NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 83

ตอนที่ 83

บทที่83 หลี่ฝางปฏิเสธการสารภาพรักของหลิวเฉียวเฉียว

“เซี่ยลู่ คุณพูดอะไรน่ะ?” หลิวเฉียวเฉียวเสียใจเล็กน้อย กงฉีว่าเธอ เธอยังไม่รู้สึกอะไร แต่เซี่ยลู่ว่าเธอ ในใจเธอรู้สึกน้อยใจเป็นพิเศษ

ยังไง เซี่ยลู่ก็เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ

“หลิวเฉียวเฉียว คุณนี่กลายเป็นเห็นแก่ตัวไปแล้วจริงๆ เลยนะ เพราะว่าหลี่ฝางให้สร้อยที่มีมูลค่าสามหมื่นหกเหรอ คุณก็เลยจูบกอดแนบชิด ทำตัวแบบนี้เชียวเหรอ” เซี่ยลู่พูดด้วยใบหน้าขมขื่น

“เซี่ยลู่ คุณดื่มมากไปแล้วเหรอเนี่ย?” หลิวเฉียวเฉียวพูดอย่างน่าสงสาร: “ทำไมคุณพูดกับฉันแบบนี้ล่ะ”

“ฉันพูดผิดเหรอ?หลายวันก่อนไม่ใช่ว่าคุณยังอ่อยส้งเสียงเหรอ คลุมเครือหรือไง?ตอนนี้ส้งเสียงไปเมืองเอก อ่อยไม่ได้ มาอ่อยหลี่ฝางอีก คุณเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เป็นตัวสำรองของตัวเอง?” เซี่ยลู่ถามหลิวเฉียวเฉียว

หลิวเฉียวเฉียวหน้าแดง พูดไม่ออก

กงฉีพูดด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น: “หลิวเฉียวเฉียว ทำไมคุณมีแผนการเยอะขนาดนี้ เมื่อก่อนดูไม่เห็นออก”

หลี่ฝางหัวเราะมองฉากนี้ อย่างเพลิดเพลิน

หญิงสาวสองคนชิงรักหักสวาทเพื่อตัวเอง ทำสงครามใหญ่ สถานการณ์แบบนี้หากเป็นเมื่อก่อน แค่คิดหลี่ฝางยังไม่กล้าจะคิด

ไม่ว่าเป็นหลิวเฉียวเฉียว หรือว่าเซี่ยลู่

ท่าทีของพวกเธอที่มีต่อตัวเองดูเป็นมิตรขึ้น ไม่ใช่ว่าเพราะรวยเหรอ?

หลี่ฝางก็ไม่โง่ ถึงเซี่ยลู่มามาแฉหลิวเฉียวเฉียว หลี่ฝางก็ไม่มีทางตอบรับคบกับเธอ

เซี่ยลู่กับกงฉีร่วมมือกันมาถากถางใส่หลิวเฉียวเฉียว ทันใดนั้นหลิวเฉียวเฉียวก็ทนไม่ไหว ร้องไห้วิ่งออกไปจากผับ

เซี่ยลู่ร้องไห้ ในใจร็สึกปิดปกติอีกครั้ง

แต่คิดดูแล้ว เซี่ยลู่ก็คิดว่าตัวเองไม่ได้พูดอะไรผิด หลิวเฉียวเฉียวไม่ได้เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วเหรอ?

“หลี่ฝาง ไม่งั้นคุณไปดูเธอเถอะ” คิดๆ ดู เซี่ยลู่พูดอย่างเหลือทนเล็กน้อย

หลี่ฝางพยักหน้า ตามออกไป

“เซี่ยลู่ ทำไมคุณโง่แบบนั้น คุณจะให้หลี่ฝางไปตามหลิวเฉียวเฉียวได้ไง นี่ไม่ใช่ว่าเตะหมูเข้าปากหมาเหรอ?” กงฉีกระทืบเท้าด้วยความโกรธ

“ไม่เป็นไร กงฉี เมื่อกี๊คุณไม่เห็นเหรอไง?” เซี่ยลู่หัวเราะอย่างมั่นใจ: “ก่อนนี้ฉันยังคิดว่าหลี่ฝางรู้สึกดีกับหลิวเฉียวเฉียวเล็กน้อย แต่เมื่อครู่ ถือว่าฉันเห็นชัดเจนแล้ว ที่จริงหลี่ฝางไม่ชอบเธอเลยสักนิด”

“ทำไมฉันมองไม่ออกนะ?”

“เมื่อกี๊เขาสองคนกอดกัน ถ้าไม่ใช่ว่าเราสองคนมาทัน เกรงว่าทั้งสองจะจูบกันและ” กงฉีพูด

“ถึงเมื่อกี๊จะจูบ ก็ไม่ได้หมายความว่าหลี่ฝางยอมรับหลิวเฉียวเฉียว ไม่มีผู้ชายที่ไหนที่ไม่เจ้าชู้หรอก อีกอย่างตอนนี้หลี่ฝางยังโสดนะ มีผู้หญิงเสนอตัวกอดกันแนบชิดแบบนี้ เขาไม่มีทางปฏิเสธแน่ คุณว่าไหมล่ะ?” เซี่ยลู่พูด

“คุณจะบอกว่า ผู้ชายก็สันดานแบบนี้หมด” กงฉีพยักหน้าเห็นด้วย

“กงฉี เมื่อกี๊คุณเห็นไหม?” เวลานี้เซี่ยลู่ก็หัวเราะอย่างมีความสุข

“เห็นอะไร?” กงฉีถาม

“โง่จังคุณเนี่ย พวกเราสองคนรังแกหลิวเฉียวเฉียวแบบนั้น จนหลิวเฉียวเฉียวโกรธและร้องไห้ ถ้าในใจหลี่ฝางชอบเธอจริงๆ คุณว่าหลี่ฝางจะยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่แยแสเหรอ?เมื่อกี๊คุณไม่เห็นสายตาของหลี่ฝาง สายตาเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เหมือนว่าไม่ว่าเราจะทำอะไรหลิวเฉียวเฉียว เขาก็ไม่แยแส”

“คุณพูดแบบนี้ ฉันกลับคิดได้ว่า รวมถึงหลิวเฉียวเฉียวร้องไห้ออกไป เหมือนหลี่ฝางก็ไม่ได้ตามไปนะ แต่พอคุณพูด หลี่ฝางถึงจะตามไป” กงฉีคิดได้ทันที

“แบบนี้ หลี่ฝางไม่ชอบหลิวเฉียวเฉียวแล้วจริงๆ”

กงฉีกับเซี่ยลู่ต่างหัวเราะ

แต่แป๊บเดียว รอยยิ้มที่ใบหน้าเซี่ยลู่ก็ไม่มีแล้ว

“เห้อ เมื่อกี๊เราสองคนเกินไปแล้วหรือเปล่า” เซี่ยลู่ขมวดคิ้ว จึงคิดขึ้นได้: “เมื่อกี๊วันเกิดเฉียวเฉียวเชียวนะ”

“อะไรกันล่ะ ใครให้เธอไปแย่งผู้ชายกับคุณล่ะ พวกเราเป็นเพื่อนตอนมัธยมต้นใครไม่รู้บ้าง หลี่ฝางกับคุณเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หลิวเฉียวเฉียวก็หน้าไม่อายจริงๆ แม้แต่ผู้ชายของเพื่อนตัวเองยังแย่งได้” กงฉีพูดอย่างดูถูก: “อยากได้ผู้ชายจนบ้าแล้วหรือไง!”

“ใช่ไง ครั้งที่แล้วตอนฉันถามเธอ เธอยังบอกว่าไม่สนใจหลี่ฝาง สุดท้ายวันนี้ถือโอกาสที่เราไม่ทันสังเกต ก็ไปเสนอตัวแนบชิดกอดเขา น่าขยะแขยงจริงๆ”

“ปกติเสแสร้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังจะเป็นแค่กะหรี่ มองเธอผิดไปจริงๆ” เซี่ยลู่พูดด้วยความรังเกียจ

หลี่ฝางตามหลิวเฉียวเฉียววิ่งออกไปจากผับ

วิ่งไปที่โล่ง หลิวเฉียวเฉียวล้มลงไปร้องไห้ที่พื้น

หลี่ฝางยืนตรงหน้าหลิวเฉียวเฉียว ยืนอยู่นาน หลิวเฉียวเฉียวก็ร้องไห้ออกมาสักพัก

“หลี่ฝาง ฉันไม่ใช่คนอย่างที่เซี่ยลู่ว่า” สักพัก หลิวเฉียวเฉียวเงยหน้าขึ้น อธิบายต่อหลี่ฝาง

“งั้นคุณเป็นคนแบบไหน?” หลี่ฝางถามแล้วหัวเราะ

“ยังไงก็ไม่ใช่ที่เซี่ยลู่พูด ฉันเพิ่งสารภาพรักคุณ มาจากใจจริงๆ” หลิวเฉียวเฉียวเช็ดน้ำตาไป พูดไป

“งั้นส้งเสียงล่ะ คุณเคยสารภาพรักส้งเสียงไหม?” หลี่ฝางถาม

“ไม่เคย” หลิวเฉียวเฉียวส่ายหน้าสุดๆ

ที่จริงหลิวเฉียวเฉียวโกหก ถึงเธอจะไม่ได้สารภาพรักกับส้งเสียง แต่ส้งเสียงสารภาพรักกับเธอแล้ว แล้วเธอก็ตอบตกลงไปแล้ว แค่ช่วงนี้ส้งเสียงไม่ได้ติดต่อเธอ เธอเลยคิดว่า คบกับหลี่ฝางดีกว่า

หลี่ฝางในตอนนี้ เป็นผู้ใหญ่และมั่นคง อีกอย่าง หลี่ฝางก็จ่ายเงินเพื่อผู้หญิง ใจกว้างกว่าส้งเสียงทายาทเศรษฐีคนนี้

“ฉันกับส้งเสียงไม่ได้เป็นอะไรกันเลย หลี่ฝาง คุณต้องเชื่อฉันนะ” หลิวเฉียวเฉียวพูดอย่างกังวล

“ที่จริงคุณไม่ต้องอธิบายให้ผมฟังหรอก” หลี่ฝางหัวเราะ พูดเบาๆ : “ยังไงเราสองคนก็ไม่ใช่แฟนกัน”

“ที่คุณถามผม ผมชอบคุณไหม?” หลี่ฝางหัวเราะอย่างสับสน พูด: “พูดยังไงดีล่ะ ผู้หญิงสวยอย่างคุณ หน้าตาดี หุ่นดี ผู้ชายที่ไหนไม่ชอบล่ะ”

“ดังนั้น ผมบอกไม่ชอบ ก็คงไม่ใช่ผู้ชายแล้ว”

“แต่ความชอบที่มีต่อคุณ ไม่ใช่ความชอบที่มาจากใจแบบนั้น คุณเข้าใจไหม?หลิวเฉียวเฉียว” มองหลิวเฉียวเฉียว หลี่ฝางพูด

“ความหมายของคุณคือ ไม่มีความรู้สึกกับฉันเหรอ” หลิวเฉียวเฉียวทำเสียงฮึดฮัดใส่: “งั้นครั้งที่แล้วที่Lotus คุณแล้วยังจะให้ฉันเป็นแฟนคุณ แล้วยังพาฉันไปเปิดห้อง คุณหมายความว่าไงเหรอ”

หลิวเฉียวเฉียวพูดด้วยความโกรธ: “ถ้าคุณไม่รู้สึกกับฉัน ทำไมต้องเสนอความต้องการพวกนั้นด้วย”

หลี่ฝางส่ายหน้า ถึงแม้ตอนนั้นตัวเอง รู้ว่าตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี แต่ก็ยังทำตัวติดดิน

โสดมาตั้งนาน ใครก็อยากมีผู้หญิงสวยๆ มาเป็นแฟนตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นหลี่ฝางจึงพูดถึงความต้องการพวกนั้นต่อหลิวเฉียวเฉียว

“คุณคิดว่าผมหลอกคุณ?” หลี่ฝางหัวเราะในลำคอ คิดถึงเรื่องเมื่อก่อน

“ถึงผมจะพาคุณไปเปิดห้อง แต่ไม่ได้แตะต้องคุณเลย หลิวเฉียวเฉียว พูดตรงๆ นะ ตอนนั้นผมเคยคิดจริงๆ ว่าอยากคบกับคุณ ให้คุณมาเป็นแฟนผม เพราะว่าผมจริงจัง ดังนั้นจึงไม่แตะต้องคุณ เพราะว่าผมไม่อยากบังคับให้แฟนของผมมีอะไรกับผม”

“แต่คุณล่ะ คุณทำอะไรกับผม เช้าวันถัดมาคุณก็ร่วมมือกับพี่ชายจางเชี่ยน หลอกเอาเงินผมไปแปดหมื่น แล้วยังทำร้ายผมอย่างแรง”

“คืนนั้นผมช่วยคุณจาก Lotus และก็ไม่ได้ทำร้ายคุณ คุณไม่ได้แค่ไม่รู้จักบุญคุณ แต่ยังเอาพระคุณนั่นมาแก้แค้น แล้วทำไมคุณยังกล้าพูดถึงอดีตอีก” คิดถึงเรื่องที่ผ่าน ความโกรธในใจของหลี่ฝางก็ขึ้นมา

“ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่คุณที่ส่งข้อความขอความช่วยเหลือให้ผม ไปหาหลินชิงชิงเพื่อช่วยบนภูเขา คุณคิดว่าผมยังอยากเป็นเพื่อนคุณเหรอ?”

หลี่ฝางทำเสียงฮึดฮัด พูด: “ถึงผมจะให้อภัยพวกคุณแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะลืมว่าพวกคุณเป็นคนอย่างไร”

“หลิวเฉียวเฉียว ผมถามคุณ ถ้าผมหลี่ฝางยังไม่รวยเหมือนเมื่อก่อน ซักเสื้อผ้า ทำการบ้าน ล้างเท้าให้คนอื่นในหอ คุณยังจะชอบผมไหม?ยังอยากเป็นแฟนผมอยู่ไหม?”

หลี่ฝางก็เลยถามหลิวเฉียวเฉียวทันที

สีหน้าหลิวเฉียวเฉียวหม่นลง พูดไม่ออก

“คงไม่ ใช่ไหมล่ะ?” มองหลิวเฉียวเฉียว หลี่ฝางหัวเราะออกมา: “ดังนั้น คุณชอบผมที่ดูดี รวยและใจกว้าง แต่ผมที่ไม่รวย คุณก็จะทิ้งทันที”

หลิวเฉียวเฉียวจึงเข้าใจขึ้นมา

ที่จริงเธอก็เคยสงสัย ทำไมจู่ๆ ตัวเองก็รู้สึกดีต่อหลี่ฝาง ส่วนคำพูดหลี่ฝางนี้ แก้ความสับสนให้เธออย่างไม่ต้องสงสัย

เวลานี้ หลิวเฉียวเฉียวก็เสียใจเล็กน้อย ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้ไปปล้นเงินของกับพี่ของจางเชี่ยนหลี่ฝาง บางทีตอนนี้ เธออาจจะกลายเป็นแฟนตัวจริงของหลี่ฝางแล้วจริงๆ

แต่ตอนนี้……

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท