NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 116

ตอนที่ 116

บทที่ 116 ตู้ต้าไห่ล้มละลาย

เห็นหนังสือการแจ้งเข้าเรียนที่อยู่ในมือหลี่ฝาง ตู้เฟยก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แย่งมันมาจากในมือ แล้วนำไปเทียบกับของตัวเอง

เป็นของจริงเหรอเนี่ย?

ตู้เฟยอึ้งไปทันที เขาคิดในใจ หลี่ฝางสอบได้แค่สี่ร้อยกว่าคะแนน ทำไมถึงถูกมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เลือกล่ะ?

มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมือง คะแนนต่ำสุดที่จะสามารถเข้าไปเรียนได้ต้องได้หกร้อยห้าสิบกว่าคะแนน!

“เป็นได้ได้ยังไง?” สีหน้าของตู้เฟยกระอักกระอ่วนมาก

เดิมทีเขาอยากใช้โอกาสนี้ทำให้หลี่ฝางอับอาย แต่ใครจะไปรู้ หลี่ฝางกลับได้เลือกให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่แล้ว

ตู้เฟยมองหลี่ฝาง แล้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ: “นายทำไมถึงได้รับหนังสือแจ้งการเข้าเรียนของสุ่ยมู่ละ? เป็นไปไม่ได้!”

“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ละ นายเสียเงินเข้าไปได้ ฉันก็เสียเงินเข้าไป้ได้เหมือนกัน” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว

“ไอ้ขี้โม้!” ตู้เฟยนั้นเข้าใจดีมาก มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่นั้นไม่ใช่แค่เสียงเงินก็สามารถเข้าไปเรียนได้ ที่เขาถูกรับเลือก สาเหตุหลักก็เพราะว่ามีคุณน้าเป็นประธาน

“พี่เฟย พี่เอาโควตานี้ให้ผมเถอะ” จางเสี่ยวเฟิงมองหนังสือแจ้งการเข้าเรียนโดยไม่กะพริบตาเลย

“ให้แม่มึงดิ!”

ตู้เฟยโกรธมาก เขาได้เก็บหนังสือแจ้งการเข้าเรียนแล้ว ก็เดินจากไปทันที

“ไปแล้วเหรอ? กับข้าวยังมาไม่ครบเลย” หลี่ฝางหัวเราะเย้ย

“ครั้งนี้ตู้เฟยขายหน้าอย่างมาก เขาดูถูกหลี่ฝางมาโดยตลอด กลับคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะถูกรับเลือกจากมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ แล้วยังได้ซื้อรถเบนซ์จิ๊บอีกด้วย”

จริงๆ แล้วในห้องมีคนมากมายที่ไม่ค่อยชอบตู้เฟย เห็นว่าตัวเองมีเงิน ก็มักจะแกล้งคนโน้นคนนี้ ทำราวกับว่าในโลกนี้เขาเก่งที่สุด

“หลี่ฝาง นายเสียเงินเท่าไหร่ถึงเข้าสุ่ยมู่ได้?” เพื่อนในห้องคนหนึ่งที่ชื่อหวางกางถามอย่างสงสัย

“ฉันก็ไม่ พ่อฉันเป็นคนจัดการทั้งหมด” หลี่ฝางไม่รู้จริงๆ ว่าหลี่ต๋าคางจัดการยังไง แต่มันก็น่าจะเสียเงินไปไม่น้อย

“พ่อนายโคตรเจ๋งเลยอะ” หวางกางได้ยกนิ้วให้กับหลี่ฝาง

หลังจากที่ตู้เฟยจากไป เพื่อนในห้องเรียนก็เริ่มที่จะมาประจบประแจงหลี่ฝาง ยังอยากจะนั่งรถเบนซ์จิ๊บของเขาอีก แต่ว่าล้วนถูกหลี่ฝางปฏิเสธไปหมดเลย

ขณะนั้นก็มีเพื่อนนักเรียนมากมายก็พูดออกมาตรงๆ : “หยิ่งอะไรนักหนา ก็แค่ดวงดีเท่านั้นเอง ที่บ้านขายที่ได้แปลงหนึ่ง”

“ใช่ไง เป็นเพื่อนเรียนกันมาหลายปี นั่งรถนายหน่อยจะเป็นไรไป? ช่างขี้เหนียวจริงๆ”

หลี่ฝางหัวเราะเห่อๆ จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าขี้เหนียว เพียงแต่เขารู้สึกว่า คนพวกนี้ช่างไม่จริงใจเสียเลย ตอนที่ตู้เฟยอยู่นั้น ไม่พูดกับตัวเองแม้แต่คำเดียว ตู้เฟยไปแล้ว ก็เข้ามาใกล้ชิดตีสนิทตัวเอง แล้วก็มาถามว่าสามารถจะนั่งรถเบนซ์จิ๊บของตัวเองหรือเปล่า?

ตั้งแต่แรกพวกเธอไปไหนกันหมดเหรอ?

หลี่ฝางหัวเราะ ก็ได้ลุกขึ้นเดินจากไป

เวลานี้ เชี่ยลู่ได้ดึงมือของหลิวเฉียวเฉียว ก็ลุกขึ้นเดินออกมาเหมือนกัน

เมื่อถึงหน้าประตูโรงแรม หลี่ฝางเห็นตู้เฟย

ตู้เฟยนั่งอยู่หน้าประตูโรงเรียน กำลังสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าที่หดหู่ ข้างกายเขา ยังยืนอยู่ด้วยบอดี้การ์ดสองคน

เมื่อเห็นหลี่ฝางออกมา ตู้เฟยก็ลุกขึ้นทันที ทิ้งบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือลงพื้นอย่างรุนแรง

“เย็ดแม่เอ๊ย ในที่สุดก็ออกมาแล้ว”

ตู้เฟยพูดอย่างเย็นชา พาลูกสมุนสองคนของเขามาถึงหน้าของหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง นายชนรถของฉันพัง วันนี้ยังคิดจะกลับไปเหรอ?” ตู้เฟยหัวเราะ

“ชนรถของนายพัง ฉันชดใช้ให้นายก็ได้แล้ว” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส: “นายอยากได้เงินเท่าไหร่ พูดมาเถอะ”

“เงิน? นายเห็นฉันเหมือนคนขาดเงินเหรอ?”

ตู้เฟยขมวดคิ้วขึ้น ยกมือส่งสัญญาณให้กับลูกสมุนสองคนที่อยู่ข้างหลัง: “ตีขามันให้หักไปเลย!”

ลูกสมุนสองคนกำลังจะลงมือ ข้างในโรงแรมก็มีคนกลุ่มหนึ่งกรูกันออกมา เป็นลูกน้องของพี่หมาจื่อ

“พี่หมาจื่อ พี่มาแล้ว” หลี่ฝางยิ้มอย่างดีใจ รีบเข้าไปต้อนรับ

พี่หมาจื่อพยักหน้า มองดูลูกสมุนสองคนนั้น: “มีฉันอยู่ ฉันจะดูว่าใครจะกล้าแตะต้องนาย!”

ด้านหลังของพี่หมาจื่อมีคนติดตามมาห้าหกคน อีกอย่างแต่ละคนล้วนโหดเหี้ยมมาก รูปร่างสูงใหญ่ ลูกสมุนสองคนนั้นหดหัวทันทีเลย

“พวกนายเป็นคนที่หลี่ฝางเสียเงินจ้างมาใช่มั้ย?”

ตู้เฟยกล่าวอย่างเหยียบหยาบ: “เขาให้เงินพวกแกเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายสองเท่า”

“สามารถบอกพวกแกโดยไม่ปิดบัง พ่อฉันก็คือตู้ต้าไห่ เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของตงไห่” ตู้เฟยพูดอย่างโอ้อวด

“ตู้ต้าไห่? ตอนนี้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตงไห่จริงๆ แต่เขาไม่ใช่นักธุรกิจ” พี่หมาจื่อหัวเราะเห่อ แล้วกล่าว: “นายยังไม่รู้มั้ง เพิ่งจะเมื่อกี้เอง บริษัทพ่อนายล้มละลายแล้ว”

“มั่วแล้ว วันนี้พ่อฉันกำลังจะเซ็นสัญญากับมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ จะล้มละลายได้อย่างไร!” ตู้เฟยไม่มีทางที่จะเชื่อ

พอดีในเวลานี้ เพื่อนนักเรียนในห้องที่ออกมา เห็นภาพนี้เข้าพอดี

“ใช่แล้ว ตู้เฟย หลี่ฝาง ทำไมนายสองคนยังไม่ไปละ ลืมบอกกับนายสองคน อาหารวันนี้พวกเราอเมริกันแชร์นะ” หวางกางวิ่งมาบอก

“ไม่ต้องแชร์แล้ว ฉันเลี้ยงเอง” ตู้เฟยพูดอย่างภาคภูมิใจ

แต่ว่าตอนที่เขารูดการ์ดนั้น ที่เครื่องรูดการ์ดขึ้นคำว่าล้มเหลว พนักงานแคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ที่สีหน้าอึดอัดกล่าวขึ้น: “สุดหล่อ นายจะเปลี่ยนการ์ดใบใหม่มั้ย การ์ดใบนี้รูดไม่ผ่าน……….”

ตู้เฟยขมวดคิ้ว แล้วรีบเปลี่ยนบัตรใบใหม่

“เหี้ย ทำไมเป็นแบบนี้ รูดไม่ผ่านอีกแล้ว!” ตู้เฟยพูดอย่างร้อนใจ

“บัตรใบนี้ของคุณไม่มีเงินค่ะ” พนักงานแคชเชียร์พูดอย่างอึดอัดใจ

“อย่ามามั่วเลย บัตรใบนี้ของกูยังมีเงินหลายแสน” ตู้เฟยด่าขึ้นมาโดยตรง

“หากมีเงินแล้วชำระไม่สำเร็จ นอกเสียจากจะถูกอายัดแล้ว” พนักงานแคชเชียร์อธิบายอย่างใจเย็น

“เป็นไปได้ยังไง? บัตรฉันจะโดนอายัดได้ยังไงกัน!” ตู้เฟยพูดอย่างลนลาน

เวลานี้ พี่หมาจื่อหัวเราะขึ้น: “เมื่อกี้ก็บอกนายแล้วนี่นา ว่าบริษัทพ่อนายล้มละลายไปแล้ว บัตรของนายเป็นบัตรเสริมที่พ่อนายทำให้ ดังนั้นจึงถูกอายัดพร้อมกันแล้ว”

“พ่อฉันจะล้มละลายได้ยังไง?” ตู้เฟยไม่เชื่อ ควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อของตัวเอง

“โทรศัพท์ของพ่อโทรไม่ติด?”

ตู้เฟยขมวดคิ้ว ตู้เฟยที่อายมองพนักงานแคชเชียร์อย่างโกรธเคือง: “เครื่องรูดการ์ดของที่นี่มีปัญหาหรือเปล่า?”

“งั้นก็ลองรูดของผมดู” หลี่ฝางยิ้มๆ ให้ยื่นการ์ดของตัวเองให้กับพนักงาน

หลังจากที่กดรหัสแล้ว ที่เครื่องรูดการ์ดก็ได้โชว์คำว่าชำระสำเร็จ

“เอาละ ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ” มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงละกัน” หลี่ฝางกล่าวอย่างไม่แยแสนัก

เวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ตู้เฟย

“พวกเธอรีบเปิดดูโซเชียล ตู้ต้าไห่ล้มละลายจริงๆ ด้วย ไม่เฉพาะบริษัทจะโดนธนาคารอายัดตรวจ เจ้าตัวเขาถึงขั้นต้องหนีการตามล่าจากพวกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบอีกด้วย!”

เวลานี้ แพลตฟอร์มของตงไห่ต่างเต็มไปด้วยโพสต์ ขอเพียงแค่เข้าไปในแพลตฟอร์ม ก็จะรู้ว่าข่าวการล้มละลายของตู้ต้าไห่

ตู้เฟยเปิดแพลตฟอร์มของตงไห่ เห็นข่าวการล้มละลายของพ่อเขาเต็มไปหมด

“พ่อของฉันโดนมหาเศรษฐีผู้ลึกลับเทแล้ว………”

หลี่ต๋าคางไม่เคยคิดที่จะมาลงทุนในเมืองตงไห่ แต่ว่าเขาได้สร้างรีสอร์ตและสวนสนุกขึ้นอย่างลับ ๆ บริเวณเขตพรมแดนของตงไห่

รีสอร์ตใช้ทุนก่อสร้างไปมากกว่าแปดพันล้านหยวน กินเที่ยวเล่นอยู่ในสถานที่เดียวกัน เหมือนเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนของทุกคน

และสวนสนุกนั้น สร้างอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มีกีฬาผจญภัยระดับสูงต่างๆ มีชิงช้าหน้าผา มีสะพานกระจก มีจังเกิ้ลไฟล์ท มีบันจี้จัมพ์และการละเล่นอื่นๆ ที่น่าหวาดเสียว

เงินลงทุนของสวนสนุกนั้นมากว่าหมื่นล้าน

โครงการแผนงานของหลี่ต๋าคางประกาศออกมา การลงทุนของตู้ต้าไห่กลายเป็นฟองสบู่ไปทั้งหมด

ที่ดินตรงเขตไฟแดงที่ตู้ต้าไห่คือกว้านซื้อ เพื่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เงินลงทุนเกือบหมื่นล้าน และเงินหมื่นล้านนี้ นอกจากกู้มากับธนาคารแล้ว ส่วนใหญ่นั้นมาจากเงินกู้นอกระบบ

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือเงินกู้นอกระบบ ล้วนกำลังตามทวงหนี้กับตู้ต้าไห่

ตู้เฟยช็อกไปเลย สมองนั้นว่างเปล่า เขาฝันยังฝันไม่ถึงเลย ตัวเองจะกลายเป็นคนที่หมดเนื้อหมดตัว

“จบแล้ว งานของฉันก็ไม่มีแล้ว” ได้เห็นข่าวนี้ สีหน้าของจางเสี่ยวเฟิงก็เศร้ามาก

ตู้ต้าไห่ล้มละลายแล้ว หัวหน้างานที่ตู้เฟยรับปากไว้ ก็ไม่มีแล้วอย่างแน่นอน

สีหน้าของเกาเสิ้งก็แย่ลงไปเรื่อยๆ ก่อนกินข้าว เขาเพิ่งจะโทรหาพ่อของตัวเอง ให้พ่อของตัวเองพาคนงานกลับมา ไปทำงานที่ไซด์งานของตู้ต้าไห่

คาดว่าตอนนี้พ่อของเกาเสิ้งน่าจะอยู่ระหว่างทางแล้ว

ตู้เฟยถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ทรุดตัวลงอยู่บนพื้น มองแล้วก็น่าสงสารไม่น้อย

“เฮ้ย” เพื่อนนักเรียนในห้องต่างมองเขาอย่างเห็นใจ

“ช่างน่าสงสารจริงๆ เมื่อกี้ยังวางมาดอยู่เลย ตอนนี้ทรุดลงไปเหมือนหนอนที่น่าสงสารเลย”

“สงสารเขาทำไม ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนเขาหัวเราพวกเรายังไง?”

“ใช่ๆ เมื่อก่อนตอนที่เขามีเงิน เขาหยิ่งผยองมาก ตอนนี้กลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัว ก็เป็นเพราะกรรมตามสนอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน