NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 93

ตอนที่ 93

บทที่93 จางกงหมิงเกิดเรื่อง

“นั่นก็ไม่เกี่ยวกับผม” หลี่ฝางพูด

จางกงหมิงหัวเราะ: “ใช่ไง ดูแล้ว คุณไม่น่าสงสัยที่สุด”

“อีกเจ็ดคนนั้น ต่างมีอำนาจกันทั้งนั้น ไม่มีเงิน ก็ทรงพลัง ความน่าสงสัยของพวกเขามากกว่าคุณ” จางกงหมิงพูด

จากนั้น จางกงหมิงก็พูดอีก: “แต่จากที่ผมอ่านนิยายฆาตกรรม มักจะมีปรากฏการณ์นี้ คนที่ยิ่งดูไม่น่าสงสัย มักจะเป็นฆาตกรที่แท้จริง”

“หลี่ฝาง คุณระวังตัวหน่อย แป๊บเดียวมู่เสี่ยวไป๋ก็สืบเรื่องนี้ได้แล้ว” จางกงหมิงจ้องแล้วพูดเตือนหลี่ฝาง

“พี่ พี่ทำอะไรเนี่ย เสี่ยวฝางยังป่วยอยู่นะ จะทำให้เขาตกใจทำไม?เรื่องนี้จะเป็นเสี่ยวฝางทำได้ไง” หลินชิงชิงจ้องจางกงหมิงเขม็ง

แต่ในใจจางกงหมิงกลับเหมือนกับเป็นภาพสะท้อน

ถึงแม้แปดคนที่แทงมู่เสี่ยวไป๋ ทั้งเจ็ดคนมีอำนาจ แต่ยิ่งมีอำนาจแค่ไหน ก็ยิ่งไม่กล้าเอาคืนมู่เสี่ยวไป๋

ไม่ว่าจะเทียบจากอำนาจหรือเงินทอง พวกเขาเทียบกับตระกูลมู่ไม่ได้เลยสักนิด แล้วยังจะกล้าแก้แค้น?

ถ้าถูกหาเจอ ผลที่ตามมาต้องแย่จนไม่อยากคิด

อีกอย่างคนที่ชนครั้งนี้เป็นถึงผู้เข้าชิงหัวหน้าตระกูลมู่ ความกล้าของอีกเจ็ดคนก็ไม่มากขนาดนั้น

จางกงหมิงคิดว่า เรื่องนี้มีแค่หลี่ต๋าคางที่ทำออกมาได้ ความพร้อมฆ่าฟันที่ออกมาจากตัวเขา จางกงหมิงรู้สึกได้ หลี่ต๋าคางมีความกล้านี้

“อาจจะแค่อุบัติเหตุ” หลี่ฝางบ่นพึมพำ

“อุบัติเหตุบ้าอะไรล่ะ คุณรู้ไหมว่าคนขับนั่นชำนาญแค่ไหน?เมื่อคืนคนของตระกูลมู่เกิดเรื่อง รถตำรวจทั้งเมืองเอกต่างออกตามหา อีกอย่างพวกอิทธิพลมืดต่างก็ตามรถคันนี้ ผู้ชายคนนี้วิ่งไปเขาหมาป่า ก็ทำรถหลายร้อยค้นหากันให้วุ่น!”

“นี่มันบ้ามากๆ แล้วยังชูนิ้วกลางใส่ตำรวจ ไม่หยุดยั่วยุ จนกระทั่งเช้าวันนี้ เรื่องถึงได้คืบหน้า” จางกงหมิงพูด

“จับได้แล้ว?”

“ใช่” จางกงหมิงพยักหน้า พูด: “จับรถได้คันหนึ่ง”

“เขาล่ะ?”

“คนยังจับไม่ได้ แต่เขาหมาป่าถูกปิดเขาแล้ว กลัวว่าถ้าหนีก็หนีไม่ได้” จางกงหมิงพูด: “ตระกูลมู่โมโหมาก ลงทุนจ่ายเพื่อตามหาฆาตกร จะสับเขาเป็นชิ้นๆ”

หลี่ฝางได้ยินเสียงหัวเราะ ก็พูด: “เห้อ ถ้าชนมู่เสี่ยวไป๋ก็คงดี”

“ถ้าที่ชนคือมู่เสี่ยวไป๋ งั้นจุดประสงค์จะไม่ชัดเจนไปหรือไง?มู่เสี่ยวไป๋เพิ่งแทงคุณ จากนั้นก็ประสบอุบัติเหตุ” จางกงหมิงทำเสียงฮึดฮัด พูด: “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ตระกูลมู่จะต้องจับพวกคุณทั้งแปดไปแน่”

หลินชิงชิงพูดอย่างเซ็งๆ : “พูดถึงพวกเขาทำไม พูดอย่างอื่นเถอะ ได้ยินเรื่องตระกูลมู่ก็ขยะแขยงแล้ว”

หลินชิงชิงไม่ชอบตระกูลมู่จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมู่เสี่ยวไป๋ อาศัยความรวยและอำนาจของตัวเอง ทำเรื่องไม่ดี หยิ่งยโสสุดๆ

“ใช่สิ พี่หมิง จับตู้เฟยได้ยัง?”

หลี่ฝางถาม ตอนที่เพิ่งสอบเสร็จ จางกงหมิงรับประกันกับหลี่ฝาง จะต้องจับตู้เฟยให้ได้ จากนั้นพาไปหาหลี่ฝาง

“มองไม่เห็นเหรอไง?ถ้าจับได้แล้ว ผมจะไม่เอาตัวเขามาให้คุณเหรอ?”

จางกงหมิงยักไหล่อย่างทำไรไม่ได้ พูด: “ตู้เฟยหนีไปแล้ว จัดการคุณเสร็จ ก็หนีทันที”

“เขาหนีไปแล้ว?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างตื่นเต้น: “หนีไปได้ไงกัน”

คุยกับพ่อแล้ว ให้รอตัวเองออกจากโรงพยาบาลก่อน จะทำลายตระกูลตู้แน่ แต่ตู้เฟยหนีไปแล้ว จะทำลายได้อีกกี่คน

“เขาไปเมืองเอก อีกสองวันน่าจะกลับมา”

จางกงหมิงพูด: “คุณวางใจเถอะ ผมไม่ปล่อยเด็กนี่แน่ แค่เขากล้ากลับมาตงไห่ ผมรับประกันว่าจะตัดขาเขาแน่”

“คุณไม่กลัวตู้ต้าไห่มาก่อเรื่องเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะ จำได้ว่าครั้งที่แล้วจางกงหมิงยังบอกว่ากลัว

“กลัวสิ ไม่กลัวได้ไง”

จางกงหมิงยิ้มหม่นๆ : “แค่ไม่ให้ตู้ต้าไห่มีหลักฐานก็พอ”

“ถึงตอนนั้น ผมจะให้คนสักสองคน ตัดขาลูกชายเขา” จางกงหมิงพูดขำๆ : “แล้วผมก็จะให้สองคนนี้หนีไป”

“แต่คุยกันแล้วนะ เงินที่หนีไปคุณต้องออก” จางกงหมิงมองหลี่ฝางด้วยรอยยิ้ม

“ไม่มีปัญหา”

“ใช่สิ วันนี้พันแผลให้คุณ ก็จ่ายค่าพยาบาลไปห้าพัน คุณต้องคืนด้วยนะ” จู่ๆ จางกงหมิงก็คิดขึ้นมา

“ใครให้คุณไปบังคับเขาล่ะ” หลี่ฝางกลอกตาใส่จางกงหมิง: “แค่พันง่ายๆ อย่างมากแค่ไม่กี่สิบหยวน ทำไมคุณต้องไปให้เขาห้าพันด้วย”

“ไม่ใช่ให้เขาทำเร็วๆ หน่อยหรือไง” จางกงหมิงโกรธเล็กน้อย: “ไอ้เด็กนี่คิดอยากจะชักดาบหนีใช่ไหม ผมทำเพื่อให้เลือดคุณไหลน้อยๆ ไม่งั้นจะจ่ายเงินนั่นไปทำห่าอะไร”

“ไม่ได้ เงินนี้คุณต้องคืนให้ผม ไม่งั้น เรื่องตู้เฟยผมก็จะไม่ยุ่งแล้ว” จางกงหมิงพูดด้วยใบหน้าหม่นๆ

“เสี่ยวฝาง ไม่ต้องให้เขา เขาไม่หาคนให้คุณ เดี๋ยวพี่หาให้คุณเอง” หลินชิงชิงพูด: “มีพี่อยู่”

“จางกงหมิง ได้ยินไหม?” หลี่ฝางยิ้มแล้วพูดอย่างภูมิใจ

“ชิงชิง ทำไมคุณทำตัวเกลือเป็นหนอนอย่างนี้ล่ะ พี่หาเงินได้ง่ายหรือไงกัน?” จางกงหมิงมองหลินชิงชิงอย่างเซ็งๆ

หลินชิงชิงไม่สนจางกงหมิง พูดกับหลี่ฝางต่อ: “เงินที่ให้หนีไปคุณก็ไม่ต้องให้ พี่ออกให้คุณเอง”

“ไอ้ระยำตู้เฟยนั่น ถ้าเขากล้ากลับมา ฉันจะหาคนไปฆ่าเขาแน่!”

หลินชิงชิงพูดอย่างเย็นชา: “ฉันจะตัดขาทั้งคู่ของเขาเอง ฉันไม่กลัวตู้ต้าไห่”

“ตู้ต้าไห่ให้พ่อฉันจัดการเองเถอะ” หลินชิงชิงพูดอย่างไม่แคร์

“คุณจะสร้างปัญหาให้ลุงน่ะสิ ชิงชิง อย่าลืมล่ะ ตู้ต้าไห่กับลุงของฉัน ดีต่อกัน เขาเป็นพันธมิตรในด้านธุรกิจ นี่ไม่ใช่ว่าคุณจะสร้างปัญหาให้ลุงเหรอไง?”

“เรื่องนี้ผมจัดการเอง” จางกงหมิงพูด

“ไม่ได้ ฉันเอง อีกอย่างฉันแสดงออกชัดเจนดี” ที่จริงหลินชิงชิงยังโกรธลูกพี่หลินอยู่ ใครให้ลูกพี่หลินจับคู่ฉันให้มู่เสี่ยวไป๋โดยพลการล่ะ

ตอนที่ทั้งสองแย่งกันอยู่นั้น จู่ๆ หลี่ฝางก็พูด: “พวกคุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวตู้ต้าไห่ก็จะจบเห่แล้ว”

“หลี่ฝาง คุณพูดอะไร ตู้ต้าไห่จะจบเห่?” จางกงหมิงเข้ามาลูบหน้าผากหลี่ฝาง: “สมองของคุณถูกเผาจนเลอะเลือนเหรอ”

“พวกคุณรอเถอะ รอวันนั้นที่ผมออกจากโรงพยาบาล ตู้ต้าไห่ก็จะจบเห่” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ อย่างมั่นใจ

“เสี่ยวฝาง อย่าล้อเล่น ตู้ต้าไห่เป็นถึงนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในตงไห่ของเรา บอกว่าจบเห่ก็จบเห่เลยได้ไงกัน เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ตงไห่มากี่สิบปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอนเนคชั่นหรือความมั่งคั่งต่างก็มีพร้อมหมด” หลินชิงชิงไม่ค่อยเชื่อ

“แม้แต่พ่อฉันยังต้องพึ่งตู้ต้าไห่หาเงินเลย”

จู่ๆ จางกงหมิงก็ขมวดคิ้ว มาตรงหน้าหลี่ฝาง ถามเบาๆ : “ข่าวที่ว่าตู้ต้าไห่จบเห่ ใครพูดกับคุณ”

“พ่อผมไง” หลี่ฝางพูดออกไป ไม่มีความคิดใดๆ แฝง

จางกงหมิงหัวเราะ หันไปมองหลินชิงชิง: “ชิงชิง งั้นเรามาพนันกันดีกว่า”

“พนันกัน?” หลินชิงชิงมองจางกงหมิงอย่างสงสัย: “พวกเราสองคนจะพนันอะไร?”

“คุณเชื่อว่าตู้ต้าไห่จะจบเห่ไหม?” จางกงหมิงพูด: “ผมจะพนันกับคุณว่าตู้ต้าไห่ต้องจบเห่แน่”

“โอเค พนันอะไร?”

“พนันง่ายมาก ถ้าผมชนะ ต่อไปเรื่องของเสี่ยวฝาง คุณยุ่งให้มันน้อยๆ หน่อย ผมจะช่วยเขาจัดการเอง” จางกงหมิงพูด

“นี่เหรอ?” หลินชิงชิงมองจางกงหมิงอย่างแปลกใจ ไม่รู้ว่าในน้ำเต้านั่นเขาขายยาอะไร

“ใช่ อันนี้แหละ” ที่จริงจางกงหมิงให้หลินชิงชิงกับหลี่ฝางไม่ต้องมีส่วนร่วมมากนั้น เพราะเขากังวลว่ามู่เสี่ยวไป๋จะยังมาก่อกวนหลี่ฝางอยู่หรือไม่

จางกงหมิงถาม: “คุณกล้ารับปากไหม?”

“มีอะไรให้ไม่กล้ารับปากล่ะ” หลินชิงชิงหัวเราะ พยักหน้า จากนั้นจึงถาม: “งั้นถ้าคุณแพ้ล่ะ?”

“ถ้าผมแพ้ คุณให้ผมทำอะไร ผมก็ทำ เงื่อนไขอะไรคุณว่ามาได้เลย” จางกงหมิงพูดอย่างไม่เกรงกลัว

“โอเค ถ้าคุณแพ้ ก็เอาแสนหยวนที่ครั้งนั้นยืมเสี่ยวฝางคืนเขาไป” หลินชิงชิงพูด

“ผมว่านะชิงชิง ทำไมคุณปกป้องไอ้เด็กคนนี้จัง คุณชอบเขาหรือไง!” จางกงหมิงมองหลินชิงชิงกับหลี่ฝางอย่างหมดคำพูด จู่ๆ ก็พูดแบบนี้

หลี่ฝางไม่รู้สึกอะไร คิดแค่ว่าจางกงหมิงกำลังล้อเล่น แต่หลินชิงชิงกลับพูดด้วยความโกรธ: “พูดเหลวไหลอีก อย่าว่าที่ฉันไปฟ้องซ้อล่ะ”

“คุณจะฟ้องอะไรผม?”

“คุณคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่คุณแอบไปเล่นการพนันเหรอ?” หลินชิงชิงพูด

“โอเค ผมแค่ล้อเล่นน่า ทำไมต้องจริงจัง” จางกงหมิงกลอกตาใส่หลินชิงชิง

“แสนหยวน……” จางกงหมิงลังเลสักพัก ในหัวมีภาพของหลี่ต๋าคางแวบเข้ามา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าเด็ดเดี่ยว

“โอเค ผมจะพนันกับคุณ”

จางกงหมิงเพิ่งพูดจบ โทรศัพท์เขาก็ดัง ในสายพูด: “พี่หมิง เกิดเรื่องแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท