NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 107

ตอนที่ 107

บทที่107 เขาเป็นลูกชายของเศรษฐีลึกลับงั้นเหรอ?

“รถของคุณเหรอ?”

เงยหน้าขึ้น ตู้เฟยมองถังหยู่ซวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ: “คุณโง่หรือเปล่า นี่มันคันละยี่สิบล้านกว่าเลยนะ”

ถังหยู่ซวนหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเข้าไป: “ก็แค่ยี่สิบล้านเท่านั้นเอง มันมีอะไรน่าตกใจเหรอ?”

ถึงแม้ว่าถังหยู่ซวนจะหยิบกุญแจออกมาแล้ว และเข้าไปนั่งในรถ แต่ตู้เฟยก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่ามันจะเป็นรถของถังหยู่ซวน

“ไอกระจอก คุณแกล้งหลอกตบตาหรือไง พ่อคุณเป็นแค่คนขับรถไม่ใช่เหรอ จะมาซื้อปอร์เช่918ได้อย่างไร?” ตู้เฟยพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“หลี่ฝาง เอาคู่มือให้เขาดูสิ” ถังหยู่ซวนยิ้มให้หลี่ฝาง

“ดูเองเถอะ”

หลี่ฝางเอาคู่มือโยนให้ตู้เฟย หลังจากที่ตู้เฟยดูแล้ว หน้าก็ถอดสี

“นี่มันรถคุณจริงๆ เหรอ?” ตู้เฟยมองถังหยู่ซวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ถังหยู่ซวนมองตู้เฟย ก่อนจะพูดจาเสียดสี: “นี่มัน รวยแบบปลอมๆ จริงเลย”

“พี่หวาง ช่วยเอาไอพวกคนรวยปลอมออกไปหน่อยได้ไหม?” ถังหยู่ซวนพูดกับผู้จัดการที่นี่

ผู้จัดการของที่นี่เรียกพี่หวาง ที่เพิ่งจะจัดการทำเรื่องให้พวกเขาจนเสร็จ

“ผู้รักษาความปลอดภัย!” พี่หวางตะโกนออกมา ก่อนจะเรียกผู้รักษาความปลอดภัยมา

“เอาเขาออกไป” พี่หวางชี้ไปที่ตู้เฟยพูดขึ้น

ตู้เฟยรีบบอกตัวตนของตัวเองออกไป: “พ่อฉันคือตู้ต้าไห่ ฉันจะดูว่าใครจะกล้ามาแตะฉันไหม?”

“ตู้ต้าไห่เหรอ?”

ถังหยู่ซวนหัวเราะด้วยความไม่แยแส: “ตู้ต้าไห่เก่งกาจขนาดไหน ไล่ออกไป!”

พี่หวางบอกผู้รักษาความปลอดภัยพลางพยักหน้า ถึงแม้ว่าพี่หวางจะรู้ว่าตู้ต้าไห่เป็นใคร แต่เธอก็รู้ว่าปอร์เช่918มันหมายความว่าอย่างไร

ทั้งประเทศจีนนั้น ที่ขับกันอยู่บนท้องถนนนั้น มันมีอยู่ไม่กี่สิบคันเอง

ปอร์เช่918 ถือเป็นลูกหลานเศรษฐีอย่างแท้จริง

ในสายตาของลูกหลานเศรษฐีที่ร่ำรวยขนาดนี้ ตู้ต้าไห่เองก็นับว่าไม่เท่าไหร่เลย

ตู้เฟยไม่กล้าด่าอะไรออกไปอีก สุดท้ายก็ถูกผู้รักษาความปลอดภัยไล่ออกไปจากร้านปอร์เช่

“พี่หวาง ร้านเบนซ์ร้านนั้น เป็นเจ้าของเดียวกันหรือเปล่า?” ในตอนนี้ หลี่ฝางถามขึ้น

พี่หวางพยักหน้า: “ใช่สิ จริงๆ แล้ว หัวหน้าของร้านนั้น ก็คือฉันเอง”

“ขอรบกวนพี่หวางหน่อยได้ไหม?” หลี่ฝางหัวเราะ ในใจก็รู้สึกว่าสามารถแก้แค้นได้แล้ว

“คุณพูดมาสิ” พี่หวางไม่กล้าขัดหลี่ฝาง

พี่หวางพอจะเดาตัวตนของหลี่ฝางได้แล้ว แต่ก็ไม่กล้าเปิดโปง

เมื่อครู่ตอนที่ทำเรื่อง หลี่ฝางเอาบัตรประจำเจ้าของรถปอร์เช่ให้ถังหยู่ซวน ท่าทีแบบนี้ มีเพียงแต่ลูกชายของคนคนนั้นถึงจะมี

“เมื่อครู่ พวกเราไปดูเบนซ์ ถูกพวกเขาไล่ออกมา ดังนั้นจึงอยากให้พี่หวางเรียกร้องให้ พวกเราหน่อย” หลี่ฝางพูดขึ้น

“มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ?” พี่หวางขมวดคิ้วเป็นปม

“ฉันอยากจะไปดู ว่าใครมันกล้าขนาดนั้น!” พี่หวางพูดด้วยความโกรธ

ถังหยู่ซวนกับหลี่ฝางขับปอร์เช่ไปที่หน้าร้านเบนซ์

“นี่มันไม่ใช่ปอร์เช่918เหรอ?ทำไมถึงมาหยุดที่หน้าประตูของพวกเราล่ะ”

ปอร์เช่918จอด ทุกๆ คนออกมากันหมด ก่อนจะล้อมรอบคนในรถ พวกเธอเองก็อยากจะเห็น ว่าเป็นคุณชายคนไหนกัน ที่สามารถซื้อรถยี่สิบล้านกว่าได้

เมื่อหลี่ฝางกับถังหยู่ซวนลงจากรถมา ทุกๆ คนก็งงเป็นไก่ตาแตกหมดเลย

“ทำไมถึงเป็นพวกเขาทั้งสองคน?” สีหน้าของผู้รักษาความปลอดภัยก็เปลี่ยนไป

“เสี่ยวหง คุณตายแน่ เมื่อครู่คุณเป็นคนไล่พวกเขาออกไป!” ทุกๆ คนมองเสี่ยวหง พลางมีแต่ความเห็นอกเห็นใจอยู่ในแววตา

คนคนนี้ชื่อเสี่ยวหง เป็นผู้หญิงที่ขายเบนซ์ของตู้เฟย

เพื่อทำให้ขายรถออก เธอเลยยอมเอาเรือนร่างเข้าแลก ด้วยการไปนอนกับตู้เฟยคืนหนึ่ง

เสี่ยวหงมีสีหน้าเปลี่ยนไป พลางมองหลี่ฝางกับถังหยู่ซวนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ

พี่หวางเองก็ตามมาติดๆ

“พี่หวาง เธอนี่แหละ” หลี่ฝางชี้ไปทางเสี่ยวหง: “เมื่อครู่เธอให้ผู้รักษาความปลอดภัยไล่ พวกเราออกไป”

พี่หวางมองไปทางหลี่ฝางก่อนจะพยักหน้า: “ฉันรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร”

“จางหง คุณถูกไล่ออกแล้วล่ะ”

เมื่อเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเสี่ยวหง พี่หวางหันหน้าไปพูดว่า: “อีกอย่าง เงินรางวัลของคุณก็ถูกหักออกแล้ว”

“พี่หวาง คุณไล่ฉันออกไปก็ได้ แต่ทำไมคุณต้องมาหักเงินรางวัลฉันด้วย?นี่มันผิดกฎหนิ” เสี่ยวหงพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“กฎงั้นเหรอ?คุณไล่ลูกค้าออกไป มันถูกกฎแล้วเหรอ?”

พี่หวางหัวเราะด้วยความเย็นชาก่อนจะพูดว่า: “คุณทำผิดกฎของพนักงานก่อน ฉันไม่หักเงินเดือนคุณ ก็ให้เกียรติมากพอแล้ว”

“พอได้แล้ว เก็บของแล้วไสหัวออกไปซะ!” พี่หวางพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย

พี่หวางพูดจบ ก่อนจะกลับไปตรงหน้าหลี่ฝาง พลางถามขึ้น: “คุณชายหลี่ คุณพอใจไหม?ถ้าเกิดว่ายังไม่พอใจ ฉันจะหักเงินเดือนของเธอทั้งหมดเลย”

“ช่างมันเถอะ” หลี่ฝางพูดขึ้นเบาๆ : “แบบนี้ก็โอเคแล้ว ทำแค่เท่าที่ควรก็พอ”

“จริงสิ ผู้รักษาความปลอดภัยสองคนนั้นฉันก็ต้องไล่ออกด้วย น่าโมโหจริงๆ เลย” พี่หวางพูดเสริม

“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่อยากจะบอกเท่านั้นเอง” หลี่ฝางหันกลับไปมองผู้รักษาความปลอดภัยสองคนนั้น ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความใจกว้าง

หลังจากออกไป โจวเจ๋ก็ขับรถปอร์เช่911ของตัวเองมาจอดอยู่ตรงข้างทาง เขามองถังหยู่ซวน: “นี่รถของคุณจริงๆ เหรอ?”

“นี่มันไร้สาระหรือเปล่า?ไม่ใช่ของฉัน แล้วจะให้เป็นของคุณเหรอ?” ถังหยู่ซวนตอบอย่างไม่สบายอารมณ์

“มีอะไร มีเรื่องเหรอ?”

“ไม่มีอะไร แค่อยากรู้ว่าพี่ถังว่างไหม คืนนี้ฉันอยากชวนคุณไปกินข้าว” โจวเจ๋ถามขึ้น: “เดี๋ยวฉันจะเรียกให้ดารานักแสดงของบริษัท พวกเรา มาอยู่เป็นเพื่อนพี่ถังด้วย”

“ให้พวกเขาตรงไปที่Recalling the past” หลี่ฝางพูดเสียงเบา

เมื่อถังหยู่ซวนได้ยิน ก็มองโจวเจ๋พลางพูดว่า: “ฉันไม่ว่างไปกินข้าว”

“แต่ถ้าไปดื่มที่Recalling the past ฉันว่างนะ” ถังหยู่ซวนพูดขึ้น

“ได้ๆ” โจวเจ๋พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะตอบตกลง

หลังจากที่ถังหยู่ซวนขับรถออกไป ตู้เฟยก็รีบตามมา

“พี่เจ๋ ทำไมคุณถึงได้ชวนไอคนนี้มาดื่มเหล้าด้วย?หรือคุณมองไม่ออก ว่าไอคนนี้มันมีความแค้นกับฉัน?” ตู้เฟยขมวดคิ้ว พลางถามโจวเจ๋ด้วยความไม่พอใจ พวกพ้องของตัวเอง เชิญศัตรูของตัวเองมาดื่ม เพื่ออะไร?

โจวเจ๋หัวเราะ ก่อนจะขับออกไป และไม่ได้สนใจตู้เฟยอีก

“ให้ตายเถอะ คนนามสกุลโจวเนี่ย คุณหมายความว่าอะไร!” ตู้เฟยด่าออกมา แต่โจวเจ๋กลับไม่ได้ยินอะไร

“พี่เจ๋ ทำไมคุณต้องเชิญถังหยู่ซวนไปดื่มด้วยล่ะ?พวกเราไม่ได้สนิทกับเขาเสียหน่อย” จางเชี่ยนนั่งอยู่ข้างคนขับ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“เชี่ยนเชี่ยน คุณว่า คุณชายแบบไหน ถึงจะเหมาะกับรถยี่สิบล้านคันนั้น?” โจวเจ๋ถามขึ้นด้วยความสนใจ

“อย่างน้อยต้องมีค่าตัวสักร้อยล้านพันล้านได้มั้ง?” จางเชี่ยนยิ้มพลางตอบ

จากนั้น จางเชี่ยนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมามีท่าทีตกใจ: “พี่เจ๋ คุณกำลังจะบอกว่าค่าตัวของถังหยู่ซวนมีค่าตัวเป็นพันๆ ล้านเลยเหรอ?”

“ไม่ใช่แค่พันล้านหรอก” โจวเจ๋ยิ้มมุมปาก: “เมื่อครู่ฉันไปสืบมา คนที่จองปอร์เช่918นี่ ก็คือเศรษฐีลึกลับนั่นเอง”

“ก็หมายความว่า ถังหยู่ซวนมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นลูกชายของเศรษฐีลึกลับ” โจวเจ๋พูดด้วยรอยยิ้ม

“ฉันเคยได้ยินมาก่อน ว่าเศรษฐีลึกลับน่ะมีลูกอยู่ที่ตงไห่ ดูๆ ไปแล้วน่าจะเป็นถังหยู่ซวนคนนี้นี่แหละ” โจวเจ๋พูดด้วยความมั่นใจ

“เป็นเขางั้นเหรอ?” จางเชี่ยนเหม่อไป

“ใช่สิ ต้องเป็นเขา” โจวเจ๋หัวเราะด้วยความเย็นชาก่อนจะพูดว่า: “ไอโง่ตู้เฟยน่ะ มันซวยแล้วล่ะ”

“เขาไปปหาเรื่องถังหยู่ซวน ก็เหมือนไปหาเรื่องเศรษฐีลึกลับ ฉันว่านะ การร่วมมือของตระกูลตู้กับเศรษฐีลึกลับนั้น คงจะมีความล้มเหลวสูงแล้วล่ะ”

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โจวเจ๋ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรหาพ่อของตัวเอง

“พ่อ คุณรีบไปเอาเงินที่ให้ตู้ต้าไห่ยืมไปกลับมาเถอะ” โจวเจ๋รีบพูดต่อว่า: “ตู้ต้าไห่กำลังจะล้มละลายแล้ว”

“ลูก นี่กำลังล้อเล่นอะไรอยู่เนี่ย!ตู้ต้าไห่กำลังจะลืมตาอ้าปาก จะมาล้มละลายได้อย่างไร!”

“พ่อ เรื่องนี้ ลูกจะมาล้อเล่นกับพ่อได้อย่างไร?ตู้เฟยเพิ่งจะมีเรื่องกับลูกของเศรษฐีลึกลับไป คุณคิดว่าการร่วมงานของพวกเขาจะยังดำเนินไปได้อีกเหรอ?” โจวเจ๋พูดขึ้น

“ลูก คุณกำลังจะบอกว่า คุณรู้แล้วว่าลูกชายของเศรษฐีลึกลับเป็นใครงั้นเหรอ?” พ่อของโจวเจ๋ถามขึ้น

“หาเจอแล้ว เขาชื่อถังหยู่ซวน เมื่อครู่เพิ่งจะขับปอร์เช่918ออกมาจากร้านขายปอร์เช่ ฉันได้รับการยืนยันแล้ว ว่ารถคันนั้น เป็นรถที่เศรษฐีลึกลับจองให้เขา” โจวเจ๋พูดขึ้น

“แต่ว่าตอนนี้ ตัวตนของถังหยู่ซวน มีเพียงแค่คนเดียวที่รู้” โจวเจ๋พูดเสริม

“โอเค แบบนี้ดีเลย คุณรีบไปทำความรู้จักกับถังหยู่ซวนเอาไว้”

“วางใจเถอะ ลูกรู้ว่าต้องทำอย่างไร” โจวเจ๋หรี่ตาลง: “ตอนนี้ พวกเราตระกูลโจวกำลังจะร่ำรวยแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน