถึงพ่อฉันตายบนเตียงนั่น พวกเขาก็ไม่มีทางสน”

สักพัก ลู่หลุ่ยจึงพูดอีก: “ที่จริงคุณไม่ใช่แค่ช่วยพ่อฉัน แต่ยังช่วยฉัน ถ้าไม่ใช่ว่าวันนั้นเสี่ยวเสี่ยวพาคุณไปด้วย กลัวว่าฉันคงถูกตาแก่นั่นย่ำยีแล้ว”

“พ่อของฉันดื้อมาก ฉันขายตัวเพื่อเอาเงินมาเป็นค่าผ่าตัด ถึงจะช่วยให้ร่างกายเขาอาการดีแล้ว ต่อไปเขาก็จะป่วยทางใจ และก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความรู้สึกผิดได้ เขาจะฆ่าตัวตาย”

“นี่คือสิ่งที่พ่อพูดกับฉันเมื่อคืน” ลู่หลุ่ยพูดไปน้ำตาคลอ

“ถ้าวันนั้นไม่มีคุณ ฉันกับพ่อฉันอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”

ได้ยินลู่หลุ่ยพูดแบบนี้ หลี่ฝางรู้สึกว่าเหมือนตัวเองผู้ช่วยโลก

“งั้นคุณคิดจะตอบแทนผมอย่างไรล่ะ?” หลี่ฝางพูดเหยียดหยามอย่างขำๆ

“ไม่ใช่ว่าดูแลคุณอยู่หรือไง ป้อนคุณกินซุปไก่เนี่ย?” ลู่หลุ่ยพูด

“ป้อนซุปไก่ที่มันตอบแทนบุญคุณยังไง หรือว่าคุณไม่เคยดูโทรทัศน์?จอมยุทธ์พวกนั้นช่วยผู้หญิงบนถนน แล้วผู้หญิงพวกนั้นมักจะพูดกับจอมยุทธ์ ขอบคุณที่ท่านช่วยชีวิตไว้ ข้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีอะไรตอบแทน นอกจากตัวของข้าเอง” หลี่ฝางเลิกคิ้วใส่ลู่หลุ่ยอย่างสมรู้ร่วมคิด

“ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีก ฉันก็จะไม่ป้อนซุปไก่คุณละ” ลู่หลุ่ยกลอกตาใส่หลี่ฝาง

“กินซุปไก่ กินซุปไก่” หลี่ฝางเห็นลู่หลุ่ยโกรธ พูดทันที: “เมื่อกี๊เพราะเห็นคุณเสียใจ เลยล้อเล่นเอง หยอกให้คุณมีความสุข ทำไมคุณยังโกรธอยู่ล่ะ”

จากนั้น ลู่หลุ่ยจึงป้อนหลี่ฝางให้ดื่มซุปไก่

เวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกได้ว่าไม่เคยมีความสุขมาก่อน ทันใดนั้นเขาก็คิด ถูกมีดแทงไปเล่มหนึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป อย่างน้อยก็ได้ความอ่อนโยนของลู่หลุ่ย

ถึงแม้หลังจากหลี่ฝางรวย รอบๆ จะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่ที่ทำให้หลี่ฝางใจเต้นที่สุด ก็คือลู่หลุ่ยที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย

ตอนนั้นลู่หลุ่ยถูกคนแก่นั่นพาไป อารมณ์ของหลี่ฝางที่ใจร้อนนั้นขนาดนั้น ก็เพราะว่าในใจรู้สึกต่อลู่หลุ่ย

หลี่ฝางถือโอกาสถาม: “ลู่หลุ่ย คุณอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหนเหรอ”

“ฉันไม่อยากไปสอบไกลมากนัก เมืองเอกอยู่ใกล้ตงไห่ของเรา แล้วก็ยังมีย่านมหาวิทยาลัย ฉันอยากสมัครสักที่ในเมืองเอก” ลู่หลุ่ยกล่าวอย่างคลุมเครือ

หลี่ฝางคิด งั้นตัวเองก็สมัครที่เมืองเอกดีแล้ว แบบนี้ก็จะได้ดูแลผับ แล้วยังได้อยู่ใกล้ลู่หลุ่ยมากขึ้นด้วย

……

หลี่ต๋าคางออกไปจากโรงพยาบาล เรียกรถไปRecalling the past

ก้าวเข้าไปRecalling the past สีหน้าลุงเฉียนก็ตื่นตระหนก

หลี่ต๋าคางเข้าไปในห้องทำงานของRecalling the past ส่วนลุงเฉียนกลับตามขึ้นไป

เข้ามาในห้องทำงาน สีหน้าของหลี่ต๋าคางดูเคร่งขรึมสุดๆ : “เรื่องของเสี่ยวฝาง ผมว่าคุณน่าจะรู้นะ”

ชื่อของลุงเฉียนคือเฉียนกวงกวง เฉียนกวงกวงหยิบข้อมูลส่งไปให้จากอ้อมแขน

“ลูกพี่ใหญ่ นี่คือข้อมูลของตระกูลมู่เมืองเอก” เฉียนกวงกวงพูด: “อยู่ด้านในหมดแล้ว”

“มีประโยชน์ไหม?”

หลี่ต๋าคางไม่ไปรับ: “ตอนนี้เสี่ยวฝางยังนอนอยู่โรงพยาบาล ลงจากเตียงไม่ได้”

“ตอนนั้นผมพูดกับคุณอย่างไร” หลี่ต๋าคางมองเฉียนกวงกวงอย่างเย็นชา: “คุณจะมารับประกันกับผมอย่างไรอีก?”

“ลูกพี่ใหญ่ ผมแอบส่งคนไปปกป้องเสี่ยวฝางมาตลอด ก็แค่ทางโรงเรียนนั้น ผมคิดว่าปลอดภัยแล้ว” เฉียนกวงกวงพูดด้วยความโกรธ: “ผมคิดไม่ถึงว่าจะมีคนลงมือกับเสี่ยวฝางในโรงเรียนได้”

หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว: “นี่คือความประมาทของคุณ!”

“ลูกพี่ใหญ่ คุณลงโทษผมเถอะ” เฉียนกวงกวงหยิบมีดออกมาจากอ้อมแขน

หลี่ต๋าคางกลอกตาใส่เฉียนกวงกวง เอาข้อมูลในมือเขารับมาใส่มือ หลังจากมองอยู่นาน หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว: “ไม่น่าล่ะมู่เสี่ยวไป๋คนนี้ถึงได้อาละวาดเช่นนี้”

“ใช่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะประมาทไม่ได้” เฉียนกวงกวงพูด: “เมืองหลวงก็มีคนปกป้องคุณแล้ว”

มุมปากหลี่ต๋าคางยิ้ม: “ในเมื่อลูกชายผมเลือดไหล ตระกูลมู่นั่นก็ควรมีคนเสียเลือดด้วย”

“ในลูกหลานของตระกูลมู่ มีคนชื่อมู่เหวินตง เขาคือลูกหลานของตระกูลมู่ที่สำคัญที่สุด” หลี่ต๋าคางวางข้อมูลลง พูด: “ผมหวังว่าจะเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุบนหนังสือพิมพ์

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน