บทที่ 112 ฉันไม่ให้เกียรตินายได้ แต่นายต้องให้เกียรติฉัน
จางปิงปิงคิดไม่ถึงเลย ถังหยู่ซวนจะเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ หากรู้ตั้งแต่ต้น ตอนนั้นเธอก็คงไม่เลิกกับเขาหรอก!
เวลานี้จางปิงปิงเสียดายมาก เธอมองโจวเจ๋ กระซิบถาม: “ประธานโจว คุณว่าเราสองคนมีโอกาสคืนดีกันมั้ย?”
“มีโอกาสอยู่แล้ว ฉันเดาว่าเจ้าถังหยู่ซวนแปดสิบแปดเซ็นคงยังไม่ลืมเธอแน่เลย เมื่อกี้ตอนที่เขามองเธอ สายตานั้นค้างไปเลย นั่นหมายความว่าในใจเขายังมีเธออยู่” โจวเจ๋พูดด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
“ยังมีอีกนะ หากไม่ใช่เพราะเธอเขาทำไมถึงต้องเล่นงานจ้าวเหลย เธอว่าใช่มั้ย?” โจวเจ๋กล่าว
จางปิงปิงคิดไปคิดมา ก็เป็นเหตุผลนี้เหมือนกัน แต่เธอมีความกังวลเล็กน้อย: “แล้วจ้าวเหลยจะทำยังไง?”
“ปิงปิง เธอมันโง่เหลือเปล่า หากพูดถึงฐานะ ถังหยู่ซวนคนนี้ตัวเขามีมูลค่ากว่าหมื่นล้าน มูลค่าของจ้าวเหลยมากสุดก็แค่หลับสิบล้าน ทั้งสองคนต่างกันพันเท่า หากพูดถึงหน้าตา ถังหยู่ซวนคนนี้ก็หล่อเท่กว่า แต่จ้าวเหลยละ พุงก็ใหญ่ ยังไม่ถึงสามสิบเลย หัวก็เริ่มจะล้านแล้ว เธอสองคนเดินอยู่ด้วยกัน คนอื่นต้องนึกว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าเงิน ที่ถูกเลี้ยงไว้ หากต่อไปเธอกลายเป็นบุคคลสาธารณะ มันก็มีผลต่อภาพลักษณ์ของเธอเป็นอย่างมาก” โจวเจ๋กล่าว
“ดังนั้น ฉันของเตือนเธอเลย ทิ้งจ้าวเหลยซะ แล้วไปให้ท่าถังหยู่ซวน ขอเพียงเธอสามารถทำให้เขาเป็นของเธอ ถึงเวลาเธอก็จะรวยแล้วนะ” โจวเจ๋ยิ้มให้กับจางปิงปิง
จางปิงปิงขมวดคิ้วเข้าหากัน ก็ยังคงมีความลังเลอยู่บ้าง เพราะเธอไม่แน่ใจว่าถังหยู่ซวนจะกลับมาคบกับเธออีกหรือเปล่า
“หากไม่สามารถให้ท่าสำเร็จจะทำยังไงละ?” จางปิงปิงพูดสิ่งที่ตัวเองกังวลออกมา
“ปิงปิง ในโลกนี้ไม่มีแมวที่ไม่กินปลาหรอกนะ ผู้ชายคนไหนไม่เจ้าชู้บ้าง รูปร่างหน้าตาเธอออกจะเซ็กซี่ หากเป็นผู้ชายไม่มีใครปฏิเสธเธออย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นแฟนเก่าเธออีก?” โจวเจ๋พูดโน้มน้าว
“ใช่แล้ว คุณเป็นรักแรกของเขาใช่มั้ย?” โจวเจ๋ถามไปหนึ่งประโยค
จางปิงปิงพยักหน้า
“งั้นยิ่งมีโอกาสมาก ผู้ชายนะ ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงแฟนคนแรกที่เขารัก ถึงแม้จะแต่งงาน ผู้ชายทุกคนก็จะเหลือที่ในใจสำหรับแฟนคนแรกไว้” โจวเจ๋หัวเราะ ยิ่งมีความมั่นใจขึ้น
โจวเจ๋คิดในใจ หากถังหยู่ซวนคบกับดาราที่อยู่ในสังกัดของตัวเขาเอง เงินลงทุนกว่าหมื่นล้านก้อนนั้น โอกาสที่จะมาลงในบริษัทของตัวเองนั้นมีมากขึ้น
จางปิงปิงรวบรวมความกล้า กำลังจะเดินไปทางถังหยู่ซวนนั้น จ้าวเหลยก็กลับมาพอดี
ท่าทางของจ้าวเหลยนั้นดูแล้วน่ากลัว เดินไปถึงหน้าของถังหยู่ซวนอย่างรวดเร็ว ตอนแรกโจวเจ๋นึกว่าจ้าวเหลยจะกลับมาทำร้ายถังหยู่ซวนสักอีก ทำให้เขาตกใจมาก
โจวเจ๋ตะโกนอย่างเสียงดัง: “จ้าวเหลย นายจะทำอะไร? หากนายกล้าทำร้ายพี่ถัง ฉันจะไม่มีทางปล่อยนายไปแน่!”
จ้าวเหลยมาถึงตรงหน้าของถังหยู่ซวน หยุดฝีเท้าลง เขาหายใจลึกๆ ไปหลายที แล้วกล่าว: “พี่เจ๋ พี่เข้าใจผมแล้ว ผมจะทำร้ายพี่ถังได้ยังไง? ผมกลับมาเพื่อจะมาดื่มเหล้าที่เหลืออีกแปดแก้วให้หมด”
“พี่ถัง ขอเพียงพี่สามารถอภัยให้น้องคนนี้ เหล้านี้ ผมจะดื่ม!” จ้าวเหลยได้ตัดสินใจไปแล้ว ต่อให้ต้องดื่มจนเสียสุขภาพ ต้องเข้าโรงพยาบาล เขาก็จะดื่ม
เพราะหากจ้าวเหลยไม่ดื่ม เขาก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย
จ้าวเหลยเป็นลูกคนรวยที่ไม่เอาไหน เพียงแค่ไปจากจ้าวโหย่วฉาย เขาเพียงแค่มีชีวิตอยู่ต่อยังลำบากเลย!
จ้าวเหลยยกแก้วเหล้าขึ้น ดื่มแก้วละหนึ่งอึก แก้วละหนึ่งอึก ดื่มติดต่อกันไปสามแก้ว เขาก็ไม่ไหวแล้ว รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อไปอาเจียนออก
ถังหยู่ซวนมองแล้วก็หัวเราะเห่อๆ : “ไอ้เหี้ยนี้มันไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ?”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส: “ช่างมัน มันจะดื่ม ก็ให้มันดื่มเลย”
“เมื่อกี้โจวเจ๋กับจางปิงปิงกระซิบคุยกันไปตั้งเยอะ ฉันเดา โจวเจ๋เขาคิดอยากใช้แผนสาวงามเพื่อใช้จางปิงปิงมาล่อนาย” หลี่ฝางหัวเราะ กดไปที่หัวไหล่ของถังหยู่ซวนแล้วถาม จะต้านทานไหวมั้ยเนี่ย?
ถังหยู่ซวนยิ้มได้ซับซ้อนมาก: “พูดตามตรง ฉันหมดใจกับเธอแล้ว เพราะตอนที่เลิกกัน เธอทำให้ฉันเจ็บปวดมาก”
“เพียงแต่หากเธอจะมาใช้แผนสาวงามกับฉันจริงๆ ฉันก็กลัวว่าจะต้านทานไม่อยู่เหมือนกัน ไม่ว่ายังไงหลายปีที่ผ่านมา เธอเป็นจินตนาการของฉันมาโดยตลอด” ถังหยู่ซวนกล่าว
หลี่ฝางพยักหน้า: “งั้นเมื่อเธอมาแล้วก็อย่าปฏิเสธ”
“ในเมื่อเธอใส่พานมาถวายด้วยตัวเอง แล้วทำไมพวกเราต้องปฏิเสธ?” หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูถูก: “ที่Recalling the pastชั้นบนมีห้องวีไอพีที่มีเตียง หากเธอรุกมากเกินไป นายก็พาเธอขึ้นไปชั้นบนเลย”
ถังหยู่ซวนกลืนน้ำลายไปสองสามที ตื่นเต้นไม่น้อย: “ไม่ปิดบังนาย หลี่ฝาง จริงๆ แล้วฉันยังบริสุทธิ์อยู่”
“แม่งเอ๊ย ไม่ใช่มั้ง?” หลี่ฝางสะดุ้งตกใจ: “วันๆ นายก็อยู่แต่ในแหล่งสถานบันเทิงไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างนายอยู่ในสังคมมาก็หลายปีแล้ว ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงเลยเหรอ?”
“ไม่เคย” ถังหยู่ซวนส่ายหัว แล้วกล่าว: “ไม่เคยจริงๆ”
“ฉันติดตามต้าเฉียง เงินเดือนเดือนหนึ่งยังไม่ถึงสองพันหยวนเลย เงินแค่นี้ ลำพังจะเลี้ยงตัวเองให้รอดยังไม่พอเลย ปกติยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทางบ้านด้วยเลย จะมีเงินที่ไหนไปเที่ยวสาวอีก?”
ถังหยู่ซวนมุ่ยปากแล้วกล่าว: “อีกอย่างก็คือฉันใจเสาะ กลัวติดโรค ไม่กล้าไปเที่ยวผู้หญิง เมื่อปีที่แล้วเพื่อนร่วมงานฉันคนหนึ่งไปเที่ยวผู้หญิง ก็ติดโรคเลย ร่างกายเต็มไปด้วยตุ่ม น่าขยะแขยงมาก ทำให้ฉันกลัวมากเลย”
“จากนั้นเป็นต้นมา ในใจฉันก็กลัวมาตลอด ไม่กล้าไปเที่ยวผู้หญิง และก็ไม่กล้าไปมีอะไรกับผู้หญิงที่มั่วเซ็กส์ จนมาถึงวันนี้ ฉันยังเป็นผู้ชายที่บริสุทธิ์อยู่เลย”
“งั้นก็ยิ่งดีเลยไม่ใช่เหรอ? พอดีผู้ชายบริสุทธิ์อย่างนาย ให้แฟนเก่านายเป็นคนจัดการนายเลย นายคงไม่รังเกียจเธอหรอกมั้ง?” หลี่ฝางถามไปหนึ่งประโยค
ไม่รังเกียจหรอก ถังหยู่ซวนส่ายหัว
เวลานี้ จ้าวเหลยก็กลับมาแล้ว เขาก็พยายามฝืนดื่มไปอีกสามแก้ว จนไม่ไหวแล้วจริงๆ แม้แต่ยืนก็ยังยืนไม่ไหวเลย
“พี่ถัง จ้าวเหลยเมาจนไม่ไหวแล้ว ผมว่าส่งเขาไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า” โจวเจ๋เดินเข้ามาพูด: “ไม่อยากนั้นหากเกิดเรื่องมันก็ไม่ดีกับใครเลย”
ถังหยู่ซวนพยักหน้า แล้วพูด: “ได้ เอาตัวเขาไปเลย เห็นเขาแล้วก็รำคาญ”
ถังหยู่ซวนกวักมือเรียกโหจื่อ ให้เขามาแบกจ้าวเหลยไปที่ห้องพัก ก่อนที่โหจื่อจะแบกจ้าวเหลยไปนั้น ยังได้พูดกับถังหยู่ซวนไปประโยคหนึ่ง: “ได้ครับ ผู้จัดการ”
ผู้จัดการ? ประโยคนี้ถูกโจวเจ๋ได้ยินเข้า ยิ่งทำให้ตัวเองมั่นใจในฐานะของถังหยู่ซวนเข้าไปอีก
“ปิงปิง ยังไม่รีบมาดื่มให้กับพี่ถังอีก?” หลังจากที่จ้าวเหลยถูกแบกไปแล้ว โจวเจ๋ก็เรียกปิงปิงมา ให้เธอนั่งตรงหน้าของถังหยู่ซวน
“พี่ซวน มา เราสองคนมาดื่มด้วยกันหนึ่งแก้ว” จางปิงปิงมาแล้ว ก็เป็นคนริเริ่มยกแก้วแล้วกล่าว
“พี่ซวน? ถังหยู่ซวนได้ยินแล้วก็หัวเราะเจื่อนๆ : “ไม่มีคนเรียกเขาแบบนี้มาหลายปีแล้ว”
“พี่ซวน เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็อย่าไปเอ่ยถึงมันอีกเลย เรามาทำความรู้จักกันใหม่ ดีมั้ย?” จางปิงปิงริเริ่มพูดก่อน เธอไม่อยากที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ถึงอย่างไร เธอนั้นเป็นคนที่ทิ้งถังหยู่ซวนอย่างโหดร้าย
“ได้” ถังหยู่ซวนพยักหน้า ก็ดื่มกับจางปิงปิงไปหนึ่งแก้ว
และโจวเจ๋ก็ไม่ได้ทำตัวให้ว่าง เขาหันหน้ามองไปทางหลี่ฝาง พูดอย่างสุภาพ: “หลี่ฝาง เราก็มาดื่มกันหนึ่งแก้ว”
โจวเจ๋ไม่ใช่คนโง่ ความสัมพันธ์ของหลี่ฝางกับถังหยู่ซวนนั้นแนบแน่นมาก ดังนั้น เมื่ออยากจะเอาใจถังหยู่ซวน ก็ต้องห้ามล่วงเกินหลี่ฝาง
ท่าทีที่โจวเจ๋ปฏิบัติต่อหลี่ฝางก็ดีขึ้นมาทันที
“ได้สิ เพียงแต่แก้วเดียวมันจะน้อยไปมั้ย?” หลี่ฝางเลิกคิ้ว แล้วกล่าว
“งั้นนายจะดื่มกี่แก้วละ?” โจวเจ๋ตอบด้วยความอิ่มเอมใจ
“เป็นครั้งแรกที่เราสองคนดื่มกันในฐานะเพื่อน ดื่มน้อยไปมันก็ไม่ดีมั้ง ไม่งั้น เราก็ดื่มหนึ่งปีละกัน?” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว ดื่มหนึ่งปีก็หมายถึงต้องดื่มสิบสองแก้ว
“ฉันเพิ่งจะดื่มไปสิบสองแก้ว ก็จะต้องดื่มอีกสิบสองแก้ว………” โจวเจ๋ขมวดคิ้ว รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
“ดื่มไม่ไหวก็ไม่ต้องดื่ม” หลี่ฝางเพิ่งจะยกแก้วเหล้าขึ้น ก็ได้วางลงไป
“ได้ ฟังนายละกัน ดื่มสิบสองแก้ว” เพื่อที่จะทำดีกับหลี่ฝาง โจวเจ๋ตัดสินใจสู้แล้ว
“เพื่อนเราดื่มให้นายก่อน!” พูดจบ โจวเจ๋ก็ยกแก้วเหล้าขึ้น ดื่มหมดไปทีเดียว
เหล้าหนึ่งแก้วดื่มจนหมดจด โจวเจ๋มองไปที่หลี่ฝาง แล้วกล่าว: “ถึงนายแล้ว”
หลี่ฝางเพียงแค่ยกขึ้นมาจิบๆ ก็วางแก้วเหล้าลงแล้วกล่าว: “ถึงนายอีกแล้ว”
“แบบนายก็นับหนึ่งแก้วเหรอ?” โจวเจ๋ขมวดคิ้ว มีความโกรธเล็กน้อย
“คอฉันไม่ค่อยแข็ง หากไม่เชื่อ นายถามถังหยู่ซวนดูสิ” หลี่ฝางตบที่บ่าของถังหยู่ซวนเบาๆ จากนั้นก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้กับเขา
“โจวเจ๋ น้องชายฉันคอไม่แข็ง ตอนนี้นายสองคนดื่มกัน นายดื่มเยอะหน่อย ให้เขาดื่มเป็นพิธีก็พอ” ถังหยู่ซวนพูดกับโจวเจ๋
“ก็……….ได้” โจวเจ๋พยักหน้ารับ
“โจวเจ๋ ถึงนายอีกแล้ว แก้วที่สอง” หลี่ฝางยิ้มอย่างชั่วร้าย
โจวเจ๋ยกแก้วเหล้าขึ้นมา ดื่มไปครึ่งหนึ่งก็วางลง
หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว มองโจวเจ๋อย่างเย็นชา: “นายไม่ให้เกียรติฉัน?”
“โจวเจ๋ นายหมายความว่าไงเนี่ย มีที่ไหนดื่มเหล้าดื่มแค่ครึ่งแก้ว ทำไม ดูถูกน้องชายฉันใช่มั้ย?” ถังหยู่ซวนหันหน้ามา มองโจวเจ๋อย่างโกรธเคือง
“หากนายเป็นแบบนี้ พวกเราก็จะไปแล้วนะ!” ถังหยู่ซวนกับหลี่ฝางลุกขึ้นพร้อมกัน ทำท่าเหมือนจะไป
โจวเจ๋ลนลานทันที รีบห้ามไว้: “ฉันดื่ม ฉันดื่มให้หมดเลย!”
ขณะที่พูด โจวเจ๋ก็ยกแก้วดื่มหมดไปในทีเดียว หลี่ฝางหัวเราะเห่อๆ จึงได้นั่งลงไปใหม่
หลี่ฝางคิดในใจ ฉันไม่ให้เกียรตินายได้ แต่นายต้องให้เกียรติฉัน!