NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 113

ตอนที่ 113

บทที่ 113 ยอมรับว่าตัวเองเป็นลูกมหาเศรษฐี

“แก้วนี้ไม่นับ!” หลี่ฝางได้เทแก้วใหม่ให้กับโจวเจ๋

เมื่อกี้โจวเจ๋ยังอยากที่จะทำดีกับหลี่ฝาง แต่เวลานี้ เขายอมแพ้แล้ว

โจวเจ๋คิดแค้นอยู่ในใจ รอก่อนเถอะ รอให้จางปิงปิงกับถังหยู่ซวนคืนดีกัน ดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง!

หลี่ฝางดื่มไปทั้งหมดไม่ถึงแก้ว แต่โจวเจ๋นั้นดื่มต่อเนื่องจนครบสิบสองแก้ว หลังจากดื่มเสร็จ รถพยาบาลก็มาถึงพอดีเลย เขาก็มุดเข้าไปในรถพยาบาลด้วย เพียงแต่ก่อนที่จะไป เขายังคงสั่งการจางปิงปิง: “ไม่ว่ายังไง คืนนี้ต้องจัดการถังหยู่ซวนให้สำเร็จ”

โจวเจ๋จากไปไม่นาน ดารากลุ่มนั้นก็ทยอยกันกลับไป

หลี่ฝางก็ลุกขึ้น เดินไปมายังเคาน์เตอร์แคชเชียร์

“เสี่ยวฝาง นายจะให้พ่อหนุ่มน้อยคนนั้นเป็นผู้จัดการที่นี่จริงเหรอ?” ลุงเฉียนมองหลี่ฝาง หัวเราะขึ้นมา

หลี่ฝางพยักหน้า: “ผมอยากจะช่วยเขาสักครั้ง”

“คุณไม่คิดว่าการตัดสินใจนี้รีบร้อนเหรอ?” ลุงเฉียนยิ้มๆ กล่าว: “ธุรกิจก็คือธุรกิจ ไม่ควรเอามิตรภาพมาเกี่ยวข้องด้วย คุณต้องเข้าใจเหตุผลข้อนี้ด้วย”

“แค่ร้านเหล้าร้านหนึ่งมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่ว่าธุรกิจหลายหมื่นล้านของพ่อคุณ อีกหน่อยก็ต้องยกให้คุณ คุณคงจะไม่ทำเล่นๆ แบบนี้อีกใช่มั้ย” ลุงเฉียนกล่าว

หลี่ฝางกล่าวขึ้น: “ไม่ได้อยู่แล้ว ผมเพียงแต่รู้สึกว่าที่บาร์มีลุงเฉียนอยู่ ก็จะไม่มีปัญหาใหญ่มากมายอะไร”

“อีกอย่าง ถึงแม้ว่าถังหยู่ซวนจะมาเป็นผู้จัดการที่นี่ แต่เรื่องการเงินของที่นี่ การบริหาร ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นลุงเฉียนที่ควบคุมมันอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว

อย่าว่าแต่ถังหยู่ซวนเลย แม้แต่หลี่ฝาง ก็แค่เป็นเถ้าแก่ในนามเท่านั้น คนที่บริหารจัดการจริงๆ ก็คือลุงเฉียน

หลี่ฝางมีหน้าที่เพียงเพลิดเพลินกับผลงานของเขาเท่านั้น

“ใช่แล้ว แผนการของคุณ คุณพ่อคุณได้บอกกับลุงแล้ว”

ลุงเฉียนมองหลี่ฝางแล้วพยักหน้า: “แผนการใช้ได้ ลุงยินดีเป็นตัวแทนของคุณพ่อคุณ”

“แต่ว่า คุณได้บอกถังหยู่ซวนหรือยัง?”

“ผมยังไม่ได้บอกเขาเลย” หลี่ฝางกล่าว: “ตอนนี้มีเพียงโจวเจ๋คนเดียวเท่านั้นที่คิดว่าถังหยู่ซวนคือผม”

พูดจบ หลี่ฝางส่ายหัว: “จริงๆ ผมคิดได้ไม่รอบคอบ ผมกลัวว่ามันจะเป็นการทำร้ายถังหยู่ซวน”

“หากคนอื่นคิดว่าเขาเป็นลูกชายมหาเศรษฐีหลายหมื่นล้านจริง แล้วจับตัวเขาไปเรียกค่าไถ่จะทำยังไง?” หลี่ฝางถามอย่างกังวล

“จุดนี้คุณสบายใจได้เลย ลุงไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด ลุงเฉียนหัวเราะแล้วกล่าว ลุงสามารถจัดบอดี้การ์ดมาคุ้มครองความปลอดภัยของเขาโดยเฉพาะ”

“งั้นผมก็จะไม่ได้ต้องกังวลอีก” หลี่ฝางยิ้มๆ แล้วกล่าว

และในเวลานี้ จางปิงปิงเหมือนจะดื่มเยอะไปหน่อย ถังหยู่ซวนจับแขนของเธอเอาไว้ ช่วยพยุงเธอเอาไว้

“หลี่ฝาง ชั้นไหนเหรอ” หลังจากที่ถังหยู่ซวนเดินเข้ามาแล้ว ก็ถามอย่างรีบร้อน

หลี่ฝางกวักมือเรียกโหจื่อ แล้วกล่าว: “พาเขาทั้งสองคนไปเปิดห้องหน่อย”

โหจื่อพยักหน้า จากนั้นก็พาถังหยู่ซวนขึ้นไปชั้นบน

“สาวน้อยคนนี้แกล้งเมานะ” หลังจากที่ถังหยู่ซวนจากไป ลุงเฉียนหัวเราะแล้วส่ายหัว

หลี่ฝางก็พยักหน้าเช่นกัน: “ผมก็รู้สึกเหมือนกัน”

“เพียงแต่ว่าถังหยู่ซวนเป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรที่ต้องเสียเปรียบ” หลี่ฝางพูดอย่างดูถูก

“ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ถังหยู่ซวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ ทางที่ดีคุณเตือนเขาหน่อย” ลุงเฉียนกล่าว: “หนุ่มๆ อย่างพวกคุณ มักจะเสียท่าให้กับผู้หญิง”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วถามขึ้น: “ที่บาร์เรายังมีเงินมั้ย?”

“มีสิ” ลุงเฉียนพยักหน้า แล้วถาม: “ทำไมเหรอ คุณต้องการใช้เงินเหรอ?”

“ผมอยากซื้อรถสักคัน ปอร์เช่ 918 มันดูไฮคลาสเกินไป ให้ถังหยู่ซวนขับก่อนชั่วคราวละกัน” หลี่ฝางกล่าว

“บัญชีที่บาร์ยังมีเงินเท่าไหร่?” หลี่ฝางถามไปหนึ่งประโยค

“ยังมียี่สิบกว่าล้านหยวนมั้ง” ลุงเฉียนดูก็ไม่ได้ดู ก็พูดออกมาโดยตรง

“เท่าไหร่นะ?” หลี่ฝางอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมเยอะขนาดนี้

“ลุงเฉียน ลุงเข้าใจผิดหรือเปล่า บาร์เหล้าของเราเพิ่งเปิดมาไม่ถึงเดือน ยอดเงินในบัญชี ก็มียี่สิบกว่าล้าน?” หลี่ฝางถามอย่างประหลาดใจ

“ยังมีอีก สองสามวันก่อนก็ได้ส่งไปให้จางกงหมิงสามล้านแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังเหลือเยอะขนาดนี้” หลี่ฝางถาม

สีหน้าของลุงเฉียนแปลกเล็กน้อย: “อาจจะเป็นเพราะว่าการค้าของร้านเราค่อนข้างที่จะดีมั้ง”

ลุงเฉียนเพิ่งจะรู้ตัว ข้างในยี่สิบล้านนี้ ได้รวมเงินที่โหจื่อไปปล้นมากอีกสิบกว่าล้าน

หลี่ฝางได้ให้หมายเลขบัญชีกับลุงเฉียนไว้ ลุงเฉียนบอกว่าต่อไปนี้คิดบัญชีกันสัปดาห์ละครั้ง เงินที่ได้กำไลจะโอนเข้าบัญชีของหลี่ฝาง

หลี่ฝางหาที่ที่หนึ่งนั่งลงไป ไม่นานนักถังหยู่ซวนก็ลงมา

“เสร็จแล้วเหรอ?” เห็นถังหยู่ซวนที่ลงมาเร็วขนาดนี้ หลี่ฝางแปลกใจมาก

“เสร็จแล้ว ถังหยู่ซวนพูดอย่างเขินอาย: “แค่ไม่กี่วินาทีก็เสร็จแล้ว”

“ขนาดนี้แล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วกล่าว

ถังหยู่ซวนพูดอย่างหดหู่ใจ: “ฉันรู้สึกเสียดายนิดหน่อย เธอมันก็แค่ผู้หญิงเน่าๆ คนหนึ่ง”

“ผู้หญิงเน่า?”

“ใช่ เมื่อกี้ฉันยังนึกว่าเธอเมาจริงๆ เสียอีก แต่ว่าเมื่อถึงห้อง ฉันถึงรู้ว่าฉันคิดผิด” ถังหยู่ซวนขมวดคิ้วกล่าว: “เธอไม่ได้เมาเลย เมื่อกี้เธอก็เป็นฝ่ายที่รุกหนัก”

“เธอเป็นฝ่ายรุกนายยังไม่พอใจอีกเหรอ?”

“ใช่ เธอยิ่งรุก ฉันก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยง เดิมทีฉันนึกว่าเธอจะอายเสียอีก ถึงอย่างไรเราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึง……..” ถังหยู่ซวนพูดด้วยสีหน้าที่หดหู่ใจ: “เหมือนผู้หญิงขายบริการเลย”

“มีบุหรี่มั้ย? ให้ฉันหนึ่งมวน” ถังหยู่ซวนที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดแล้วกล่าว

“แม่งเอ๊ย ถังหยู่ซวน ถ้าแกล้งขอให้ฟ้าผ่านาย” หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนอย่างดูถูก

“เฮ้ย ฉันไม่ได้แกล้ง ฉันเกลียดที่จางปิงปิงที่เป็นแบบนี้มาก หากผู้หญิงคนอื่นเป็นแบบนี้ ฉันคงไม่ถือ แต่ปัญหาคือเธอ………………” ถังหยู่ซวนที่ขมวดคิ้วได้กล่าวขึ้น: “เมื่อก่อนเธอไม่เป็นแบบนี้ ตอนที่เรียนหนังสือ เธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์ เขินอายเป็น หน้าแดงเป็น…….”

“คนเรามันเปลี่ยนกันได้” หลี่ฝางยิ้มๆ ปลอบใจถังหยู่ซวน

เวลานี้ หลี่ฝางก็คิดถึงเชี่ยลู่ขึ้นมา เชี่ยลู่ก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน?

ยื่นบุหรี่ให้ถังหยู่ซวนไปหนึ่งมวน จากนั้นสีหน้าของหลี่ฝางก็จริงจังขึ้นมาทันที: “ถังหยู่ซวน นายไปที่ห้องทำงานกับฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”

“เรื่องอะไรเหรอ ยังต้องไปคุยที่ห้องทำงาน………..” ใบหน้าของถังหยู่ซวนเต็มไปด้วยความสงสัย

หลังจากที่มาถึงห้องทำงานแล้ว หลี่ฝางก็ปิดประตู แล้วกล่าว: “ถังหยู่ซวน นายก็รู้ ว่าร้านเหล้าร้านนี้เป็นของฉัน”

“ฉันรู้นานแล้วนี่” ถังหยู่ซวนพยักหน้า

“งั้นร้านเหล้าร้านนี้มีมูลค่ากว่าสองพันล้าน นายก็รู้เหรอ?” หลี่ฝางถามขึ้นอีกครั้ง

สีหน้าของถังหยู่ซวนเปลี่ยนไปทันที: “หลี่ฝาง นายมีเงินเท่าไหร่เนี่ย? แค่ร้านเหล้าหนึ่งร้านก็มีมูลค่ากว่าสองพันล้าน!”

“ต่อจากนี้ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย” หลี่ฝางกล่าว: “ช่วงนี้ที่ตงไห่มีข่าวลือที่ลือไม่หยุดข่าวหนึ่ง นั่นก็คือมหาเศรษฐีผู้ลึกลับกลับสู่ตงไห่ ซึ่งได้นำการลงทุนกว่าหมื่นล้านมาให้ตงไห่”

“ฉันคิดว่านายคงได้ยินมาบ้างแล้ว?” หลี่ฝางถาม

“ข่าวนี้มันลือกันนานแล้วนี่นา คนทั้งตงไห่ต่างรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว” ถังหยู่ซวนหัวเราะ

“มหาเศรษฐีลึกลับคนนั้น ก็คือพ่อฉัน” หลี่ฝางได้เปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเขาให้กับถังหยู่ซวน

“แม่งเอ๊ย จริงป่าวเนี่ย?” ถังหยู่ซวนตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ร้านเหล้าสองพันล้าน รถสปอตยี่สิบกว่าล้าน ยังไม่สามารถที่จะยืนยันฐานะของฉันได้อีกเหรอ?” หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนแล้วหัวเราะเจื่อนๆ รู้สึกว่าเขาช่างโง่เหลือเกิน

“นายเรียกฉันมา เพื่อที่จะมาหารือเรื่องนี้กับฉันเหรอ”

หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนอย่างจริงจัง แล้วกล่าว: “ฉันไม่อยากให้คนรู้ฐานะที่แท้จริงของฉัน หากว่าฉันไม่ปรากฏตัวเลย ช้าหรือเร็วก็จะถูกคนอื่นตรวจสอบจนรู้”

“ดังนั้น ฉันอยากที่จะหาใครสักคนมาแทนฉัน ปลอมเป็นฉัน คนคนนั้นก็คือนาย”

หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน แล้วถาม: “นายเต็มใจหรือเปล่า?”

“หลี่ฝาง นายอย่าล้อเล่นกับฉันหน่อยเลย นายให้ฉันปลอมเป็นนาย? แล้วนายจะทำไง?” ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝางด้วยใบหน้าที่สับสน

“อีกไม่กี่วันฉันก็จะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองแล้ว และนาย ก็อยู่ที่ตงไห่ เป็นลูกมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย แน่นอน รายจ่ายของนายทั้งหมด ฉันจะให้นายเบิกหมดเลย ยังมีอีก หากในมีโครงการดีๆ ที่อยากจะลงทุน ฉันก็สามารถออกทุนให้นายได้”

หลี่ฝางกล่าว: “นอกจากพวกนี้แล้ว ฉันยังจะจ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มครองนาย รับประกันความปลอดภัยของนาย”

“หลี่ฝาง ฉันทำไมรู้สึกว่าเหมือนกำลังฝันอยู่เลย” สีหน้าของถังหยู่ซวนเปลี่ยนไปอีก: “นายดีกับฉันเกินไปแล้วมั้ง”

หลี่ฝางส่ายหัว แล้วกล่าว: “นายคิดว่าเป็นลูกมหาเศรษฐีมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่แน่เป็นเพียงไม่กี่วันนายก็เบื่อแล้ว”

“วางใจเถอะ ฉันไม่เบื่อหรอก เรื่องนี้ก็ตามนี้ละกัน” ถังหยู่ซวนตอบตกลงอย่างมีความสุข

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท