NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 159

ตอนที่ 159

บทที่ 159 สายจากจางกงหมิง

หลี่ฝางคิดในใจ หลินชิงชิงหมายถึงอะไร?

เขาและหลินชิงชิงไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ก็แค่ยอมรับกันไปตามสังคม ชายโสดหญิงโสดมาอยู่ร่วมห้องกัน แบบนี้ก็ง่ายอย่างยิ่งที่จะเกิดอะไรขึ้นมา

หลี่ฝางลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบรับ

ตนเองเป็นถึงลูกผู้ชาย มีอะไรให้กลัวกัน?

อพาร์ตเมนต์ของหลินชิงชิง มองดูแล้วไม่เลวทีเดียว

“ห้องของพี่เป็นไงบ้าง?” หลินชิงชิงถาม

“เล็กเท่านกกระจอก แต่มีทุกอย่างครบ” หลี่ฝางกวาดตามอง มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องครัวแยกเป็นอิสระ

“มีแค่ห้องเดียวเหรอ” จู่ๆ หลี่ฝางก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ

“ใช่สิ” หลินชิงชิงพยักหน้า

“แล้วผมจะนอนที่ไหน?”

“โซฟา” หลินชิงชิงชี้ไปที่โซฟาและพูด “แน่นอน ถ้านายไม่กลัวว่าฉันจะกินนาย นายก็สามารถนอนกับฉันได้”

หลินชิงชิงทำงานมาทั้งวัน ท่าทางดูเหนื่อยอย่างยิ่ง

เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ และเอ่ยเตือนหลี่ฝาง “อย่าแอบมอง!”

หลี่ฝางนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง…

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเสียงของน้ำ ก็ยิ่งทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหันไปแอบมองดู….

กระจกห้องน้ำเป็นฝ้า แม้ว่าจะทึบแสง แต่กลับยังสามารถเห็นโครงร่างคร่าวๆ ได้

หลังจากอาบน้ำเสร็จ หลินชิงชิงก็ออกมาจากห้องน้ำ บนตัวมีเพียงแค่เสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น

“เสี่ยวฝาง นายก็เข้าไปอาบน้ำสักหน่อยเถอะ”

หลังจากหลินชิงชิงออกมา เธอก็พูดกับหลี่ฝาง

หลี่ฝางคิด ตนเองก็วิ่งวุ่นมาทั้งวันแล้ว สมควรอาบน้ำสักหน่อย

เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ หลี่ฝางก็ได้กลิ่นหอม เขาไม่รู้ว่ามันใช่กลิ่นของหลินชิงชิงที่ยังคงเหลืออยู่หรือไม่

“พี่สาว ผมขอใช้ผ้าขนหนูของพี่ได้ไหม?” หลี่ฝางถาม

“ใช้สิ”

หลินชิงชิงพูดจบ ก็หยุดไปชั่วขณะและเอ่ยเสริมว่า “ใช้เสร็จแล้วฉันทิ้งไปก็ได้แล้ว”

“……” ในใจของหลี่ฝางหดหู่เล็กน้อย เขาใช้มันนิดหน่อยจะเป็นไรไป ตัวเขาไม่ได้สกปรกสักหน่อย?

หลังจากอาบน้ำเสร็จ หลินชิงชิงก็เป่าหัวเสร็จและเข้านอนไปแล้ว

หลี่ฝางมองไปที่โซฟา และหันมองไปที่เตียง เขาไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี

ประตูห้องนอนหลินชิงชิงเปิดอยู่ กล่าวคือหลินชิงชิงได้อนุญาตให้เขาขึ้นไปนอนได้

“พี่ โซฟาของพี่แคบเกินไป ถ้าผมนอนบนโซฟา ดึกๆ คงต้องตกลงมา”

หลี่ฝางพูดจบ ก็เดินเข้าไปในห้องนอนของหลินชิงชิง “ดังนั้น ผมก็นอนบนเตียงด้วย”

“ไม่กลัวแฟนนายจะรู้แล้วหึงหรือไง?” หลินชิงชิงถาม

“กลัวอะไร” หลี่ฝางหัวเราะ เรื่องแบบนี้ ตัวเองจะให้ลู่หลุ่ยรู้ได้อย่างไร

เขาไม่ได้โง่สักหน่อย

หลี่ฝางยกผ้าห่มขึ้นและสอดตัวเข้าไป

ทันทีที่หลี่ฝางเข้ามา หลินชิงชิงก็เอาหมอนใบหนึ่ง ยัดเข้าไปในผ้าห่ม

“หมอนคือขอบเขต ห้ามข้ามเขต เข้าใจไหม?” หลินชิงชิงเอ่ยเตือนหลี่ฝาง

“พี่ ทำไม กลัวขึ้นมาแล้ว?” หลี่ฝางหัวเราะ

หลินชิงชิงกลอกตาใส่หลี่ฝางและเอ่ย “พี่ไม่ได้กลัว แต่ว่านี่เป็นครั้งแรก”

“จะเอาเปรียบนายไม่ได้”

ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางพอได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

“อ้อใช่ เสี่ยวฝาง บ้านนายรวยขนาดนั้น นายไม่คิดจะทำอะไรสักหน่อยหรือไง?” หลินชิงชิงหันหน้ามาและมองไปที่ หลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”

“แต่ถังหยู่ซวนเคยบอกว่า บริษัทสื่อทำเงินได้ไม่เลว ดังนั้นผมคิดจะเปิดสักที่” หลี่ฝางกล่าว

“บริษัทสื่อ?”

“ใช่ ก็พวกเซ็นสัญญากับพวกนางแบบ ไอดอล ดาราอะไรพวกนี้ ออกเงินเล็กน้อย ซื้อตัวพวกเขามา รอจนพวกเธอมีชื่อเสียง ก็ปล่อยให้พวกเขาเปิดการถ่ายทอดสด รับการแสดงเชิงพาณิชย์ และเป็นนางแบบ Taobao”

“แปลกใหม่ดี” หลินชิงชิงพยักหน้า “ตอนนี้พวกนี้พัฒนาไปเร็วมาก”

“นอกจากนี้ล่ะ?” หลินชิงชิงถามต่อ

“ไม่มีแล้ว” หลี่ฝางส่ายหัว

“ไม่มีแล้ว?”

หลี่ฝางพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ บาร์ของผมทำกำไรได้หลายล้านทุกวัน ทำไมผมถึงต้องไปเริ่มธุรกิจด้วย?”

“นอกจากนี้ อีกไม่นานรีสอร์ตและสวนสนุกก็จะเปิดแล้ว พวกนั้นล้วนเป็นอุตสาหกรรมของครอบครัวผม”

“ฉันรู้สึกว่า อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องหาเงินเลยสักนิด แค่ต้องใช้เงินก็พอแล้ว”

หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ ไม่งั้นพี่เองก็ไม่ต้องทำงานแล้ว เกิดไอ้หน้าบากมาหาเรื่องพี่อีกจะทำยังไง? ยังไงผมก็มีเงิน เลี้ยงพี่ได้”

“เจ้าพานทำคนเดียวไม่ไหว ฉันต้องไปช่วย วันนี้ไอ้หน้าบากเสียเปรียบไปขนาดนั้น ช่วงไม่กี่วันนี้คงไม่มาที่ร้านบาร์บีคิวหรอก เห็นที เขาคงยุ่งอยู่กับการหาทางแก้แค้นหวางเห้ามากกว่า” หลินชิงชิงกล่าว

“หวางเห้าจะเกิดเรื่องไหม?”

“ถ้าไอ้หน้าบากสามารถเชิญให้เสือมาออกหน้าให้ได้ แบบนี้หวางเห้าก็คงจะรับมือยากมาก เพราะยังไงเสียในเมืองเอกของจังหวัด เสือมีอำนาจมากและฝังรากลงลึก หวางเห้าที่เพิ่งจะมาถึงที่นี่ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสือ”

หลังจากหลี่ฝางได้ฟังก็รู้สึกกังวล

ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของหลี่ฝาง ถ้าหวางเห้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็เท่ากับว่าตนไปทำให้เขาพลอยลำบาก

“นายกลัวหวางเห้าเกิดเรื่อง?”

“ใช่ ยังไงเขาก็เป็นคนดี อีกทั้งยังช่วยเหลือพวกเราด้วย” หลี่ฝางกล่าว “พี่ พี่คิดว่าผมสามารถช่วยหวางเห้าได้ไหม?”

“นายต้องการช่วยเขาจริงๆ หรือ?” หลินชิงชิงยิ้ม

“ใช่”

“ถ้าอยากช่วยเขา ง่ายมาก ก็แค่ให้เงินเขา” หลินชิงชิงหัวเราะ “ในสังคมนี้ เรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่ สามารถตัดสินได้ด้วยเงิน๐

“หวางเห้าเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่เลวไปกว่าลูกพี่ลูกน้องของฉัน ด้วยการสนับสนุนของมู่เสี่ยวไป๋ ลูกพี่ลูกน้องของฉันสามารถสร้างชื่อในเมืองเอกของจังหวัดได้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

“ถ้าคุณยินดีที่จะเป็นนายทุนให้กับหวางเห้า ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เขา ฉันเชื่อว่าหวางเห้าเองก็สามารถคนคุมเมืองเอกของจังหวัดได้เช่นกัน”

หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นมา หลี่ฝางก็ตาสว่างทันที “พี่ ขอบคุณมาก”

“ขอบคุณอะไร?”

“อันที่จริง ผมก็อยากทำอะไรสักอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ผมอายุยังน้อย ประสบการณ์ในสังคมนี้ก็น้อย ก็เลยยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”

หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้ที่พี่พูด ผมก็รู้แจ้งขึ้นในทันที แม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในสังคม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่มี”

“เช่นเดียวกับหลิวปัง แม้ว่าเขาจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ในมือเขาก็มีหานซิ่น จางเหลียง เซียวเหออยู่ เขาก็กลายเป็นจักรพรรดิได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”

“อย่างนั้น ผมก็จะให้หวางเห้าเป็นหานซิ่น ช่วยผมเอาชนะใต้หล้า” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลี่ฝางคิดในใจ หวางเห้าสามารถต่อสู้ได้ แถมยังโหดเหี้ยมมากพอ อีกทั้งลูกน้องของเขา ก็ภักดีต่อเขา

หวางเห้าคนนี้ อันที่จริงขาดก็แค่โอกาสเท่านั้น ขอแค่มีโอกาส จะต้องติดปีกโบยบินแน่

“หลิวปังสามารถควบคุมหานซิ่นได้ แต่นายคิดว่านายสามารถควบคุมหวางเห้าได้หรือ? เมื่อกี้ฉันบอกไปแล้ว หวางเห้าเก่งมากพอกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน”

“แม้ว่าตอนนี้จะยังทำไม่ได้ แต่ผมก็เชื่อว่าหวางเห้าไม่ใช่คนที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา” หลี่ฝางเอ่ย

หลี่ฝางรู้สึกว่าหวางเห้ามีความภักดีอยู่ไม่เลว

“รู้หน้าไม่รู้ใจ เสี่ยวฝาง นายอย่าได้ไว้ใจคนคนหนึ่งมากเกินไป” หลินชิงชิงกล่าว

“เหมือนลูกพี่ลูกน้องของฉัน ฉันอยู่เมืองเอกมานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่กล้าติดต่อเขาเลย” หลินชิงชิงกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน

“ทำไม พี่กลัวพี่หมิงจะหักหลังพี่หรือ?” หลี่ฝางถาม

หลินชิงชิงพยักหน้า “เขาแตกต่างจากเสี่ยวโจว เสี่ยวโจวไร้ทางเลือก ถึงได้ต้องทำตามมู่เสี่ยวไป๋”

“แต่ลูกพี่ลูกน้องของฉัน เขาอาสาที่จะติดตามมู่เสี่ยวไป๋”

หลินชิงชิงขมวดคิ้ว “และเขาเองก็รู้ว่าฉันเกลียดมู่เสี่ยวไป๋มาก”

“จางกงหมิงติดตามมู่เสี่ยวไป๋ ฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ก็ยิ่งมีความเกี่ยวพันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตหากจะตัดขาด ก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เช่นกัน”

“พ่อของฉันสามารถเป็นลูกพี่ใหญ่ของตงไห่ได้ มู่เสี่ยวไป๋ก็ช่วยไปไม่น้อย ดังนั้นพ่อของฉันจึงผลักดันฉันให้มู่เสี่ยวไป๋”

หลินชิงชิงพูดไป ดวงตาก็ชื้นขึ้นเล็กน้อย “หลาย ๆ ครั้ง ฉันไม่เข้าใจเลยว่า สรุปแล้วฉันเป็นลูกสาวของเขาหรือเครื่องมือของเขากันแน่?”

หลี่ฝางนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

ท้ายที่สุดแล้ว การถูกคนคนสนิทเครือญาติทรยศ ถือเป็นการหักหลังครั้งใหญ่ที่สุดต่อคนๆ หนึ่ง

และเรื่องแบบนี้ พบได้บ่อยที่สุดในครอบครัวที่เศรษฐี

ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้น มันคือหมายเลขของจางกงหมิง

“พี่…”

หลี่ฝางถามหลินชิงชิง “สายของจางกงหมิง พี่ว่าผมรับดีไหม?”

“เขาโทรหานายบ่อยหรือ?”

หลี่ฝางส่ายหัว “ตั้งแต่เขาหนีไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาติดต่อผม”

“อย่างนั้นก็รีบรับเถอะ เขาจะต้องมีเรื่องอะไรสำคัญที่ต้องตามหานายแน่” หลินชิงชิงกล่าว

หลี่ฝางพยักหน้าและกดปุ่มรับสาย

“พี่หมิง?”

“ฉันเอง” จางกงหมิงเอ่ย “เสี่ยวฝาง ฉันถามนายหน่อย วันนี้นายไปต่อยตีมู่เสี่ยวไป๋มาใช่ไหม?”

“ใช่ มีอะไรหรือ?” หลี่ฝางพยักหน้า

“มู่เสี่ยวไป๋ต้องการแก้แค้น เขาให้ฉันมาจัดการกับนาย” จางกงหมิงเอ่ย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท