NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 188

ตอนที่ 188

หวงว่างโก๋กลับเข้าไปในโรงแรม

หลี่ฝางตบบ่าของหวางเห้าเบาๆ: “ช่างเถอะ ในเมื่อชางสู่ไม่ยอมบอกความจริงกับคุณ ต้องเป็นเพราะหวังดีกับคุณแน่นอน”

คำพูดที่หลี่ฝางพูดพวกนี้ หวางเห้าจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?

“เพราะผมไม่อยากให้ชางสู่หวังดีกับผมนี่แหละ ครั้งนี้เขาออกไปอย่างเร่งรีบ เห็นได้ชัดว่าเจอกับเรื่องยากลำบากเข้าแล้ว และหวงว่างโก๋พูดออกมาคำหนึ่ง น่าเสียดายแล้ว คำว่าเสียดายนี้หมายความว่าอย่างไร?”

หวางเห้าเป็นห่วงมาก ครั้งนี้ชางสู่จะเกิดเรื่อง

และ ยิ่งชางสู่ปิดบังหวางเห้า ก็ยิ่งแสดงว่าเรื่องนี้มีอันตราย

หวางเห้าอยากไปหาหวงว่างโก๋แล้วถามให้ชัดเจน กลับถูกหลี่ฝางหยุดเอาไว้ หลี่ฝางพูดว่า: “คุณคิดว่าพี่หวงจะบอกคุณเหรอ?”

“ถ้าเขายอมบอก เมื่อกี้ก็บอกกับคุณแล้ว” หลี่ฝางพูด

“ช่างมันเถอะ” หลี่ฝางตบบ่าของหวางเห้าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าจนปัญญา

สามารถดูออกได้ว่า ความสัมพันธ์ของหวงว่างโก๋คนนี้กับชางสู่ ก็ดีมากเช่นกัน

ถ้าไม่อย่างนั้น ชางสู่ก็คงจะไม่กินฟรีดื่มฟรีที่โรงแรมว่างโก๋

ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของชางสู่ คิดว่านอกจากหวงว่างโก๋แล้ว ก็มีไม่กี่คนที่รู้

หวางเห้าถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ถึงได้ละทิ้งการซักถามไป

หวางเห้ามองดูหลี่ฝาง ถามว่า: “ใช่แล้ว หลิวเหล่าซานคนนั้น เป็นใครกัน?”

“นักต้มตุ๋นน้อย(คนที่โกงตอนเล่นการพนัน)คนหนึ่ง ตอนนี้เป็นเจ้าของห้องคาสิโนอยู่ร้านหนึ่ง ในมือมีลูกน้องอยู่เยอะพอสมควร” หลี่ฝางพูด

หวางเห้ายิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม พูดว่า: “ไป ขึ้นรถ ผมพาคนไปกวาดล้างห้องคาสิโนของเขา”

หลี่ฝางคิดทบทวน ส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ช่างเถอะ ผมคิดว่าหลิวเหล่าซานน่าจะไม่มาหาเรื่องกับผมอีกแล้ว ตอนนี้คุณยังปักธงไม่สำเร็จ ยั่วยุศัตรูให้น้อยดีกว่า”

“เจ้านาย คุณหมายความว่าไง ดูถูกคนใช่ไหม?”

“ก็แค่นักต้มตุ๋นน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ผมใช้มือเดียวก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว เชื่อไหม?” หวางเห้าพูดอย่างเหยียดหยามมาก

“หลิวเหล่าซานอยู่ในเมืองเอกนานขนาดนี้ ก็ต้องพอมีความสามารถอยู่แน่นอน อย่าไปดูถูกเขา” หลี่ฝางพูด

“คุณรับมือจางกงหมิงโดยเฉพาะดีกว่า ผมได้ยินว่าจางกงหมิงปักธงสำเร็จแล้ว เป็นเรื่องจริงไหม?” หลี่ฝางมองไปที่หวางเห้าแล้วถาม

“ผมกำลังจะบอกคุณอยู่พอดีเลย จางกงหมิงคนนี้ มันโหดมากจริงๆ ในเมืองเหนือแห่งนี้มีคนที่ชื่อห้าวหนานอยู่คนหนึ่ง ในเมืองเหนือ สามารถพูดได้ว่าอยู่ในระดับของลูกพี่ใหญ่ เมื่อคืนจางกงหมิงคนนี้ทำให้ห้าวหนานกลายเป็นคนพิการไป รับช่วงต่อเขตอิทธิพลทั้งหมดของเขาในชั่วข้ามคืน”

“ถือว่าโด่งดังในชั่วข้ามคืนมั้ง ตอนนี้วงการมาเฟียใต้ดินของเมืองเอก รู้จักเขาจางกงหมิงหมดแล้ว”

หวางเห้ายิ้มออกมา พูดว่า: “เจ้านาย ข่าวนี้สำหรับคุณแล้ว เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งเลย”

“นี่ถือเป็นเรื่องดีแบบไหนกัน ตอนนี้เขาติดตามมู่เสี่ยวไป๋แล้ว ถือได้ว่าเป็นศัตรูของผมแล้ว” หลี่ฝางกลอกตามองหวางเห้าแวบหนึ่ง พูดด้วยความโกรธ

“คุณคิดดูสิ ห้าวหนานเป็นลูกพี่ใหญ่วงการมาเฟียใต้ดินมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ในมือจะไม่มีลูกน้องที่ภักดีและพี่น้องที่ผ่านความยากลำบากและตายแทนกันได้เลยเหรอ? จางกงหมิงทำให้ห้าวหนานกลายเป็นคนพิการ ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตที่เหลือนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเท่านั้น ลูกน้องของพี่ห้าว และพี่น้องของเขา จะปล่อยจางกงหมิงไปเหรอ?”

“มู่เสี่ยวไป๋อย่างมากก็สามารถช่วยให้จางกงหมิงรอดพ้นจากการลงโทษทางกฎหมาย แต่คนในวงการ มู่เสี่ยวหมิงจะสามารถขัดขวางเอาไว้ได้เหรอ อย่างน้อยที่สุดในหนึ่งเดือนนี้ ชีวิตของจางกงหมิง จะไม่สงบสุขแน่”

“แม้แต่การไปห้องน้ำ เขาคงต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วย หรือไม่ก็ต้องคอยระวังตัวอย่างดี”

“ปักธง ไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายเลย” หวางเห้าพูดด้วยสีหน้าจริงจังหนักแน่น

ความจริงวิธีการปักธง ไม่มีอะไรมากไปกว่าสองวิธี

วิธีการแรก นั่นก็คือค่อยเป็นค่อยไปช้าๆ พัฒนาไปทีละก้าว รอให้เขตอิทธิพลของคุณใหญ่พอแล้ว เวลานานไป คนในวงการก็จะรู้ว่าคุณเป็นใคร

วิธีการปักธงวิธีนี้ ช้ามาก แต่คนส่วนใหญ่ ก็ล้วนแต่จะเลือกวิธีนี้กันทั้งนั้น

วิธีการที่สอง นั่นก็คือการเลือกลูกพี่ใหญ่ในวงการมาเฟีย ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งดี จัดการกับเขา แล้วกินรวบเขตอิทธิพลของเขาเสีย

วิธีการปักธงแบบนี้ เร็วมาก เร็วจนสามารถโด่งดังในชั่วข้ามคืน

แต่มันก็ยากมากเช่นกัน อย่างไรเสียลูกพี่ใหญ่ทุกคน ก็ล้วนมีความสามารถและประสบการณ์มากเพียงพอ อยากกำจัดพวกเขาทิ้งมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด?

ตำแหน่งลูกพี่ใหญ่วงการมาเฟียมากมาย ก็ล้วนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปสั่นคลอนได้

สาเหตุที่จางกงหมิงสามารถทำสำเร็จได้ หนึ่งเพราะมีมู่เสี่ยวไป๋คอยสนับสนุนเขา สองคือตัวของจางกงหมิงเองก็เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง

“คุณอยากปักธงอย่างไร?”

หลี่ฝางถามหวางเห้า

“ก็ต้องเหมือนกับจางกงหมิงอยู่แล้ว ดึงธงของเจ้าของเดิมออก เสียบธงตัวเองเข้าไป” หวางเห้าเลิกคิ้ว

หลี่ฝางถามต่อว่า: “มีเป้าหมายหรือยัง?”

“ก็เสือนี่แหละ”

หวางเห้าพูดพร้อมหัวเราะเหอะๆ: “เมืองเอกไม่เหมือนตงไห่ หลายปีมานี้ ก็มีลูกพี่ใหญ่แค่สองคน ลูกพี่หลินคนหนึ่ง ลูกพี่หลี่คนหนึ่ง”

“แต่เมืองเอก ลองนับดูดีๆ มีบุคคลอย่างลูกพี่หลินอย่างน้อยก็มีสิบกว่าคนแล้ว”

“และ แต่ละคนก็ไม่ใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมัน(จัดการได้ง่าย) รวมถึงห้าวหนานคนนั้น ก็เป็นด้วยกระดูกที่แทะยากคนหนึ่งเหมือนกัน ผมได้ยินมาว่าครั้งนี้สามารถจัดการกับห้าวหนานของเมืองเหนือได้ ความจริง ลูกพี่หลินออกแรงในที่ลับไปไม่น้อย”

“ดูท่า จางกงหมิงเติบโตอยู่ที่เมืองเอก ลูกพี่หลินยอมรับแล้ว”

หวงเห้ายิ้มออกมาอย่างขมขื่น: “จางกงหมิงคนนี้แม่งมันโชคดีกว่าผม ไม่ได้มีเพียงแต่มู่เสี่ยวไป๋เท่านั้นที่สนับสนุนเขา ยังมีลูกพี่หลินที่คอยสนับสนุนเขาเงียบๆอยู่ข้างหลัง เขาไม่อยากจะประสบความสำเร็จยังยากเลยเนาะ”

“คุณมีผมอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างไม่ละลาย

“เจ้านาย นอกจากคุณจะสามารถให้เงินผมได้แล้ว ยังให้อะไรผมได้อีก? หรือคุณจะให้ผมเอาเงินไปฟาดหัวของเสือ ให้เขาก้มหัวให้ผม เป็นลูกน้องของผม?”

“นี่เป็นไปได้ไหม?” หวางเห้าพูดเซ็งๆ

“มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากตอนนี้ผมถือเงินยี่สิบล้านไปหาเสือ ให้เขามาติดตามผม ผมคิดว่าเขาจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน” หลี่ฝางพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย

“สุนัขที่เลี้ยงออกมาด้วยเงิน มันจะกัดเจ้าของได้ เจ้านาย คุณคงไม่ได้ไม่รู้แม้กระทั่งเหตุผลข้อนี้หรอกใช่ไหม?”

หวางเห้าพูด: “อีกอย่าง ผมเอาฟาดหัวแล้ว ถึงแม้จะปักธงสำเร็จ ก็จะไม่มีคนยอมรับผม”

“ก็เหมือนมู่เสี่ยวไป๋ ทั่วทั้งตงไห่ ยังมีใครรวยมากกว่าเขาอีก? แต่เขาก็ไม่สามารถเป็นลูกพี่ใหญ่ได้ เจ้าหมอนั่น ก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น” หวางเห้ายิ้มออกมาอย่างดูถูก

ข้อนี้ หลี่ฝางก็เห็นด้วยเหมือนกัน

มู่เสี่ยวไป๋เป็นขยะจริงๆนั่นแหละ ตอนที่อยู่รีสอร์ตในตอนนั้น ตัวเองก็สามารถจัดการเขาให้เรียบร้อยแล้ว และยังสามารถปราบเขาได้อยู่หมัด

นี่หมายความว่าว่า มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย

ที่น่ากลัวจริงๆ คือตระกูลมู่ที่อยู่เบื้องหลังมู่เสี่ยวไป๋

“เจ้านาย เรื่องที่ผมจะจัดการเสือ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย? ถ้าหากว่าเห็นด้วย ผมจะได้เริ่มเตรียมการ” หวางเห้าถามหลี่ฝาง

อย่างไรเสียหวางเห้าก็เป็นเจ้านายของหวางเห้า ให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับเขา

ดังนั้น หวางเห้าทำอะไร ต้องหารือกับหลี่ฝางด้วย

“มั่นใจหรือเปล่า?”

หลี่ฝางชอบเป้าหมายนี้อยู่ เพราะเสือเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ ถ้าหากสามารถกำจัดเสือทิ้งเสีย ก็เท่ากับถอดแขนของมู่เสี่ยวไป๋ทิ้งไปข้างหนึ่ง

นี่ยังเป็นประโยชน์ต่อการโค่นล้มมู่เสี่ยวไป๋ในอนาคตอีกด้วย

หลี่ฝางเคยรับปากหลินชิงชิง จะใช้เวลาที่สั้นที่สุด เหยียบมู่เสี่ยวไป๋ไว้ใต้เท้า

ดังนั้น กำหนดเป้าหมายไปที่คนของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว

“มีแน่นอนอยู่แล้ว” หวางเห้าตบไปที่หน้าอก พูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก

“อย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป ข้างหลังของเสือมีมู่เสี่ยวไป๋สนับสนุนเขาอยู่ คุณจะกำจัดเขาทิ้ง ทางด้านมู่เสี่ยวไป๋ก็คืออุปสรรคอย่างหนึ่ง” หลี่ฝางพูดเตือนหวางเห้า

“วางใจเถอะ เจ้านาย ผมไม่ทำให้คุณผิดหวังหรอก” หวางเห้ายังคงทำหน้าเหยียดหยามแบบนั้น เหมือนกับว่าเสือเป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเขามานานแล้ว(ได้มาโดยไม่ต้องเสียแรงมาก)

“ลงมือเมื่อไหร่ บอกผมคำหนึ่ง” หลี่ฝางพูดกับหวางเห้า

หวางเห้าพยักหน้า: “งั้นผมกลับไปก่อนแล้ว ทางด้านศูนย์อาบน้ำ ผมต้องคอยดูแลหน่อย อย่างไรเสียชางสู่ไม่อยู่ ก็เหลือผมคนเดียวแล้ว”

หลี่ฝางพยักหน้า โบกมือให้หวางเห้าไปเลย

จากนั้น หลี่ฝางกลับเข้าไปในรถเบนซ์G-Class เวลานี้ หวางเหยาคนนั้นหันหน้าเข้าหาโทรศัพท์มือถือ เปิดการไลฟ์สดอยู่ในรถ

หลี่ฝางคลิกเข้าไปดู มีคนดูอยู่ในไลฟ์สามพันกว่าคน นี่ทำให้หลี่ฝางตกตะลึงไปเลย

เมื่อหลี่ฝางกลับมา หวางเหยาก็ทักทายในห้องไลฟ์สดเสร็จแล้วก็ปิดการไลฟ์สดไปเลยโดยตรง

หลี่ฝางสอบถามไปคำหนึ่ง: “ทำเงินได้เท่าไหร่ล่ะ?”

“ได้รับของขวัญหนึ่งพันกว่า แฟนคลับเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหมื่นกว่า ตอนที่พวกคุณต่อสู้กันเมื่อกี้ ฉันแอบไลฟ์สดไปครู่หนึ่ง ผลตอบรับดีมากเลย ถ้าไม่ใช่มีคำเตือนจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเตือนเข้ามาในไลฟ์สดของฉัน ก็ทะลุหลักหมื่นไปแล้ว” หวางเหยาเบ้ปาก พูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“รอให้บริษัทสื่อการสื่อสารของเราจัดตั้งขึ้นมาแล้ว เราจะจัดเตรียมคนให้ช่วยเพิ่มแฟนคลับให้คุณ ช่วยสร้างความนิยมให้คุณ” หลี่ฝางพูด: “อยู่กับผม ผมรับประกันว่าคุณจะทำเงินได้มหาศาล”

พูดจบ หลี่ฝางก็ส่งหวางเหยากับโจวหยางกลับไป

สุดท้ายหลี่ฝางขับรถกลับไปถึงสุ่ยมู่ เตรียมจะไปคิดบัญชีกับสวีเถิงเฟยในวันที่สอง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท