NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 128

ตอนที่ 128

บทที่128 มู่เสี่ยวไป๋มาอีกครั้ง

ทั้งสามคนเรียกรถมาที่Blue moon พบว่าเฉินโหย่วยืนอยู่ข้างเบนซ์G-Class

“ทำไมเขาอยู่นั่น?” พอลงรถ หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ถาม

หลิวเฉียวเฉียวกลัวหน่อยๆ : “เขาคงไม่รอเราอยู่มั้ง”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูถูก: “กลัวอะไร อย่างมากก็โทรหาพี่หมาจื่อ”

พูดจบ หลี่ฝางก็ไปตรงหน้ารถตัวเอง

ตอนนั้นเฉินโหย่วกำลังพิงตัวสูบบุหรี่ที่G-Class เห็นหลี่ฝางเข้ามา ก็ตกใจ

“ทำไมพวกคุณกลับมา?” เฉินโหย่วมองพวกหลี่ฝางอย่างแปลกใจ

“ผมมาดูรถผม” หลี่ฝางชี้ไปที่เบนซ์G-Class

“นี่รถคุณ?” เฉินโหย่วไม่ค่อยเชื่อนัก เด็กวัยรุ่นแบบนี้ ขับรถหรูขนาดนั้น?มองดูแล้วยังไงก็ไม่ใช่ลูกเศรษฐี

หลี่ฝางพยักหน้า: “ทำไม?”

“เปล่า ผมอยากถามพวกคุณเฉยๆ ร้องเพลงยังไม่ได้จ่ายเงินใช่ไหม?” เฉินโหย่วหัวเราะ มองพวกหลี่ฝาง

หลี่ฝางจึงคิดขึ้นได้ ร้องเพลงยังไม่ให้เงินเลย

“เท่าไหร่ ผมให้คุณ” หลี่ฝางพูดอย่างอายๆ

“ช่างเถอะ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” เฉินโหย่วหัวเราะพูดไป: “ถือว่าผมเลี้ยง”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว คิดในใจ:ผมทำร้ายน้องชายคุณไป คุณยังเลี้ยงค่าร้องเพลงผมอีก นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?

“ก็เป็นเพื่อนไง”

เฉินโหย่วพูดอีก: “เรื่องของเราสองคน แค่เข้าใจผิดแหละ”

“ที่จริงน้องชายคนนั้นของผม ก็กวนตีนไป”

ถึงแม้หลี่ฝางรู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ถามมาก ขึ้นรถออกไป

“หลี่ฝาง เกิดอะไรขึ้น คุณตีน้องชายเขาไป เขาไม่แค่ไม่คิดเงิน แต่ยังจ่ายเงินให้พวกเราอีก นี่มีอะไรหลอกลวงหรือเปล่า?” หลิวเฉียวเฉียวถามอย่างเป็นห่วง

“สนเขาทำไม” หลี่ฝางไม่สนใจเลย จะหลอกลวงอะไรได้ล่ะ?

หลี่ฝางพาสาวๆ ทั้งสามกินข้าว จากนั้นไปที่ Recalling the past

หาที่นั่งเสร็จ หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็สั่งเหล้ามาเยอะมาก

เซี่ยลู่แปลกใจหน่อยๆ : “หลี่เสี่ยวเสี่ยว คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณได้มาสามพันกว่า พอจ่ายเหรอ?”

“ถามมากขนาดนั้นทำไม คุณแค่ดื่มก็พอ ยังไงก็ไม่ให้คุณมากังวลเรื่องนี้สักหน่อย” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูด

หลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่กลัว ถังหยู่ซวนเป็นผู้จัดการแล้ว จะให้ตัวเองจ่ายที่ไหน

ในผับ หลี่ฝางเห็นคนคุ้นๆ มู่เสี่ยวไป๋

เห็นมู่เสี่ยวไป๋ หลี่ฝางตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนหลังจากถูกแทงครั้งนั้น ก็ทิ้งแผลในใจให้หลี่ฝางไม่น้อย

หลี่ฝางเรียกถังหยู่ซวนเข้ามา ชี้ไปที่มู่เสี่ยวไป๋: “คุณมาเมื่อไหร่?”

“มาตั้งนานแล้ว” ถังหยู่ซวนถาม: “ทำไม คุณรู้จัก?”

หลี่ฝางพยักหน้า

มู่เสี่ยวไป๋ก็เห็นหลี่ฝางแล้ว ยืนขึ้น

หลี่ฝางอยากหลบ แต่คิดๆ ดู มู่เสี่ยวไป๋มีความสามารถอย่างมหัศจรรย์ หลบก็หลบไม่มิด

ไม่หลบแล้ว ยังไงที่นี่ก็ผับของตัวเอง กลัวห่าไรล่ะ!

หลี่ฝางไม่ใช่แค่ไม่หลบ แต่ยังเข้าไปต้อนรับเองก่อน

มาตรงหน้ามู่เสี่ยวไป๋ หลี่ฝางนั่งลง มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะ: “จะหาคุณพอดี คิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณที่นี่ บังเอิญจริงๆ”

“พี่เสี่ยวไป๋ คุณมาหาผมทำไม จะแทงผมอีก?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่พอใจ

หลี่ฝางคิดดีแล้ว ถ้ามู่เสี่ยวไป๋คิดจะแทงตัวเองอีกจริงๆ งั้นตัวเองก็จะชิงลงมือก่อนเพื่อให้ได้เปรียบ โดยทำเขาที่ผับ!

ใครจะรู้ว่ามู่เสี่ยวไป๋กลับส่ายหน้า พูด: “ทำให้คุณจำได้ก็พอแล้ว จะเอาแต่แทงคุณได้ไงล่ะ”

“งั้นคุณไม่แทงผม แล้วหาผมทำไม?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

“หาคุณทั้งหมดสองเรื่อง”

มู่เสี่ยวไป๋จ้องหลี่ฝาง ถาม: “เรื่องนี้ อุบัติเหตุของผม เกี่ยวข้องกับคุณไหม?”

“เปล่า พี่คุณประสบอุบัติทางรถยนต์ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” หลี่ฝางส่ายหน้า พูด: “เรื่องนี้เป็นจางกงหมิงบอกผม ถ้าเขาไม่บอก ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ชายคุณเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์”

“ทำไม คุณสงสัยว่าคนที่ชนพี่ชายคุณ คือผมส่งไป?” หลี่ฝางหัวเราะ

“เปล่า แค่ถามเฉยๆ ผมสืบคุณตั้งนานแล้ว พ่อแม่คุณแค่ชาวนาทั่วๆ ไป ไม่ใช่คนใหญ่โตอะไร”

“คุณล่ะ โชคดีจังนะ ขายที่ดินผืนหนึ่ง ทำเงินได้ไม่น้อยจากมือของเศรษฐีลึกลับ ซื้อห้อง แล้วยังซื้อ G-Classอีก” มู่เสี่ยวไป๋พูดนิ่งๆ

หลี่ฝางฟังจบ ก็รู้สึกว่ามู่เสี่ยวไป๋น่ากลัวมาก

มู่เสี่ยวไป๋ไม่ใช่แค่รู้เรื่องที่ตัวเองซื้อห้อง แม้แต่ซื้อG-Classก็ยังรู้ ข่าวนี้ไวมากจริงๆ

“ที่ดินผืนนี้ คุณขายไปเท่าไหร่กันแน่?” มู่เสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะถาม

“ไม่เท่าไหร่หรอก ไม่กี่ล้าน” หลี่ฝางพูด

“ไม่กี่ล้าน คุณก็กล้าโยนแบบนี้?” มู่เสี่ยวไป๋ส่ายหน้า พูดประเมิน: “ชีวิตคุณไม่เลวเลย รู้จักลูกเศรษฐี”

“หมายความว่าไง?” หลี่ฝางถามตาม เมื่อไหร่กันที่ตัวเองรู้จักลูกเศรษฐี

“ถังหยู่ซวนไง ถ้าคุณไม่ใช่เพื่อนของถังหยู่ซวน คุณคิดว่าที่ดินผืนนี้ จะให้เงินคุณได้มากขนาดนั้น?” มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะพูด: “ที่จริงนี่คือที่ดินเปล่าๆ ขายได้แสนหยวนก็ไม่เลวแล้ว”

“แต่ถังหยู่ซวนไม่ได้ขาดเงิน อย่าว่าแต่ทิ้งให้คุณหลายล้าน ให้คุณสักสิบล้าน ผมก็ไม่แปลกใจ” มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างอิจฉา: “พ่อของถังหยู่ซวน ลงทุนรีสอร์ตเป็นหลายหมื่นล้าน”

หลี่ฝางหัวเราะ ที่แท้มู่เสี่ยวไป๋ก็เอาถังหยู่ซวนเป็นลูกชายของเศรษฐีลึกลับ

“ช่วยผมสักเรื่องเป็นไง?” จู่ๆ มู่เสี่ยวไป๋ก็พูด: “แนะนำถังหยู่ซวนให้ผมรู้จัก”

“ทำไมผมต้องช่วยคุณด้วย เราสองคนไม่สนิทกัน อีกอย่าง คุณก็ยังเคยแทงผม” หลี่ฝางพูดอย่างไม่พอใจ

มู่เสี่ยวไป๋เทเหล้าให้หลี่ฝาง: “วางใจน่า ผมไม่ให้คุณแนะนำฟรีๆ แน่ ถ้าถังหยู่ซวนเป็นเพื่อนกับผมมู่เสี่ยวไป๋ได้ ผมให้ค่าธรรมเนียมผลประโยชน์คุณหนึ่งล้าน”

“ขอโทษ ผมไม่ขายเพื่อนผมด้วยเงิน” หลี่ฝางปฏิเสธทันที

สีหน้ามู่เสี่ยวไป๋หม่นลงทันที: “คุณพูดอะไรเนี่ย อะไรคือขาย?คุณไม่ได้ทำร้ายเขาสักหน่อย ผมแค่อยากเป็นเพื่อนรักกับถังหยู่ซวน”

“งั้นทำไมคุณต้องอยากเป็นเพื่อนกับถังหยู่ซวน?” หลี่ฝางหัวเราะ ถาม: “เพราะว่าเขารวย?”

“เหลวไหล แค่ผับนี้ก็มีมูลค่าสองพันกว่าล้านแล้ว ได้ยินว่าผับนี้เป็นชื่อถังหยู่ซวน” มู่เสี่ยวไป๋กลอกตามองผับนี้ ในแววตามีความริษยา

ลูกเศรษฐีเหมือนกัน แต่เปรียบมู่เสี่ยวไป๋กับตัวเองแล้ว ห่างกันไกล

ชื่อของมู่เสี่ยวไป๋ ทรัพย์สินไม่น่าเกินร้อยล้านแน่

“งั้นเดี๋ยวผมถามเขาละกัน” หลี่ฝางพูดพอเป็นพิธี

หลี่ฝางจะให้ถังหยู่ซวนเป็นเพื่อนกับมู่เสี่ยวไป๋ จนไปเป็นเพื่อนรักได้อย่างไร?

มู่เสี่ยวไป๋ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ง่ายที่จะพบว่าถังหยู่ซวนนั้นปลอม

“ยังมีอะไรอีกไหม?ไม่มีอะไร งั้นผมไปละ” หลี่ฝางเตรียมลุกขึ้น ไม่อยากอยู่นาน

“คุณรู้ไหมชิงชิงอยู่ไหน?” มู่เสี่ยวไป๋ถาม

ครั้งนี้มู่เสี่ยวไป๋มาที่ตงไห่ เพราะว่าสองเรื่อง เรื่องที่หนึ่ง สืบว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพี่ชายตัวเองนั้นใครทำ เรื่องที่สอง ก็คือหาเบาะแสของหลินชิงชิงเจอ

แน่นอน ตอนนี้แผนของมู่เสี่ยวไป๋มีอีกอย่าง ก็คือเป็นเพื่อนกับถังหยู่ซวน

หลี่ฝางส่ายหน้า พูด: “พี่ชิงชิงไปไหน ผมจะรู้ได้ไง?”

หลี่ฝางมองสายตาของมู่เสี่ยวไป๋อย่างไม่พอใจเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เสี่ยวไป๋ หลินชิงชิงก็คงไม่หายไป

“คุณไม่รู้จริงๆ ?” มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้ว สายตาจ้องหลี่ฝางเขม็งอย่างเย็นชา

หลี่ฝางส่ายหน้าอีกครั้ง

“งั้นเดี๋ยวคุณต้องไปเมืองเอกกับผม” มู่เสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าไปอึกหนึ่ง ก็พูดทันที

“ทำไม?” หลี่ฝางหมดคำพูด

“คุณจำได้ไหมที่ผมเคยบอกคุณ ถ้าต่อไปคุณยังยุ่งอยู่กับหลินชิงชิง ผมจะแทงคุณตาย?” มู่เสี่ยวไป๋ดูเย็นชา

“ช่วงที่คุณอยู่โรงพยาบาล หลินชิงชิงไม่ได้ไปดูคุณแค่ครั้งเดียว คุณคิดว่าผมไม่รู้?” สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ดุร้ายยิ่งขึ้น

“คุณล่ะ ถ้าไม่อยากถูกผมแทงจนตายอีก ก็ไปเมืองเอกกับผมดีๆ”

“อีกอย่างนะ อีกสองวันคุณก็จะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองเอกแล้วสินะ?เมืองเอกเป็นถิ่นของผม” มู่เสี่ยวไป๋ข่มขู่อีกครั้ง

หลี่ฝางหมดคำพูดหน่อยๆ : “คุณพาผมไปเมืองเอกหมายความว่าไง?”

“แน่นอว่าดึงดูดให้หลินชิงชิงออกมา คืนนั้นที่คุณอยู่โรงพยาบาล เธอก็ไปดูคุณที่โรงพยาบาล หมายความว่าเบาะแสของคุณ อยู่ในสายตาเธอหมด แค่ผมพาคุณไป เธอจะต้องไปหาผมแน่” มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างเด็ดเดี่ยว

“ผมไม่ไป” หลี่ฝางยืนขึ้นมา พูดปฏิเสธ

“คุณอยากตาย?” มู่เสี่ยวไป๋ก็ยืนขึ้น คนข้างๆ เขาต่างยืนขึ้น

“คุณลองแตะต้องผมสิ!” หลี่ฝางกวักมือ ถังหยู่ซวนก็พาคนเข้ามา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท