NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 194

ตอนที่ 194

บทที่194 ศัตรูของรีสอร์ตวันนั้น

คนที่ทำร้ายมู่เหวินตง ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้

ตระกูลมู่ไม่หยุดตามหา แต่ยังเพิ่มรางวัลตามตัวคนนี้ด้วย

มู่เจิ้งถังพูดว่า ใครจับฆาตกรได้ ก็จะให้ยี่สิบล้าน

แต่ผ่านมาตั้งนานแล้ว ฆาตกรก็ยังลอยนวล

……

“คาดเข็มขัดนิรภัยดีๆ”หันหน้าไป ฉินจื่อยี่พูดกำชับกับหลี่ฝาง

หลี่ฝางแค่นั้นก็ค่อยๆคาดเข็มขัดนิรภัย ไปที่ร่างกาย

เวลานี้เอง จู่ๆรถก็ออก

เวลาไม่กี่วินาที ความเร็วของเฟอร์รารี่ ทะยานขึ้นเป็นร้อย

เสียงดังปังขึ้นมา ตอนนั้นหลี่ฝางไม่ได้นั่งดีๆ จนขนหัวลุกในรถ

“ห่า คุณช้าลงหน่อยได้ไหม”หน้าหน้าไป หลี่ฝางก็จ้องฉินจื่อยี่เขม็ง

เห็นแค่ในแววตาของฉินจื่อยี่ มองไปข้างหน้าตรงๆ ใบหน้าของเขา ไม่มีความรู้สึกใดๆ

เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง ไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด

ขาของเขา มีชีวิตชีวามาก ไม่หยุดเพิ่มความเร็วและเหยียบเบรกไปมา

เวลานี้หลี่ฝางเกร็งสุดๆ เขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเอง ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

เหมือนกับนั่งเล่นรถไฟเหาะ แม้แต่หายใจก็ยังลำบาก ไม่ใช่เพราะขาดอากาศหายใจ แต่เพราะกังวลมากๆ

ดีที่วันนั้นตัวเองไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่งั้นล่ะก็ ตัวเองต้องกลัวจนฉี่ราดแน่

พอถึงจุดทางโค้ง หลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น

ฉินจื่อยี่คนนี้ เหมือนจะไม่ชะลอความเร็วเลยสักนิด ก็เลี้ยวขวับทันที

ตอนที่รอบนี้แล่นไป หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองตายไปหลายครั้งแล้วจริงๆ

นี่มันวอร์มเครื่องที่ไหน นี่มันเล่นกับชีวิตเลย

“ห่า แม่เอ๊ยคุณจะเอาผมตายใช่ไหมเนี่ย?!”ตอนรถหยุดลง หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะด่าไป

“ผมแค่ให้คุ้นเคยกับเส้นทางเท่านั้น”

“นี่คุณเรียกว่าให้คุ้นเคยเส้นทางเหรอ?นี่มันซิ่งตายชัดๆ”เมื่อกี๊หลี่ฝางเห็นชัดเจน ความเร็วรถสูงสุดเมื่อกี๊ ไปถึงสองร้อยแปดสิบแล้ว

ความเร็วของเครื่องบินที่แล่น ดูเหมือนเพิ่งจะสามร้อยเอง?

นี่เรียกว่าวอร์มเครื่อง?แค่ให้คุ้นเคยเส้นทาง?

งั้นถ้าแข่งรถจริงๆ ไม่ใช่บินขึ้นเลยจริงๆเหรอ?

ที่สำคัญที่สุดคือ ทางของเขาหมาป่าสูงชันจริงๆ มีทางโค้งไปทุกที่

ถ้าเป็นทางด่วนที่ตรงดิ่ง หลี่ฝางก็ไม่กลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าหักเลี้ยวไม่ทัน ตกลงไปหน้าผาจะทำไง?

เวลานี้ หลี่ฝางอยากซื้อประกันให้ตัวเองจำนวนมากจริงๆ

“พวกเขายังไม่ถึง มาอีกรอบไหมล่ะ?”ฉินจื่อยี่หันหน้าไป มองหลี่ฝางแล้วถาม

ในใจของหลี่ฝางสบถคำหยาบออกไปนับไม่ถ้วนแล้ว

“ยังจะมาอีก ถ้ามีอีกรอบผมตายแน่ๆ”หลี่ฝางจ้องฉินจื่อยี่เขม็ง พูดว่า:“ผมจะลงรถ”

“อยากตายคุณก็ไปตายเอง อย่าลากผมไปด้วย”หลี่ฝางพูด

“ทำไมคุณพูดไม่เป็นมงคลเลย ถ้าผมเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ก็เพราะคุณแช่ง”ฉินจื่อยี่กลอกตาใส่หลี่ฝาง

เปิดประตูรถออก หลี่ฝางกลับพบว่า ขาตัวเองอ่อนลง

ขาของตัวเอง ทั้งอ่อนทั้งชา ขยับไม่ได้

“ลงไม่ลงเนี่ย ไม่ลงผมจะออกรถแล้วนะ”ฉินจื่อยี่พูด

เวลานี้ หลี่ฝางตกใจจนคลานออกไป

มองเห็นฉากนี้ ก็ทำให้ฉินจื่อยี่สุขใจสุดๆ

ฉินจื่อยี่นั่งหัวเราะก๊ากอยู่ในรถ พูด:“ผมว่านะหลี่ฝาง คุณมันสรุปใช่ผู้ชายหรือเปล่า แค่นั่งรถเอง ตกใจแบบนี้เลยเหรอ?”

“ทำไมแม้แต่ผู้หญิงก็สู้ไม่ได้”ฉินจื่อยี่บ่น

หลี่ฝางก็ไม่พูด ได้แต่คลานไปที่รั้วข้างถนน แล้วนั่งลงไป

ตัวเองตกใจกลัวจนขาชาไปหมดแล้ว ยังจะมีหน้าพูดอะไรอีก

เฟอร์รารี่ออกรถไปอีกครั้ง เหมือนลูกธนูที่ออกไปจากคันธนู ความเร็วหายไปจากสายตาของหลี่ฝาง ……

ความเร็วของรถนี้ ทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะบ่นพร่ำ

“เก้านาทีสามสิบห้าวินาที ถือว่าเป็นนักแข่งรถที่สุดยอดแล้ว”

เวลานี้ส้าวส้วยเดินออกมาจากเบนซ์G-Class เขามองเฟอร์รารี่ที่หายไป มุมปากแสดงความชื่นชม

“เจ้าของสถิติที่เร็วที่สุดของเขาหมาป่าคือแปดนาทีสิบห้าวินาที”

ส้าวส้วยพูด

“แปดนาทีสิบห้าวินาที ขับเร็วขนาดนั้น ไม่กลัวตายหรือไง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก

ความเร็วของรถฉินจื่อยี่เมื่อกี๊ถือว่าเร็วพอแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีคนเร็วกว่าเขาหนึ่งนาทียี่สิบวินาที

หนึ่งนาทียี่สิบวินาทีนี้ดูเหมือนไม่มาก แต่แข่งรถเกินกว่าหนึ่งนาทียี่สิบวินาที ก็เป็นระยะห่างที่ปล่อยไม่ได้

“เจ้านี่แค่วอร์มเครื่อง ผมเดาว่าเขาทำได้จริงๆ น่าจะอยู่ในเก้านาที”ส้าวส้วยพูดอีก

หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วหัวเราะ :“คุณรู้เยอะดีจริงๆ”

“ไม่ได้บอกแล้วเหรอ?เมื่อก่อนผมช่วยปรับแต่งรถน่ะ ดังนั้นกับเรื่องสายแข่งรถแล้ว เลยมีผ่านๆตามาบ้าง”

“เขาหมาป่าที่แห่งนี้ เป็นดินแดนแข่งรถอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเอก ทุกวันที่หนึ่งของเดือน นักแข่งรถทุกคน ก็จะมารวมตัวที่นี่”ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางเลิกคิ้วขึ้น พูด:“คุณเคยแข่งรถไหม?”

เวลานี้ จู่ๆหลี่ฝางก็คิดขึ้นได้ วันนั้นพ่อของลู่หลุ่ยต้องการเงินไปผ่าตัด แล้วหลี่ฝางก็ให้ส้าวส้วยเอาเงินมาให้

เดิมทีระยะทางรถที่ครึ่งชั่วโมงส้าวส้วยกลับใช้ไปแค่สิบห้านาทีก็มาถึงตรงหน้าหลี่ฝางแล้ว

ระหว่างนั้นนอกจากไปเอาเงิน หาหลี่ฝางเจอ และอื่นๆมั่วๆก็ไม่ต้องนับ

หมายความว่า อย่างมากส้าวส้วยก็ใช้สิบนาที กับระยะทางขับรถครึ่งชั่วโมงของคนอื่น

หลี่ฝางคิดว่า เป็นไปได้มากที่ส้าวส้วยก็เป็นนักแข่งรถ

“ผมแค่เป็นคนปรับแต่งรถ จะมีคุณสมบัติไปแข่งรถได้ไงกัน”ส้าวส้วยส่ายหน้า ปฏิเสธ

“เหรอ?”หลี่ฝางไม่เชื่อคำพูดส้าวส้วยนี้

“ใช่ ปรับแต่งรถของลูกค้า ผมไม่กล้าขับมั่วๆ ยังไงนั่นก็เป็นรถหรูที่ราคาแพง ถ้าทำชน ต้องขายตัวผมไปก็คืนไม่ไหว”ส้าวส้วยพูด

ตอนนี้เอง รถหลายคันก็ขับเข้ามา

รถสปอร์ตสีฉูดฉาด

“มีคนถึงก่อนพวกเราอีก?”

เห็นหลี่ฝางกับส้าวส้วยที่นี่ พวกเขาก็ลงจากรถ ดูประหลาดใจหน่อยๆ

หลายคนนี้ หลี่ฝางเคยเจอที่รีสอร์ต

หนึ่งในนั้น มีคนชื่อจ้าวเสี่ยวตาว วันนั้นลวนลามลู่หลุ่ยที่รีสอร์ต ถูกลุงเฉียนเอาเข้าบัญชีดำของรีสอร์ตแล้ว

จ้าวเสี่ยวตาวเห็นหลี่ฝาง สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย

“โลกกลมจริงๆ ที่มาเจอคุณ”สายตาเย็นชาของจ้าวเสี่ยวตาวมองไปที่หลี่ฝาง

จ้าวเสี่ยวตาวสอบถามเกี่ยวกับหลี่ฝางมาชัดเจนหมดแล้ว

หลานชายของคุณท่านหลี่ ไม่ใช่หลี่ฝาง แต่เป็นผู้ชายชื่อถังหยู่ซวน

ส่วนหลี่ฝาง แค่เป็นเพื่อนของถังหยู่ซวนเท่านั้น

ในสายตาของจ้าวเสี่ยวตาว หลี่ฝางถูกกำหนดให้เป็นผู้ชายที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง

หลี่ฝางกลอกตาใส่จ้าวเสี่ยวตาว และก็ไม่สนเขา

แต่จ้าวเสี่ยวตาวไม่คิดจะปล่อยหลี่ฝาง เขาโบกมือ ลากเพื่อนของตัวเอง เดินมาที่หลี่ฝาง

“บัญชีนั้นที่รีสอร์ต ผมยังไม่คิดกับคุณเลย”

จ้าวเสี่ยวตาวเดินขี้นไป แล้วจับคอเสื้อของหลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองจ้าวเสี่ยวตาว:“ปล่อยมือ ได้ยินไหม?”

ตอนนี้ขาทั้งคู่ของหลี่ฝางฟื้นคืนมาแล้ว เขาไม่กลัวจ้าวเสี่ยวตาว

ยังไงลูกเศรษฐีกลุ่มนี้ ก็ไม่เอาไหนทั้งนั้น

ตู้เฟยสุดที่จะทน มู่เสี่ยวไป๋ก็สุดที่จะทนแล้ว หลี่ฝางคิดในใจ ลูกเศรษฐีกุล่มนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว จะต้องเจ๋งกันแน่ๆ

ในจิตใต้สำนึก หลี่ฝางก็ดูถูกจ้าวเสี่ยวตาวคนนี้

“ไม่ปล่อยใช่ไหม?”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างเยือกเย็น ยกขาถีบออกไป

ใครจะไปรู้ว่าทักษะของจ้าวเสี่ยวตาวนั้นคล่องแคล่วมาก เอามือมาบังไว้

“ห่า ฝึกกำลังภายในมาเหรอ”ใบหน้าของหลี่ฝางเคร่งขรึม

“ก็แค่เคยเรียนเทควันโดมาไม่กี่วันเท่านั้น”จ้าวเสี่ยวตาวแสยะยิ้ม

“ไม่มีถังหยู่ซวนคุ้มกันคุณ ผมดูสิคุณจะสู้กับผมยังไง”จ้าวเสี่ยวตาวพูดดูถูกจบ ก็ถอดเสื้อนอกตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ

หลี่ฝางขี้ขลาดเล็กน้อยแล้ว แค่มองก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้

“ความอัปยศอดสูวันนั้นที่ได้มาจากรีสอร์ต วันนี้ผมจะเอาคืน!”จ้าวเสี่ยวตาวพูดอย่างเย็นชา

หลี่ฝางคิดว่าตัวเองสู้จ้าวเสี่ยวตาวไม่ได้ จึงให้ส้าวส้วยลุย

หลี่ฝางตบไหล่ส้าวส้วย พูดล้อเล่น:“ห้าสิบหยวน ช่วยผมจัดการเขา”

ส้าวส้วยไม่พอใจเล็กน้อย พูดอย่างเซ็งๆ:“ห้าสิบหยวน?น้อยมากเลย”

ส้าวส้วยหดหู่หน่อยๆ ค่าจ้างที่ตัวเองต้องลงมือ ทำไมต่ำขนาดนี้?

หลี่ฝางชะงักไป จึงพูดใหม่:“งั้นผมจะเลี้ยงเบอร์เกอร์คุณห้าชิ้น ได้หรือยัง?”

“มากไปแล้ว สู้กับคนไม่เอาไหนแบบนี้ เบอร์เกอร์สองอันก็พอแล้ว”มองจ้าวเสี่ยวตาวส้าวส้วยพูดอย่างดูถูกในสายตาเขา

จ้าวเสี่ยวตาวได้ยินคำนี้ ก็ระเบิดทันที

“คุณดูถูกผม?”

จ้าวเสี่ยวตาวใกล้จะได้สายดำของเทควันโดแล้ว ยังจะมีคนกล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนไม่เอาไหนอีก?

“อยากตายสินะ!”จ้าวเสี่ยวตาวพูดอย่างเยือกเย็น แล้วลงมือทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท