NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 215

ตอนที่ 215

บทที่ 215 ยังมีทางเลือกอีกทาง

“ใช่ ฉันอยากให้นายตาย” หลี่ฝางพูดอย่างตรงไปตรงมา

“เมื่อกี้ นายให้จางกงหมิงโยนฉันลงไป นายอยากให้ฉันตายไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางมองมู่เสี่ยวไป๋ พลางหัวเราะเหอะๆ

มู่เสี่ยวไป๋หน้าซีด มองไปทางหลี่ฝางพลางพูด: “ฉันว่ายน้ำไม่เป็น”

“มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ เมื่อกี้ที่นายให้จางกงหมิงโยนฉันลงไป นายถามฉันเหรอว่าฉันว่ายน้ำเป็นมั้ย?” หลี่ฝางพูด

หลี่ฝางนำวิธีการของคนอื่น มาใช้กับเขาคนนั้นเอง ไม่ได้ทำเกินไป

หลี่ฝางบีบคอของมู่เสี่ยวไป๋ แล้วกดเขาลงบนสะพาน

เวลานี้ ร่างของมู่เสี่ยวไป๋ สั่นเทาไปทั้งร่าง

มองลงไปในแม่น้ำที่ไหลเฉี่ยว ในหัวของมู่เสี่ยวไป๋ก็หลอนอยู่ครู่ ราวกับยมทูตกำลังกวักมือเรียกเขาอยู่

“แม่นายสิ!”

มู่เสี่ยวไป๋พยายามดิ้นสุดแรง จนหลุดจากหลี่ฝาง

มู่เสี่ยวไป๋อยากให้หลี่ฝางยกโทษ แต่เขาก็ไม่อยากตาย

สะพานสูงขนาดนี้ น้ำลึกขนาดนี้ กระโดดลงไป มีโอกาสรอดที่ไหน?

มู่เสี่ยวไป๋มองหลี่ฝางอย่างโมโห แล้วพูด: “หลี่ฝาง ฉันถามนายอีกครั้ง สรุปว่านายจะยกโทษให้ฉันมั้ย?”

หลี่ฝางหัวเราะออกมาอย่างจริงจัง โตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการขอโทษที่ก้าวร้าวเช่นนี้

“ปฏิกิริยานายแบบนี้เหนี่ยนะ อยากให้ฉันยกโทษให้? ฝันไปเถอะ!”

หลี่ฝางพูดอย่างดูถูก: “ตระกูลมู่อะไรกัน ฉันจะบอกนายให้ ในสายตาฉัน ตระกูลมู่ก็งั้นๆ ”

เมื่อก่อนหลี่ฝางกังวลว่า ที่นี่เป็นเมืองเอก ที่พื้นที่ของตระกูลมู่

ไม่ว่าคุณปู่ของตนหลี่เจียเฉิน หรือว่าพ่อของตนหลี่ต๋าคาง ถึงยังไปก็ไปเติบโตในต่างประเทศเป็นเวลานาน

กลับมาในประเทศ ตาคู่ดำนั้น จะไม่สามารถต่อกรกับหัวงูพิษใหญ่อย่างตระกูลมู่ได้

ตอนนี้เห็นที ตัวเองจะคิดมากไป

ดูจากที่มู่เสี่ยวไป๋พยายามขอโทษตน หลี่ฝางก็เข้าใจแล้ว ตระกูลมู่นี่ ต่อหน้าตระกูลของตน แม้แต่ขยะยังเป็นไม่ได้เลย

เห็นได้ชัด มู่เสี่ยวไป๋ยังไม่รู้ถึงจุดนี้

ไม่อย่างนั้น คำขอโทษของเขา คงไม่พูดลวกๆ ไปอย่างนี้

หลี่ฝางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่ท้องของมู่เสี่ยวไป๋ จนทำให้เขาลงไปกองกับพื้น

“เ**ดแม่มึงสิไอ้คุณชาย!” หลังจากที่หลี่ฝางเตะมู่เสี่ยวไป๋แล้ว ก็ตะโกนด่าเสียงดัง

มู่เสี่ยวไป๋นอนอยู่ที่พื้น ไม่ได้ลุกขึ้น: “หลี่ฝาง อย่าให้มันมากไปนะ ฉันไว้หน้านายแล้วนะ ฉันมู่เสี่ยวไป๋ ตั้งแต่เล็กจนโต เคยขอโทษใคร เคยก้มหัวให้ใครมั้ย?”

“นายเป็นคนแรก!” มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างภาคภูมิใจ

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ มองไปที่มู่เสี่ยวไป๋: “ทำไมนายต้องขอโทษฉันด้วยล่ะ? ฉันให้นายมาขอโทษฉันเหรอ?”

คำพูดของหลี่ฝาง เท่ากับการตบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋อย่างไม่สงสัย

ราวกับด่ามู่เสี่ยวไป๋ว่าชั่วอย่างนั้น

“ถ้านายกล้า งั้นก็อย่ามาขอโทษฉันสิ” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

“อย่ามาสะเออะทำหน้าสูงส่งแบบนี้ นายคิดว่านายเป็นใคร พระเจ้าเหรอ? หรือว่าเจ้าชายห้ะ? ขอโทษฉัน ยังจะบอกว่าไว้หน้าฉัน?”

หลี่ฝางพูด กำปั้นพลางซัดเข้าไป

ขณะนั้น เสือก็วิ่งเข้ามา แล้วพาพวกเข้ามาด้วย

เสือกระชากคอเสื้อของหลี่ฝาง ขณะที่กำลังเตรียมจะลงมือ มู่เสี่ยวไป๋ก็ตะโกนขึ้น: “หยุดนะ!”

“เจ้านาย……”

เสือมองมู่เสี่ยวไป๋อย่างสงสัย

ย้อนกลับไปเมื่อก่อน แค่คนมองหน้ามู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋ก็ให้เสือไปเก็บอีกฝ่ายแล้ว

ตอนนี้หลี่ฝางลงมือแล้ว……ทำไมถึงให้ตนหยุดล่ะ?

“ให้เขาต่อยเถอะ ให้เขาต่อยฉันแรงๆ สักยก ก็ดีให้เขาได้ระบายอารมณ์” มู่เสี่ยวไป๋ถอนหายใจเฮือกให้ แล้วพูดด้วยสีหน้าไร้หนทาง

มู่เสี่ยวไป๋รู้ว่าในใจของหลี่ฝางอดกลั้นความโมโหอยู่เต็มอก

อยากให้หลี่ฝางยกโทษให้ตน นั้นก็จำเป็นต้องให้หลี่ฝางระเบิดอารมณ์ออกมาก่อน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ เมื่อเห็นมู่เสี่ยวไป๋เกรงกลัวตนเองขนาดนี้ ในใจก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

เสียงเพียะดังขึ้น

หลี่ฝางง้างมือขึ้น แล้วตบลงไปที่หน้าของเสืออย่างจัง

เสือโดนตบหน้าสั่นจนงง สีหน้าของเขา ชะงักอยู่ก่อน ต่อมาก็กลายเป็นอาฆาตอย่างรวดเร็ว

เมื่อกี้ในกำมือของหลินชิงชิง เขาก็เสียเปรียบ

ตอนนี้หลี่ฝางก็ตบเขาอีก

เห็นเขาเป็นเสือกระดาษหรือไง?

ทันใดนั้นเสือกำลังจะยัวะ แต่มู่เสี่ยวไป๋ที่อยู่ที่พื้นก็พูดขึ้น: “ไม่อนุญาตให้สวนกลับ ไสหัวไปทางนู้น”

เสือกัดฟันแน่น ไม่รู้ว่าเก็บงำความแค้นไว้ในใจมากมายเพียงไหน

ตั้งแต่ตนได้มาเป็นหัวหน้า เสือเคยได้รับการดูถูกแบบนี้มั้ย?

นอกจากมู่เสี่ยวไป๋ มีใครกล้าตบเขาหน้าสั่นแบบนี้บ้าง!

ไอ้หมอนี้ มีสิทธิ์อะไรกัน?

เสือถามขึ้นอย่างหมดคำพูด: “เจ้านาย ไปกลัวมันทำไม?”

ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ยังไม่รู้ฐานะของหลี่ฝาง เขาพูดกับเสือ: “นี่เป็นคำสั่งของปู่ฉัน”

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เสือก็ไม่มีอารมณ์โกรธแล้ว

คุณปู่ของมู่เสี่ยวไป๋ มู่เจิ้งถัง เขาเป็นผู้นำของเมืองเอก

มู่เจิ้งถังถึงกับเอ่ยปากพูด งั้นก็หมายความว่า เบื้องหลังของหลี่ฝาง ต้องไม่ใช่เล่นๆ แน่ๆ

เสือเป็นนักเลงข้างถนนมาหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ถึงเรื่องนี้

เขารีบถอยหลังออกไปหลายก้าว ออกห่างจากหลี่ฝาง

หลี่ฝางมองไปทางเสือ แล้วก่นด่า: “ดีนะที่นายใส่เกียร์หมาเร็ว ไม่งั้น พ่อจะซ้ำอีกสักที”

ภาพที่เสือล็อกตัวหลินชิงชิงขึ้นรถไป หลี่ฝางจำมันได้อย่างชัดเจน

ที่ตบไปเสือเมื่อกี้ หลี่ฝางตบแทนหลินชิงชิง

มู่เสี่ยวไป๋ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองหลี่ฝางพลางพูด: “นายจะต่อยก็ต่อยแล้ว จะด่าก็ด่าแล้ว ตอนนี้นายยกโทษให้ฉันได้แล้วใช่มั้ย?”

“นายพูดอะไร?” หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วถาม

“ฉันพูดว่าต่อยก็ต่อยแล้ว ด่าก็ด่าแล้ว ตอนนี้นายควรจะยกโทษให้ฉันได้แล้วใช่มั้ย?” มู่เสี่ยวไป๋พูดซ้ำอีกครั้ง

หลี่ฝางมือลั่นตบหน้ามู่เสี่ยวไป๋ไปทีนึง: “มานี่ นายพูดใหม่อีกทีสิ ฉันฟังไม่ชัดว่านายพูดว่าอะไร?”

มู่เสี่ยวไป๋กัดฟัน แล้วพูดเสียงดัง: “ฉันพูดว่า นายจะต่อยก็ต่อยแล้ว จะด่าก็ด่าแล้ว ควรจะยกโทษให้ฉันได้แล้วใช่มั้ย?”

หลี่ฝางกำหมัดแน่น แล้วซัดเข้าไปที่หน้าของมู่เสี่ยวไป๋ หนึ่งหมัด

หมัดนี้ หลี่ฝางชกออกไปเต็มแรง

ชกหมัดนี้ออกไป ทำให้ร่างของมู่เสี่ยวไป๋ โดนชกจนเซถอยหลังไปหลายก้าว จนเกือบจะทรุดลงพื้น

“ฉันพูดแล้ว อยากให้ฉันยกโทษให้ นอกจากนายจะกินขี้ หรือไม่ก็กระโดดลงจากสะพานไป” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ต่อยนายไปยกนึง แล้วจะให้ฉันยกโทษให้ ฉันจะบอกนายให้ ว่าไม่มีทาง” หลี่ฝางพูด

มู่เสี่ยวไป๋จ้องไปที่หลี่ฝาง จ้องอยู่นาน

ตอนที่ขอโทษหลินชิงชิง หลินชิงชิงก็ยกโทษให้เขาทันที

แต่คิดไม่ถึงเมื่อถึงตาหลี่ฝาง มันจะยากกว่าปืนขึ้นฟ้าซะอีก

มู่เสี่ยวไป๋กัดฟันกรอดแล้วพูด: “หลี่ฝาง อย่าให้มันมากไปนะ แค่ขอโทษจะอะไรหนักหนา ฉันไม่ขอโทษแล้ว”

“พอดีเลย ฉันก็ไม่ได้ขาดแคลนคำขอโทษของนาย”

หลี่ฝางพูดจบ ก็หันหลังจากไป ไม่ได้ยืดเยื้อ

หลี่ฝางเดินจากไปง่ายๆ มู่เสี่ยวไป๋ยืนอยู่กับที่ ในใจของเขา ทรมาน และหนักใจมาก

ถ้าไม่ได้รับการให้อภัยจากหลี่ฝาง ตัวเขาก็ไม่มีหน้าไปเจอคุณปู่

หลี่ฝางที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะขึ้นรถแล้ว จู่ๆ มู่เสี่ยวไป๋ก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง: “เดี๋ยวก่อน!”

หลี่ฝางทำราวกับไม่ได้ยิน แล้วเดินเข้าไปในรถต่อ

“นายหยุดนะ!” มู่เสี่ยวไป๋ตะโกนขึ้นอีกครั้ง

หลี่ฝางยิ้มเยาะอยู่ในใจ:คิดว่าเขาเป็นใคร เรียกให้หยุดก็ต้องหยุดเหรอ?

ในตอนนั้น มู่เสี่ยวไป๋ก็ลนลาน แล้วพูดกับเสือ: “รีบไปหยุดเขาไว้”

เสือพยักหน้า แล้ววิ่งไปทางหลี่ฝาง

ไม่กี่วินาที เสือก็วิ่งมาถึงตรงหน้าของหลี่ฝาง แล้วขวางทางของเขาไว้

“ถอยไป” หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

เสือพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง: “เจ้านายผมเรียกให้นายหยุดก่อน เขาต้องการขอโทษนายนะ”

เวลานั้น เสือก็มองออกแล้ว คราวนี้ มู่เสี่ยวไป๋จำเป็นต้องได้รับการให้อภัยจากหลี่ฝาง ไม่งั้น ด้านนายท่านมู่ เขาก็คงอธิบายให้ฝั่งนั้นฟังไม่ได้

“แม่งเอ๊ย หลีกไปซ่ะ!” หลี่ฝางไม่คุ้นเคยกับเสือ ใครสนว่าเขาจะเป็นลูกพี่ของแวดวงไหน

ไอ้มู่เสี่ยวไป๋คนนี้ต่อหน้าเขา ก็เหมือนกับหมาขอความเมตตา

ไอ้เสือนี่ ยังจะเป็นอะไรได้

หลี่ฝางเตะอัดท้องเสือไปหนึ่งที ท้องของเสือ ราวกับมาร์ชเมลโล่ ยุบลงไปเลย

“เชี่ย!” หลี่ฝางอยากจะง้างมือต่อยเสือ

แต่ครั้งนี้ เสือก็เตรียมตั้งรับไว้แล้ว เขาคว้าแขนหลี่ฝางเอาไว้ แล้วทำหน้าเข้ม: “ถึงแม้เจ้านายฉันไม่อนุญาตให้ฉันสวนกลับ แต่นายก็อย่ามาทำอะไรไม่เกรงใจกันนะ”

เป็นนักเลง ใบหน้าก็ถือว่าเป็นหน้าตา ตบหน้า ก็เท่ากับชกหน้าเสือ

มู่เสี่ยวไป๋เป็นเจ้านายของเขา ตบเขาสักที ก็คงไม่มากเกินไป

แต่หลี่ฝางก็ตบซ้ำแล้วซ้ำอีก มันทำให้เสือเริ่มจะทนไม่ไหว

ในตอนนั้น มู่เสี่ยวไป๋ก็วิ่งเข้ามา

ไม่รอให้มู่เสี่ยวไป๋เอ่ยปาก หลี่ฝางก็พูดขึ้น: “มู่เสี่ยวไป๋ ที่จริงแล้วนอกจากกินขี้กับกระโดดลงแม่น้ำแล้ว นายยังมีอีกหนึ่งทางเลือก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน