NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 186

ตอนที่ 186

เห็นการมาถึงของหวงว่างโก๋ ในใจของหลี่ฝาง จุดประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อย

หลิวเหล่าซานหันกลับไปมอง เห็นว่านั่นคือหวงว่างโก๋

บนใบหน้าของหลิวเหล่าซาน มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาทันที แล้วก็ทักทายหวงว่างโก๋ขึ้นมา: “ที่แท้ก็พี่หวงนี่เอง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

ในเวลาปกติ หวงว่างโก๋นั้นเป็นเหมือนกับเทพเจ้ามังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง(ทำตัวลึกลับไม่ค่อยเปิดเผย)

แม้ว่าโรงแรมว่างโก๋จะเป็นธุรกิจของหวงว่างโก๋ แต่โรงแรมนี้ ส่วนใหญ่ผู้จัดการล็อบบี้จะเป็นคนดูแล

เฉลี่ยแล้วทุกเดือน หวงว่างโก๋จะมาแค่สองสามครั้งเท่านั้น

หวงว่างโก๋ยิ้มออกมา มองหลี่ฝางไปครู่หนึ่ง: “เหล่าซาน แก่ขนาดนี้แล้ว ยังจงใจไปหาเรื่องเด็กคนหนึ่งอีกนะ”

สีหน้าของหลิวเหล่าซานอับอายเล็กน้อย อย่างไรเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงการ บุคคลอย่างเขา ออกหน้าจัดการกับเด็กคนหนึ่ง เสื่อมเสียศักดิ์ศรีจริงๆนั่นแหละ

ถ้าข่าวแพร่ออกไป ต้องถูกคนในวงการมาเฟียหัวเราะเยาะแน่นอน

“ใครใช้ให้ไอ้หมอนี่ไปล่วงเกินคนล่ะ” หลิวเหล่าซานพูดอธิบายเสียงแห้ง

“ไปล่วงเกินใครเข้าล่ะ?” หวงว่างโก๋ถาม

“พี่หวง เรื่องนี้ผมจะพูดได้เหรอ พูดออกมาไม่ใช่ว่าไปทำลายกฎของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?” หลิวเหล่าซานหัวเราะเหอะๆ

เวลานี้ หลิวเหล่าซานพูดกับกวนจื่อว่า: “กวนจื่อ แม่งมึงมัวโอ้เอ้อะไรอยู่ ยังไม่รีบลงมืออีก?”

หลังจากที่กวนจื่อได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนเป็นดุร้ายน่ากลัวขึ้นมาในทันที จับแท่งเหล็กเอาไว้ในมือแน่น

“รอเดี๋ยวก่อน!”

ช่วงเวลาที่กวนจื่อกำลังจะลงมือ หวงว่างโก๋ก็เอ่ยปาก

“พี่หวง นี่คุณหมายความว่าอย่างไร?” สีหน้าของหลิวเหล่าซานดำมืดครู่หนึ่ง

“คุณคงจะไม่ยุ่งเรื่องที่ไม่ควรจะยุ่งหรอกนะ?” หลิวเหล่าซานเหล่ตามองหวงว่างโก๋แวบหนึ่ง สายตาดูเป็นมิตรเล็กน้อย

“พูดตามตรงไม่ปิดบัง เด็กคนนี้ ผมรู้จักอยู่พอดี” หวงว่างโก๋พูด

“ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะเห็นแก่หน้าผม ปล่อยเด็กคนนี้ไปสักครั้ง”

สีหน้าของหลิวเหล่าซาน ขรึมลงไปในทันที

ออกมาเป็นนักเลง ไม่มีอะไรไปมากกว่าการแสวงหาความมั่งคั่ง

ยิ่งไปกว่านั้น หลิวเหล่าซานรับเงินมาแล้วด้วย

ต้องการจะให้หลิวเหล่าซานถอนตัวตอนนี้ เป็นไปได้เหรอ?

“พี่หวง ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้หน้าคุณ เพียงแต่ว่าผมหลิวเหล่าซานมีกฎของตัวเอง ในเมื่อผมรับเงินมาจากผู้ว่าจ้างแล้ว ก็ต้องทำงานให้กับผู้ว่าจ้างให้ดีอยู่แล้ว”

“เพราะคำพูดคำเดียวของคุณ ผมก็ไปทุบป้ายทำลายชื่อของตัวเองคงไม่ได้?” หลิวเหล่าซานพูดเสียงฮึดฮัด

ถ้าหากเป็นตอนก่อนที่หวงว่างโก๋จะล้างมือในอ่างทองคำ(วางมือจากอำนาจ) หลิวเหล่าซานไหนเลยจะกล้าพูดกับหวงว่างโก๋ด้วยน้ำเสียงแบบนี้?

เสียดาย หวงว่างโก๋ล้างมือในอ่างทองคำและ กลายเป็นนักธุรกิจคนหนึ่งแล้ว

ตอนนี้ กับหวงว่างโก๋แล้ว หลิวเหล่าซานมีแต่ความเคารพนับถือ แต่ไม่มีความเกรงกลัวแล้ว

ดังนั้น หลิวเหล่าซานไม่คิดจะไว้หน้านี้กับหวงว่างโก๋

“ป้ายชื่อหลิวเหล่าซานคุณผมรู้ ไม่ใช่การรับเงินคน แล้วจัดการปัญหาให้พวกเขาเหรอ?”

“แต่หลิวเหล่าซาน จัดการปัญหาให้คนอื่น ก็ต้องมีข้อสันนิษฐานของมูลเหตุล่วงหน้า นั่นก็คือไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน” หวงว่างโก๋พูด

คิ้วของหลิวเหล่าซานขมวดแน่นขึ้นอีกครั้ง

คนฉลาดและตื่นตัวอย่างหลิวเหล่าซาน จะฟังความหมายในคำพูดของหวงว่างโก๋ไม่ออกได้อย่างไร

เห็นได้ชัดว่าหวงว่างโก๋กำลังบอกหลิวเหล่าซาน ถ้าหากทำร้ายหลี่ฝางแล้ว จะนำปัญหาบางอย่างมาให้เขา

หลิวเหล่าซานมองไปที่หวงว่างโก๋ พูดว่า: “พี่หวง คุณพูดให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม?”

“ผมพูดอย่างได้ชัดเจนมากพอแล้ว”

หวงว่างโก๋พูดจบ ก็หันหลังกลับไป เตรียมตัวกลับโรงแรมของตัวเอง

และในเวลานี้ บนหน้าของหลิวเหล่าซาน เต็มไปด้วยความสับสน

ตกลงจะลงมือ หรือไม่ลงมือดีล่ะ?

หวงว่างโก๋รู้สึกไม่ค่อยวางใจ พูดเตือนขึ้นมาอีกคำ: “ใช่แล้ว หลิวเหล่าซาน รถปอร์เช่คันเมื่อกี้ คุณน่าจะเห็นแล้วใช่ไหม?”

“รถปอร์เช่สีขาวคันนั้น?” หลิวเหล่าซานถามต่อ

“ใช่ นั่นไม่ใช่ปอร์เช่ธรรมดา แต่เป็นปอร์เช่ 918 ลิมิเต็ดอิดิชั่น มูลค่าเฉียดยี่สิบล้าน ทั่วทั้งเมืองเอกก็หาไม่เจอสักคัน”

“เจ้าของรถชื่อถังหยู่ซวน เขากับหลี่ฝางเป็นเพื่อนรักกัน”

หวงว่างโก๋พูดจบ เดินกลับไปยังโรงแรมว่างโก๋ด้วยความรวดเร็ว

ได้ยินคำพูดพวกนี้ สีหน้าของหลิวเหล่าซานเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

รถปอร์เช่ที่มีมูลค่ายี่สิบล้าน?

หลิวเหล่าซานไม่ใช่คนบ้านนอก เขาก็เคยเห็นรถหรูมาไม่น้อย แต่รถสปอร์ตที่มีราคาหลักสิบล้านขึ้น เขาไม่เคยเห็นมาก่อนสักคัน

ความจริง ถึงแม้จะเปิดตาไปมองดูทั้งประเทศ รถสปอร์ตที่มีราคาหลักสิบล้านขึ้น ก็มีให้เห็นไม่มาก

เจ้าของรถสปอร์ตที่มีราคาหลักสิบล้านขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่มีเงินธรรมดาๆเท่านั้น ยิ่งเป็นสัญลักษณ์ทางฐานะอย่างหนึ่ง

“ถังหยู่ซวน?”

หลิวเหล่าซานบ่นพึมพำหนึ่งรอบ

ถึงแม้หลิวเหล่าซานไม่รู้ว่าถังหยู่ซวนมีที่มาอย่างไร แต่สามารถขับรถหรูราคายี่สิบล้านได้ แล้วจะดูถูกฐานะได้อย่างไร

“พี่ใหญ่ ยังจะลงมืออยู่ไหม”

กวนจื่อหันกลับมา ถามหลิวเหล่าซาน

หลิวเหล่าซานขมวดคิ้ว คิดทบทวนดู พูดว่า: “กลับไปก่อนค่อยว่ากัน

กวนจื่อพยักหน้า กลับเข้าไปในรถตู้

ในที่สุดหลี่ฝางก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

กลับเข้าไปในรถ กวนจื่อถามหลิวเหล่าซาน: “พี่สาม ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนใจล่ะ?”

หลิวเหล่าซานทำหน้ามืดครึ้ม: “ไอ้หวงว่างโก๋บอกว่า เมื่อกี้รถปอร์เช่ที่เพิ่งจากไปคันนั้น มูลค่ายี่สิบล้าน”

“ยี่สิบล้าน!”

สีหน้าท่าทางของกวนจื่อตะลึงงันทันที: “นี่เป็นรถประเภทไหนกัน ราคาตั้งยี่สิบกว่าล้าน ถึงแม้จะทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีราคาสูงถึงยี่สิบล้าน”

“ไอ้หวงว่างโก๋มันหลอกเราหรือไม่?” กวนจื่อพูดด้วยความสงสัยเล็กน้อย

“ฉันว่าไม่เหมือน หวงว่างโก๋ไม่ใช่คนที่จะพูดจาส่งเดช และ เดิมทีปอร์เช่ก็เป็นรถหรูอยู่แล้ว รถเบนซ์ G-Class คันนี้ก็เป็นรถหรูเหมือนกัน หลี่ฝางคนหนุ่มคนนี้ ไม่น่าจะใช่คนธรรมดา”

“กวนจื่อ แกไปสืบคนให้ฉันคนหนึ่ง เจ้าของรถปอร์เช่คันนั้นนั่นแหละ เขาชื่อถังหยู่ซวน ลองสืบรถของเจ้าหมอนั่นดู ราคายี่สิบล้านจริงหรือเปล่า สืบดูอีกว่าคนคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่?”

“ถ้าหากว่ารถของถังหยู่ซวนมีมูลค่ามากขนาดนั้นจริงๆ งั้นงานครั้งนี้ เราก็ไม่สามารถรับเอาไว้ได้แล้ว”

หลิวเหล่าซานไม่ใช่คนโง่ ถ้าหากว่ารถของถังหยู่ซวนมีราคายี่สิบล้านจริง งั้นก็แสดงว่าถังหยู่ซวนก็ต้องเป็นสุดยอดทายาทเศรษฐีคนหนึ่ง

และหลี่ฝางก็เป็นพี่น้องของถังหยู่ซวนอีก

ตีขาของหลี่ฝางหัก ก็เท่ากับล่วงเกินถังหยู่ซวน

ล่วงเกินสุดยอดทายาทเศรษฐีคนหนึ่ง นั่นไม่ใช่เรื่องดีอะไร

สุดยอดทายาทเศรษฐีคนหนึ่ง ต่างก็มีเบื้องหลังที่ใหญ่มาก คนกลุ่มนี้ หลิวเหล่าซานไม่มีปัญญาที่จะล่วงเกินได้เลย

อย่างไรเสียห้องคาสิโนที่หลิวเหล่าซานเปิด เดิมทีก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันอยู่แล้ว จัดอยู่ในธุรกิจผิดกฎหมาย

ล่วงเกินคนที่มีเบื้องหลัง งั้นห้องคาสิโนของเขา ก็จะมีความเสี่ยงที่จะถูกสั่งปิด

หลิวเหล่าซานไม่อยากเอาห้องคาสิโนของตัวเองเข้าไปเสี่ยง เพราะเงินห้าหมื่นหยวน

กวนจื่อพยักหน้า ชี้ไปที่หลิวเสี่ยวเทาที่อยู่นอกรถแล้วพูดว่า: “พี่สาม เราจะทิ้งเสี่ยวเทาไว้ที่นี่ หรือว่าพาไปด้วย?”

พูดถึงหลิวเสี่ยวเทา สีหน้าของหลิวเหล่าซาน เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม

ในฐานะที่หลิวเสี่ยวเทาเป็นหลานชายของเขา กลับสวมเขาให้กับเขา!

ถ้าไม่ใช่ว่าเขาออกมาซื้อบุหรี่แล้วเห็นกับตาตัวเองว่าเย่นเหนียงกับหลิวเสี่ยวเทาออกมาจากโรงแรมพร้อมกัน หลิวเหล่าซานไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

หลานชายตัวเองคนนี้ ใจกล้าขนาดนี้เลย

“ช่างเถอะ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นหลานชายของฉัน ถ้าฉันทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่จริงๆ กลับไปฉันจะอธิบายให้พี่ชายฉันอย่างไร?” หลิวเหล่าซานถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วพูดออกมา

เรื่องนี้ ทำให้หลิวเหล่าซานค่อนข้างเสียหน้าอยู่ไม่น้อย

หลิวเหล่าซานด่าออกมาด้วยความโกรธ:“เย่นเหนียงก็ยังมีสันดานหมาชอบกลับไปกินขี้จริงๆ ใครให้เงินเธอ เธอก็ขึ้นเตียงกับคนนั้น”

กวนจื่อแอบหัวเราะในใจ คิดในใจ ก็นั่นน่ะสิ คนในห้องคาสิโน เคยนอนกับเย่นเหนียงมาแล้วมากมาย เพียงแต่ไม่ให้หลิวเหล่าซานรู้เท่านั้นเอง

นักพนันจำนวนมาก เมื่อเล่นพนันได้เงินมา ก็จะถูกเย่นเหนียงเกี่ยวตัวไป

เย่นเหนียงก็มีความสามารถนี้ รูปร่างของเธอ ใบหน้าที่สวยพราวไปด้วยเสน่ห์ ก็คือต้นทุนในการเกี่ยวคนของเธอ

ทุกครั้งที่เธอเห็นลูกค้าชนะพนันได้เงินก้อนโต ก็จะริเริ่มยั่วยวน ถือโอกาสทำเงินก้อนหนึ่ง

เย่นเหนียงอยู่ภายใต้เปลือกตาของหลิวเหล่าซาน ทำเงินได้ไม่น้อย เพียงแต่ว่าหลิวเหล่าซานถูกปิดเอาไว้ในกลอง(ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัว) ไม่รู้อะไรเลยเท่านั้นเอง

หลิวเสี่ยวเทาถูกลากขึ้นรถ ก็ถูกพากลับไปเลย

หลังจากที่คนของหลิวเหล่าซานจากไปจนหมดแล้ว หลี่ฝางถึงจะโยนท่อนเหล็กทิ้งไป

โจวหยางก็ลงมาจากรถ ถอนหายใจโล่งอก: “นับว่าแค่ตื่นตระหนกตกใจกันเท่านั้น”

“หลี่ฝาง ครั้งนี้โชคดีที่ได้เจ้าของโรงแรมว่างโก๋ช่วยเอาไว้ นายเข้าไปขอบคุณเขาหน่อยเถอะ” โจวหยางพูด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเดินไปทางโรงแรมว่างโก๋: “ได้ งั้นพวกนายรอฉันที่นี่ครู่หนึ่ง”

หลี่ฝางรู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดไม่กี่คำของหวงว่างโก๋ทำให้หลิวเหล่าซานตกใจกลัว เป็นไปได้ว่าขาของตัวเอง คงหักไปแล้ว

คิดถึงตรงนี้ สายตาของหลี่ฝาง แสดงออกถึงเจตนาที่ดุร้ายเล็กน้อย

รอพรุ่งนี้ จะต้องไปหาสวีเถิงเฟยชำระหนี้บัญชีนี้ให้ได้

หวงว่างโก๋ยืนอยู่หน้าประตูโรงแรม มองดูหลี่ฝางเดินเข้ามา เขายิ้มออกมา: “ไม่เป็นไรแล้ว?”

“พี่หวง โชคดีที่มีคุณต้องขอบคุณมากจริงๆ”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง: “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่กล้าจินตนาการจริงๆ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน