NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 190

ตอนที่ 190

หลี่ฝางยิ้มอย่างเหยียดหยาม มองไปที่ฉินวี่เฟย

บนตัวหลี่ฝาง ดูแล้วมีมูลค่ามหาศาล

มูลค่าทรัพย์สินหลายแสนล้านของคุณท่านหลี่ ใครสามารถร่วมมือกับตระกูลหลี่ได้ กิจการของตระกูลนั้นก็จะสามารถเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งดวงอาทิตย์กลางท้องฟ้า

และคุณท่านหลี่ก็อยู่ไกลถึงต่างประเทศ มหาเศรษฐีลึกลับก็ไม่ยอมปรากฏตัว……

ดังนั้น หลายชายของคุณท่านหลี่ เลยกลายเป็นเป้าหมายในสายตาพวกเขา

ใครได้ตัวหลี่ฝางก่อน ก็เท่ากับว่าคนนั้นมีสิทธิ์ในการกำหนดความร่วมมือกับตระกูลหลี่ก่อน……

ในความจริง มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

หลี่ฝางถามฉินวี่เฟยคำหนึ่ง: “ฉินวี่เฟย คุณปิดบังฐานะทายาทเศรษฐีของคุณ จุดประสงค์คืออะไร?”

“ใช้ชีวิตตามความเป็นจริง คบหาเพื่อนแท้ที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ” ฉินวี่เฟยตอบโดยไม่ต้องคิด

คำถามนี้ ฉินหยู่เฟยถูกถามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เธอก็ตอบไปนับครั้งไม่ถ้วนเหมือนกัน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ถามต่อว่า: “งั้นคุณอยากให้มีคนมาขุดฐานะของคุณออกมาหรือเปล่า?”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า พูดว่า: “ก็ต้องไม่อยากอยู่แล้ว”

“งั้นก็ถูกแล้วไง สิ่งที่ตนไม่อยากทำอย่ายัดเยียดให้คนอื่น เหตุผลข้อนี้ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเข้าใจ คุณไม่ต้องการให้คนรู้ฐานะตัวเอง ผมก็ไม่ต้องการเหมือนกัน”

หลี่ฝางหันไปทางฉินวี่เฟย พูดว่า: “เรื่องฐานะของผม คุณรู้คนเดียวก็พอ ผมไม่อยากให้คุณไปบอกคนอื่น รวมทั้งคนในครอบครัวของคุณ ก็ไม่ได้เหมือนกัน”

ฉินวี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าดูลำบากใจเล็กน้อย

“คุณคงไม่ได้บอกความลับเรื่องนี้กับคนในครอบครัวคุณแล้วนะ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ซักถามด้วยความรู้สึกโกรธเล็กน้อย

“เปล่า” ฉินวี่เฟยส่ายหน้า

หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าอย่างลึกๆเฮือกหนึ่ง พูดว่า: “งั้นก็ดีแล้ว ผมไม่อยากให้ฐานะของตัวเองถูกคนรู้เยอะเกินไป เมื่อเป็นแบบนั้น จะนำพาปัญหามากมายมาให้ผม”

“ปัญหา?” ฉินวี่เฟยรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย

ทายาททรัพย์สินหลายแสนล้าน จะมีปัญหาอะไรได้?

“ใช่ ผมกลัวว่าคนในครอบครัวของคุณจะมาประจบสอพลอผม ผมเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด จอมปลอม” หลี่ฝางพูด

ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฉินวี่เฟย ไม่น่าดูมากยิ่งขึ้นไปอีก

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว รู้สึกโกรธเล็กน้อย นั่นคือคนในครอบครัวเธอนะ!

ต่อหน้าของฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่เพียงพูดว่าเกลียดคนในครอบครัวของเธอ ยังพูดอีกว่าครอบครัวของเธอจอมปลอม เป็นแต่ประจบสอพลอ

ฉินวี่เฟยจะไม่โกรธได้เหรอ?

นี่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นใครก็ตาม ฉินวี่เฟยก็อาจจะเข้าไปตบหน้าเขาสักฉากหนึ่ง

แต่คนคนนี้คือหลี่ฝาง เธอไม่กล้า

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ มองไปที่ฉินวี่เฟยอย่างตลกขบขัน: “ผมว่าคนในครอบครัวคุณแบบนี้ คุณยังไม่โกรธอีก?”

“ถ้าผมเป็นคุณ คงโกรธจนอกแตกตายนานแล้ว แทบอยากจะลงมือทำร้ายคนด้วยซ้ำ”

“คุณนี่อดทนเก่งจริงๆ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ”

หลี่ฝางพูดอย่างไม่มีคำจะพูดจริงๆ: “คุณก็จอมปลอมมากเหมือนกัน”

“ผมดูถูกคนในครอบครัวของคุณ คุณกลับไม่กล้าทำร้ายผม เพราะผมเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉิน คุณกลัวจะทำให้ผมขุ่นเคือง ทำให้ผมเกิดความไม่พอใจ ดังนั้นถึงแม้ผมจะดูถูกคุณ คุณก็ทำได้แค่อดทนไว้เท่านั้น” หลี่ฝางพูดและยิ้มออกมา

พูดจบ จู่ๆหลี่ฝางก็หันหน้ามา ร่างกายพุ่งมาข้างหน้ากะทันหัน

“คุณทำอะไร?”

หลี่ฝางในเวลานี้ ดันฉินวี่เฟยไปติดอยู่ที่มุมกำแพงมุมหนึ่ง

ดูท่าทางของหลี่ฝาง เหมือนกำลังเล่นลูกไม้ไม่ให้เกียรติผู้หญิง(ลวนลาม)

“ผมอยากจะลองทดสอบขีดจำกัดของความอดทนคุณดู ไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณก็ไม่กล้าโกรธ” พูดไป หลี่ฝางก็ก้มหน้าลงไปทางฉินวี่เฟย

นาทีนี้ ฉินวี่เฟยกัดริมฝีปากไว้แน่น ความคิดสับสนไปในทันที

ผลักเขาออก?

หลี่ฝางเป็นถึงหลานชายของหลี่เจียเฉิน ถ้าหากสามารถคบหากับเขาหรือแม้กระทั่งมีความสัมพันธ์กัน งั้นในอนาคตตระกูลฉินอยากสร้างสัมพันธ์แบบร่วมมือกันกับหลี่ฝาง ก็จะง่ายขึ้นมาก

ไม่ผลักออก?

ยอมรับเงียบ ๆ?

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วขึ้นมา เพิ่งจะเคยพบกันสองสามครั้งเท่านั้น ก็ส่งมอบตัวเองออกไป?

สุดท้าย ในช่วงเวลาที่หลี่ฝางใกล้เข้ามา ฉินวี่เฟยยื่นมือออกไปกะทันหัน ผลักหลี่ฝางออกไป

หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ตกใจแทบแย่เหมือนกัน

“เกือบจะจูบไปแล้ว” หลี่ฝางพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์

เสียงดังเพียะที่คมชัดดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง

ฉินวี่เฟยวิ่งเข้ามา ยื่นมือออกไปก็ตบหลี่ฝางไปหนึ่งฉาก: “คุณมันสารเลว!”

เวลานี้ ฉินวี่เฟยโมโหจนเกือบจะร้องไห้ออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาเอาเปรียบตัวเอง และยังเปิดเผยขนาดนี้

นาทีนี้ จู่ๆฉินวี่เฟยก็รู้สึกว่า หลี่ฝางเหมือนกับทายาทเศรษฐีคนอื่นๆ เป็นคุณชายนักรัก(เพลย์บอย)คนหนึ่ง และเป็นไอ้สารเลวคนหนึ่งเหมือนกัน

หลี่ฝางจับหน้าที่โดนตบของตัวเองเอาไว้ แต่กลับหัวเราะเหอะๆขึ้นมา

“น่าสนใจดี”

มองดูเงาแผ่นหลังของฉินวี่เฟยที่วิ่งหนีไป หลี่ฝางยิ้มออกมา

ถ้าหากเมื่อกี้ฉินวี่เฟยไม่ได้ปฏิเสธ หลี่ฝางอาจจะจูบลงไปจริงๆ

แต่ว่า ถึงแม้ว่าจะจูบฉินวี่เฟยไปจริงๆ หลี่ฝางก็จะไม่รับผิดชอบ

หลี่ฝางอยากจะหยั่งเชิงฉินวี่เฟยดูหน่อย ตกลงเธอมีขีดจำกัดความอดทนหรือเปล่า……

ถ้าหากไม่มีขีดจำกัดความอดทน ตัวเองบอกจะจูบก็จูบ งั้นก็แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ ก้มหัวให้กับอำนาจแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ ในสายตาของหลี่ฝาง คือคนไม่มีจิตวิญญาณ

ปฏิกิริยาของฉินวี่เฟย ทำให้หลี่ฝางพอใจพอสมควร

ฉินวี่เฟยไม่เพียงแต่ผลักตัวเองออกไป ยังตบตัวเองไปฉากหนึ่ง เพราะความโกรธ

หลี่ฝางไม่ได้เป็นโรคหลงผิดคิดว่าถูกรังแก แต่ถ้าหากฉินวี่เฟยเลือกที่จะเชื่อฟังโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะอำนาจของตัวเอง คนแบบนี้ มีความหมายอะไร?

ฉินวี่เฟยที่วิ่งกลับเข้าไปในชั้นเรียน ฟุบอยู่บนโต๊ะร้องไห้ขึ้นมา

เมื่อกี้อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น จูบแรกของเธอก็จะหายไปแล้ว

นึกถึงการกระทำของหลี่ฝางเมื่อกี้ ฉินวี่เฟยก็โกรธมาก

ถึงแม้จะยังไม่ถูกจูบ ฉินวี่เฟยก็รู้สึกอัปยศอดสูมาก

“วี่เฟย เธอเป็นอะไร?”

ในเวลานี้ เหยนเสี่ยวน่ามาถึงในชั้นเรียน

เธอเห็นฉินวี่เฟยร้องไห้ สะดุ้งตกใจทันที

เหยนเสี่ยวน่าพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “วี่เฟย ใครรังแกเธอ เธอบอกกับฉันเลย ฉันไปแก้แค้นให้เธอ”

แต่ฉินวี่เฟยเอาแต่ร้องไห้ ไม่ตอบอะไร เหยนเสี่ยวน่าร้อนใจขึ้นมา ตะโกนพูดเสียงดังขึ้นมาในชั้นเรียน: “ไอ้สารเลวคนไหนรังแกฉินวี่เฟย ออกมาเลยนะ!”

“ไม่ใช่คนในห้องเราที่เป็นคนทำ” มีคนพูดขึ้นมา

ฉินวี่เฟยสวยขนาดนั้น สวยเหมือนกับดารา เด็กผู้ชายในห้องของพวกเธอกลุ่มนี้ ประจบประแจงเอาใจยังไม่ทันเลย ไหนเลยจะทำใจรังแกฉินวี่เฟยได้

“หวางตาน ไป เราไปหาไอ้หมอนั่น แก้แค้นให้ฉินวี่เฟย”

ผู้ชายสองสามคนลุกขึ้นมา อยากจะไปคิดบัญชีกับหลี่ฝาง

นี่คือเทพธิดาของพวกเขานะ ร้องไห้ขนาดนี้ ผู้ชายกลุ่มนี้ปวดใจจะตายอยู่แล้ว

แต่ตอนที่พวกเขาวิ่งไปถึงดาดฟ้า หลี่ฝางหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว

“หยุดนะ”

“ผู้ชายกลุ่มนี้เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู จู่ๆฉินวี่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมา พูดว่า: “ใครใช้ให้พวกนายไปแก้แค้นให้ฉัน!”

“เทพธิดาก็คือเทพธิดา ร้องไห้จนหน้าตามอมแมมก็ยังสวยขนาดนี้”

“นี่สวยกว่าเน็ตไอดอลในแอพไขว่โส่วมาก ถึงแม้ว่าดาวมหาลัยฉินจะไม่แต่งหน้าเลย ความสวยของหน้าตายังสามารถฆ่าพวกเธอได้เลย”

ผู้ชายจนๆสองสามคนมองไปที่ใบหน้าของฉินวี่เฟย ตกอยู่ในความหลงใหลอีกครั้ง

“วี่เฟย ตกลงใครเป็นคนรังแกเธอกันแน่?” เหยนเสี่ยวน่าถามขึ้นมาอีกครั้ง

เหยนเสี่ยวน่าอยากรู้มาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นฉินวี่เฟยปกป้องผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้ชายคนนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไหนกันแน่?

“เขาไม่ได้รังแกฉัน” ฉินสี่เฟยเช็ดน้ำตาออก ส่ายหน้าและพูด

“เขาไม่ได้รังแกเธอ งั้นเธอร้องไห้ทำไม?” เหยนเสี่ยวน่าซักถาม

“เธออย่าถามได้ไหม” ฉินวี่เฟยรู้สึกโกรธเล็กน้อยแล้ว

“ได้ ไม่ถามแล้ว งั้นเธอบอกฉันหน่อยว่าเขาเป็นใคร ฉันสัญญา ฉันจะไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก” ตอนนี้เวลานี้ เหยนเสี่ยวน่าแค่อยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน

“เธอยังจะถามอีก ไม่สนใจเธอแล้ว” ฉินวี่เฟยพูดแล้วก็หันหน้ากลับไป

หลี่ฝางหาหลี่ฝางไม่เจอ เลยได้แต่กลับเข้าไปในชั้นเรียนของตัว

เพิ่งกลับมา หลี่ฝางก็ถูกหวางเสี่ยวโก๋กอดเอาไว้

“หลี่ฟาง นายนี่มันสุดยอดมากจริงๆ” หวางเสี่ยวโก๋พูดและมองดูหลี่ฝางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

“ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางถาม

“ฉันเพิ่งได้ข่าวมา ขาของหลิวเสี่ยวเทา หักไปแล้วจริงๆ”

หวางเสี่ยวโก๋หัวเราะเหอะๆ: “เมื่อคืนนายบอกว่านายตีขาของหลิวเสี่ยวเทาหัก ฉันยังไม่เชื่อ”

“ตอนนี้ฉันไม่เพียงแค่เชื่อเท่านั้น ตรงกันข้ามยังนับถือชื่นชมนายจนอยากจะก้มตัวลงไปกราบเลยด้วยซ้ำ หลี่ฝาง นายทำได้อย่างไรกันน่ะ?” มองดูหลี่ฝาง หวางเสี่ยวโก๋ถามด้วยความอยากรู้

“นี่ยังไม่ง่ายเหรอ ใช้ไม้ตีลงไป ขาของหลิวเสี่ยวเทา ก็หักแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างเรียบเฉย

หวางเสี่ยวโก๋กลอกตามองหลี่ฝางแวบหนึ่ง: “นายแกล้งทำเป็นโง่กับฉันเหรอ”

“ที่ฉันอยากจะถามคือ ที่นายตีขาของหลิวเสี่ยวเทาหัก โดยไม่ให้หลิวเหล่าซานแก้แค้นนายนายทำได้อย่างไร?”

หวางเสี่ยวโก๋มองดูหลี่ฟาง สายตาจมเข้าไปอยู่ในความคิดจากเรื่องหนึ่งเชื่อมโยงไปอีกเรื่องหนึ่ง

“หลี่ฝาง นายคงไม่ได้เป็นลูกชายของลูกพี่ใหญ่ในวงการมาเฟียคนไหนหรอกนะ?” จู่ๆ หวางเสี่ยวโก๋ก็คว้าแขนของหลี่ฝางเอาไว้ ถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“ไม่ใช่” หลี่ฝางส่ายหน้าและพูดขึ้นมา: “พ่อฉันเป็นแค่ชาวนาชาวไร่ธรรมดาเท่านั้น”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท