NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 175

ตอนที่ 175

บทที่ 175 แบล็กการ์ดระดับโลกแสดงถึงฐานะ

ตอนนี้ สีหน้าของสวีเถิงเฟยขาวซีดเผือด

ให้พ่อตัวเองมาขอโทษด้วยตรงเอง……….

ยังไม่ต้องคิดว่าเรื่องนี้พ่อตัวเองจะยินยอมตกลงหรือไม่

ก่อนอื่น หากสวีเจิ้งหรุงรู้เรื่องนี้ อย่างน้อยสวีเถิงเฟยต้องโดนด่า หากร้ายแรงก็จะถูกตี…….

“กลับกันเถอะ”

สวีเถิงเฟยหันไปมองตู้เฟย แล้วกล่าว

ตอนนี้ สวีเถิงเฟยรู้สึกเสียใจ หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกก็จะไม่กลับมาอีก

เวลานี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน แล้วยังทำให้ตู้เฟยถูกตบหน้าไปด้วย…….

หวงว่างโก๋จ้องมองหลี่ฝางครู่ใหญ่ ได้แต่รู้สึกว่าหน้าตาคุ้น ๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเขาคือใคร

แล้วหวงว่างโก๋ก็ได้เดินไปหาเขา แล้วพูดว่า “เนื่องจากเสี่ยวจางรับปากว่าจะลดให้50เปอร์เซ็นต์ งั้นคุณก็จ่ายเงินครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน”

หวงว่างโก๋ทำธุรกิจ เป็นคนค่อนข้างมีสัจจะ

“แต่เจ้าหนุ่มน้อยนี้ก็ช่างเหี้ยมจริง!” หวงว่างโก๋รู้สึกสนใจหลี่ฝางและมองเขา “เพื่อเป็นการให้บทเรียนแก่เสี่ยวจาง ไม่ลังเลเลยที่จะทุ่มเงินเป็นล้านสำหรับอาหารแค่มื้อเดียว”

เมื่อสักครู่หลังจากที่ได้ฟังผู้จัดการล็อบบี้เล่าแล้ว หวงว่างโก๋มีความสนใจในตัวหลี่ฝางอย่างมาก

หลี่ฝางเพียงแค่หัวเราะฮ่า ๆ แล้วก็หยิบการ์ดใบหนึ่งออกมา “ช่างเถอะ เป็นผู้จัดการมันก็ไม่ง่าย วันนี้ถูกตีหลายครั้ง ก็ถือว่าได้รับบทลงโทษก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องลดให้ผม50เปอร์เซ็นต์ ก็แค่หกแสนสองใช่ไหม?”

หลี่ฝางยิ้มแบบไม่ยี่หระ โยนแบล็กการ์ดระดับโลกไปที่เคาน์เตอร์ “รูดการ์ดเลย”

“ไม่ต้องการส่วนลดเหรอคะ?” พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์กลืนน้ำลาย แล้วมองหน้าหลี่ฝางอย่างประหลาดใจ

เพราะเมื่อกี้หวงว่างโก๋เป็นคนพูดด้วยตัวเองว่า สามารถลด50เปอร์เซ็นต์ให้หลี่ฝางได้

50เปอร์เซ็นต์เชียวน่ะ เพียงชั่วครู่ก็สามารถลดได้ตั้งสามแสนกว่า……..

สิทธิพิเศษมากขนาดนี้ แต่ก่อนไม่เคยมีเลย

แต่หลี่ฝางกลับบอกว่าไม่ต้องการ

“ใช่ ไม่จำเป็นต้องมีส่วนลด มียอดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็รูดตามยอดนั้น” หลี่ฝางผงกศีรษะให้พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์

หวางเสี่ยวโก๋กระตุกแขนเสื้อของหลี่ฝาง “หลี่ฝาง นายดื่มเหล้ามากไปแล้วใช่ไหม? ด้วยประการฉะนี้ นายต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกสามแสนกว่าเลยน่ะ”

“ใช่ หลี่ฝาง คุณกำลังทำบ้าอะไร เจ้านายเขาก็รับปากลดให้แล้ว” เหยนเสี่ยวน่าก็กล่าวด้วย

“น้องชาย เรื่องนี้โรงแรมของเราเป็นฝ่ายผิดเอง ฉะนั้น ผมเต็มใจลดให้คุณ50เปอร์เซ็นต์ เป็นการลงโทษสำหรับความผิดพลาดในการทำงานของพนักงาน” หวงว่างโก๋เดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวเช่นนี้

“แล้วก็วางใจได้ หลังจากวันนี้ผมไม่หาเรื่องคุณอย่างแน่นอน” หวงว่างโก๋คิดว่าหลี่ฝางกลัวตนเอง

หลี่ฝางยิ้มฮ่า ๆ “ไม่ต้องแล้ว รูดหกแสนสองดีแล้ว”

ขณะนี้ พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์รู้สึกลำบากใจ

เจ้านายบอกรูดครึ่งหนึ่ง

ลูกค้าบอกรูดเต็มจำนวน

พนักงานสาวเคาน์เตอร์นิ่งเงียบพูดไม่ออก ฐานะของคนทั้งสองคน เหมือนกลับกันเลย?

และในขณะนี้เอง หวงว่างโก๋สังเกตเห็นการ์ดในมือของหลี่ฝาง

มันเป็นแบล็กการ์ด ลายบนการ์ดมีความพิเศษมาก

“นี่มัน………แบล็กการ์ดระดับโลก?” หวงว่างโก๋กล่าวด้วยความประหลาดใจ

ชั่วชีวิตของหวงว่างโก๋ไม่มีอะไรที่เขาไม่เคยเห็น จนสร้างเป็นนิสัย แม้ว่าภูเขาถล่มลงมาสีหน้ายังนิ่งขรึม กล่าวคือไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็จะไม่แสดงความรู้สึกหวั่นไหวออกมาให้เห็น

เมื่อเวลาที่ได้เห็นแบล็กการ์ด เขาพูดเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น

หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูดว่า “คนสวย รูดการ์ดเลย นี่ก็ดึกแล้ว รีบเคลียร์บัญชีของผมแล้ว พวกคุณก็สามารถเลิกงานเร็วขึ้นได้”

“งั้นฉัน…รูดตามยอดเดิมน่ะ?” พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์พูดจบ ก็มองหน้าเจ้านายเชิงถาม

เห็นเจ้านายของตนเอง ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ตกใจจนนิ่งเหมือนคนซื่อบื้อ

ใบหน้าของฉินวี่เฟย ก็แสดงถึงความประหลาดใจ

หวางเสี่ยวโก๋กับเหยนเสี่ยวน่าสองคนนี้ ยิ่งประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออก

พวกเขาเหมือนกับหวงว่างโก๋ ตกใจจนนิ่งเหมือนคนซื่อบื้อเลย

นี่เป็นถึงแบล็กการ์ดระดับโลก เฉพาะสำหรับคนที่มีฐานะพิเศษเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ครอบครองการ์ดแบบนี้

การ์ดใบนี้ จะแสดงฐานะของบุคคลนั้น

หวางเสี่ยวโก๋กับเหยนเสี่ยวน่า เคยเห็นตามเว็บไซต์และได้ยินมาว่ามีการ์ดเช่นนี้อยู่ แต่ก็ไม่เคยได้เห็นการ์ดจริง ๆ

และสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจขึ้นไปอีกก็คือ คนที่มีการ์ดใบนี้ เป็นเพื่อนของพวกเขาเอง………หลี่ฝาง

ไอ้หมอนี่ที่หน้าตาธรรมดา ดูท่าแล้วเหมือนคนไม่เอาถ่าน แต่ดันมีบัตรเครดิตการ์ดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก แบล็กการ์ดระดับโลก

นี่……..เหมือนฝันไป ทำให้คนยากที่จะเชื่อได้

หลังจากรูดบัตรเสร็จแล้ว หลี่ฝางได้มองหน้าหวงว่างโก๋ ย้ำเตือนด้วยเสียงเบา ๆ “ ใช่แล้ว ขอบคุณที่คุณช่วยผมไว้เมื่อคราวที่แล้ว”

เมื่อพูดจบ หลี่ฝางก็เดินออกไปจากโรงแรมว่างโก๋ แล้วขึ้นรถเบนซ์G-Classของตนเอง

จนกระทั่งรถเบนซ์G-Classได้สตาร์ทรถขับออกไปแล้ว หวงว่างโก๋ถึงจะนึกขึ้นมาได้

“ที่แท้เป็นไอ้หมอนี้นี่เอง………”

หวงว่างโก๋จึงหัวเราะขึ้นมา

หลังจากที่คิดออกว่าหลี่ฝางเป็นใครแล้ว หวงว่างโก๋รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นก็โทรไปที่เบอร์หนึ่ง

หลังจากฝั่งโน้นรับสาย หวงว่างโก๋รีบพูดทันที “พี่หยวน ไอ้หมอนั้นมาเมืองเอกแล้ว”

“ไอ้หมอไหน?” ปลายสายฝั่งโน้นนิ่งไปชั่วขณะ แต่ก็ยังฟังไม่เข้าใจ

“พี่หยวน พี่ยังจำได้ไหมตอนเราอยู่ที่ Recalling the past ได้ช่วยไอ้หนุ่มคนหนึ่งไว้……..” หวงว่างโก๋พูดย้ำเตือน “ก็คือเขา ที่เมื่อสักครู่มาทานข้าวในโรงแรมของผม”

“คือเขา……….” เสียงที่ปลายสายด้านโน้นพูดจริงจังขึ้นมา

“พี่หยวน สิ่งที่พี่เดาตอนนั้นมันถูกต้องแล้ว ไอ้หมอนั้น น่าจะเป็นคนที่เรากำลังตามหาอยู่”

“เมื่อสักครู่ตอนที่เขาจ่ายเงิน เขาหยิบแบล็กการ์ดใบหนึ่งออกมา นอกจากคนรวยลึกลับคนนั้นแล้ว ยังจะมีใครที่มีแบล็กการ์ดระดับโลกได้?” หวงว่างโก๋พูดอย่างดีใจ

“คุณแน่ใจว่าไม่ได้ดูผิด?” ฝั่งโน้นถาม

“พี่หยวน เรื่องนี้ผมสามารถดูผิดได้เหรอ? และคุณรู้หรือไม่ว่าไอ้หมอนี่มันกินข้าวมื้อล่ะเท่าไหร่?” หวงว่างโก๋ยิ้มแล้วก็ถาม

เขามั่นใจว่าพี่ใหญ่ของไม่สามารถเดายอดเงินได้อย่างแน่นอน

ฝั่งโน้นถามกลับมาว่า “ยอดเท่าไหร่?”

“พี่หยวน ลองเดาดู…….” หวงว่างโก๋หยุดนิ่งไปเมื่อพูดถึงประเด็นหลักนี้

“หนึ่งแสน?”

“หกแสนสอง และเดิมทีเขาคิดจะใช้จ่ายเป็นล้าน” หวงว่างโก๋กล่าวพร้อมกับหัวเราะ

ฝั่งโน้นมีความสนใจขึ้นมาทันที

“ดูแล้ว ถังหยู่ซวนเป็นคนสวมรอย” ฝั่งโน้นหัวเราะฮ่า ๆ

“เดิมทีคุณโทรมาขัดจังหวะการนอนฝันของฉัน ฉันอยากจะด่าคุณ ไม่คิดว่าคุณจะนำข่าวดีมาให้ฉัน โทรหาเจียโล่ คุณกับเขามาหาฉันพร้อมกันที่ออฟฟิศ……. ตอนนี้เลย” ฝังโน้นกล่าว

“โอกาสครั้งแรก พวกเราไม่ได้รักษามันไว้ นี่เป็นโอกาสครั้งที่สอง หากพวกเรายังรักษามันไว้ไม่ได้……งั้นพวกเราก็ไปกินขี้เลย” ฝั่งโน้นพูดจบ ก็วางสายไป

หวงว่างโก๋ ช่วยหลี่ฝางไว้ได้คนหนึ่ง จากน้ำมือของหลี่หลง

……

เมื่อนั่งอยู่ในเบนซ์G-Class หวางเสี่ยวโก๋นั่งอยู่คู่กับคนขับ

เขาหันหน้าไปมองหลี่ฝาง แล้วถามว่า “หลี่ฝาง การ์ดในมือเมื่อสักครู่ เป็นแบล็กการ์ดระดับโลกใช่ไหม? ” ในตำนาน…….

สามคำนี้ แสดงให้เห็นว่าแบล็กการ์ดนั้นเห็นได้ยากมาก

หลี่ฝางผงกศีรษะ ไม่ได้ปิดบัง “ใช่”

โอ้ หวางเสี่ยวโก๋สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ นี่เป็นถึงแบล็กการ์ดระดับโลก มันแสดงฐานะของหลี่ฝาง ว่าเป็นลูกอภิมหาเศรษฐี

เลี่ยวข่ายกับหลี่ซ่วยซ่วยฟังไม่ค่อยเข้าใจ แล้วถามขึ้นมาว่า “เสี่ยวโก๋ การ์ดใบนั้นของหลี่ฝางมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ”

“ไอ้คนบ้านนอก รีบเข้าเว็บbaiduหาข้อมูลดู เช็ดดูว่าแบล็กการ์ดระดับโลกมีความพิเศษอะไร” หวางเสี่ยวโก่หันหน้าไปมองเลี่ยวข่ายกับหลี่ซ่วยซ่วยด้วยสายตาที่ดุดัน

ยังไงนั่งอยู่บนรถมันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เลี่ยวข่ายก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ลองเช็ดข้อมูล

หลังจากเช็ดข้อมูลเสร็จ เลี่ยวข่ายตื่นเต้นจนตัวสั่นขึ้นมา

“หลี่ฝาง………นายเอาการ์ดของนาย ออกมาให้ผมดูได้ไหม?” เลี่ยวข่ายแสดงสีหน้าตกใจพร้อมกับมองไปที่หลี่ฝาง แล้วถาม

“ได้แน่นอน” หลี่ฝางไม่ใช่คนใจแคบ มือหนึ่งขับรถ อีกมือหนึ่งก็ล้วงไปที่กระเป๋า แล้วหยิบแบล็กการ์ดขึ้นมา ส่งไปให้เลี่ยวข่าย

เลี่ยวข่ายมองการ์ดที่อยู่ในมือ มันเหมือนกับการ์ดในเว็บเลย ทำการเปรียบเทียบด้านหน้าของการ์ด

เหมือนกันทุกอย่างเลย!

เลี่ยวข่ายกลืนน้ำลาย “นี่เป็นแบล็กการ์ดระดับโลกจริงใช่ไหม? ”

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เลี่ยวข่ายจะต้องสงสัยว่าการ์ดใบนี้เป็นของปลอมแน่นอน

แต่เมื่อสักครู่ หลี่ฝางใช้การ์ดใบนี้ รูดไปแล้วหกแสนสอง

เพราะฉะนั้น การ์ดใบนี้เป็นของจริง

ขณะนี้ เลี่ยวข่ายเริ่มคิดทบทวน หลี่ฝางที่อยู่ตรงหน้า เป็นใครกันแน่?

“หลี่ฝาง การ์ดใบนี้ นายได้มาจากไหน?” หวางเสี่ยวโก๋อดไม่ได้ที่จะถาม

หากไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน คืนนี้หวางเสี่ยวโก๋รู้สึกว่าตัวเองจะต้องนอนไม่หลับแน่นอน

เพื่อนร่วมห้องของตนเอง มีฐานะที่น่าหวาดกลัวมาก

หลี่ฝาง ยิ้มบาง ๆ และพูดว่า “แบล็กการ์ดใบนี้ เป็นของพ่อฉัน”

“นั่นก็หมายความว่า พ่อนายเป็นบุคคลสำคัญในการจัดอันดับของฟอบส์?” หวางเสี่ยวโก๋กล่าว

“น่าจะใช่” หลี่ฝางยักไหล่ แล้วก็พูดต่อว่า “แต่อยู่ลำดับที่เท่าไหร่นั้น ผมก็ไม่รู้”

โอ้ สวรรค์ ในหอพักของเรา มีลูกอภิมหาเศรษฐีพักอยู่ด้วย หวางเสี่ยวโก๋ตื่นเต้นจนแทบกระโดดออกจากรถ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน